ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 124 ฉันจะดูแลนายเอง! / ตอนที่ 125 นายน้อยของเราเรียกตัวคุณ!

ตอนที่ 124 ฉันจะดูแลนายเอง!

 

 

อันซย่าซย่าประคับประคองเซิ่งอี่เจ๋อไปห้องพยาบาลราวกับเขาเป็นผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงขั้นสุด

 

 

แพทย์สาวประจำโรงเรียนจากคราวที่แล้วมองดูเซิ่งอี่เจ๋อด้วยสีหน้ารู้ทันจึงเอ่ยขึ้น “หมอลองคิดหาเหตุผลมานานแล้ว ว่ามันเรื่องอะไรกัน บาดเจ็บจากเรื่องรักสามเส้ากันมาอีกละสิ”

 

 

“ถอดเสื้อออกด้วย หมอจะได้ตรวจเธอได้ ถ้าอาการร้ายแรง หมอจะแนะนำให้เธอไปโรงพยาบาลโดยด่วนเลย!” คุณหมอประจำโรงเรียนกล่าวอย่างอ่อนโยน

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อนิ่วหน้า อันซย่าซย่านึกว่าเขาเขินจึงรีบพูดขึ้น “ถอดเสื้อผ้าออกสิ!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพูดเนิบๆ “อันซย่าซย่า มารยาทเธอหายไปไหน เธอจะยืนอยู่ตรงนี้ดูฉันแก้ผ้าหรือไง”

 

 

อันซย่าซย่าหน้าแดงขึ้นมาทันที เธอกัดฟันกรอดจากนั้นก็กระทืบเท้าแล้วก็วิ่งออกจากห้องพยาบาลไปอย่างขวยเขิน

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มนิดๆ จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อกีฬาออกเพื่อรับการตรวจ หมอประจำห้องพยาบาลเอ่ย “ก็ดูโอเคนะ แค่รอยช้ำเล็กน้อย มีความรู้สึกจี๊ดๆ ตอนหมอกดหรือเปล่า”

 

 

เขาส่ายหน้า หมอสาวพยักหน้ารับ “ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้น หมอจะสั่งยาทากับยาแก้อักเสบให้กิน อื้ม ให้หมอทายาให้เลยหรือว่าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่เพื่อนร่วมชั้นที่พาเธอมา”

 

 

ใบหน้าซึ่งปกติไม่แสดงสีหน้ากลับแดงระเรื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ภาพที่เธอทำแผลให้เขาคราวที่แล้วผุดขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง…

 

 

ใบหน้าที่เย้ายวน ปลายนิ้วเย็นๆ และลมหายใจอันอบอุ่น…

 

 

ด้วยการควบคุมตัวเองที่น่าทึ่งของเขา เซิ่งอี่เจ๋อดึงตัวเองออกจากภวังค์เกือบจะทันที

 

 

หมอประจำโรงเรียนสังเกตเห็นอาการตื่นเต้นวูบหนึ่งในดวงตาเขาพลางยิ้มในใจ

 

 

หลังจากที่หมอทายาให้เขาแล้ว เซิ่งอี่เจ๋อก็สวมเสื้อและขอบคุณหมอ จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องพยาบาลพร้อมกับถุงใส่ยา

 

 

อันซย่าซย่ากำลังนั่งยองๆ วาดวงกลมอยู่บนพื้นดินข้างแปลงดอกไม้

 

 

เธอหันมาเมื่อได้ยินเสียงก้าวเดิน ท่าทางแปลกใจระคนดีใจ จากนั้นก็หน้าแดงอีกครั้งเมื่อจำที่เขาพูดเมื่อกี้ได้ เธอกัดริมฝีปากไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

 

 

ชายหนุ่มพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะละสายตาจากใบหน้านั้น

 

 

อันซย่าซย่ายืนเก้อๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวิ่งเข้าไปหาเขาและเอ่ยถาม “เป็นอะไรร้ายแรงหรือเปล่า หมอว่ายังไง”

 

 

“อื้อ หนัก หนักมากเลย” เซิ่งอี่เจ๋อเริ่มแกล้งหลอกเธอโดยไม่ลังเลสักนิด “อันซย่าซย่า เธอจะชดใช้ให้ฉันยังไงล่ะ”

 

 

สีหน้าบนใบหน้าเธอเปลี่ยนไปในทันที หญิงสาวมีอาการกระวนกระวายใจ “นายจะไม่กลายเป็นคนสมองเสื่อมใช่ไหม… โอ๊ย ฉันจะทำยังไงดี…”

 

 

กล้ามเนื้อบนใบหน้าชายหนุ่มกระตุกเมื่อได้ยินกระบวนการทางความคิดพิกลของเธอ หมายความว่ายังไงที่ว่าสมองเสื่อม

 

 

“ไม่ต้องห่วงนะ! ฉันจะไม่ทิ้งนายหรอก!” อันซย่าซย่าสัญญาพร้อมกำหมัดน้อยๆ ไว้แน่น “ฉันจะดูแลนายเอง!”

 

 

เหอะ—

 

 

ยัยคนนี้ไม่เคยคิดอะไรเหมือนคนปกติเลยใช่ไหม!

 

 

มันดูยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์ก่อนที่เขาจะกัดฟันพลางตอบ “สัญญาแล้วอย่ากลับคำนะ!”

 

 

หา อันซย่าซย่าตะลึง วินาทีต่อมา เซิ่งอี่เจ๋อก็โยนถุงใส่ยาให้เธอ “ถือให้ด้วย”

 

 

“นายบาดเจ็บหนักจริงๆ … กระทั่งถุงนี่ยังถือไม่ไหวเลย…” อันซย่าซย่าพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อถึงกับสะดุดขาตัวเอง

 

 

 

 

งานกีฬาสีดำเนินต่อไป และอันซย่าซย่าก็ไปเข้าร่วมแข่งขันการยืนชู้ตลูกบาส เธอจากไปด้วยความเริงร่าแต่กลับมาด้วยความพ่ายแพ้

 

 

ด้านกีฬานั้นเธอน่าสิ้นหวังมาก แม้จะมีเซิ่งอี่เจ๋อเป็นโค้ช เธอก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้นั่นได้

 

 

เมื่อเธอกลับเข้ามารวมกลุ่มห้องซี เจี่ยนซินเอ๋อร์ก็กำลังคุยโวด้วยน้ำเสียงกระหยิ่มยิ้มย่อง “… ไม่ใช่ว่าใครก็ได้จะได้รับเชิญไปงานวันเกิดของฉีเหยียนซีหรอกนะ แต่พ่อของฉันได้รับเชิญล่ะ”

 

 

เด็กสาวรอบๆ หล่อนถอนใจอย่างอิจฉา

 

 

ฉีเหยียนซีอาจเป็นคนร้ายกาจ แต่เขาก็ยังเป็นทายาทของตระกูลฉีอยู่ดี!

 

 

อันซย่าซย่าไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นมาก แต่แล้วทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเธอก็สั่น หญิงสาวเปิดดูหน้าจอ

 

 

ข้อความเข้านั้นมาจากชื่อผู้ส่งที่ยาวมาก— ‘รักชีวิตตัวเองและอยู่ห่างๆ ฉีเหยียนซีเอาไว้’

 

 

[ขอโทษด้วยเรื่องวันนี้ เอ่อ เธอได้รับเชิญให้มางานวันเกิดฉันนะ คิดซะว่าเป็นการขอโทษจากฉัน]

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 125 นายน้อยของเราเรียกตัวคุณ!

 

 

อะไรกัน งานวันเกิดของเขา

 

 

อันซย่าซย่าไม่ได้พิศวาสหมอนี่สักนิดจึงพิมพ์ข้อความปฏิเสธคำเชิญกลับไป [วันนั้นฉันไม่ว่าง ฉันไม่คิดว่าจะไปได้]

 

 

ฉีเหยียนซีตอบกลับมาอย่างรวด ดูน้ำเสียงโกรธนิดๆ [ฉันยังไม่ได้บอกเธอเลยว่าเกิดวันไหน เธอก็รู้ล่วงหน้าแล้วเหรอว่าไม่ว่างวันนั้น]

 

 

อันซย่าซย่าอึ้งไปสองวินาทีก่อนจะระงับอารมณ์ตอบอย่างสงบ [ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่างน่ะ]

 

 

[จะไม่มาจริงๆ เหรอ] เขากดดัน

 

 

อันซย่าซย่าไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดีเลยแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เธอเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและไม่ยอมตอบข้อความอีก

 

 

ฉีเหยียนซียังนอนเล่นอยู่บนดาดฟ้าพลางกดรีเฟรชหน้าจอโทรศัพท์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้อความตอบจากอันซย่าซย่าก็ไม่มาเสียที

 

 

เขาสบถเบาๆ ก่อนเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง

 

 

มู่หลีสะดุ้ง หลังจากตระหนักว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว เธอก็เดินไปเก็บโทรศัพท์ให้เขาพลางพูดเบาๆ “มันไม่เสียหายอะไร ยังใช้ได้อยู่”

 

 

ท่าทางนอบน้อมและยอมคนของเธอยิ่งทำให้ฉีเหยียนซีหงุดหงิดยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากสบถ “อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉัน” แล้วเขาก็กระแทกเท้าเดินจากไป

 

 

มู่หลีก้มหน้า รู้สึกว่างเปล่า

 

 

ทำไมใครคนหนึ่งที่เคยใกล้ชิดกับเธอที่สุดถึงได้ผลักไสเธอออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

 

และแล้ววันแรกของงานกีฬาประจำปีก็จบลง อันซย่าซย่าค่อยๆ ประคองเซิ่งอี่เจ๋อเดินไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่ห่างออกไปไม่มาก

 

 

ฉือหยวนเฟิงซึ่งเดินตามหลังทั้งคู่อดที่จะกระแนะกระแหนไม่ได้ “สุขภาพของพี่อี่เจ๋อแข็งแรงอย่างกับวัว อุปกรณ์ประกอบฉากเคยหล่นมาใส่เขาแต่กลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ทำไมอยู่ๆ ถึงได้อ่อนแอกะทันหันหลังจากอุบัติเหตุเล็กน้อยวันนี้ไปได้”

 

 

เหอจยาอวี๋ยิ้มอย่างรู้ทัน “นายไม่ได้หึงใช่ไหม จะว่าไปแล้ว ซย่าซย่าเป็นห่วงอี่เจ๋อมากเลยนะ…”

 

 

ขณะที่มองไปยังสองคนซึ่งแตกต่างกันในด้านความสูงที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้านั้น นัยน์ตาเหอจยาอวี๋ก็ดูดำมืดลง

 

 

ฉือหยวนเฟิงดูท่าทางเหมือนลูกสุนัขได้รับบาดเจ็บขณะถอนหายใจ “ผมก็อยากให้ซย่าซย่าประคองเหมือนกัน อ๊ะ ผมควรจะเอาตัวไปกระแทกกำแพงดีไหม…”

 

 

เหอจยาอวี๋พูดไม่ออกเลยทีเดียว

 

 

 

 

วันต่อมาเป็นวันศุกร์

 

 

นักเรียนทั้งโรงเรียนดีใจมากเมื่องานกีฬาสิ้นสุดลง ทุกคนต่างก็รีบคว้ากระเป๋านักเรียนแล้ววิ่งออกจากโรงเรียนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

 

อันซย่าซย่าเองก็ไม่เว้น เธอรีบตามดูการ์ตูนอนิเมะตอนสุดท้ายของเรื่องล่าสุด จากนั้นก็นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูข่าวบันเทิง

 

 

หลังดูข่าวบันเทิงจบแล้ว ต่อมาก็เป็นโฆษณาของหรงเช่อ

 

 

“อ๊าย… โอปป้าหรงเช่อ” อันซย่าซย่ายกฝ่ามือทั้งสองข้างเท้าแก้ม รู้สึกปลื้มปริ่มเสียจนหัวใจสีชมพูแทบบินออกมาจากดวงตา

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเดินลงมาชั้นล่างเพื่อจะกินอาหารเย็นพอดี ชายหนุ่มกัดฟันกรอดกับภาพนั้น

 

 

เขานั่งลงข้างๆ อันซย่าซย่าพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะไม่ไยดีอะไร “อา… รู้สึกเวียนหัวจัง”

 

 

สมาธิของเธอขยับจากโทรทัศน์มาที่เขาในทันทีพลางเอ่ยถามอย่างไม่สบายใจ “นายเวียนหัวจริงๆ เหรอ”

 

 

“อื้อ” อีกฝ่ายแสร้งทำเป็นอ่อนแออย่างหน้าไม่อาย

 

 

“อ้าว… งั้นไปโรงพยาบาลเพื่อไปตรวจกันไหม”

 

 

“ฉันไม่อยากไป พวกปาปารัสซีคงมารุมหาเรื่องไปลงกันอีก”

 

 

อันซย่าซย่ากัดเล็บ “ช่วงนี้พ่อก็ไม่ค่อยอยู่บ้านด้วยสิ… ฉันก็ตรวจอาการนายไม่ได้… แต่ยังไงถ้านายรู้สึกไม่สบายนายต้องบอกฉันนะ!”

 

 

“โอเค” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้ม มีแววพอใจอยู่ภายในแววตาเขากับความสำเร็จจากการเสแสร้งเล็กๆ น้อยๆ นั้น

 

 

“อยากกินเกี๊ยวจังเลย…” เซิ่งอี่เจ๋อถอนหายใจหนักหน่วงเกินจริง

 

 

อันซย่าซย่าลูบหน้าผาก ท่าทางรู้สึกผิดมาก “รอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปซื้อมาให้!”

 

 

พอเธอก้าวเท้าออกจากประตู เซิ่งอี่เจ๋อก็ยิ้มกริ่มลับหลัง

 

 

ทำไมถึงได้สนุกจังเวลาสั่งให้ยัยตัวจิ๋วทำโน่นนี่

 

 

อันซย่าซย่าเดินไปได้ไม่ไกลก็มีกลุ่มชายชุดดำขวางเธอเอาไว้

 

 

“คุณอันซย่าซย่าใช่ไหม นายน้อยของเราต้องการพบคุณ!”

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset