ตอนที่ 130 ฉันเป็นของเธอ
อันซย่าซย่ารู้สึกวิงเวียน เธอตกอยู่ในภวังค์ไม่รู้ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น
ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะถามอะไร ได้แต่นิ่งงันอยู่กับที่ตรงนั้นพลางจ้องมองเซิ่งอี่เจ๋อด้วยแววตางงงัน
เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะหึเบาๆ ฟังดูเหมือนเย้ยหยันตัวเองเช่นเดียวกันกับเยาะเย้ยความงุ่มง่ามของอันซย่าซย่าด้วย
“ชอบฉีเหยียนซีหรือเปล่า”
อันซย่าซย่าส่ายหน้าไปมา
“ดี” เซิ่งอี่เจ๋อมองไปทางอื่น “ตอนนี้เธอจะถามอะไรก็ได้ที่เธออยากถาม ถ้าไม่รู้จะถามอะไร ก็เก็บไว้ถามทีหลังได้เสมอ…”
หญิงสาวจิ้มปลายนิ้วเข้าหากันแล้วอยู่ๆ ก็เอาหัวโขกหน้าต่างรถ
ตึ้ก— ศีรษะเล็กๆ ของเธอกระแทกกับกระจก พลางส่งเสียงอุบอิบ
เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อเห็นว่าเธอกำลังทำอะไร มันก็สายเกินไปที่จะหยุดเธอแล้ว เขาทำได้เพียงแค่มองเธอโดยไม่พูดอะไรขณะที่เธอนั่งเอนหลังยกมือข้างหนึ่งขึ้นเหนือศีรษะ และพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสารว่า “งั้นก็ไม่ใช่ความฝันสินะ… โอ๊ย เจ็บจัง!”
“ยัยซื่อบื้อ…” เซิ่งอี่เจ๋อเอ่ยอย่างเหยียดหยัน แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็เอื้อมมือไปลูบหัวเธออย่างอดไม่ได้ “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า เดี๋ยวจะลูบให้หายเจ็บนะ”
อันซย่าซย่าสลัดมือเขาออกอย่างประหม่าราวกับว่ามันเป็นไฟฟ้าที่ช็อตเธอ
“เพราะว่ามันไม่ใช่ความฝัน…แสดงว่านายฉวยโอกาสกับฉันน่ะสิ! เซิ่งอี่เจ๋อ นายทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง! ฉัน…ฉันจะ…” หญิงสาวพูดติดอ่างและไม่รู้จะจบประโยคลงยังไง ตรงข้ามกับเธอ เซิ่งอี่เจ๋อสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย “เนื้อตัวฉันเธอจะทำยังไงก็ตามใจ หรือไม่ฉันก็จะดูแลเธอเอง อยากได้แบบไหนล่ะ”
ถึงแม้ว่าเธอจะหัวไม่ค่อยไวนัก แต่ตอนนี้เธอก็พอจะรู้ถึงความหมายของสิ่งที่เขาไม่ได้พูดออกมาแล้ว!
“นะ-นาย… นายคงไม่ได้กำลังจะบอกว่าชอบฉันหรอกนะ” อันซย่าซย่าตัวแข็งเป็นหินไปแล้ว
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้ม “งั้นเธอก็ไม่ได้ซื่อบื้อสักเท่าไหร่เลยนะ”
ตึ้ก—
อันซย่าซย่าโขกหัวกับหน้าต่างรถอีกครั้งพลางร้อง “ไม่ใช่ความฝันจริงๆ!”
เซิ่งอี่เจ๋อพูดอะไรไม่ออกเลย
เมื่อทั้งสองมาถึงบ้าน อันซย่าซย่าก็ยังรู้สึกล่องลอยเหมือนอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆขณะที่เดินไปเรื่อยในสภาวะเหมือนตกอยู่ในภวังค์
อันอี้เป่ยกำลังรออยู่ที่ประตูหน้าบ้าน เมื่อเห็นน้องสาวเดินเข้ามา เขาก็รีบเดินฉับๆ ไปหาเธอพลางหมุนตัวเธอไปมา “ซย่าซย่า ไม่เป็นอะไรนะ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ไปไหมมาน่ะ แล้วทำไมถึงได้กลับมากับไอ้หมอนี่ได้!”
อันซย่าซย่ายิ่งเวียนหัวหนักเข้าไปอีกพลางร้อง “โอ๊ย พี่ ปล่อยหนูก่อน! แค่เพื่อนที่ห้องแกล้งเล่นน่ะ เขาบังคับพาหนูไปที่บ้านเขา แล้วเซิ่งอี่เจ๋อก็ไปช่วยหนูออกมา”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วเขาจึงยอมปล่อยเธอ จากนั้นกราดตามองไปยังเซิ่งอี่เจ่อพลางส่งเสียงดังฮึ “ไปนอนได้แล้ว พี่จะคุยกับเขา”
“อื้อ…” อันซย่าซย่าเดินเข้าบ้านอย่างว่าง่าย หัวเธอหมุนติ้วๆ และเธอก็จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนจริงๆ!
เนื่องจากป่าป๊าอันไม่อยู่ ร้านกาแฟก็จึงต้องปิดไปก่อนตั้งแต่สองวันที่แล้ว อันอี้เป่ยชงกาแฟมาให้เซิ่งอี่เจ๋อแก้วหนึ่งแล้วตรงเข้าประเด็นเลย “ฟังนะ ฉันรู้ว่านายเป็นไอดอลคนดังระดับประเทศแถมยังเป็นทายาทตระกูลเซิ่งด้วย แต่สำหรับฉันแล้ว นายก็ไม่แตกต่างไปจากคนทั่วไปตามท้องถนน ฉะนั้นเก็บมือให้ห่างจากน้องสาวของฉัน ฉันยื่นมือเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องรักในวัยเรียนบ้าบอนี่ไม่ได้ แต่ฉันจะไม่ลังเลเลยที่จะหักขาไอ้บ้าที่มาทำรุ่มร่ามใส่เธอ”
สีหน้าเย็นชาบนใบหน้าเขาพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนรักษาคำพูด
เซิ่งอี่เจ๋อฟังอย่างสงบก่อนจะตอบด้วยแค่ “อื้ม”
“อยู่ห่างๆ เธอไว้จนกว่านายจะมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง และเธอยังเด็กแถมยังไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุดในโลกด้วย เธออาจจะถูกลวงได้ง่าย แต่ขอเตือนนายเอาไว้ ถ้ามาหลอกลวงเธอละก็ มันจะมีผลที่ตามมาซึ่งนายจะไม่สามารถควบคุมมันได้เลย” อันอี้เป่ยดื่มกาแฟหมดแก้วพร้อมรอยยิ้มถากถางก่อนจะลุกขึ้นยืน “ทำตัวดีๆ ล่ะ”
เซิ่งอี่เจ๋อเอ่ยถามอย่างเบาๆ ในทันที “คุณคงต้องชอบซย่าซย่าเอามากๆ เลยใช่ไหม”
อันอี้เป่ยชะงัก
“เธอเป็นน้องสาวของฉัน แน่นอนว่าฉันต้องชอบและเป็นห่วงเธอ”
“และคุณคิดว่าความชอบพอของผมที่มีต่อซย่าซย่านั้นไม่จริงใจ”
ตอนที่ 131 เธอก็ยังมีฉันไม่ใช่เหรอ (1)
อันอี้เป่ยหันกลับมามอง เป็นครั้งแรกที่เขาประเมินเด็กหนุ่มคนนี้อย่างจริงจังด้วยตาตัวเอง
นอกจากท่าทางเฉยเมยในสายตาของเขาแล้ว ยังมีความดื้อดึงอยู่ในนั้นด้วย
ความดื้อดึงโดยไม่ต้องกังขา
เขาหัวเราะหึๆ “ฉันหวังว่าจะไม่ และควรจะไม่ด้วย นายยังเด็กนัก ควรโฟกัสเรื่องเรียน เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ทั้งหมดมันเป็นสิ่งที่ไร้จุดหมาย”
เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะบ้าง
“อีกอย่าง ตอนนี้นายอาจชอบเธอ แล้วเดือนต่อไปล่ะ หรือปีหน้า อีกสามปี? อย่าเพิ่งสัญญาอะไรง่ายๆ เพราะมันจะกลายเป็นคำพูดที่นายอาจจะเสียใจในวันข้างหน้า”
“คนเราจะบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ยังไงกัน” เซิ่งอี่เจ๋อตอบกลับอย่างสงบนิ่ง
“เรื่องนั้น–เราก็คงต้องรอดูกันต่อไป”
–
วันต่อมา
อันซย่าซย่านอนหลับไม่ลง เธอก็นอนตื่นตาค้างอยู่บนเตียงจนกระทั่งเช้าวันต่อมา
เด็กสาวนอนคว่ำเหม่อมองท้องฟ้าอันไร้เมฆด้านนอก
แสงแดดจ้าเป็นประกายจนตาเธอพร่า แต่แล้วหน้าของเซิ่งอี่เจ่อก็โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้
เมื่อคิดถึงจูบของเขา รอยยิ้มของเขาและ “เธอชอบคำตอบนี้ไหม” ของเขา ทั้งหมดนั้นทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ
ทำไมเขาต้องมาจูบกันด้วยเล่า!
เขาแกล้งเธอเล่นหรือเปล่า หรือว่า… เขาจะชอบเธอจริงๆ
อันซย่าซย่าโอนเอนจะเชื่อไปทางอย่างแรกมากกว่า เพราะเธอคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างมากที่ใครสักคนที่ไม่ธรรมดาอย่างเซิ่งอี่เจ๋อจะมาตกหลุมรักเธอเข้า
ฮือ… มันจะต้องเป็นเหมือนนิยายที่เซิ่งอี่เจ๋อรับบทเป็นคนร้ายกาจ เขาตั้งใจมาหลอกว่ารักเธอเพราะเธอไม่สามารถจ่ายหนี้คืนให้เขาได้ แล้วเขาก็จะทิ้งเธออย่างไร้ความปรานีหลังจากที่เธอตกหลุมรักเขา!
ใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่!
อันซย่าซย่าหาเหตุผลพร้อมกับคอยล้างสมองตัวเอง
ตื่นได้แล้ว เจ้าชายไม่ได้ตกหลุมรักซินเดอเรลล่าในชีวิตจริงหรอกนะ
ดวงจันทร์ก็คงไม่ได้โคจรรอบโลกตลอดไป
และเธอก็ต้องซื่อสัตย์กับโอปป้าหรงเช่อร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม!
เสียงสั่นจากโทรศัพท์ขัดจังหวะจินตนาการอันเตลิดเปิดเปิงของอันซย่าซย่า พอหยิบขึ้นมาดู เธอก็เห็นว่ามาจากฉือหยวนเฟิง
“อันซย่าซย่า ทำไมยังไม่ลงมาข้างล่างอีก วันนี้พวกเรามีคิวถ่ายทำนะ!”
เฮ้ย เธอลืมไปเลย!
อันซย่าซย่ารีบล้างหน้าแปรงฟันพร้อมกับคำถามในหัว ไม่ใช่หน้าที่ของเซิ่งอี่เจ๋อหรอกเหรอที่มาตามจิกเธออย่างกับนายหน้าขายที่หน้าเลือด ทำไมเขาถึงไม่สนใจเธอ
ดูเหมือนการสันนิษฐานของเธอจะเป็นจริง เซิ่งอี่เจ๋อคงแค่หลอกเธอเล่นแน่ๆ T_T
อันซย่าซย่าลงมาชั้นล่างและก้าวขึ้นรถตู้—มันเป็นขั้นตอนที่เธอทำจนชินแล้ว
แต่วันนี้เซิ่งอี่เจ๋อกลับนั่งอยู่ที่ตอนหน้า มีเพียงฉือหยวนเฟิงกับเหอจยาอวี๋เท่าที่ด้านหลัง
อันซย่าซย่ามีท่าทางเจ็บปวดเล็กน้อย ทำไมเธอถึงมีความรู้สึกว่าเซิ่งอี่เจ๋อกำลังตั้งใจหลบเลี่ยงเธอ
เขาคงต้องรู้สึกเสียใจในสิ่งที่พูดและเหม็นหน้าเธออีกแล้ว!
เธอนั่งอย่างเซื่องซึมลงข้างๆ ฉือหยวนเฟิงผู้ซึ่งหลังใบหูกลายเป็นสีชมพูเรื่อไปแล้ว เขาพยายามจะชวนเธอคุย
“ซย่าซย่า เมื่อคืนนอนหลับหรือเปล่า”
“หึ”
“เอ่อ แล้วกินอะไรมาหรือยัง”
“ยัง”
“เอ่อ ฉันมีขนมปังอยู่นะ กินหน่อยไหม”
“ไม่”
เซิ่งอี่เจ๋อซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อยกับการสนทนานั้น
หลังจากเซ้าซี้อยู่นาน ฉือหยวนเฟิงก็คะยั้นคะยอให้อันซย่าซย่ากินขนมปังจนได้ หลังจากทานไปไม่กี่คำเธอก็กลับไปนั่งที่เดิมและเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าข้างนอก
ฉือหยวนเฟิงมองไปที่เหอจยาอวี๋อย่างขอความช่วยเหลือ อีกฝ่ายยิ้มอย่างรู้ทันและทำปากบอก “คงทะเลาะกันน่ะ”
นั่นทำให้ฉือหยวนเฟิงกระจ่างขึ้นมาทันที
มิน่าล่ะพี่อี่เจ๋อถึงได้ทำตัวแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อวาน สองคนนี้ก็คงจะทะเลาะกันอีกแล้วนี่เอง!
เมื่อทั้งหมดมาถึงสถานที่ถ่ายทำ เหอจยาอวี๋กับฉือหยวนเฟิงก็ไปถ่ายทำฉากของพวกเขาก่อน ปล่อยให้อันซย่าซย่ากับเซิ่งอี่เจ๋อพักผ่อนรออยู่ข้างๆ ฉาก ทั้งสองต่างก็ไม่มองกันและบรรยากาศรอบตัวของทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยความเขินอาย
หลีฝานซิงบังเอิญปรากฏตัวขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะเอาเสียเลย