ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 158 เอกลักษณ์เหนือคำบรรยาย / ตอนที่ 159 เข้าใจผิด

ตอนที่ 158 เอกลักษณ์เหนือคำบรรยาย

 

 

“อันซย่าซย่า ลูกไม่เคยพาเพื่อนมาเที่ยวบ้านเลย แล้วดูพูดกับแขกอย่างนี้เหรอ” ป่าป๊าอันสอนเด็กสาวอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็คีบกับข้าวใส่ชามให้ฉีเหยียนซี “กินอีกสิ เด็กผู้ชายจะสูงใหญ่ได้ก็ต้องได้อาหารที่เพียงพอด้วย”

 

 

“เขาสูงพอแล้วค่ะ! ถ้าสูงเกินไปกว่านี้อีกนิด สมองมันจะไปเลี้ยงร่างกายไม่ทันความสูงนะ! ที่เหลือจัดมาให้หนูเลย หนูเป็นคนที่จำเป็นต้องสูงกว่านี้อีก” อันซย่าซย่าบ่นกระปอดกระแปด

 

 

ฮึ—

 

 

ฉีเหยียนซีหัวเราะหึๆ พลางปรายตามาทางเธอ “เธอสูงไม่ถึง ร้อยหกสิบเซนฯ ใช่ไหมล่ะ”

 

 

“ฉีเหยียนซีเพื่อนเธอ ปล่อยหมัดน็อกใส่เธอเสียแล้ว”

 

 

อันซย่าซย่าแทบเห็นประโยคนั้นชัดเจนอยู่ในหัว ด้วยความหงุดหงิดสุดๆ เธอถลึงตามองฉีเหยียนซี จากนั้นก็ก้มลงไปกินต่อโดยไม่ต่อความยาวสาวความยืด

 

 

อาหารค่ำมื้อนั้นกลายเป็นมื้อที่พิเศษมาก

 

 

หลังจากทานเสร็จกันแล้ว อันอี้เป่ยก็ช่วยป่าป๊าอันล้างจานชาม ขณะที่อันซย่าซย่าลากตัวฉีเหยียนซีลงไปชั้นล่างแล้วผลักเขาออกประตูหน้าบ้าน

 

 

“กินมื้อค่ำเสร็จแล้วก็กลับไปซะ!”

 

 

แต่กลับกลายเป็นว่าเด็กสาวไม่สามารถไล่เขาไปได้เร็วขนาดนั้น ฉีเหยียนซีถูจมูกกับพฤติกรรมของเธอ ปากก็ว่า “มโนธรรมเธอมีบ้างไหมเนี่ย วันนี้ฉันช่วยเธอไว้จากพวกนักข่าวนะ ลืมไปแล้วเหรอ”

 

 

“ก็ฉันขอบใจนายด้วยมื้อค่ำแล้วไง เราก็เสมอกันแล้ว บ๊ายบาย!” อันซย่าซย่าเชิดคางตอบ จากนั้นก็กลับขึ้นบนบ้าน

 

 

ฉีเหยียนซีเรียกไล่หลังเธอ “นี่ ยัยบื้อซย่าซย่า รอก่อน”

 

 

“นายนี่น่ารำคาญจริง! ตั้งชื่อเล่นทุเรศๆ ให้ฉันอีกละก็ ฉันจะตั้งคืนให้บ้าง!”

 

 

“อ๋อเหรอ อะไรดีล่ะ” ฉีเหยียนซียิ้มไปถึงดวงตาแล้วทีนี้ และแสงระยิบระยับในนั้นก็เตือนให้นึกถึงค่ำคืนอันเต็มไปด้วยดวงดาว

 

 

“ไอ้บ้าฉี! ไอ้ปีศาจฉี! ไอ้ฉีปากปีจอ!” อันซย่าซย่าโกรธมากจนอยากจะก่นด่าเขาอีก

 

 

“ดี ดีมากๆ” ไม่เพียงแต่ชายหนุ่มจะไม่โกรธเท่านั้น แต่เขายังพยักหน้าด้วยความพอใจอีกด้วย “ถึงแม้มารยาทของเธอจะดูไม่งามเท่าไหร่ แต่ฉันก็ยังอยากบอกว่า–ขอบใจ”

 

 

ขอบใจที่ร่วมกินข้าวแบบที่หาโอกาสได้ยากกับฉัน

 

 

ขอบใจที่ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตฉันแบบนี้

 

 

อันซย่าซย่าบอกไม่ถูกเลยว่าเขาเป็นยังไง แต่สิ่งที่เธอเชื่อตลอดมาก็คือ ฉีเหยียนซีนั้นนิสัยแย่ที่สุด

 

 

เมื่อมาลองคิดดูอีกที นอกจากการแกล้งเธอเล่นเป็นครั้งคราวแล้ว เขาก็ไม่ได้แกล้งเธอจนเลยเถิด มิหนำซ้ำยังดีต่อเธอมากตามมาตรฐานของเขาด้วยซ้ำ

 

 

ตอนนี้เมื่อเขามาขอบใจเธออย่างสุภาพ เธอเลยรู้สึกเขินนิดๆ พลางจิ้มปลายนิ้วชี้หากันแก้เขิน หญิงสาวยิ้มให้ “ลาก่อน กลับบ้านดีๆ นะ”

 

 

จากนั้นเธอก็หันหลังกลับขึ้นชั้นบนทันที ซึ่งคลาดกับความนัยในดวงตาฉีเหยียนซี—เขาดูอิดออดไม่อยากจะกลับเลย

 

 

“อันซย่าซย่า ฉันคิดว่าฉันชอบเธอ”

 

 

 

 

วันจันทร์

 

 

อันซย่าซย่ามาถึงโรงเรียน ก็พบกับซูเสี่ยวมั่วในสภาพซีดเซียว และรอยดำวงใหญ่ๆ ใต้ตาทั้งสองข้าง

 

 

“รีบทำงานให้ทันกำหนดส่งอีกแล้วเหรอ” เธอทักทายเพื่อนสาว

 

 

“ช่าย…ดีหน่อยที่เกือบเสร็จแล้ว” ซูเสี่ยวมั่วตอบพร้อมกับหาวปากกว้าง “ฉันไม่มีเวลากินมื้อเช้าด้วยซ้ำ หิวชะมัดเลย…”

 

 

ก่อนที่จะทันได้พูดจบ ใครบางคนข้างๆ เธอก็ส่งนมกล่องแพ็กหนึ่งมาให้ ซูเสี่ยวมั่วประหลาดใจ สายตาของเธอพบกับนิ้วเรียวยาวที่ยื่นกล่องนมมาให้ จากนั้นก็เลื่อนขึ้นไปยังใบหน้าของเหอจยาอวี๋ ซึ่งอ่อนโยนราวกับเทพบุตร

 

 

“นมไหม” เหอจยาอวี๋ยิ้มอย่างเป็นมิตร

 

 

ซูเสี่ยวมั่วพยักหน้าหงึกๆ แทบฉกกล่องนมไปจากมือของเขา เธอประหม่าจนแทบจะไม่สามารถเสียบหลอดเข้ากล่องได้

 

 

มุมปากอันซย่าซย่ากระตุกขณะมองดูเหตุการณ์

 

 

ระหว่างที่ซูเสี่ยวมั่วกำลังเขินหน้าแดงอยู่นั้น เหอจยาอวี๋ก็ถอนหายใจเบาๆ ดึงหลอดมาจากมือเธอแล้วจิ้มเข้าไปในกล่องนมให้ด้วยมืออันมั่นคง เขายิ้มให้ “เอ้า ได้แล้ว”

 

 

“ขะ-ขอบคุณ!” ซูเสี่ยวมั่วตอบอย่างประหม่า จากนั้นก็เอาหลอดเข้าปาก

 

 

นาทีต่อมา เธอก็ดูดจนหมดกล่อง

 

 

รอยยิ้มเหอจยาอวี๋ดูเหมือนจะชะงักค้างอยู่บนใบหน้า

 

 

เขาแทบได้ยินเสียงใครสักคนตะโกนลั่นอยู่ในหัวว่า  กระดกหมดเลยเพื่อน!

 

 

เธอคนนี้ช่าง…มีเอกลักษณ์เหนือคำบรรยายจริงๆ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 159 เข้าใจผิด

 

 

เมื่อชั่วโมงเรียนในวันนั้นสิ้นสุดลง อันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วก็ไปฝึกซ้อมการเชียร์แบบต่อตัว

 

 

การฝึกซ้อมวันนี้ถูกเปลี่ยนไปซ้อมที่โรงยิมแทน

 

 

อาจารย์สอนการแบ่งกลุ่มต่อตัวแปดจังหวะจำนวนสองท่าแล้วให้ทั้งหมดลองฝึกดู

 

 

อันซย่าซย่าผู้แขนขาไม่ค่อยสามัคคีกันตกอยู่ในสภาพย่ำแย่อีกครั้ง เมื่อคนอื่นๆ ทุกคนต่างก็พากันทำได้อย่างดีเยี่ยม แต่เธอกลับงกๆ เงิ่นๆ ในการคิดว่าจะใช้มือหรือเท้าข้างไหนก่อนดี

 

 

พวกผู้หญิงเริ่มพากันชี้มาที่เธอแล้วเสียงหัวเราะเยาะก็เริ่มดังขึ้นตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง

 

 

“ถึงหล่อนจะใช้เส้นเข้ามาก็เถอะ แต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าหล่อนไร้ประโยชน์”

 

 

“ใช่เลย ฉันละสงสัยจริงๆ ว่าอะไรดลใจนายน้อยฉี ทำไมเขาถึงช่วยหล่อน”

 

 

“เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาพยายามจะช่วย ไม่แน่เขาอาจจะส่งหล่อนมาที่นี่เพื่อให้พวกเราได้มีเรื่องให้หัวเราะกันก็ได้”

 

 

อันซย่าซย่าหน้าแดงกับการซุบซิบและเสียงหัวเราะเยาะของพวกผู้หญิง ซูเสี่ยวมั่วโมโหจัดพลางตะโกนใส่ “พูดพอหรือยัง พวกเธอทุกคนนี่เกิดมาก็สมบูรณ์แบบไปหมดทุกอย่างหรือยังไง ถ้าไม่ใช่ ก็หุบปากซะ!”

 

 

เสียงเธอฟังดูข่มขวัญมาก และเพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าซูเสี่ยวมั่วเรียนเทควันโดมาด้วย ทั้งหมดจึงรู้สึกถึงความคุกรุ่นจนหยุดพูดซุบซิบกัน

 

 

เมื่อกลับมาที่บ้านคืนนั้น อันซย่าซย่าก็ใช้ห้องซ้อมดนตรีบนชั้นสามของบ้านในการฝึกซ้อมท่าเชียร์อย่างขยันขันแข็ง

 

 

ฉือหยวนเฟิงเดินฮัมเพลงผ่านมาพร้อมกับน้ำขวดหนึ่งในมือ เมื่อเห็นท่าทางเงอะงะของอันซย่าซย่า เขาก็หัวเราะขำ “ซย่าซย่า เธอกำลังพยายามจะเข้าทรงเหรอน่ะ ดูตลกมากเลย!”

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกอยากร้องไห้ “ฉันกำลังซ้อมเชียร์…”

 

 

ตายละ เลือกคำผิดไปแล้วสิ! ฉือหยวนเฟิงปิดปากตัวเองทันที เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเหงื่อโทรมตัว เขาก็อดยื่นมือเข้าช่วยไม่ได้ “ลองเล่าท่าทางการเคลื่อนไหวให้ฟังซิ เผื่อฉันจะทำได้”

 

 

“อ๋อ ได้เลย!” อันซย่าซย่าอธิบายท่าทางให้เขาฟัง แล้วด้วยการฝึกนิดๆ หน่อยๆ การเคลื่อนไหวของฉือหยวนเฟิงก็ดูสุดยอดไปเลยทีเดียว!

 

 

“ว้าว เก่งจังเลย!” อันซย่าซย่าประหลาดใจ

 

 

ฉือหยวนเฟิงถูจมูกอย่างภาคภูมิใจ เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นคนที่เต้นเก่งที่สุดในกลุ่ม

 

 

“มา เดี๋ยวฉันจะสอนให้ ขยับตัวตามฉันนะ!” พอเขาเต้นให้ดู อันซย่าซย่าก็ทำตาม และเมื่อมีฉือหยวนเฟิงคอยตรวจแก้การเคลื่อนไหวให้เธออย่างต่อเนื่อง ในที่สุดท่าทางของอันซย่าซย่าก็ไม่เงอะงะอีกต่อไปแล้ว

 

 

อันซย่าซย่ากอดฉือหยวนเฟิงอย่างดีใจ “เฟิงเฟิง ฉันทำได้แล้ว! พรุ่งนี้พวกนั้นจะมาหัวเราะเยาะฉันไม่ได้แล้ว! เย่! ดีใจจังเลย!”

 

 

เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกแช่แข็งไว้ตรงนั้นเลย เขาหัวเราะคิกคัก “ไม่ต้องเกรงใจนะ มาให้ฉันสอนท่าทางได้ทุกเมื่อเลย!”

 

 

“จ้ะ!”

 

 

ระหว่างที่ทั้งคู่คุยกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น อยู่ๆ หญิงสาวก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ จนอดหันหลังกลับไปดูไม่ได้ แล้วจากนั้นก็ได้แต่ยืนนิ่งด้วยความงุนงง

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกำลังจ้องมองพวกเธอด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกขณะที่ถือแก้วกระดาษใส่กาแฟเอาไว้ในมือ

 

 

อันซย่าซย่าปล่อยฉือหยวนเฟิงทันทีและพยายามจะอธิบาย ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อกลับเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

 

 

“เซิ่งอี่เจ๋อ…” เธอเรียกชื่อเขาด้วยเสียงแผ่วเบาขณะที่ความรู้สึกแปลกๆ เริ่มเอ่อท้นขึ้นภายในใจ

 

 

ด้วยเหตุผลอะไรที่ไม่อาจรู้ได้ แต่เธอไม่ต้องการให้เขาเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉือหยวนเฟิง…

 

 

สิ่งเดียวที่เธอทำได้ในตอนนี้ก็คืออธิบายให้ฉือหยวนเฟิงฟังก่อน

 

 

“ขอโทษนะ… ฉันตื่นเต้นเกินไปหน่อย และเฟิงเฟิง ฉันคิดกับเธอในฐานะเพื่อนสนิทไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น” อันซย่าซย่าอธิบายอย่างกระอักกระอ่วนใจ

 

 

รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าของฉือหยวนเฟิงขณะที่เขาพยายามฝืนหัวเราะ “ไม่เป็นไร ซย่าซย่า ฉันรู้”

 

 

เขารู้ดีว่าอันซย่าซย่าไม่ได้ชอบเขาแบบนั้น

 

 

เขามองไปยังจุดที่เซิ่งอี่เจ๋อยืนอยู่เมื่อครู่นี้ด้วยสายตาผิดหวัง อันซย่าซย่ากลัวมากว่าพี่อี่เจ๋อจะเข้าใจเธอผิด อย่างนั้นจะหมายความว่าพี่อี่เจ๋อจะใช่คนที่เธอชอบหรือเปล่านะ

 

 

อันซย่าซย่าเดินไปที่ห้องนอนของเซิ่งอี่เจ๋อ เธอพยายามจะเคาะประตูเรียก แต่แล้วก็ยั้งมือเอาไว้ในเกือบจะทันทีนั้นเอง ท่าทางงงงัน

 

 

เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีน่ะสิ… ช่างเถอะ

 

 

ส่วนอีกด้านหนึ่งของประตู เซิ่งอี่เจ๋อกำลังบีบถ้วยกระดาษในมือไว้แน่นเสียจนกระทั่งไม่รู้สึกตัวเลยว่ากาแฟมันกระฉอกออกมาเปื้อนมือไปหมดแล้ว

 

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset