ตอนที่ 144 เซิ่งอี่เจ๋อหึง (3)
“อัน-ซย่า-ซย่า” เขาเอ่ยชื่อเธอทีละคำ ฟังดูจริงจังอย่างคาดไม่ถึง
อันซย่าซย่าขยับตัวอย่างว้าวุ่นใจ แต่เขากดไหล่ทั้งสองข้างของเธอเอาไว้และบังคับให้เธอมองตาเขา
“เธอกลัวฉันขนาดนั้นเลย” น้ำเสียงเขาแหบพร่า
อันซย่าซย่าพูดไม่ออก ใครจะไม่กลัวล่ะ ก็เขาร้ายกาจขนาดนี้!
“ปล่อยฉันก่อนแล้วเรามาคุยกันดีๆ …” เธอผลักฉีเหยียนซีด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แต่เขากลับนั่งนิ่งราวกับกำแพงที่ทำจากเหล็กกล้า เธอกระเถิบตัวดันเขาแต่ก็ไม่ขยับเลย
ดวงตากระจ่างใสของเธอถูกแทนที่ด้วยความตื่นตกใจขณะที่เธอมองเขาด้วยความสับสนงุนงง
ดวงตาเขาดูเหมือนจะมืดทะมึนลงไปอีกและมันฉายแววซึ่งไม่อาจบรรยายได้
เขาขยับเข้าใกล้ดวงหน้าเล็กๆ ของเธอ ระบายลมหายใจอุ่นๆ ของรดรินบนผิวหน้าเธอ ทำให้เธอหวาดหวั่นขึ้นมาทันที
โอ๊ยตายแล้ว! เขาคงไม่ได้จะจูบเธอใช่ไหม
เขาจับคางเธอไว้ระหว่างปลายนิ้วที่ออกแรงหนักไปหน่อยจนเธอเริ่มส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บ
ฉีเหยียนซียิ้มอย่างสมใจ เขากำลังจะกดริมฝีปากเข้าหาเธอ แต่ทว่าเสียงพรึบดังมาจากข้างหลัง แล้วใครบางคนก็กระชากคอเสื้อเขาอย่างแรงเพื่อสลัดเขาออกจากตัวเธอ
ฉีเหยียนซีสะดุดและเกือบจะหงายหลังล้ม เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเขาก็เห็นว่าคนนั้นคือเซิ่งอี่เจ๋อ!
บรรยากาศของการข่มขู่แผ่ออกมาจากตัวเซิ่งอี่เจ๋อ เขาเม้มริมฝีปากแน่นพลางเหลือบมองไปที่อันซย่าซย่า ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงกับแก้มแดงปลั่ง ชายหนุ่มกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
“โกรธสินะ ฮ่าๆ เซิ่งอี่เจ๋อ นายเคยคิดไหมว่าสักวันต้องมาเจออะไรแบบนี้เมื่อตอนที่ฉกแฟนฉันไปตอนนั้น” เมื่อเห็นเซิ่งอี่เจ๋อที่นี่ ฉีเหยียนซีก็ประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็รีบแสดงรอยยิ้มยั่วเย้าในเกือบจะทันทีซึ่งดูกวนประสาทเป็นที่สุด
เซิ่งอี่เจ๋อเหวี่ยงหมัดเข้าใส่แล้วทั้งคู่ก็ลงไปพันตูกันอยู่ที่พื้น เป็นเหตุให้อันซย่าซย่าร้องกรี๊ดออกมา
ฉีเหยียนซีไม่มีโอกาสสู้ได้เลย
เขาล้มลงกับพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลจากมุมปาก พลางสูดลมหายใจเข้าด้วยความเจ็บปวด
เซิ่งอี่เจ๋อยกเก้าอี้ขึ้น เตรียมจะทุ่มใส่ฉีเหยียนซี แต่อันซย่าซย่ากอดเอวเขาไว้แน่นเสียก่อน
เธอคลานลงจากเตียงระหว่างที่พวกเขาไม่ทันมอง ถึงแม้จะกลัวมากขนาดไหน แต่เธอก็ต้องหยุดเขาให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!
“เซิ่งอี่เจ๋อ หยุดนะ…” เขาอาจฆ่าใครเข้าจริงๆ ก็ได้ถ้าเธอไม่ห้าม
แผ่นอกเขากระเพื่อมด้วยความโกรธ เซิ่งอี่เจ๋อมองหญิงสาวซึ่งหน้าซีดเซียวในวงแขนของเขา ม่านตาเขากระตุกก่อนจะเขวี้ยงเก้าอี้ทิ้ง
อันซย่าซย่าถอนใจด้วยความโล่งอก ข้อมือเธอถูกกำไว้แน่นภายในอุ้งมือของเขา จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มลากตัวเธอออกไปจากห้องพยาบาลโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“อย่าเดินเร็วนักสิ…อื้อ เซิ่งอี่เจ๋อ นายจะพาฉันไปไหน”
ภายในห้อง ฉีเหยียนเช็ดเลือดออกจากมุมปากด้วยนิ้วเรียวยาวพลางถอนใจ “เซ็งชะมัด ฉันยังไม่ทันได้จูบเธอด้วยซ้ำ…”
เมื่อคิดถึงปฏิกิริยาตอบโต้ที่ไม่ปกติของเซิ่งอี่เจ๋อแล้ว นัยน์ตาเขาก็โกรธขึ้งเข้าไปอีก
–
เซิ่งอี่เจ๋อลากตัวอันซย่าซย่ามาตลอดทางจนออกนอกอาคาร หญิงสาวพยายามตามให้ทันด้วยช่วงก้าวขาสั้นๆ ของเธอ ทว่าเขาก้าวเดินฉับๆ จนเธอต้องกัดฟันแล้วสะบัดมือเขาออก!
“จะพาฉันไปไหน ขาฉันจะหักอยู่แล้ว!” อันซย่าซย่าบ่น แต่แล้วก็ชะงักไปในทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเขา
เขาดูหวาดเกรง… มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย…
เซิ่งอี่เจ๋อพูดอย่างเย็นชา “เห็นเธอกำลังสนุกเลยนี่นะ ไม่รู้เลยว่าเธอเข้ากับพวกผู้ชายได้ดีขนาดนี้!”
อันซย่าซย่าเบิกตาโต เขากล้าพูดแบบนั้นได้ยังไง! มันเจ็บนะ!
“นี่ เซิ่งอี่เจ๋อ มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”
“มากเกินไปเหรอ” ชายหนุ่มหรี่ตา ซึ่งทำให้เขาดูอันตราย เขาปรายตามองเธอครู่หนึ่ง “เอาละ ฉันจะแสดงให้เธอดูว่ามากเกินไปเป็นยังไง!”
แล้วจูบเย็นๆ ที่ดูเอาแต่ใจตัวเองของเขาก็ทาบทับลงบนริมฝีปากเธอในวินาทีต่อมา
ตอนที่ 145 เซิ่งอี่เจ๋อหึง (4)
เขากักศีรษะเล็กๆ ของเธอไว้ระหว่างฝ่ามือ ระหว่างที่พร่าผลาญริมฝีปากอ่อนโยนของเธอ
อันซย่าซย่าตกตะลึง
เขา เขาบังคับขโมยจูบเธองั้นหรือ
นี่เธอฝันไปหรือว่าเซิ่งอี่เจ๋อเมา
เธอนึกสงสัยอย่างเลื่อนลอยระหว่างที่กะพริบตาปริบๆ เซิ่งอี่เจ๋อไม่พอใจที่เธอดูไม่สนใจและฉวยโอกาสนั้นในการบังคับให้เธออ้าปากพลางจูบหนักหน่วงยิ่งขึ้น
“อื้ม…” อันซย่าซย่าคราง เธอพยายามจะหนี แต่ไม่มีที่ไหนให้หนีไปได้เลย
จูบนั้นดูยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์จนในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอ พวงแก้มแดงก่ำ เธอสูดอากาศเฮือกใหญ่เข้าปอด นัยน์ตาเอ่อรื้นไปด้วยน้ำตาจนดูมีท่าทางเหมือนกวางที่ตื่นกลัว
อันซย่าซย่าถอยหลังไปสองสามก้าว การเคลื่อนไหวจากจิตใต้สำนึกแบบนั้นทำให้เซิ่งอี่เจ๋อนิ่วหน้าหนักเข้าไปอีก
“นายทำแบบนี้ได้ยังไง! เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันไม่ใช่แฟนนายนะ นายจะมาจูบฉันเมื่อไหร่ก็ตามที่อยากจูบไม่ได้! ถึงนายจะอยากแกล้งฉันคืน แต่แบบนี้มันทุเรศ! นายนี่มันเหลือทนจริงๆ!” อันซย่าซย่ารวบรวมความกล้าตะโกนต่อว่าเขา
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วได้รูปสวยข้างหนึ่งขึ้น “ฉันไม่เคยบอกนี่ว่าฉันเป็นคนดี ใช่หรือเปล่า”
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงโกรธมากขนาดนี้ แต่ตอนที่เห็นฉีเหยียนซีตรึงเธอเอาไว้และจะจูบเธอ… เขาก็อยากจะสับหมอนั่นเป็นชิ้นๆ!
ได้ยินอย่างนั้นอันซย่าซย่าก็พูดอะไรไม่ออก เธอกัดริมฝีปากพลางจ้องมองเขาเหมือนลูกหมาที่ทำความผิด
“ฉันเกลียดนาย! ไม่ต้องมาพูดกับฉันอีกเลยนะ! ฮึ่ย!” เธอกระทืบเท้าเดินหนีไป ปล่อยให้เซิ่งอี่เจ๋อที่พูดอะไรไม่ออกยืนอยู่อย่างนั้น
คำบอกเล่าว่า “อยู่ในห้องพยาบาล” ทำให้เขาเป็นห่วงมากจนต้องขอหยุดถ่ายละครกลางคันแล้วรีบกลับมาที่นี่ แล้วกลับมาเจออย่างนี้เหรอ
แล้วเธอยังมาโกรธเขาอีก! ยัยซื่อบื้อนี่กล้าดียังไง!
เขาเดินตามอันซย่าซย่าทันเพียงไม่กี่ก้าวก่อนจะคว้าแขนเธอไว้
อันซย่าซย่าเหวี่ยงแขนขาเป็นพัลวันขณะที่ดิ้นรนสู้เขา แต่แรงเขามากกว่าเธอ แล้วชายหนุ่มก็จับคอเสื้อเธอไว้ระหว่างที่ลากตัวเธออย่างกับหิ้วไก่ไปยังต้นอินทผาลัม
“ทำตัวดีๆ และอยู่ห่างจากไอ้บ้าฉีเหยียนซีเอาไว้จากนี้ไป! ถ้าฉันเห็นเธอกับหมอนั่นอีก…” หลังจากหยุดคิดนิดหนึ่ง เซิ่งอี่เจ๋อก็ตะคอกใส่เธอด้วยท่าทางร้ายกาจ “ฉันจะจูบเธออีกและจะจูบต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนเลย! ฉันไม่รังเกียจนะ เธอเลือกเอาตามสบายว่าจะอยู่กับความอับอายไหวไหม!”
อันซย่าซย่าจ้องมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอคนแบบนี้ด้วยนะ
เซิ่งอี่เจ๋อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ!
“ฉันมีอิสระจะอยู่กับใครก็ได้ที่ฉันต้องการ นายเป็นใครถึงจะมาออกคำสั่งฉันไปทั่วแบบนี้” อันซย่าซย่าแก้มป่องด้วยความโมโห
เซิ่งอี่เจ๋อเอื้อมนิ้วเรียวยาวของเขาออกไปลูบไล้ริมฝีปากชมพูระเรื่อ มันยังคงเจ่อบวมนิดๆ จากจูบอันยาวนานเมื่อกี้
ท่าทางของเขานั้นช่างสนิทสนมและเต็มไปด้วยความรักใคร่ เขายิ้มแล้วกลับไปเป็นลูกชายมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่หล่อเหลาและทำอะไรตามอำเภอใจอีกครั้ง
“ฉันเป็นคนเซ็นสัญญากับเธอ ทุกอย่างอยู่ในกระดาษหมดแล้ว เธอจะหนีหนี้งั้นเหรอ”
สัญญา! สัญญาบ้านั่นอีกแล้ว!
อันซย่าซย่าแทบน้ำตาร่วง เธอต้องยอมรับเลยว่าเซิ่งอี่เจ๋อรู้จุดอ่อนของเธอดี
เธอหันหน้าหนีและไม่ยอมมองเขา
เมื่อเห็นว่าเธอทำท่าทางแปลกๆ ใส่เขา เซิ่งอี่เจ๋อก็ย่นคิ้วพลางลูบหัวเธอ “ฉันต้องกลับไปแล้ว รอฉันนะ”
ทันทีที่เขาหมุนตัวกลับ อันซย่าซย่าก็แลบลิ้นใส่เบื้องหลังของเขา
ฮึ! ทำไมฉันต้องรอนายด้วย ฉันจะไปโพสต์ด่านายในเวยปั๋ว!
แต่อย่างไรก็ตาม มีคำถามหนึ่งที่คอยรบกวนใจเธอมาตลอด
เขายุ่งอยู่กับการถ่ายทำ…ทำไมอยู่ๆ ถึงกลับมาที่โรงเรียนล่ะ… บ้าชะมัด!
เมื่อกลับถึงบ้านคืนนั้น เธอก็ดันเจอหน้าเซิ่งอี่เจ๋ออย่างไม่สามารถเลี่ยงได้
อันซย่าซย่าทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตน เมื่ออันอี้เป่ยกลับมาจากทำงาน เขาก็เดินขึ้นข้างบนพลางเรียกเธอ “ซย่าซย่า เพื่อนที่ห้องมารออยู่ข้างล่างแน่ะ เขาบอกว่าเขาชื่อ… ฉีเหยียนซีหรืออะไรนี่แหละ”