ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 142 เซิ่งอี่เจ๋อหึง (1) / ตอนที่ 143 เซิ่งอี่เจ๋อหึง (2)

ตอนที่ 142 เซิ่งอี่เจ๋อหึง (1)   

 

 

ซูเสี่ยวมั่วพยักหน้าอย่างประจบเอาใจ และละทิ้งมโนธรรมในใจทันที “ได้เลยๆ แล้วแต่นายเลย”  

 

 

ฉีเหยียนซีพยักหน้าพอใจก่อนจะปล่อยเธอ ซูเสี่ยวมั่วพยายามฟาดเขาด้วยลูกเตะลอยฟ้าซึ่งฉีเหยียนซีก็หลบหลีกได้อย่างง่ายดาย  

 

 

“อืม…ซย่าซย่า ฉันเทียบเขาไม่ได้หรอก! ขอตัวแล้วกันนะ! ระวังหลังให้ฉันด้วยล่ะ!” ซูเสี่ยวมั่วตบไหล่เธอเบาๆ ราวกับกำลังมอบหมายหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้ จากนั้นก็วิ่งกลับไปที่นั่งตัวเองอย่างไว  

 

 

อันซย่าซย่าพูดไม่ออกเลย และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องนั่งข้างๆ ฉีเหยียนซี  

 

 

ชายหนุ่มพูดพร่ำเหมือนแผ่นเสียงตกร่องซ้ำไปซ้ำมา “ยัยบื้อซย่าซย่า ยัยบื้อซย่าซย่า ยัยบื้อซย่าซย่า ฮ่าๆๆ! เป็นชื่อที่ซื่อบื้อจริงๆ”  

 

 

อันซย่าซย่าถลึงตาใส่เขา เหมือนถูกดึงดูดด้วยท่าทีเขินอายและเคืองใจของเธอ ฉีเหยียนซีไม่อาจละสายตาจากเธอได้อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่สบายใจ “ก็ได้ๆ ฉันไม่ล้อแล้ว”  

 

 

อันซย่าซย่ายังจ้องหน้าเขาต่อ  

 

 

“นี่ หยุดได้แล้วโอเค้? ทำไมยังจ้องฉันอยู่อีก” ฉีเหยียนซีขมวดคิ้ว  

 

 

“ฉันกำลังจะฆ่านายด้วยพลังจิต” ความคิดในใจเธอเล็ดลอดออกมา  

 

 

มุมปากฉีเหยียนซีบิดเบ้ หญิงสาวรีบปิดปากทันทีพลางทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ “ฉันไม่ได้พูดนะ”  

 

 

เมื่อเห็นสีหน้าแตกตื่นของเธอ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาเขา  

 

 

ไม่แปลกใจเลยที่เซิ่งอี่เจ๋อชอบเธอมาก ยัยนี่ช่างน่าสนใจจริงๆ  

 

 

–  

 

 

เสียงกริ่งเข้าเรียนดังขึ้น แล้วอาจารย์ก็เข้ามาพบว่าฉีเหยียนซีย้ายที่นั่งใหม่ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ตั้งสมาธิอยู่กับการสอน  

 

 

อันซย่าซย่าตั้งใจจดบันทึก พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สนใจการกลั่นแกล้งของฉีเหยียนซี และแล้วคาบเรียนช่วงเช้าก็ผ่านไป  

 

 

เพราะคุณครูที่สอนคาบสุดท้ายเลิกคลาสสายไปห้านาที อันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วจึงตัดสินใจรอก่อนลงไปโรงอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงคนแน่น ไม่อย่างนั้นต้องยืนต่อแถวรอซื้อข้าวจนรากงอก  

 

 

คังเจี้ยนหยิบนมเปรี้ยวมาให้ทั้งสองคนละกล่องแล้วก็รอไปพร้อมกัน  

 

 

อันซย่าซย่าดูดอย่างมีความสุข แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา  

 

 

เมื่อหันไป เธอก็เห็นว่าฉีเหยียนซียังอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน!  

 

 

และเขาก็กำลังจ้องมองเธออยู่!  

 

 

หญิงสาวกำกล่องนมเปรี้ยวไว้แน่นพลางพูดด้วยเสียงตื่นๆ “เลิกจ้องเลย! ฉันไม่ให้นายหรอก!”  

 

 

จอมปีศาจเอ๊ย! ฮึ!  

 

 

ฉีเหยียนซียิ้มนิดๆ นัยน์ตามีแววร้ายกาจวูบไหวอยู่ภายใน  

 

 

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ฮัลโหล นั่นร้านสะดวกซื้อเหรอ ส่งนมเปรี้ยวสิบแพ็กขึ้นมาที่ห้องซีปีหนึ่งด้วย!”  

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกได้ว่าจะมีเรื่องไม่ดีแน่ๆ แต่เขาจับเธอไว้ให้นั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ยอมให้ไปไหน  

 

 

คังเจี้ยนพยายามออกหน้าแทนอันซย่าซย่า แต่ถูกซูเสี่ยวมั่วกระซิบห้ามเอาไว้ “อย่า! ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำอันตรายซย่าซย่าหรอก มันจะยิ่งแย่ไปกว่านี้สำหรับเธอถ้านายสองคนมีเรื่องกัน”  

 

 

คังเจี้ยนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฉยไว้  

 

 

ไม่นานนักนมเปรี้ยวก็มาส่ง แล้วฉีเหยียนซีก็เบ้ปากใส่พวกเธอ “ยัยบื้อซย่าซย่า เธอจะไปไหนไม่ได้จนกว่าจะกินหมดนี่”  

 

 

อันซย่าซย่าช็อก “ล้อเล่นใช่ไหม”  

 

 

“หน้าตาฉันเหมือนล้อเล่นงั้นเหรอ” ฉีเหยียนซีลบรอยยิ้มออกจากใบหน้า แล้วเริ่มแผ่คลื่นของการข่มขู่  

 

 

เมื่อรู้แล้วว่าเธอจะไม่ได้ออกห้องเรียนไปไหนในเร็วๆ นี้ เธอก็หันไปมองรอบๆ พร้อมใบหน้าบึ้งตึงพลางบอก “พวกเธอสองคนไปก่อนเลย ฉัน… อีกสามนาทีฉันจะตามไป”  

 

 

คังเจี้ยนถลกแขนเสื้อขึ้นและกำลังจะชกฉีเหยียนซีที่แกล้งเธอ แต่อันซย่าซย่าหยุดเขาไว้ได้ทันเวลาและผลักเขาออกไปพร้อมกับซูเสี่ยวมั่ว จากนั้นก็ยิ้มให้ทั้งสอง “ไม่เป็นไรน่า ไม่ต้องห่วงฉันหรอก”  

 

 

ทั้งสองออกไป แต่ไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไร  

 

 

ย้อนกลับมาที่ห้องเรียน อันซย่าซย่ากินไม่ไหวแล้วหลังจากผ่านไปหกกล่อง  

 

 

อีกอย่างเธอยังมีรอบเดือนอยู่… โอ๊ย มันทำให้เธอปวดท้องเพราะดื่มมากเกินไป…  

 

 

“ฉีเหยียนซี พอได้หรือยัง”  

 

 

“ยัง”  

 

 

อันซย่าซย่าหยุดดื่มแล้วพังพาบลงไปกับโต๊ะ “ฉันปวดท้อง… ไอ้คนบ้า… โอ๊ย…”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 143 เซิ่งอี่เจ๋อหึง (2)   

 

 

สีหน้าฉีเหยียนซีเปลี่ยนไป  

 

 

ตอนแรกเขาแค่อยากแกล้งเธอเล่น ไม่คิดว่าเธอจะดื่มได้เยอะขนาดนั้น  

 

 

เขาก็คิดอยู่ว่าจะบอกให้เธอหยุด แต่ศักดิ์ศรีมันค้ำคอเอาไว้  

 

 

ยัยบื้อ…  

 

 

“ฉันจะพาเธอไปห้องพยาบาล!” เขาบอกด้วยความกระอักกระอ่วนใจ  

 

 

อันซย่าซย่าถามเสียงอ่อย “หมายความว่าฉันไม่ต้องดื่มนมเปรี้ยวนั่นอีกแล้วใช่ไหมถ้าเราไปห้องพยาบาล”  

 

 

ฉีเหยียนซีพูดไม่ออก  

 

 

ที่ห้องพยาบาล  

 

 

เมื่อคุณหมอสาวประจำโรงเรียนเห็นฉีเหยียนซีประคองอันซย่าซย่าเข้ามาในห้องพยาบาลพร้อมกับท้องที่บวมเป่ง เธอก็รู้สึกเหมือนโลกหมุนติ้ว  

 

 

โอ๊ยตาย เด็กสมัยนี้! จะมือไวใจเร็วกันไปหน่อยไหม   

 

 

เธอคงไม่ได้…ท้องหรอกนะ  

 

 

ขณะที่จินตนาการของคุณหมอกำลังแล่นเตลิดไปนั้น ฉีเหยียนซีก็หยุดความคิดเธอไว้ด้วยน้ำเสียงหยาบคาย “แม่นี่ดื่มนมเปรี้ยวมากเกินไป ดูเธอหน่อยสิ”  

 

 

อ้อ งั้นคงแค่นมเปรี้ยว..  

 

 

คุณหมอตรวจอาการอันซย่าซย่าคร่าวๆ แล้วก็สั่งจ่ายยาให้เธอพลางเตือน “อย่ากินเยอะเกินไประหว่างที่มีรอบเดือน มันไม่ร้ายแรงหรอก แค่เข้าห้องน้ำสองสามรอบก็หายแล้ว”  

 

 

อันซย่าซย่าพยักหน้า ระหว่างที่ฉีเหยียนซียืนงงอยู่ข้างเธอ  

 

 

เธอเป็นช่วงนั้นของเดือน… แล้วเขาก็ยังบังคับให้เธอดื่มนมเปรี้ยวมากเกินไปอีก! บ้าเอ๊ย!  

 

 

หลังจากไปห้องน้ำสองรอบ อันซย่าซย่าก็ยังไม่ดีขึ้น คุณหมอเลยเขียนใบรับรองให้ลาป่วยได้และให้เธอนอนพักในห้องพยาบาล  

 

 

อันซย่าซย่านอนอยู่บนเตียง ลูบพุงบวมๆ ของเธอพลางรู้สึกหดหู่  

 

 

ฉีเหยียนซีได้แต่ยืนหน้านิ่งอยู่ตรงนั้น เป็นใครมาเห็นคงนึกว่ามีเปลวไฟของความโมโหลุกโชนขึ้นจากกระหม่อมของเขา  

 

 

เขาโมโหตัวเอง แต่ในสายตาอันซย่าซย่า เขาคงกำลังคิดหาวิธีใหม่มาแกล้งเธออีกแน่ๆ  

 

 

เธอกระถดตัวเข้าไปในผ้าห่มเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะเอาเสียเลย  

 

 

“ไปๆ ไปลงนรกซะเถอะที่รัก ฉันจะลงโทษเธอ…”   

 

 

ฉีเหยียนซีทำท่าสับสน “เสียงเรียกจากยุคเก้าศูนย์นั่นเพิ่งมาทวงถามโทรศัพท์ของมันคืนเรอะ”  

 

 

อันซย่าซย่าหยิบโทรศัพท์รุ่นปู่ขึ้นมาอย่างเก้อเขิน ฉีเหยียนซีเบ้ปาก  

 

 

โทรศัพท์ตกยุคนั่นมันอะไรกัน บ้านเธอเป็นร้านกาแฟไม่ใช่เหรอ เธอไม่ควรจะลำบากขัดสนตรงไหนเลยนี่นาจริงไหม  

 

 

เดี๋ยวก่อนนะ… ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนโยนโทรศัพท์เธอลงไปในน้ำ…  

 

 

อันซย่าซย่ากดปุ่มรับสายแล้วน้ำเสียงทุ้มน่าฟังก็ดังออกมาจากอีกฝั่งหนึ่ง “อันซย่าซย่า กินข้าวหรือยัง”  

 

 

สายจากเซิ่งอี่เจ๋อ  

 

 

อันซย่าซย่าหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อได้ยินเสียงเขาพลางตอบ “ฮึ” อย่างอายๆ แต่แล้วก็รีบส่ายหน้า “เปล่า ยังไม่ได้กิน…” ทั้งหมดนี้ต้องขอบใจเจ้าคนร้ายกาจฉีเหยียนซี!  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อนิ่วหน้า “แล้วทำอะไรอยู่ตอนนี้”  

 

 

“เอ่อ ฉันอยู่ที่ห้องพยาบาล…”  

 

 

แล้วโทรศัพท์เธอก็ดับไปหลังจากนั้น อันซย่าซย่ายกขึ้นดูก็เห็นว่าหน้าจอมืดสนิท เธอเปิดยังไงก็ไม่ยอมติด  

 

 

แย่แล้ว มันคงพังจากการที่ซูเสี่ยวมั่วเอาไปทุบเกาลัดเมื่อเช้าแน่เลย!  

 

 

เธอเอนตัวกลับลงไปนอน อึดอัดใจเป็นที่สุด  

 

 

ฉีเหยียนซีมองเธอทางหางตา ก่อนจะนั่งลงข้างเตียงขณะที่เขาเริ่มเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ  

 

 

“นายไม่ไปกินข้าวกลางวันเหรอ”  

 

 

“ไม่อ้ะ”  

 

 

“แล้วไม่กลับไปเรียนเหรอ”  

 

 

“ไม่”  

 

 

เอาแต่ใจตัวเอง… เป็นทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยล้นฟ้านี่มันดีจังเลยนะ  

 

 

อันซย่าซย่าผล็อยหลับไป เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ฉีเหยียนซีก็ยังกำลังเล่นเกมอยู่  

 

 

ด้วยความสนใจ เธอขยับเข้าไปใกล้เขาเพื่อดูแล้วก็เข้าสั่งการทันที  

 

 

“ว้าว ล้มเจ้านี่ก่อนเลย นี่แหละ! โอ๊ย บื้อจัง นิ้วนายก็ช้า…” ระหว่างที่อันซย่าซย่าบ่นพึมพำอยู่นั้น นิ้วฉีเหยียนซีก็ขยับช้าลงๆ ดวงตาเขาขยับไปจ้องอยู่ที่หน้าเธอ  

 

 

ผ้าม่านสีขาวของห้องพยาบาลพลิ้วไหวในสายลมยามบ่าย ดวงตาอันสดใสของเธอช่างมีเสน่ห์ รอยฟันที่ทิ้งรอยกัดจางๆ ไว้ที่ริมฝีปากล่าง  

 

 

ตึกๆ ตึกๆ   

 

 

เขาได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นอย่างชัดเจน  

 

 

แววตาเขาแปรเปลี่ยนไป เขาโยนโทรศัพท์ทิ้ง เชยคางเธอขึ้นก่อนจะตรึงเธอไว้บนเตียง  

 

 

อันซย่าซย่าเบิกตาโตพลางผลักเขาด้วยความกลัว “นะ-นายจะทำอะไรน่ะ…”  

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset