ตอนที่ 182 รู้จักไร้ยางอายบ้างไหม
อันซย่าซย่าโมโหจนแก้มป่อง “หลีฝานซิง เธอทำเกินไปแล้วนะ! ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!”
เมื่อการเสแสร้งของหล่อนถูกเปิดโปง หลีฝานซิงมองไปรอบๆ และพอเห็นว่าเซิ่งอี่เจ๋อถูกผู้กำกับเรียกไปหา หล่อนก็ฮึกเหิมขึ้นมาทันที “ทำไมฉันจะทำไม่ได้ เธอเล่นเป็นเทพธิดากระต่าย ฉันว่าเธอก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่ากระต่ายเลย เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจดีไม่ใช่เหรอว่าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นใคร เธอคิดว่าเขาเป็นคนที่เธอจะสามารถแตะต้องได้อย่างนั้นเหรอ สาวๆ มากมายต่างก็อยากจะได้ตัวเขากันทั้งนั้น และพวกนั้นก็เหนือกว่าเธอเป็นร้อยเท่าพันเท่าไม่ว่าจะทั้งด้านภูมิหลังครอบครัว หน้าตา และมารยาท! ต่อให้เขานึกชอบใครก็ตาม มันก็จะต้องเป็นผู้หญิงที่มีภูมิหลังคล้ายกัน! เธอไม่คู่ควรกับเขาเลย ไม่รู้บ้างหรือยังไง กล้าดียังไงนะถึงจะคิด…”
ถ้อยคำพวกนั้นทิ่มแทงหัวใจของอันซย่าซย่าราวกับเข็มนับพันเล่ม
เธอไม่เคยคิดเรื่องคบหากับเซิ่งอี่เจ๋อ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยืนอยู่เฉยๆ ทนฟังถ้อยคำเหยียดหยามน่าอายของหลีฝานซิง!
“อย่ามาทำเป็นพูดเลย! เธอมาสั่งสอนฉันทำเหมือนตัวเองเป็นคนดี เธอเองก็อยากได้ใกล้ชิดเขาเหมือนกันไม่ใช่หรือไง เธอจะชอบเขาก็ตามสบาย แต่อย่ามาดึงคนอื่นลงไปเกลือกกลั้วกับเธอด้วย!” อันซย่าซย่าตอบกลับอย่างโมโห
เธอมองหลีฝานซิงออกทะลุปรุโปร่ง และความอัปยศก็พลุ่งพล่านอยู่ในตัวหล่อน “อันซย่าซย่า เธอรู้จักคำว่ายางอายบ้างไหม ฉันรู้จักเขามาหลายปี เธอรู้จักเขามานานแค่ไหนกัน ถึงตามติดเขาต้อยๆ อย่างหน้าไม่อาย เขาเคยชินกับอาหารดีๆ และอยากจะลองชิมของหมักดองก็เพราะอยากรู้อยากลองเฉยๆ หรอก ทำตัวเป็นคนฉลาดแล้วเดินจากไปเสียเถอะ อย่าทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่นเลย!”
อันซย่าซย่าแทบรู้สึกได้เลยว่ามีเปลวไฟลุกพรึ่บขึ้นบนกระหม่อมของเธอ
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนมาพูดจาแย่ๆ กับเธอ
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำอะไรผิด เธอสมควรถูกกระทำแบบนี้เพียงเพราะว่าเธอรู้จักกับเซิ่งอี่เจ๋ออย่างนั้นหรือ
อันซย่าซย่าไม่ใช่คนที่จะยอมพ่ายแพ้อย่างเงียบเชียบ เธอคำรามด้วยความโกรธ “ใครจะไปสนว่าเธอรู้จักเขามานานแค่ไหน เขายังจำชื่อเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ! ยอมรับเถอะว่าเธออิจฉาฉัน! เขาคงอยากอยู่กับของหมักดองอย่างฉันมากกว่าจะชายตามองเธอก็แล้วกัน!”
หลีฝานซิงคาดไม่ถึงว่าอันซย่าซย่าจะตอกกลับด้วยคำพูดคมกริบ หล่อนกัดริมฝีปากกับการตอบโต้ของเธอ นัยน์ตาคู่สวยเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
หล่อนยกมือขึ้นและกำลังจะตบหน้าอันซย่าซย่า
แต่เธอมีปฏิกิริยาตอบโต้ไวพอและหลบฝ่ามือของหล่อนได้
หลีฝานซิงโชคไม่ดี หล่อนสะดุดชายชุดกระโปรงที่ซ้อนกันหลายชั้นและล้มลงกับพื้นด้วยสภาพที่น่าสังเวช
พวกเขากำลังถ่ายทำฉากกลางแจ้งและพื้นดินก็ปกคลุมไปด้วยกรวด หลีฝานซิงร้องเสียงหลง แล้วผู้จัดการของหล่อนก็รีบเข้ามาช่วยให้ลุกขึ้น
ฝ่ามือทั้งสองของหล่อนเต็มไปด้วยเลือดจากรอยถลอกและดูค่อนข้างน่ากลัว
ฉีฉีผู้จัดการของหล่อนเริ่มโทษอันซย่าซย่า “เธอเป็นอะไรน่ะ ดูสิ่งที่เธอทำกับฝานซิงเข้าสิ!”
อันซย่าซย่างงงัน “เธอเป็นฝ่ายที่พยายามตบฉันแล้วก็ล้มลงไปเอง ฉันควรจะยืนอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้เธอตบงั้นหรือ”
“ฝานซิงจะตบเธอได้ยังไง เธอคงจะรนหาที่เองล่ะสิ!” ฉีฉีคำราม ไม่สนใจว่าความจริงจะเป็นเช่นไร “อีกอย่าง ถ้าหากฝานซิงอยากจะตบเธอ มันก็เป็นเกียรติของเธอแล้วที่ได้รับมัน ใครอนุญาตให้เธอหลบ”
อันซย่าซย่าตอบไม่ถูกเลย
‘หล่อนจะตบฉัน แล้วมันก็ถือเป็นเกียรติของฉันแล้ว’ ทฤษฎีน่าขันอะไรกันน่ะ
“อันซย่าซย่า!” หลีฝานซิงเค้นเรียกชื่อเธอผ่านไรฟัน ขณะที่หล่อนกำลังจะขู่อาฆาตเธออีก น้ำเสียงไพเราะทุ้มลึกก็ดังขึ้นจากเบื้องหลัง “อันซย่าซย่า มัวทำอะไรอยู่ ไปล้างเครื่องสำอางแล้วเปลี่ยนชุดได้แล้ว”
เป็นเซิ่งอี่เจ๋อนั่นเอง!
หลีฝานซิงลบสีหน้านางร้ายออกจากใบหน้าหล่อนทันทีแล้วเอนพิงฉีฉีอย่างระทดระทวย จากนั้นหล่อนก็คร่ำครวญ “ซย่าซย่า ฉันรู้ว่าพวกเราไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่ควรทำร้ายฉันแบบนี้ อี่เจ๋อ เห็นไหมว่าเธอช่างระรานขนาดไหน…”
ตอนที่ 183 “การลงโทษ” ของเซิ่งอี่เจ๋อ (1)
“ชิงฟ้องก่อนได้เปรียบ” คือสิ่งที่หลีฝานซิงถนัดนัก
อันซย่าซย่าพูดอะไรไม่ออกเลย—ยัยผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะแสดงบทบาทในการถ่ายทำละครได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่จู่ๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นนักแสดงชั้นเยี่ยมได้ขนาดนี้
เซิ่งอี่เจ๋อเปลี่ยนเป็นอีกชุดเรียบร้อยแล้วและเห็นได้ชัดว่ามีฉากอื่นที่ต้อง่ถายทำต่ออีก เขาขมวดคิ้วนิดๆ ขณะที่ดวงตาดำสนิทเหลือบมองไปยังหลีฝานซิงก่อนจะกลับมามองอันซย่าซย่า
ดวงตาเขาบ่งบอกว่าไม่ได้นึกห่วงอะไรหลีฝานซิงเลย ซึ่งทำให้หล่อนกัดฟันกรอดอยู่ข้างในเงียบๆ
ด้วยความโกรธ อันซย่าซย่าตัดสินใจง่ายๆ ที่จะพูดตามความจริง “เธอเหยียบมือฉันระหว่างการถ่ายทำก่อนจนมือฉันช้ำไปหมดแล้ว! แล้วที่เมื่อกี้เธอล้มก็เพราะเธอพยายามจะตบฉันแต่ฉันไม่ยอมยืนรอให้ตบ มันเป็นความผิดฉันตรงไหนล่ะ!”
หลีฝานซิงพยายามจะแก้ตัว “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ! เธอกุเรื่องขึ้นมา! เธอผลักฉันล้มลงและตั้งใจทำร้ายฉัน!”
อันซย่าซย่าเบิกตาโตและไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหล่อนจะกล้าบิดเบือนความจริงขนาดไหน!
“อี่เจ๋อ ได้โปรดเชื่อฉันเถอะ…” หล่อนกระพือขนตายาวหนา หลีฝานซิงตั้งใจเรียกน้ำตาให้เอ่อรื้นขึ้นมา ทำให้ตัวหล่อนดูน่าสงสารเป็นที่สุด
หล่อนไม่ยอมหรอก หล่อนเป็นคนที่รู้จักเซิ่งอี่เจ๋อตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน
อันซย่าซย่าเป็นใครกันถึงได้คอยตามติดเขาตลอดเวลา
หล่อนเชื่อมั่นว่าแม้จะมีเรื่องขัดแย้งกันระหว่างกัน เซิ่งอี่เจ๋อก็จะต้องเข้าข้างหล่อนแน่ๆ!
อันซย่าซย่าหน้ามุ่ย และใบหน้าเล็กๆ ของเธอกำลังบอกว่า : ฉันไม่แฮปปี้และอารมณ์เสียมากๆ
ใบหน้าเซิ่งอี่เจ๋ออ่อนโยนลง เขาเดินเข้าไปหาพลางลูบผมเธอราวกับกำลังปลอบโยนเจ้าลูกแมวน้อยที่กำลังอารมณ์เสีย จากนั้นก็ยกมือเธอขึ้นดูและเห็นว่ามันช้ำอย่างเห็นได้ชัด
เขาเป่ารอยช้ำนั้นเบาๆ และถามด้วยเสียงเบาๆ “เจ็บมากไหม”
อันซย่าซย่ายืนนิ่งงงงัน เธอพยักหน้าช้าๆ หลังจากสับสนอยู่ครู่หนึ่ง
หญิงสาวมองเห็นว่ารอยย่นที่หน้าผากเขาชัดขึ้น
ชายหนุ่มโบกมือเรียกทีมงานกองถ่ายคนหนึ่งเข้ามา พลางขอให้หล่อนช่วยดูแลอันซย่าซย่าและทำแผลให้เธอด้วย
พอทีมงานพาอันซย่าซย่าแยกตัวออกไป สิ่งที่เซิ่งอี่เจ่อมองเห็นก็มีเพียงเบื้องหลังของเธอกับหางน้อยๆ ที่กำลังแกว่งไกวไปมา
แววตาของเขานั้นช่างอบอุ่นอ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อ ทว่ามันกลับเย็นเยียบจนต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเมื่อเขาเบือนหน้ามามองหลีฝานซิง
“คุณหลี กรุณาทำตัวดีๆ ด้วย” เซิ่งอี่เจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ขืนแตะต้องเธออีกแม้แต่ปลายเล็บ…” เขาจงใจทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะหัวเราะหึใส่หลีฝานซิง
หล่อนสั่นสะท้านราวกับลูกนกและมีแววไม่อยากเชื่ออยู่ภายในดวงตา
เขาไม่ถามอะไรด้วยซ้ำก่อนจะเลือกเข้าข้างอันซย่าซย่า!
หลีฝานซิงพยายามจะอธิบายต่อ แต่เซิ่งอี่เจ๋อกลับเดินจากไปแล้ว
เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่อยากจะฟังอะไรก็ตามที่หล่อนกำลังจะพูดอีก
หล่อนตระหนักได้ข้อหนึ่งนั่นคือ สิ่งที่น่ากลัวกว่าความไม่สนใจ—คือความเมินเฉย
และความเมินเฉยโดยสิ้นเชิงนั้นหมายความว่าเขาไม่ได้สนใจหล่อนเลยแม้แต่น้อย!
ขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อเดินจากไปเพื่อถ่ายทำบางฉากในส่วนของเขาต่อ หลีฝานซิงก็ยังคงนั่งแหมะอยู่กับพื้นก่อนที่ฉีฉีจะเข้าไปพยุงหล่อนให้ลุกขึ้นยืน
ฉากทั้งหมดของหล่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว และที่หล่อนมาวันนี้ก็เพื่อถ่ายทำฉากรวมนักแสดงทุกคนเท่านั้น
หลีฝานซิงตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธระหว่างล้างเครื่องสำอาง
และเมื่อหล่อนพร้อมที่จะเดินทางกลับหลังจากทำอะไรเสร็จสรรพแล้ว หลีฝานซิงก็เดินผ่านห้องแต่งตัวของเซิ่งอี่เจ๋อในตอนขากลับ หล่อนเห็นว่าเขาเองก็ถ่ายเสร็จแล้วเหมือนกันและกำลังพูดคุยกับอันซย่าซย่าอย่างเงียบๆ
อันซย่าซย่าทำแก้มป่องก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางและไม่ยอมพูดกับเขา ซึ่งเขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเลยสักนิดเดียว เขาเพียงแต่ลูบผมเธอและปลอบเธออย่างอ่อนโยน
“ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลไหม ถ้าเจ็บมากนักจะร้องไห้ก็ได้นะ ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่บอกใครหรอกว่าเธอร้องไห้แล้วดูขี้เหร่”
“ไปไกลๆ เลย ฉันไม่อยากพูดกับนายแล้ว” อันซย่าซย่าบ่นงึมงำ ถ้าไม่เป็นเพราะเขา เธอก็คงไม่ต้องเจ็บตัวตั้งแต่แรกหรอก!
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นและเปิดประเด็นก่อนหน้านั้นขึ้นมา “เธออารมณ์เสียอีกแล้วนะ อันซย่าซย่า ฉันจะลงโทษเธอจริงๆ ละนะ”