ตอนที่ 160 เป็นแฟนฉันเถอะ (1)
วันต่อมา
อันซย่าซย่านั่งฟังครูสอนอย่างเหม่อลอย เพราะมัวแต่พะวงกับที่นั่งอันว่างเปล่าข้างกายเธอ
ตามที่เหอจยาอวี๋บอก เซิ่งอี่เจ๋อได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเพื่อพักฟื้น และจะไม่มาเรียนสักพัก
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่ใจลอย ฉีเหยียนซีจึงขมวดคิ้วดกดำ
ช่วงพักกลางวัน ณ โรงอาหารประจำโรงเรียน
อันซย่าซย่ากำลังนั่งกินอาหารเที่ยงอยู่กับซูเสี่ยวมั่วและคังเจี้ยน
คังเจี้ยนแย่งปลาผัดเปรี้ยวหวานของโปรดของอันซย่าซย่าไปกิน ทว่าเธอกลับไม่แม้แต่จะกะพริบตาตอบ
เพื่อนชายประหลาดใจ “ซย่าซย่าที่รัก เธอเป็นอะไรไปน่ะ”
อันซย่าซย่ายอมให้ขโมยของกิน! นี่มันคือวันสิ้นโลกแล้วหรือ
“ยัยบื้อซย่าซย่า วันนี้เธอแปลกไปจริงๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า” ซูเสี่ยวมั่วก็เป็นห่วงเพื่อนเช่นเดียวกัน
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ จากนั้นก็รู้สึกถูกเขกที่หน้าผาก
“โอ๊ย—”
พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นฉีเหยียนซีกำลังฮัมเพลง หลังจากตอกไข่ต้มเข้ากับหัวเธอ
ชายหนุ่มปอกเปลือกไข่ต้มอย่างไม่รีบร้อนขณะที่อันซย่าซย่าขู่ฟ่อใส่เขา “นายทำอะไรของนายเนี่ย”
“หัวเธอดูเหมาะที่จะใช้กะเทาะไข่ดี” ฉีเหยียนซีบอกด้วยท่าทางพาลเกเร
ความประทับใจเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอมีต่อเขาวันก่อนเหือดหายไปในไม่ช้าอีกครั้ง
“เอ้า มากินด้วยกันสิ” ฉีเหยียนซีพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะนั่งลงไขว่ห้าง
อันซย่าซย่าจ้องเขาอย่างโกรธเคืองจนหมดความอยากอาหาร เธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับถาดอาหารและทำท่าจะเดินออกไป
ฉีเหยียนซีนิ่วหน้า เมฆดำทะมึนดูเหมือนจะก่อตัวอยู่เหนือตัวเขา ระหว่างที่นักเรียนคนอื่นๆ พากันคิดว่าเขาจะระเบิดโทสะออกมานั้น ชายหนุ่มกลับยิ้มอีกครั้ง “บ่ายนี้ฉันมีแข่ง มาเชียร์ฉันด้วย”
อันซย่าซย่ามองเขาด้วยแววตาสงสัย ฝีมือห่วยขนาดนั้น โค้ชจะยอมให้เขาลงเล่นด้วยหรือ
เธอพยักหน้าอย่างระแวดระวังตัว ก่อนจะกลับเข้าห้องเรียนพร้อมกับความงงงวย
บ่ายวันนั้นเอง
ทีมเชียร์มารวมตัวกันและเดินไปยังสนามแข่งขันเพื่อเตรียมตัวเชียร์ทีมบาสเกตบอล
ฉีซย่าเล่นเป็นทีมเจ้าบ้านสำหรับวันนี้ และแข่งกับทีมมัธยมลำดับที่สามสิบเจ็ดในเมืองเดียวกัน
ทั้งสองทีมมายืนประจันหน้ากัน เมื่อกรรมการเป่านกหวีด เกมก็เริ่มต้นขึ้น!
อันซย่าซย่าโบกพู่เชียร์ปอมปอมไปอย่างนั้น ตาก็มองดูการแข่งขันแบบผ่านๆ แต่กลับประหลาดใจที่เห็นฉีเหยียนซีได้เล่นเป็นตัวหลักของทีมเสียอย่างนั้น!
ให้ตายเถอะ! มันเรื่องอะไรกัน
การแข่งขันที่ดำเนินไปยิ่งทำให้เธอช็อกมากขึ้น ฉีเหยียนซีผู้ซึ่งไม่เคยชู้ตเข้าตระกร้าสักลูกเดียว และคอยใช้ให้เธอวิ่งไปเก็บลูกบาสอยู่ตลอด ตอนนี้กลับเล่นได้อย่างเก่งกาจราวกับดาวเอ็นบีเอ เขาเข้าตัดลูก ส่งลูก แล้วยังกระโดดชู้ตเข้าห่วง… และกำลังฟาดผู้เล่นจากทีมหมายเลขสามสิบเจ็ดไม่ยั้งเลย!
เมื่อพักครึ่งเวลา นักบาสทีมหมายเลขสามสิบเจ็ดก็พากันมองฉีเหยียนซีอย่างท้าทายแต่เขาไม่ยี่หระ ซ้ำยังตั้งใจกระแทกไหล่ผู้เล่นหลักทีมตรงข้ามอย่างยั่วเย้า
ผู้เล่นทีมตรงข้ามกำหมัดแน่น แต่ก็ยั้งตัวเองไว้ไม่ให้มีเรื่องกับเขา
และการแข่งขันในครึ่งหลังก็ยิ่งดุเดือดเลือดพล่านกว่าเดิม ทีมสามสิบเจ็ดเปลี่ยนกลยุทธ์โต้กลับหลายรอบ แต่ก็ถูกหยุดไว้ได้โดยฝีมือของฉีเหยียนซีเพียงคนเดียว มิหนำซ้ำยังยั่วเย้านักบาสฝ่ายตรงข้ามให้อีก ในฐานะผู้เล่นแนวหน้า เขาเลี้ยงลูกไปจนถึงเส้นสามแต้มแล้วชู้ตจากตรงนั้น
ฟึ่บ—
หลังจากได้สามแต้มติดกันหกครั้งซ้อนๆ ทีมสามสิบเจ็ดก็หมดหวัง การเคลื่อนที่ของพวกเขาช้าลงเป็นผลให้ยิ่งถูกบดขยี้อย่างบ้าเลือดโดยทีมฉีซย่า
เมื่อการแข่งขันจบลง ฉีซย่าชนะด้วยการนำไปห้าสิบห้าแต้ม ฉีเหยียนซีผิวปากก่อนจะเดินมาหาทีมเชียร์
“ว้าย! นายน้อยฉี คุณช่างเก่งกาจอะไรอย่างนี้!”
“เหลือเชื่อไปเลย! คนเก่งแห่งฉีซย่า!”
เสียงกรีดร้องทำเอาอันซย่าซย่าแทบหูดับ
เธออ้าปากค้างนิดๆ พลางมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“ฉีเหยียนซี นายชู้ตได้…” เธอพึมพำ
ฉีเหยียนซีเชิดคางขึ้นอย่างทระนง
ก่อนเขาจะผยองไปมากกว่านั้น อันซย่าซย่าก็ชกเขาเข้าที่หน้า ก่อนพูดอย่างขุ่นเคืองใจ “แล้วมาแกล้งทำเป็นชู้ตไม่เข้าเพื่อหลอกให้ฉันวิ่งเก็บลูก! ไอ้คนชั่ว!”
ตอนที่ 161 เป็นแฟนฉันเถอะ (2)
ฉีเหยียนซีคิดไม่ถึงว่าเธอจะโมโห และหมัดนั้นจะตรงเข้าใส่หน้าเขา
ด้วยเรี่ยวแรงน้อยๆ ที่เธอมี มันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไรเลย แต่อย่างไรก็ตาม เขาแกล้งหงายหลังล้มลงพื้นอย่างตั้งใจ พร้อมตีสีหน้าเจ็บปวด “โอ๊ย! เธอจะฆ่าฉันเหรอ ยัยบื้อซย่าซย่า ยัยคนไร้หัวใจ…”
เด็กสาวคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่แถวๆ นั้นกลั้นหายใจ ส่วนอันซย่าซย่าเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน
เจ้าหมอนี่แข็งแรงยิ่งกว่าวัว แค่โดนหมัดของเธอจะถึงกับล้มเลยเชียวหรือ
ถึงแม้จะยังตกตะลึง แต่ปฏิกิริยาตอบโต้ของเธอก็คือช่วยเขาให้ลุกขึ้น แต่ชายหนุ่มกลับจับมือเธอไว้แล้วกระชากตัวเธอเข้าสู่อ้อมแขน
“เฮ้ พวกเธอ หันไปทางอื่นเดี๋ยวนี้ ใครแอบมองละก็จะถูกไล่ออก!” ฉีเหยียนซีสั่งอย่างไม่พอใจ และหมายความตามที่พูดจริงจัง คนอื่นๆ ต่างก็ไม่กล้าท้าทายเขาแล้วพากันหันหน้าหนีไปทางอื่น
“อื้อ…” อันซย่าซย่าดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนเขา กลิ่นเหงื่อจางๆ ผสมกับกลิ่นสบู่สะอาดๆ ของเขาแทรกซึมผ่านโสตประสาทของเธอ
“อันซย่าซย่า เธอรู้ไหมว่าคนคนหนึ่งต้องเก่งขนาดไหนถึงจะชู้ตให้พลาดได้ทุกลูกน่ะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงพอใจระหว่างลูบไล้เรือนผมของเธอ เพราะใช้แรงมากเกินไปหน่อย เลยทำให้ผมหางม้าของเธอยุ่งเหยิงไปหมด
“ฉีเหยียนซี! ปล่อยฉันนะ!” อันซย่าซย่ากัดฟันกรอดพลางตะโกนสั่ง
“ม่าย” เขาอยากกอดเธอไว้อย่างนี้
เขาอยากทำอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเขาก็จะทำ
เพราะเขาใช้ชีวิตอิสระตามใจตัวเองแบบนี้มาตลอดสิบแปดปี
“อันซย่าซย่า มาเป็นแฟนฉันเถอะ” ฉีเหยียนซีพูดกึ่งล้อเล่น
อันซย่าซย่านิ่งงันไปราวตกอยู่ในภวังค์ก่อนจะได้สติ เธอกัดแขนเขาอย่างแรง
ฉีเหยียนซีปล่อยตัวเธอจากวงแขนเพราะความเจ็บปวด จากนั้นหญิงสาวก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนก่อนวิ่งหนีไป
ด้วยใบหน้าบึ้งตึง ฉีเหยียนซีหยัดตัวขึ้นด้วยแขนข้างเดียว แต่แล้วก็ถูกขวางไว้โดยร่างสูงๆ ร่างหนึ่ง
คังเจี้ยนจ้องมองเขาอย่างไม่พอใจพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร “อยู่ห่างจากอันซย่าซย่าเอาไว้ ไม่งั้นนายต้องเจอกับฉัน”
“เจอนาย? ขู่ฉันเหรอ” ฉีเหยียนซีเบะปากอย่างเย้ยหยัน เสี้ยววินาทีต่อมา กำปั้นคังเจี้ยนก็กระทบเข้าที่หน้าเขา
ทั้งคู่เข้าตะลุมบอนกันจนล้มลงกับพื้นทันที ด้วยความโมโห ซูเสี่ยวมั่วอาศัยจังหวะนั้นผสมโรงเตะฉีเหยียนซีไปหลายที
ความวุ่นวายโกลาหลอุบัติขึ้นทันที ภายในสนามกีฬาอื้ออึงไปด้วยเสียงกรีดร้องของพวกผู้หญิง ส่วนเด็กผู้ชายก็พากันโห่ร้อง ทีมนักบาสเกตบอลที่เหลือก็เข้ามาแยกทั้งสองออกจากกัน ส่วนทีมอันดับที่สามสิบเจ็ดซึ่งแพ้ยับเยินก็ได้แต่หัวเราะชอบใจ
อย่างไรก็ตาม อันซย่าซย่าไม่ได้รับรู้เหตุการณ์เหล่านี้เลย
ที่บ้านครอบครัวอัน
อันซย่าซย่ารู้สึกหัวหมุน ทุกอย่างดูอึมครึมไปหมด
ฉีเหยียนซีขอเธอเป็นแฟนงั้นหรือ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
วันนี้มันวันอะไรกันนะ! หญิงสาวรินน้ำดื่มใส่แก้วก่อนดื่มอักลงไปเมื่อหางตาเห็นเซิ่งอี่เจ๋อกำลังเดินลงบันไดมา เธอสำลักน้ำทันทีก่อนจะไอค่อกแค่ก
“เซิ่ง… เซิ่งอี่เจ๋อ นายควรจะพักผ่อนไม่ใช่เหรอ” เธอถามพลางตบอกตัวเอง
เซิ่งอี่เจ๋อกลับทำเหมือนว่าเธอไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น เขาหยิบน้ำดื่มขวดหนึ่งออกจากตู้เย็นแล้วเดินขึ้นบ้านไป
หญิงสาวรู้สึกหงุดหงิดใจ จึงเร่งเท้าตามไปคว้าชายเสื้อเขาเอาไว้ “เซิ่งอี่เจ๋อ!”
ชายหนุ่มหันกลับมามองพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ไยดี
“ปล่อยฉัน”
อันซย่าซย่าปล่อยมืออย่างตื่นตกใจ เธอจิ้มปลายนิ้วชี้เข้าด้วยกันอย่างไม่สบายใจ “อาการเป็นยังไงบ้าง”
เซิ่งอี่เจ๋อปรายตามองเธอครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ก็ไม่เป็นอะไรมาก”
“งั้นวันพรุ่งนี้จะไปโรงเรียนไหม” อันซย่าซย่าถามอย่างคาดหวัง
เซิ่งอี่เจ๋อตอบโดยไม่คิด “ไม่”
“ทำไมล่ะ…”
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มทันทีทว่ามันกลับเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา “เพราะฉันไม่อยากเจอเธอ”
น้ำตาเอ่อขึ้นภายในดวงตาเธอทันที หญิงสาวจะเอ่ยปากแต่กลับพูดอะไรไม่ออก
เขา…เกลียดเธอแล้วจริงๆ …