ทุกคนต่างก็หันหน้าไปทางเซิ่งอี่เจ๋อพร้อมกัน
เซิ่งอี่เจ๋อไม่สะทกสะท้านเช่นเคย “เธอฉลาดน้อย ผมไม่คิดว่าจะสอนได้”
เหอจยาอวี๋เก็บงำคำพูดประชดประชันเอาไว้ในใจ พี่น่ะอยากจะสอนเธอมากกว่าอะไรทั้งนั้นแหละ ยอมรับเถอะน่า คนปากไม่ตรงกับใจ…
ฉือหยวยเฟิงยกมือขึ้นอย่างเต็มใจ “อาจารย์ครับ ผมเล่นบาสเกตบอลเป็นเหมือนกัน ผมจะสอนเธอเอง!”
ฉีเหยียนซีถูจมูก “เชอะ ฉันจะสอนเองถ้านายไม่รับ!” แล้วเขาก็ลากตัวอันซย่าซย่า
หญิงสาวผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถูกจับคอเสื้อเอาไว้ เธอตะโกนด้วยความหงุดหงิด “เฮ้ ฉันยังไม่ได้ตกลงปลงใจอะไรเลย ทำไมถึงพยายามจะตัดสินใจแทนฉันกันล่ะ”
ฉีเหยียนซีไม่สามารถลากตัวเธอไปถึงสนามบาสเกตบอล เขาถูกเซิ่งอี่เจ๋อสกัดไว้กลางทาง
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วขึ้นเย้ย “ฉันอนุญาตให้นายสอนเธอเหรอ”
เซิ่งอี่เจ๋อมีรังสีออร่าของความห่างเหินและสันโดษ ใบหน้าเฉยเมยของเขาและท่าทีที่สง่างามดึงดูดความสนใจของเหล่านักเรียนหญิงได้ในทันที
ทว่ากลับกัน อันซย่าซย่ากลับถูกกลุ้มรุมด้วยสายตาชิงชังจากเด็กนักเรียนหญิงคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เพราะประเด็นที่เคยเกิดขึ้นกับเจี่ยนซินเอ๋อร์คราวก่อน พวกหล่อนก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอในช่วงนี้
ฉีเหยียนซีไม่สะทกสะท้าน “วัดกันสักแมชต์ไหมล่ะ คนชนะจะได้สอนเธอ”
ใบหน้าเซิ่งอี่เจ๋อปรากฏรอยยิ้ม ช่างดูเท่เสียจนผู้คนแถวนั้นไม่อาจละสายตาไปไหนได้
“ลำบากทำไม สิ่งสำคัญไม่ใช่คนสอน แต่เป็นความตั้งใจของคนเรียนต่างหาก” เซิ่งอี่เจ๋อยืนเอามืดกอดอก “เรามาถามอันซย่าซย่าไหมว่าโค้ชคนไหนที่เธอต้องการ”
อันซย่าซย่าจ้องมองด้วยดวงตาสว่างกระจ่างใสขณะที่เอาปลายนิ้วชี้จิ้มกัน
เฮ้อ คนหนึ่งก็เป็นไอดอลที่เธอเป็นแอนตี้แฟน ส่วนอีกคนหนึ่งก็เป็นจอมปีศาจที่เธอเกลียดเข้ากระดูก ไม่มีทางเลือกไหนที่ดีไปกว่ากันเลย…
แต่ว่า ทำไมหัวใจเธอถึงบอกให้เลือกเซิ่งอี่เจ๋อล่ะ
เธอปรายตามองเซิ่งอี่เจ๋ออย่างกระตือรือร้น “เซิ่งอี่เจ๋อ สอนฉันได้ไหม แต่นายห้ามดุฉันและห้ามว่าฉันว่าโง่ด้วย!”
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วข้างหนึ่งพลางพึมพำตอบเบาๆ “อืม”
หญิงสาวยิ้มออก และสลัดตัวหลุดจากมือของฉีเหยียนซีอย่างว่องไว เธอไปหยิบลูกบาสเกตบอลก่อนจะแล่นออกไปเรียนการชู้ตลูกบาสกับเซิ่งอี่เจ๋อ
ฉีเหยียนซีได้แต่ยืนนิ่งอย่างโกรธๆ คนมองคงแทบเห็นว่ามีเปลวไฟจิ๋วๆ กำลังลุกโชนขึ้นจากกระหม่อมของเขา
ยัยผู้หญิงงี่เง่า! เห็นดีเห็นงามอะไรในตัวเซิ่งอี่เจ๋อนะ!
เซิ่งอี่เจ๋อทำให้ดูก่อน จากนั้นอันซย่าซย่าก็ถือบอลแล้วขว้างมันออกไปที่ห่วงด้วยแรงทั้งหมดที่มี
ตึ้ก—
“อันซย่าซย่า เธอควรจะชู้ตลูกบาส ไม่ใช่ขว้างมันออกไป ท่าชู้ตของเธอไม่ได้เรื่องเอามากๆ”
“อืม…”
เธอพยายามอีกครั้งอย่างตั้งใจ!
ตึ้ก—
“อย่าแรงนักสิ เดี๋ยวก็ไปโดนคนอื่นเข้าหรอก ยัยบื้อ!”
“ก็ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เรียกแบบนั้น!”
“…ต่อไป”
อันซย่าซย่าเบะปากก่อนจะลองอีกครั้ง มีเซิ่งอี่เจ๋อคอยเป็นผู้ตามเก็บลูกบาสกลับมาให้เธอ
หลังจากที่ลองอยู่สิบกว่าครั้ง ในที่สุดเธอก็ชู้ตเข้าห่วงได้ครั้งหนึ่ง ด้วยความดีใจเธอคุยโวไปเรื่อย “เรียกฉันว่าอันซย่าซย่าจอมสแลมดังก์เลย! ไม่ต้องอิจฉาริษยานะ ชีวิตอมตะย่อมมาพร้อมความโดดเดี่ยว…”
หลังจากมองดูการซ้อมของเธอจากเส้นข้างสนาม ในที่สุดเซิ่งอี่เจ๋อก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เขาคว้าลูกบาสไปจากมือเธอก่อนเอ่ยถาม “เธอไม่มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอ”
“ฮะ” อันซย่าซย่างง แต่เพราะเธออยากจะฝึกชู้ตลูกอีกหน่อย จึงเขย่งปลายเท้าและพยายามจะแย่งบอลไปจากมือของเขาด้วยความทุลักทุเล
แต่เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วและชูลูกบาสสูงขึ้นอีก อันซย่าซย่ากระโดดดึ๋งๆ ไปรอบตัวเขาแต่ก็แตะบอลไม่ถึง
“เอาบอลมา!” อันซย่าซย่าท้วงแต่เขาไม่สนใจ “พูดมาซะดีๆ แล้วฉันจะให้”
อันซย่าซย่าไม่มีทางเลือกนอกจากสรรหาคำดีๆ มาพูด “นายหล่อลาก สุดเท่ สุดเจ๋ง”
“เธอพูดความจริงทำไม”
หลงตัวเองชะมัด! อันซย่าซย่าประชดประชันในใจระหว่างที่เอ่ยปากไปอย่างไม่เต็มใจ “ขอบคุณที่สอนฉัน…”