ฉีเหยียนซีมองเขาตาคว่ำ “ฉันไปด้วย!”
เซิ่งอี่เจ๋อไม่สนใจหมอนั่นและพาอันซย่าซย่าไปห้องพยาบาล ท่าทางพออกพอใจมาก
เขาโมโหที่เธอปลื้มปริ่มอยู่กับหรงเช่อตลอดเวลา แต่เมื่อเขาเห็นเธอทำอะไรไม่เข้าท่าอีก อารมณ์ขุ่นมัวของเขาก็อันตรธานหายไปทันที
ทำไมเขาถึงทำตัวเองอย่างนี้นะ…
อย่างไรก็เถอะ เขากำลังสนุกสนานกับความขมขื่นนี้ราวกับว่ามันเป็นน้ำตาล
ห้องพยาบาล
หมอประจำโรงเรียนกราดตามองไปมาระหว่างอันซย่าซย่า เซิ่งอี่เจ๋อและฉีเหยียนซี
“คนไหนไม่สบาย”
“เธอ” เซิ่งอี่เจ๋อชี้ไปที่อันซย่าซย่า “เธอเวียนหัว”
“อ้อ… เวียนหัวมากไหม ขอหมอดูหน่อยนะ” หมอประจำโรงเรียนทดสอบอาการสองสามอย่างกับอันซย่าซย่า แล้วก็งงไปหมด
เธอสบายดีทีเดียว แต่ว่าการปรากฏตัวของสองหนุ่มหล่อที่นี่ ก็ทำเอาจินตนาการของเธอเริ่มแล่นพล่าน
หมอประจำห้องพยาบาลก็ยังสาวอยู่ เธอติดตามข่าวซุบซิบอย่างใกล้ชิด รู้ว่าสองคนนี้เป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียน คนหนึ่งเป็นไอดอลระดับประเทศ ส่วนอีกคนก็เป็นวายร้ายชื่อกระฉ่อน
สองหนุ่มกับหนึ่งสาว— มันจะใช่ข่าวลือเรื่องรักสามเส้านั้นไหมนะ
ระหว่างที่เธอนึกกระหยิ่มอยู่ในใจ คุณหมอก็คอยระวังสีหน้าไม่ให้แสดงอะไรกระโตกกระตากออกไปขณะที่เธอแนะ “ไม่มีอะไรร้ายแรงจ้ะ พักผ่อนนิดหน่อยแล้วก็ดื่มน้ำอุ่นมากๆ”
“ได้ค่ะ” อันซย่าซย่าตอบรับอย่างว่าง่าย
“ผมก็อยากตรวจด้วยเหมือนกัน! เธอกัดมือผมพิการแล้ว!” ฉีเหยียนซียกแขนข้างที่ถูกกัดให้ดู
หมอเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ ช่างร้อนแรงอะไรขนาดนั้น! ถึงขั้นลงมือลงไม้กันเลย!
เธอตรวจดูบาดแผล แล้วหยิบปลาสเตอร์ให้ฉีเหยียนซี จากนั้นก็ผลุบเข้าไปในห้องพักแพทย์ที่อยู่ข้างหลัง แหม เธอคิดว่าควรให้พื้นที่ความเป็นส่วนตัวกับหนุ่มสาวพวกนี้หน่อย
ฉีเหยียนซีโยนผ้าพันแผลให้อันซย่าซย่า “แปะให้หน่อยสิ”
“ทำไม มือไม่มีหรือไง” อันซย่าซย่าถามอย่างไม่ไยดี
“เธอกัดฉัน! ฉันทำให้ชีวิตในฉีซย่าของเธอต้องทุกข์ทนได้นะถ้าฉันอยากทำ!” ฉีเหยียนซีขู่เธอ
หญิงสาวโมโหจี๊ดขึ้นมาเลย เธอกลอกตาใส่เขา “งั้นฉันก็จะไปหาโรงเรียนใหม่! นายคิดว่าฉีซย่าวิเศษนักใช่ไหม ระวังปากนายไว้เหอะ ไอ้คนขี้แพ้!”
ฉีเหยียนซีตกตะลึง
“นั่นมันในเกม! สู้กันตัวต่อตัวสิถ้าเธอแน่จริง!” ฉีเหยียนซีคำราม
อันซย่าซย่ามองเขาตาคว่ำ อยู่ๆ เธอก็มีความคิดว่าฉีเหยียนซีไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด แต่ทำนิสัยเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมต่างหาก
“แน่นอน ฉันจะสู้กับนายเอง” เซิ่งอี่เจ๋อพูดแทรกด้วยน้ำเสียงไม่แยแส ซึ่งทำให้ฉีเหยียนซีสงบปากคำทันที
เขาไม่เคยสู้แพ้ใครมาก่อน แต่เมื่อสองปีที่แล้ว เขาได้พ่ายแพ้ให้แก่เซิ่งอี่เจ๋อซ้ำแล้วซ้ำเล่า… เขาตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างไม่มีทางสู้!
สองคนนี้ต้องจงใจทำอย่างนี้แน่!
ฉีเหยียนซีหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้งเพื่อต่อสู้กับความโกรธของเขา
ถ้าหากเขาเริ่มมีเรื่องกันตอนนี้ เจ้าเซิ่งอี่เจ๋อจอมเจ้าเล่ห์จะต้องเอาเรื่องนี้ไปฟ้องตาแก่อีกแน่!
การแก้แค้นจะหอมหวานที่สุดเมื่อเสิร์ฟตอนมันเย็นแล้ว
เขาล่าถอยไปพร้อมกับใบหน้ามืดทะมึน เห็นเขาทำตัวน่าขันอันซย่าซย่าก็อดประชดประชันไม่ได้ “เซิ่งอี่เจ๋อ นายไม่คิดว่าเขาทำตัวเหมือนเด็กประถมหรอกเหรอ”
“อืม เขาก็เป็นอย่างนี้มาตลอดแหละ ไอคิวใช้ไม่ได้กับหมอนี่” เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างเรียบๆ พร้อมกับเค้าลางของรอยยิ้มบนใบหน้า
“พวกนายสองคนรู้จักกันมาก่อนเหรอ ทำไมดูทำตัวเป็นศัตรูกันตลอดเลย…” อันซย่าซย่าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปโดยไม่ทันรู้ตัว
รอยยิ้มเหือดหายไปไปจากใบหน้าของเขาทันที และกลับกลายเป็นสีหน้าเย็นชาอีกครั้ง
กาลครั้งหนึ่ง…
“เราอย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย” แล้วเขาก็เปลี่ยนประเด็น “อันซย่า เธอรักหรงเช่อมากขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงขนาดเซฟรูปเขาไว้เป็นรูปพักหน้าจอ นั่นต้องหลงใหลกันขั้นสุดเลยนะ”
อันซย่าซย่าหยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะทำท่าทางด้วยมือ “ฉันชอบเขาขนาดดดนั้นแหละ—” เธอวาดมือเป็นรูปวงกลมในอากาศ และดวงตาก็ยิ้มจนกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวเล็กๆ “ฮิๆ”
เซิ่งอี่เจ๋อ : …!!!