ตอนที่ 210 แล้วเธอจูบไอ้บ้าที่ไหนกันเนี่ย (1)
ชายหนุ่มทั้งสองจ้องกันเขม็ง ราวกับพร้อมจะชักดาบสู้กันได้ทุกเมื่อ
อันอี้เป่ยเอ่ยอย่างไม่แยแส “แล้วเรื่องที่เธออผ่านมามันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ นายเป็นใครถึงได้มาตั้งคำถามกับอดีตของเธอแบบนี้”
เซิ่งอี่เจ๋อกำหมัดแน่น ถลึงตาใส่ “คุณอัน คุณไม่ควรให้ผมสืบเจอนะว่าเธอไม่ได้รับการดูแลน่ะ”
แม้ว่าอันอี้เป่ยจะไม่ค่อยทำดีกับเขามาตั้งแต่ต้น แต่เซิ่งอี่เจ๋อก็เรียกเขาว่า “พี่อัน” เหมือนกับที่อันซย่าซย่านับถือเขา แต่ตอนนี้ เขากำลังเรียกคนตรงหน้าว่า “คุณอัน” ซึ่งเห็นได้ชัดแล้วว่าเขาไม่อยู่ข้างเดียวกับอันอี้เป่ยแล้ว
ซึ่งเป็นการบอกว่าเขาจะปกป้องอันซย่าซย่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
อันอี้เป่ยแค่นยิ้ม “ถึงฉันบอกนาย แล้วนายจะทำอะไรได้ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ทั้งฉันและพ่อเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเธอมาตั้งหลายปี ไม่ใช่นาย”
เซิ่งอี่เจ๋อเงียบ
ดวงตาของเขายังคงคลอหน่วยด้วยน้ำตา แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกไป อันซย่าซย่าก็เริ่มร้องไห้อยู่ในตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง
เธอกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ ราวกับแม้ในยามเมา เธอก็ยังไม่กล้าร้องไห้ออกมา
ราวกับกลัวว่าจะมีใครได้ยินเข้า
เซิ่งอี่เจ๋อกำหมัดแน่นจนนิ้วลั่น เขารู้สึกราวกับตัวจะระเบิดด้วยแรงโทสะ
ถึงป่าป๊าอันกับอันซย่าซย่าจะปฏิเสธว่าเธอไม่เคยตกน้ำมาก่อน แต่เซิ่งอี่เจ๋อกลับเชื่อว่าอันซย่าซย่านี่แหละคือคนที่เขาตามหา
ย้อนไปเมื่อตอนความสัมพันธ์ของเขากับอันซย่าซย่านั้นยังยุ่งเหยิง เขาเคยสงสัยและตั้งคำถามกับตัวเองอยู่หลายครั้ง หากอันซย่าซย่าไม่ใช่คนที่เขาตามหา เขาจะยังรักเธออยู่หรือไม่
จนถึงตอนนี้ ความสงสัยกลับทำให้เขาตระหนักได้ แล้วถ้าเธอคนนั้นไม่ใช่อันซย่าซย่าจริงๆ ล่ะ
ตลอดสิบเจ็ดปีในชีวิตเขา เขาคอยรักษาระยะห่างและละทิ้งทัศนคติที่เกี่ยวข้องกับสถานะทายาทของตระกูลเซิ่ง ซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นวัยรุ่นที่มีอภิสิทธิ์มากเป็นพิเศษ
เขาโชคดีแค่ไหนที่ได้พบกับหญิงสาวอย่างอันซย่าซย่า
จะให้เขาทนอยู่เฉยๆ ได้อย่างไรเมื่อผู้หญิงที่เขาชอบเคยเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิตมาก่อน
อันอี้เป่ยเดินผ่านเขาไป อุ้มอันซย่าซย่าไปที่เตียง ปลอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ซย่าซย่า อย่าร้องไห้นะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะร้องเพลงให้ฟังเอง…”
จากนั้นเขาก็เริ่มฮัมเพลงกล่อมเด็กวนไปเรื่อยๆ สักพักจนเสียงสะอื้นของอันซย่าซย่าเริ่มเงียบลง ในที่สุดหญิงสาวก็ผล็อยหลับไป
เซิ่งอี่เจ๋อยืนยังคงยืนมองเหตุการณ์ ไม่ยอมออกห่าง
หัวใจเขาแหลกสลายเมื่อเห็นอันซย่าซย่าในสภาพนี้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอในตอนเด็กและตอนเป็นวัยรุ่น
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าหญิงสาวชอบอะไร อดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างไร หรือกระทั่งที่ผ่านมามีความสุขไหม
“ฉันไม่สนว่านายจะแผนอะไรอยู่ แต่ฉันจะบอกนายเอาไว้ตรงนี้ ซย่าซย่าไม่ใช่คนที่นายตามหา ดังนั้นเลิกยุ่งกับเธอสักที” น้ำเสียงอันอี้เป่ยทั้งเย็นชาและชัดเจน “หากนายไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ก็ช่วยย้ายออกไปจากบ้านของเราหลังจากหมดสัญญาเช่าซะ ฉันจะขอบคุณมากถ้าหากนายหายไปจากชีวิตเธอตลอดไป ฉันไม่อยากเห็นเธอมีความสัมพันธ์กับคนดัง ฉันต้องการให้เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายและเป็นสุข หวังว่านายจะเคารพจุดนั้น”
คำพูดเหล่านั้นทำให้เซิ่งอี่เจ๋อลดความไม่เป็นมิตรลงเล็กน้อย
“แน่นอน ผมก็อยากให้เธอได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเช่นกัน”
อันอี้เป่ยหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงอ่อนลง “ฉันไม่ได้อยู่ในจุดที่จะเล่าเรื่องที่เธอต้องเผชิญตอนเด็กได้ อีกอย่างเธอก็ลืมเรื่องราววัยเด็กของตัวเองไปหมดแล้ว สำหรับบางคนแล้ว การลืมเป็นสิ่งที่เยียวยาบาดแผลที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นฉันก็หวังว่านายจะหยุดถามเธอและปล่อยเธอไว้แบบนั้น”
ใบหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อนั้นไร้อารมณ์
แต่เขาคิดถูกแล้ว
ไม่ว่าอันซย่าซย่าจะเคยตกน้ำหรือไม่ เขายังมีโอกาสถามได้อยู่!
ตอนที่ 211 แล้วเธอจูบไอ้บ้าที่ไหนกันเนี่ย (2)
“ฉันดีใจนะที่เห็นนายชอบเธอ เพราะตอนนี้ในโลกก็มีคนที่ห่วงใยเธอเพิ่มขึ้นมาอีกคน” อันอี้เป่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิม “ฉันไม่ปฏิเสธหรอกว่าซย่าซย่าโชคดีมากที่มีนายอยู่ด้วย แต่นั่นก็เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับเธอด้วยเหมือนกัน นายก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดแล้ว แค่รูปจูบรูปเดียวก็สร้างปัญหาในโลกออนไลน์ได้แล้ว แล้วหลังจากนั้นล่ะ สมมุติว่าพวกนายกลายมาเป็นคู่รักกันจริงๆ พอเปิดตัว อันซย่าซย่าก็จะถูกโจมตี แล้วก็ต้องหลบซ่อน… นายจะให้ซย่าซย่าเป็นคนในความลับจริงๆ งั้นเหรอ”
ดวงตาของเซิ่งอี่เจ๋อนั้นอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
“เวลาที่นายชอบใครมากๆ สักคน นายจะไม่อยากและไม่ยอมให้เธอเจ็บ ถ้าการที่นายชอบเธอมันทำให้เธอต้องเจ็บ ในฐานะที่ฉันเป็นพี่ชาย มันเป็นหน้าที่ฉันที่จะต้องปกป้องเธอ” อันอี้เป่ยขยับแว่นตา “ต้องขอโทษด้วยที่ต่อยนายไป”
อันอี้เป่ยเป็นคนที่สุขุม พอเขาใจเย็นลงแล้วเขาก็ประพฤติตัวดีขึ้นกับเซิ่งอี่เจ๋อ
เซิ่งอี่เจ๋อเบ้ปาก “เข้าใจแล้ว”
“ก็ดี” อันอี้เป่ยพยักหน้า
“แล้วถ้าผมชอบซย่าซย่าแบบที่เธอจะไม่ต้องเจ็บได้ พี่จะหยุดคัดค้านใช่ไหม” ดวงตาเซิ่งอี่เจ๋อฉาบไปด้วยความมั่นใจ
อันอี้เป่ยถึงกับไปต่อไม่เป็น
บ้าเอ๊ย นี่เขากระโจนเข้าหาหลุมที่ตัวเองขุดชัดๆ!
เจ้างั่งนี่!
“หึ! ต้องรอดูก่อนว่านายจะทำได้จริงหรือเปล่า! ถ้าฉันคัดค้าน ฉันอาจจะอัดนายจนปางตายก็ได้นะ!”
เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างจริงจัง “ผมยินดีจะโดนต่อยถ้านั่นทำให้ผมได้อยู่กับน้องสาวพี่”
อันอี้เป่ย: จะอ้วก!
–
วันต่อมา
อันซย่าซย่าลุกจากเตียงมาล้างหน้าล้างตา นอกจากจะปวดหัวแล้ว เธอยังปวดเนื้อปวดตัวไปหมดด้วย
หญิงสาวหาวหวอดพลางเดินออกมาจากห้อง ก่อนจะพบว่าทุกคนกำลังทานอาหารเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากัน
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างเนี่ย นี่พี่ไม่ได้แอบซ้อมฉันตอนฉันเมาใช่ไหม”
อันอี้เป่ยแค่นหัวเราะ “ในฐานะที่พี่เป็นพี่ ก็ต้องดูแลเด็กปัญญาอ่อนอยู่แล้ว พี่ไม่ได้ไร้ศีลธรรมขนาดที่จะซ้อมเธอหรอกนะ ขอบคุณ”
อันซย่าซย่าแทบสำลัก “ไม่ล้อเลียนฉันสักวันเดียวพี่จะตายไหม! แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงมาเรียกฉันว่าปัญญาอ่อน ไอ้พี่บ้า!”
อันอี้เป่ยแสร้งไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด
เมื่อไม่มีทางเลือก อันซย่าซย่าเลยเลือกที่จะถามเหอจยาอวี๋ที่ดูจะเป็นคนอ่อนโยนที่สุดแล้ว “เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากที่ฉันเมา”
เหอจยาอวี๋รู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยที่ต้องนึกถึงเรื่องกอดเมื่อคืน เขากระแอมก่อนตอบ “ก็ไม่มีอะไรหรอก… ซย่าซย่า เธอจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”
อันซย่าซย่าทำหน้าย่นพลางส่ายหน้า แต่เธอกลับนึกบางอย่างออกก่อนจะถามด้วยความตกตะลึง “ฉันไม่ได้… ขอให้กอดกับจูบฉันหรอกใช่ไหม”
เอิ่ม—
ทุกคนที่โต๊ะเริ่มอยู่ไม่สุขกันสักคนแล้ว
“แสดงว่า เธอก็จำได้” เหอจยาอวี๋ถามด้วยความแปลกใจ
ฉือหยวนเฟิงอ้าปากค้างในขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อ… แอบหน้าแดงเล็กน้อย
“แล้วฉันจูบใครไป อา! ทำไมไม่มีใครหยุดฉันเลยล่ะ!” อันซย่าซย่านึกว่าตัวเองกำลังจะสติแตกเมื่อมองไปรอบๆ โต๊ะ
“ใช่พ่อหรือเปล่าคะ”
ป่าป๊าอันส่ายหน้าเบาๆ “จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ดูสิ มีแต่หนุ่มหล่ออยู่เต็มเลย พ่อคงเป็นตัวเลือกสุดท้ายของลูกแน่ๆ”
อันซย่าซย่าตกใจกับความเปิดกว้างของพ่อตัวเอง เธอหันไปหาอันอี้เป่ย ยิ้มอย่างออดอ้อน “คุณพี่ชายสุดที่รัก งั้นก็ต้องเป็นพี่สินะ!”
อย่าตื่นตระหนก อย่าตื่นตระหนก มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เธอจะจูบพี่ชายตัวเอง
อย่างไรก็ตาม คำตอบของอันอี้เป่ยทำเอาความหวังเธอแหลกเป็นชิ้นๆ
“ไม่ใช่ฉัน ยัยซื่อบื้อ”
อันซย่าซย่าตกตะลึง
แล้วเธอจูบไอ้บ้าที่ไหนกันเนี่ย