ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 178 อันซย่าซย่า เธออยากตายรึไง! / ตอนที่ 179 จะให้ฉันลงโทษยังไง

ตอนที่ 178 อันซย่าซย่า เธออยากตายรึไง!  

 

 

สีชมพูเลือดฝาดแผ่ซ่านไปทั่วแก้มนิ่มๆ ของเธอเรื่อยไปจนถึงหลังใบหูและยังลามลงมาที่ลำคอ ขณะที่ดวงตาดำขลับกะพริบปริบๆ พลางกัดริมฝีปากล่างเอาไว้   

 

 

“ฉัน… ฉันเปล่า” หญิงสาวปฏิเสธอย่างรั้นๆ  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อลากเสียงตอบ “อ้อออ” และจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ “ถ้างั้นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ ไม่ว่าฉันจะเลือกเล่นบาสหรือไปถ่ายละคร”  

 

 

“ฉันก็แค่กลัวว่านายจะบาดเจ็บน่ะสิ!” หญิงสาวโพล่งตอบออกมาอย่างกังวล จากนั้นก็ยกมือขึ้นปิดปากทันที  

 

 

แย่แล้ว เธอเพิ่งสารภาพออกไปอย่างเต็มอกเต็มใจด้วยตัวเอง!  

 

 

การกลัวว่าเขาจะบาดเจ็บก็เท่ากับเป็นห่วงเขาจริงๆ นั่นแหละ…  

 

 

เธอนี่ตบหน้าตัวเองเก่งจริงๆ เลยนะ…  

 

 

หญิงสาวกระอักกระอ่วนมากจนน้ำตาเริ่มเอ่อ เธอยกกำปั้นเล็กๆ ชูไปมาพลางท้าทาย “แล้วถ้าฉันห่วงจริงล่ะ! ฉันเป็นห่วงนายในฐานะเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนนั่งข้างกัน แล้วก็ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง! มีอะไรหรือเปล่าล่ะ!”  

 

 

มุมปากของเซิ่งอี่เจ๋อขยับยกขึ้น และมีแววความพึงพอใจอยู่ในสายตา  

 

 

ยัยจิ๋วไม่ยอมพูดออกมาจากใจจริง  

 

 

เขาจำคำที่คนเคยพูดกันไว้ได้ – ในโลกใบนี้ต่อให้อีกหมื่นล้านความจริงก็ไม่เคยพอ และแก้มแดงระเรื่อของผู้หญิงคนหนึ่งนั้นสามารถบอกอะไรได้มากกว่าถ้อยคำที่ยืดยาว  

 

 

แก้มเธอแดงปลั่งยิ่งกว่าก้นลิงเสียอีก แต่ก็ยังไม่ยอมรับ  

 

 

หลังจากที่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา เซิ่งอี่เจ๋อก็เลิกคิ้วทั้งสองขึ้นพลางช่วยเธอลุกขึ้นยืน จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงยียวน “มาเถอะ เดี๋ยวพากลับบ้าน”  

 

 

อันซย่าซย่าได้แต่เดินตามต้อยๆ อย่างคนถูกจับได้  

 

 

 

 

 

รถพอร์ชคันงามจอดที่หน้าบ้านครอบครัวอัน  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพาเธอกลับเข้าบ้านพอดีกับที่คนส่งของมาถึงหน้าบ้านพร้อมด้วยพัสดุ อันซย่าซย่าเซ็นชื่อรับและตรวจสอบใบเสร็จอย่างสงสัย พัสดุนั้นมาจากซูเสี่ยวมั่ว  

 

 

ทำไมต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ ด้วยนะ…  

 

 

เธอฉีกห่อพัสดุนั้นเปิดออกดูและเห็นชื่อ “นิยายภาพหรงxเซิ่ง” ที่หน้าปก โอ้โฮ มันเป็นจังหวะนรกที่สุดเลยจริงๆ  

 

 

เธอพยายามซ่อนมันอย่างตื่นตระหนก แต่ดันพลาดหลุดมือหล่นลงพื้นอย่างเงอะงะ  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อถอนหายใจ “เธอนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ!”  

 

 

ถึงแม้น้ำเสียงจะตำหนิ แต่เขาก็ยังก้มลงและหยิบมันขึ้นมาให้เธอ  

 

 

สายตาอันเฉียบคมของเขากราดมองไปยังหน้าที่เปิดอยู่ เขาเห็นว่ามันดูเหมือนอัลบั้มภาพวาดที่มีรูปภาพและตัวหนังสือ ทั้งการจัดรูปแบบและการออกแบบเลย์เอาต์ดูดีเลยทีเดียว  

 

 

ทว่า… ทำไมภาพวาดพวกนั้นมันช่างดู… เอ่อ… ประหลาด…  

 

 

เขานิ่วหน้าก้มลงไปดูใกล้ๆ และแทบไม่อยากเชื่อสายตา…  

 

 

“อันซย่าซย่า เดี๋ยวนี้เธออ่านหนังสืออย่างนี้ด้วยเหรอ” เขาขมวดคิ้วถามเธอด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ  

 

 

ป่าป๊าอันกำลังชงกาแฟอยู่ข้างหลังเคาน์เตอร์จึงเอ่ยถามพร้อมด้วยรอยยิ้ม “อะไรหรือ”  

 

 

อันซย่าซย่าตกใจและรีบยกมือขึ้นปิดปากเซิ่งอี่เจ๋อไว้ “นายมีฉากที่ต้องถ่ายทำไม่ใช่เหรอ รีบไปสิ!”  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อหรี่ตาพลางยิ้ม “เดี๋ยวนี้เจ้เคอเขายุ่งมากเลย ผมต้องมีผู้ช่วยในกองถ่ายด้วย ลุงอันครับ ผมขอพาซย่าซย่าไปช่วยงานหน่อยได้ไหมครับ”  

 

 

“ได้เลย” ป่าป๊าอันตอบอย่างอารมณ์ดี  

 

 

จากนั้น อันซย่าซย่าก็ถูกพาตัวกลับขึ้นรถอีกครั้ง  

 

 

ระหว่างทางไปกองถ่าย  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพลิกดูหนังสือเล่มนั้นทีละหน้าๆ ด้วยท่าทางสง่างาม แต่สีหน้ากลับมืดทะมึนระหว่างที่อ่าน  

 

 

อันซย่าซย่าอยากให้มีหลุมดำโผล่ขึ้นที่พื้นรถเหลือเกิน เธอจะได้ฝังตัวเองอยู่ในนั้น!  

 

 

หนังสือเล่มนั้นไม่ใช่อื่นไกลอะไร มันคือนิยายของหรงเช่อและเซิ่งอี่เจ๋อที่ซูเสี่ยวมั่ว มู่หลีและเธอรวมตัวกันทำขึ้นมาเมื่อสักพักก่อน  

 

 

เธอเป็นคนเขียนโครงเรื่องทั้งหมด ซึ่งมันไม่ได้มีอะไรมากมายเลยนอกจากเนื้อเรื่องสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นหัวใจ แต่เมื่อประกอบเข้ากับภาพวาดจากจินตนาการอันเพริดแพร้วของซูเสี่ยวมั่ว มันก็กลับกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าภาพวาดการ์ตูนสิบแปดบวกไปเลย  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อปิดหนังสือดังปั้บหลังจากอ่านหน้าสุดท้ายจบ ก่อนจะเค้นคำพูดออกมาจากไรฟัน—  

 

 

“อันซย่าซย่า! เธออยากตายหรือไง!”  

 

 

อันซย่าซย่าซุกตัวเข้าหาซอกรถพลางร้องบอก “ฉะ-ฉันขอโทษ…”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 179 จะให้ฉันลงโทษยังไง  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อโมโหจี๊ด “เพราะอย่างนี้เองช่วงหลังๆ นี้เธอถึงคอยหลบหน้าฉันใช่ไหม เธอรู้สึกผิดละสิ”  

 

 

อันซย่าซย่าซุกหน้างุดอยู่กับอก เฝ้าฟังด้วยความเงียบ  

 

 

ฮือ… ทำไมเธอถึงได้โชคร้ายขนาดนี้ ถูกเปิดโปงง่ายๆ แบบนี้เลย  

 

 

“ทำออกมาเพื่ออะไร เธอไม่ได้พิมพ์ออกมาหลายเล่มหรอกใช่ไหม” เซิ่งอี่เจ๋อต่อสู้ระงับความโกรธเต็มที่เมื่อเอ่ยถาม  

 

 

อันซย่าซย่าพยักหน้าตอบตามตรง เซิ่งอี่เจ๋อมองเธอด้วยแววตาท่าทางเคร่งเครียด “เผาทิ้งให้หมด!”   

 

 

“ได้! ได้เลย!” อันซย่าซย่าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันและรีบโทรหาซูเสี่ยวมั่ว  

 

 

เมื่อโทรติด เสียงหัวเราะของซูเสี่ยวมั่วก็ดังออกมาจากปลายสาย “ซย่าซย่า เธอได้พัสดุที่ฉันส่งไปให้หรือยัง พวกเราขายได้อีกพันเล่มนอกเหนือจากส่วนที่สั่งไปล่วงหน้าแล้วนะ แหมๆ เซิ่งอี่เจ๋อกับหรงเช่อนี่มันแฟนๆ เยอะจริงๆ …”   

 

 

โทรศัพท์ของปู่มีลำโพงที่ดังเป็นพิเศษ และเซิ่งอี่เจ๋อก็ได้ยินโดยไม่ต้องอาศัยความพยายามเลย เขารู้สึกว่าเส้นเลือดที่ขมับกำลังเต้นตุบๆ  

 

 

อันซย่าซย่าอยากจะร้องไห้ขณะที่เขามองอย่างเบื่อหน่ายมาที่ตัวเธอ  

 

 

“เอ่อ… เราไม่ขายมันดีไหม…”  

 

 

“พวกเราขายไปหมดแล้วจ้ะ! ฉันส่งของออกไปหมดแล้ว ว่ะฮ่ะฮ่า! ปิดจ๊อบ ฉันอยากหัวเราะอีกเลยนะเนี่ย เดี๋ยวพวกเรามาแบ่งกำไรกัน เธอจะได้เงินตั้งหลายพันเชียวนะ!” ซูเสี่ยวมั่วหัวเราะร่วนแล้วก็วางสายไป  

 

 

อันซย่าซย่าสั่นสะท้าน รู้สึกได้เลยว่าน้ำตากำลังเอ่อขึ้นมา  

 

 

โธ่เอ๊ย ซูเสี่ยวมั่วฉลองได้เต็มที่เลย แต่อันซย่าซย่ากลับเหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรนั่งอยู่ข้างๆ!  

 

 

หญิงสาวเกาะแขนเซิ่งอี่เจ๋อพลางขอร้อง “มันขายและส่งของออกไปหมดแล้ว… ทำยังไงดีล่ะเซิ่งอี่เจ๋อ ฉันจะแบ่งเงินให้นายนะ คิดเสียว่ามันเป็นแค่บทบาทการแสดงและนายทำเพื่อศิลปะสิ!”  

 

 

เซิ่งอี่เจ่อหน้าเครียด ดีดหน้าผากเธอด้วยปลายนิ้ว  

 

 

“ทำดีมากอันซย่าซย่า! ฉันเห็นแล้วว่าเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว! นั่นเป็นหนทางทำเงินได้สุดยอดจริงๆ! ทำเพื่อศิลปะเหรอ บ้าน่ะสิ!”  

 

 

อันซย่าซย่าร้องโหย “อย่าตีฉันเลย ขอโทษ”  

 

 

ด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกกระซิกๆ ของเธอ ใครเลยจะใจแข็งอยู่ได้  

 

 

มันทำให้หัวใจของเขาอ่อนลงโดยพลัน พอเธอยอมรับแต่โดยดี เขาก็ไม่อยากคิดโมโหหรือทำอะไรเธอต่อไปอีก  

 

 

ชายหนุ่มหัวเราะหึพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง  

 

 

อันซย่าซย่ากุมหัวน้อยๆ ของเธอไว้ด้วยมือทั้งสองข้างพลางเงยหน้ามองขึ้นมาอย่างหวาดๆ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ทำอะไรจึงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก  

 

 

“เธอขายได้เงินมาเท่าไหร่” อยู่ๆ เซิ่งอี่เจ๋อก็ถามขึ้น  

 

 

อันซย่าซย่านับนิ้วคำนวณเงิน “ประมาณสามถึงห้าพันต่อคน ขึ้นอยู่กับว่าแฟนเพลงสายวายของนายกับหรงเช่อมีมากน้อยขนาดไหน…”  

 

 

ตามคาด เซิ่งอี่เจ๋อเหลือบมองเธอโกรธๆ ก่อนจะนั่งไขว่ห้าง “แล้วเธอจะเอาเงินไปทำอะไร”  

 

 

อย่างไรไม่รู้ แต่อันซย่าซย่ารู้สึกว่าเธอกำลังตกเป็นเหยื่อในพล็อตเรื่องนายทุนทำนาบนหลังคนอยู่  

 

 

“ฉันจะซื้อโทรศัพท์ใหม่ แล้วก็เก็บเอาไว้ซื้อของที่ระลึกของหรงเช่อกับขนม อ้อใช่ๆ เกมที่ฉันเล่นอยู่ก็มีชุดแต่งตัวใหม่ออกมาด้วย ฉันว่าจะซื้อ…” เธอค่อยๆ ร่ายรายการให้ฟัง แต่แล้วก็สังเกตเห็นว่าหน้าของเขายิ่งเครียดเคร่งขึ้นอีก  

 

 

เธอถามอย่างเหงื่อตก “นายคงไม่ยึดเงินไปหมดหรอกใช่ไหม ฉันแบ่งให้ห้าสิบ-ห้าสิบพอนะ! นายคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกใช่ไหม!”  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อหงุดหงิด “อันซย่าซย่า ฉันไม่ได้สำคัญไปกว่าพวกของที่ระลึกและขนมสำหรับเธอเลยใช่ไหม”  

 

 

อันซย่าซย่าคิดใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ก่อนจะตอบอย่างกังวลใจ “นายสำคัญกว่า ฉันคิดว่างั้นนะ… แต่ของที่ระลึกกับขนมก็สำคัญมากเหมือนกัน…”  

 

 

ชายหนุ่มโมโหมากจนหัวเราะออกมาแทน ทำเอาอันซย่าซย่านึกกังวล  

 

 

“บอกฉันมาซิ เธอจะให้ฉันลงโทษเธอยังไงดี”  

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset