ตอนที่ 170 เมื่อมีการเปรียบเทียบ ก็มีความอับอาย
อันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วถามขึ้นพร้อมกัน
มู่หลีกัดริมฝีปากและคัดสรรคำพูดอย่างระมัดระวังก่อนจะเอ่ยปาก “เขาบาดเจ็บก็เพราะเรื่องในครอบครัวน่ะ…ก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าเขาไม่สามารถมาแข่งได้ เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนแล้วก็หัวดื้อ ไม่เคยชอบอธิบายอะไรให้คนอื่นฟังหรอก ดังนั้นทุกคนก็จะพากันคิดไปว่าเขาเป็นคนชอบทำตามอำเภอใจเมื่อเขาไม่ปรากฏตัว อันที่จริงเขาฝึกซ้อมจนดึกดื่นทุกวันก่อนหน้านี้”
ได้ยินเช่นนั้น อันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
กลายเป็นว่าพวกเธอเข้าใจผิดเกี่ยวกับฉีเหยียนซี…
เรื่องราวในครอบครัว…มันคงไม่ใช่เรื่องการใช้ความรุนแรงหรอกนะ เด็กสาวทั้งสองมองตากัน ต่างฝ่ายต่างก็เห็นวี่แววความเป็นห่วงอยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย
“พวกเราแพ้ไปหนึ่งครั้ง แล้วลำดับของเราก็ตกลงเยอะเลย การแข่งครั้งต่อไปกับทีมเฉินเจียงซึ่งเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหยูด้วย ถ้าพวกเราแพ้อีก เราจะถูกคัดออกใช่ไหม” อันซย่าซย่าถอนหายใจ
ทีมเฉินเจียงนั้นเก่งกาจกว่าเซิ่งอินเสียอีก พวกเราจะมีโอกาสชนะได้อย่างไร
“เฉินเจียงมีถังอวี้… จอมปีศาจและผู้เล่นตัวท้อปในทีมจังหวัด ฉันพนันว่าเขาจะได้เข้าร่วมทีมชาติภายในไม่กี่ปีนี้!” ซูเสี่ยวมั่วโอดครวญ
ไม่มีความหวังสำหรับฉีซย่าเลย ถ้าต้องเจอทีมคู่แข่งระดับนั้น!
ทีมเชียร์มีการฝึกซ้อมตามปกติ แต่ไม่มีใครกระตือรือร้นเลย ทุกคนได้แต่ยืนเฉยๆ เกาะกลุ่มกัน
โค้ชผู้ฝึกก็ทราบดีถึงสถานการณ์ในตอนนี้ จึงทำได้เพียงแค่เลิกการฝึกซ้อมไวขึ้น เพื่อที่พวกเธอจะได้กลับบ้านและปรับความคิด
ระหว่างนั้น ทีมบาสเกตบอลก็ฝึกซ้อมกันไปอย่างแกนๆ
พวกเขาทั้งหมดรู้ดีว่าชัยชนะของทีมฉีซย่านั้นมาจากการบุกจู่โจมของฉีเหยียนซี และการป้องกันของคังเจี้ยน และการชู้ตสามแต้มของกัปตันหลิงจือเย่ ตอนนี้สองคนแรกหายไป มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ขวัญกำลังใจของทีมจะลดลง
ร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยการก้าวเดินที่มั่นคง ใบหน้าสงบ
เขามายืนตรงหน้าหลิงจือเย่ และยิ้มให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ
“สวัสดี ฉันมาที่นี่เพื่อ— ขอเข้าร่วมทีมบาสเกตบอล”
คืนนั้นอันซย่าซย่าไม่สามารถทำโจทย์คำถามที่ยากได้ระหว่างการทำการบ้าน
เธอพยายามค้นหาในอินเทอร์เน็ต แต่คำถามนั้นก็ดูแหวกแนวเกินไปและไม่ได้อะไรเลยจากการค้นหานั้น
เธอจะไปถามใครดี ป่าป๊าอันหรือ เขาน่าจะยุ่งอยู่กับร้านกาแฟ หรืออันอี้เป่ย หืม…ไม่อะ เขาต้องหัวเราะเยาะเธอแน่นอน!
หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ ในที่สุดอันซย่าซย่าก็เดินขึ้นไปชั้นบนตามความคุ้นเคยพร้อมด้วยสมุดงาน เธอเคาะประตูห้องของเซิ่งอี่เจ๋อ
“เข้ามา” หลังการตอบสั้นๆ อันซย่าซย่าผลักประตูเปิดออกและโผล่หน้าเล็กๆ ของเธอเข้าไป
เซิ่งอี่เจ๋อกราดตามามองทางเธอ และประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่าอันซย่าซย่าอยู่ตรงนั้น
เขากดปุ่มหยุดเล่นวิดีโอในคอมพิวเตอร์ ก่อนจะลุกขึ้นยืน “มีอะไรงั้นหรือ”
“ฉันไม่รู้วิธีแก้โจทย์ข้อนี้น่ะ…” อันซย่าซย่าบอกอย่างอายๆ
“ซื่อบื้อ!” การตราหน้าคำเดียวนั้นทำให้หัวใจอันเปราะบางของอันซย่าซย่าแหลกสลาย
“ฉันไม่ฉลาดเมื่อเทียบกับนาย เมื่อใดที่มีการเปรียบเทียบ เมื่อนั้นย่อมมีความอับอาย…” ตอนนี้หญิงสาวยอมรับความจริงข้อนั้นได้แล้ว
เซิ่งอี่เจ๋อหยิบสมุดแบบฝึกหัดของเธอมา “ข้อไหน”
เธอชี้ให้ดูด้วยเรียวนิ้วนุ่มนิ่ม เซิ่งอี่เจ๋อกราดตาอ่านโจทย์เดี๋ยวเดียวจากนั้นก็อธิบายให้เธอฟัง
สายตาอันซย่าซย่าเลื่อนไปที่คอมพิวเตอร์บนโต๊ะเขา
เดี๋ยวก่อนนะ นั่นมันเทคนิคการเล่นบาสนี่
“ทำไมถึงดูนี่ล่ะ” อันซย่าซย่าอดถามไม่ได้
เซิ่งอี่เจ๋อหรี่ตาลง จากนั้นก็มองเธอด้วยหน้าตาเคร่งเครียด “แล้วเธอคิดว่าฉันควรจะดูอะไรล่ะ”
“เอ่อ…” ตามที่คังเจี้ยนเคยบอก เด็กผู้ชายอายุประมาณนี้มักจะชอบดูหนังที่มีฉาก” แอ็กชัน” นิดๆ เซิ่งอี่เจ๋อจะเป็นเหมือนกันไหมนะ
เธอนึกภาพว่าเขากำลังดูหนังโป๊อยู่ในหัวแล้วหัวเราะคิกคักออกไปโดยไม่รู้ตัว
ปึ้บ ปึ้บ ปึ้บ—
เซิ่งอี่เจ๋อเคาะโต๊ะด้วยสมุดแบบฝึกหัด และทนไม่ได้อีกต่อไป “หยุดหัวเราะเลยนะ ไม่งั้นฉันจะโยนเธอออกไป!”
ตอนที่ 171 ฉีซย่าปะทะเฉินเจียง (1)
อันซย่าซย่าปิดปากด้วยความหวาดกลัวพลางพึมพำผ่านร่องนิ้ว “กลับไปทำโจทย์.. โจทย์จ้ะ…”
เซิ่งอี่เจ๋อพยายามอดทนก่อนจะอธิบายการแก้ปัญหาให้เธออีกครั้ง จากนั้นเธอก็ขอบคุณเขาซ้ำๆ และเตรียมจะกลับห้อง
เธอเดินมาถึงประตูห้องเขาแล้วเมื่อหันกลับไปมอง “เซิ่งอี่เจ๋อ เอ่อ…ช่วงนี้ยุ่งไหม”
“หืม” ช่วงหลังๆ นี้เขามีตารางเต็มทุกวัน แต่งานทั้งหมดนั้นก็เป็นรายการเล็กๆ ไม่ได้สลักสำคัญอะไร เขาสามารถหาข้ออ้างปฏิเสธได้เพื่อเธอ ความคิดต่างๆ เริ่มผุดขึ้นเรียบร้อยแล้วในหัวเขา
“นายอยากไปดูหนังกับฉันไหม” อันซย่าซย่าถามอย่างกระตือรือร้น
หญิงสาวรีบปิดปากทันทีหลังจากโพล่งออกไปด้วยความเขินอาย
อ๊าย! เธอพูดอะไรออกไปเนี่ย
นี่เธอเพิ่งชวนเซิ่งอี่เจ๋อไปดูหนังหรือ
ตาย! สมองเธอจะต้องมีอะไรผิดปกติจากการนอนไม่หลับเมื่อคืนนี้แน่ๆ! มันคงต้องเป็นภาพหลอนแน่ๆ!
แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการอย่างหมดหัวใจจริงๆ … เสียงเล็กๆ ดูเหมือนจะกำลังกระซิบอยู่ในหูของเธอ : ไปดูหนังกับเซิ่งอี่เจ๋อ—มันต้องเยี่ยมยอดไปเลย…
“ฉะ-ฉันพลั้งปากไปน่ะ… ฉันจะพูดว่าไปดูทีวีด้วยกันเถอะ… เอ่อ ไม่ใช่สิ! ฉันไม่ได้อยากดูกับนาย! ฉันไม่ได้อยากดูทีวี! ฉันไม่ได้อยากดูอะไรเลย!” อันซย่าซย่าโบกไม้โบกมือพร้อมกับอธิบายอย่างลนลาน
แต่เซิ่งอี่เจ๋อกลับหัวเราะหึหึ รอยยิ้มของเขาทำเอาอันซย่าซย่าหน้าแดงและรู้สึกฉงนฉงาย
มันดูเนิ่นนานราวกับชั่วนิรันดร์กว่าที่อันซย่าซย่าจะได้ยินเขาตอบเบาๆ ในที่สุด “ก็ได้ ตกลงตามนั้น”
นี่เป็นภาพหลอนหรือความฝันกันแน่นะ
เมื่อเดินกลับลงมาข้างล่างและเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวเพิ่งจะหลุดจากภวังค์และรู้สึกตัวว่าเซิ่งอี่เจ๋อเพิ่งตอบรับคำชวนของเธอ!
ว้าย!
วันศุกร์นั้น ฝูงชนคลาคล่ำอันแน่นอยู่ภายในสนามกีฬาโรงเรียนฉีซย่า ทำให้เกิดเป็นฉากที่ดูขลังอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
ถึงแม้จะรู้ว่าพวกเขาจะแพ้การแข่งขัน แต่เด็กทั้งโรงเรียนก็ยังมาให้กำลังใจทีมบาสเกตบอลของพวกเขากัน จากนั้นครู่หนึ่ง ทีมนักบาสก็เข้ามาด้วยความฮึกเหิม
อันซย่าซย่าแยกไปกับเชียร์ลีดเดอร์คนอื่นๆ เพื่อเตรียมพร้อมเชียร์ หลังจากพิธีเดินเข้าสนามของมัธยมเฉินเจียง
คนของเฉินเจียงเดินเข้ามาด้วยชุดกีฬาสีฟ้าขาว ดูสดใสราวกับท้องฟ้าสีฟ้าและก้อนเมฆสีขาว จากนั้นทีมนักบาสจากเฉินเจียงก็เดินเข้ามาภายในสนามด้วยฝีเท้าเนิบนาบ ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้มาแข่งขัน แต่เหมือนมาเดินเล่นกันมากกว่า
ซูเสี่ยวมั่วกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูอันซย่าซย่า บอกข้อมูลที่เธอเพิ่งได้รับรู้มา “คนที่นำทีมฝั่งนั้นชื่อถังอวี้ เป็นกัปตันและมือหนึ่งของทีมเลย เขาได้เข้าร่วมทีมจังหวัดมาก่อนและทักษะของเขาก็ประมาทไม่ได้เลยเชียวนะ ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ฝีมือไม่เบาเหมือนกัน โดยสรุปแล้วพวกเราเจอคู่แข่งที่สูสีเลยหละวันนี้… ลำดับโดยรวมของทีมก็ติดหนึ่งในสิบด้วย ถ้าหากเกมไม่พลิกละก็ พวกเขากับทีมจากมัธยมจั้นหลานในเมืองเจียงจะเป็นสองทีมที่ได้เข้ารอบชิง”
ทีมที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนลุกลี้ลุกลน
ยิ่งไปกว่านั้น…ข่าวก็แพร่กันไปทั่วว่าโรงเรียนมัธยมซีฉย่าและเฉินเจียงเคยทะเลาะกันเรื่องทีมบาสเกตบอลทำให้ทั้งสองฝ่ายกลายเป็นศัตรูกัน
และเป็นเรื่องธรรมดาที่ศัตรูจะเผชิญหน้ากันด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
โดยมีหลิงจือเย่นำ ทีมผู้เล่นของฉีซย่าก็เดินเข้ามาภายในสนามแข่งขันด้วยบรรยากาศหม่นๆ
ทีมผู้เล่นทั้งสองฝั่งยืนประจันหน้ากันและเห็นได้ชัดเจนว่าทีมฉีซย่ามีศักดาที่ด้อยกว่า
ตอนนั้นเองคังเจี้ยนก็เข้ามาสมทบ และยิ้มกว้างพร้อมสะบัดข้อมือข้อเท้า
เหล่าเชียร์ลีดเดอร์และผู้ชมต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องดังสนั่น!
อันซย่าซย่าเองก็ดีใจเช่นกัน! สุดยอด! คังเจียนฟื้นตัวแล้ว! ถ้ามีเขาพวกเขาก็มีโอกาสชนะเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามถังอวี้ผู้เล่นดาวรุ่งของอีกฝ่ายไม่ได้เลิกคิ้วด้วยซ้ำ เขาพยักหน้าเล็กน้อยให้หลิงจือเย่เพื่อทักทาย แม้จะมีความสุภาพ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ยี่หระกับฉีซย่าเลย
กระทั่งร่างสูงโปร่งอีกร่างปรากฏตัวขึ้นในที่สุด ถังอวี้ก็ดูหวั่นไหวเล็กน้อย
ภายใต้การจับตามองของคนทั้งโรงเรียนเซิ่งอี่เจ๋อเดินไปที่สนามบาสเกตบอล เลี้ยงลูกบาสเดินเข้ามาก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงกลางสนาม
นั่นคือตำแหน่งที่มีไว้สำหรับ…ผู้เล่นหลักของฉีซย่า!