อันซย่าซย่ามีความรู้สึกว่า เอ่อ…เขาโกรธอีกแล้ว
“เซิ่งอี่เจ๋อ นี่มันไม่ถูกต้องนะ ฉันรู้ว่านายไม่ถูกกับเขา แต่นายจะสบประมาทแฟนๆ ของเขาไม่ได้…” อันซย่าซย่าเถียงอย่างเหนียมๆ – เธอไม่ผิดนะ!
“โง่จนเกินเยียวยาแล้ว!” เซิ่งอี่เจ๋อดีดหน้าผากเธอ จากนั้นก็ล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกง “ฉันไปละ ไม่อยากคุยกับแฟนคลับซื่อบื้อ”
“เชอะ ฉันก็จะไปเหมือนกัน” อันซย่าซย่าเบ้ปากก่อนจะเดินตามหลังเขาไปเพื่อกลับห้องเรียนด้วยกัน
วิชาสุดท้ายของวันนั้นคือการศึกษาด้วยตัวเอง และทุกคนก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับเรื่องของตัวเอง
อาจารย์ประจำชั้นเดินเข้ามา เคาะประตูพลางยิ้มอย่างเอ็นดู “มีใครอาสา ช่วยครูยกของจากห้องท่านอธิการไหมจ๊ะ”
เด็กหนุ่มสองสามคนยกมืออย่างกระตือรือร้น คงเพราะไม่มีอะไรที่ดีกว่านั้นให้ทำ เหอจยาอวี๋ก็อาสาไปด้วยเหมือนกัน
เมื่อเห็นเหอจยาอวี๋ออกไป ซูเสี่ยวมั่วก็ยกมือขึ้นบ้าง “หนู หนู หนูค่ะ! เลือกหนูค่ะ!”
ครูประจำชั้นค่อนข้างตกใจ “เอ่อ แต่ว่าซูเสี่ยวมั่ว เธอเป็นผู้หญิงนะ”
“หนูแข็งแรงมากค่ะ!” ซูเสี่ยวมั่วเปล่งเสียงพลางตบอก พร้อมทำท่าทางแมนๆ ครูประจำชั้นได้แต่ยอมตามใจ “ก็ได้จ้ะ แต่ว่าอย่าทำเกินกำลังตัวเองล่ะ”
ซูเสี่ยวมั่วสบตาอันซย่าซย่าอย่างรู้กัน จากนั้นก็เดินออกไปอย่างอารมณ์ดีขณะตามติดเหอจยาอวี๋ไปแบกหนังสือ
อันซย่าซย่ายกมือขึ้นแตะหน้าผากขณะที่เป็นห่วงเพื่อนนิดๆ
เธอสะกิดแขนเซิ่งอี่เจ๋อ เมื่อเขาหันมาหา เธอก็ถามอย่างลังเลใจ “คือ… เหอจยาอวี๋ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ”
เซิ่งอี่เจ๋อแทบไม่เงยหน้าขึ้นมองเลย “เด็ก น่ารัก อ่อนโยน แล้วก็มีคุณธรรมละมั้ง”
อันซย่าซย่าเช็ดหน้าผากอีกครั้ง เอ่อ อย่างน้อยซูเสี่ยวมั่วก็เด็กและน่ารักล่ะนะ!
“ถ้าอย่างนั้น เขาจะชอบผู้หญิงที่สามารถช่วยเขายกของ แบกถังแก๊ส และปกป้องเขาด้วยไหม” อันซย่าซย่าถามอย่างคาดหวัง
เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปสองวินาทีก่อนจะตอบช้าๆ ว่า “เธอคิดว่าผู้ชายปกติจะชอบผู้หญิงแบบนั้นไหมล่ะ”
อันซย่าซย่าส่ายหน้า พลางสวดขอพรเงียบๆ ให้กับเพื่อนสาว
ที่ห้องทำงานอธิการบดี
พวกเด็กหนุ่มกำลังยกสื่อการสอนกลับห้องเรียน และเหอจยาอวี๋ก็มีหนังสือตั้งเบ้อเร่ออยู่ในมือ ทันใดนั้นเสียงดังโหวกเหวกของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นเบื้องหลังเขา “เอาไว้ตรงนั้นแหละ! ให้ฉันยกเอง!”
เหอจยาอวี๋ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความอับอายอึดใจหนึ่ง จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งเข้ามาหาเขาราวกับลมพายุ ก่อนจะหัวเราะคิกคักขณะแย่งตั้งหนังสือไปจากมือเขา “ฉันยกต่อให้เอง!”
“เอ่อ…” ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้อะไร ซูเสี่ยวมั่วก็แล่นปราดออกไปพร้อมหนังสือกองนั้นแล้ว
เขาส่ายหน้าพลางยิ้มเก้อๆ จากนั้นก็ยกอีกกองหนึ่งขึ้น
มาได้ครึ่งทาง ซูเสี่ยวมั่วก็สวนกลับมาเรียบร้อยแล้ว และเธอคำรามสั่งดังลั่นไปทั่วบริเวณ “หยุดตรงนั้นนะ! ให้ฉันยกเอง!”
ซูเสี่ยวมั่วแย่งกองหนังสือและวิ่งจากไปอีกครั้ง
เขายิ่งอับอายมากขึ้น เธอไวเกินกว่าที่เขาจะตามทัน ดังนั้นหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ แล้วซื้อน้ำดื่มมาสองขวด เมื่อซูเสี่ยวมั่วกลับมารอบที่สอง เขาก็หยุดเธอไว้
ซูเสี่ยวมั่วมองเขาด้วยตาอันเป็นประกาย “ใช่ ถูกแล้ว นายคอยอยู่เฉยๆ ตรงนั้นแหละ! ฉันจะยกหนังสือให้เอง”
เหอจยาอวี๋เลิกคิ้วเรียวสวยทั้งสองข้างขึ้น จากนั้นก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะยื่นขวดน้ำให้เธอ “ดื่มน้ำก่อนสิ”
ซูเสี่ยวมั่วกะพริบตาโตๆ ของเธอและประหลาดใจแกมดีใจ “ให้ฉันเหรอ”
“ใช่” ปฏิกิริยาของเธอดูน่ารักดี ชายหนุ่มยิ้มกว้างขึ้น
ซูเสี่ยวมั่วรับขวดน้ำมารู้สึกท่วมท้นด้วยความสุข เธอกำลังจะกลับไปยกหนังสือเมื่อเหอจยาอวี๋หยุดเธอไว้พร้อมกับรอยยิ้ม
“ฉันปล่อยให้ผู้หญิงทำงานหนักๆ ไม่ได้หรอก พักก่อนสิซูเสี่ยวมั่ว ปล่อยให้หน้าที่ของเด็กผู้ชายไปยกเถอะ” เขาช่างสุภาพอ่อนโยนราวกับเจ้าชายในละครเลย
ซูเสี่ยวมั่วหงายหลังกระทบพื้นดังตุ้บ
เธอเป็นลม… เพราะความตื่นเต้น…