ตอนที่ 224 คิดถึงฉันไหม (2)
อันซย่าซย่าแทบสำลัก อะไรเนี่ย ทำไมเจ้าเพื่อนคนนั้นจู่ๆ ก็ส่งข้อความมาหาเธอแบบนี้
หญิงสาวยืนนิ่งพูดไม่ออกอยู่สักพัก เธอตั้งใจจะพ่นสารพัดคำดูถูกลงไปในข้อความของเขาแต่ก็ต้องชะงักตอนเธออ่านข้อความของเขาอีกครั้ง
ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ—
เขาเห็นเธอหรือ
ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัว เธอเลยเงยหน้าขึ้นมาก็ได้พบกับต้นตอประโยคนั้น
ไม่ไกลจากสนามบาสเกตบอล ฉีเหยียนซีกำลังชู้ตลูกบาสเกตบอลลงห่วงอย่างเป็นธรรมชาติ เคลื่อนกายอย่างพลิ้วไหว
แต่ละลูกลงห่วงด้วยองศาโค้งที่สมบูรณ์แบบ!
อันซย่าซย่ามองตาไม่กะพริบ
พระเจ้า โชคต้องเข้าข้างเขาแน่ๆ! เท่มากๆ เลย!
เซิ่งอี่เจ๋อกำลังคุยกับเหอจยาอวี๋ที่อยู่ข้างๆ แต่พอมองเห็นสายตาสุดเลื่อมใสของอันซย่าซย่าแล้ว เขาก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที
เขาเดินกลับไปที่สนาม ยืนตรงอย่างต้นสนก่อนจะหยิบลูกบาสเกตบอลขึ้นมาและโยนลูกออกไป!
ฟิ้ววว —
สามคะแนนสวยๆ!
เสียงเชียร์ดังขึ้นจากกลุ่มที่ยืนข้างอยู่สนาม เด็กสาวบางคนถึงขั้นตะโกน “กัปตันอี่เจ๋อเท่มากๆ ค่ะ! กรี๊ดดด!”
ฉีเหยียนซีหันมามองชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ “เฮ้ นายน่ะ จำเป็นต้องทำแบบนั้นตอนฉันกลับมาด้วยหรือ หาเรื่องกันใช่ไหม”
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มเยาะ “แล้วไม่ใช่นายต้องนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงหรอกหรือ นายมาทำอะไรที่นี่ ยังทำตัวเองขายหน้าไม่พออีกเหรอ”
“ไอ้ระยำเอ๊ย!” ฉีเหยียนซีชูนิ้วกลาง “ฉันตัดสินใจจะทำตัวเป็นนักเรียนที่ดีต่างหาก! นายมีปัญหากับเรื่องนั้นเหรอ”
เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะเยาะเขาอีกครั้งพร้อมแสดงสีหน้าดูถูก
ฉีเหยียนซีได้ยินคำสบประมาทในเสียงหัวเราะนั้น
แต่เขาไม่ใช่คนเก่าที่ชอบแข่งขันกับเซิ่งอี่เจ๋ออีกแล้ว เขาจึงไม่สบถหรือหันมองอีกฝ่ายซึ่งถือเป็นเรื่องที่หายากมาก สายตาของเขาเลือกจะมองไปยังอันซย่าซย่า
เขาหายจากอาการบาดเจ็บตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแค่ยังไม่อยากกลับมาโรงเรียนแค่นั้นเอง
ภาพอันซย่าซย่าจูบกับเซิ่งอี่เจ๋อกลายมาเป็นฝันร้ายคอยหลอกหลอนเขาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
เมื่อวานหมู่ลี่กลับบ้านตระกูลฉีแล้วบอกกับเขาว่าหลีฝานซิงเพิ่งย้ายมาเรียนที่ฉีซยา
หลีฝานซิงกับฉีเหยียนซีเคยคบกันมาก่อน ตอนที่เขายังเด็ก เขาคิดว่าเธอคือคนที่เขารักที่สุดแล้ว
เขาบอกตัวเองว่าหลีฝานซิงคือเหตุผลที่ทำให้เขากลับมา แต่เขากลับเดินไปเรื่อยๆ ทั้งวันและเลือกที่จะมาคาบพลศึกษาซึ่งเป็นคาบสุดท้ายของวันเพียงคาบเดียวเท่านั้น คนที่เขาอยากเจอมากที่สุดไม่ใช่หลีฝานซิง
คนคนนั้นกลับเป็นอันซย่าซย่า…เด็กสาวคนที่ดูถูกเขาตั้งแต่แรกพบ!
บ้าจริง! เขาเกลียดความรู้สึกแบบนี้!
ในขณะที่ฉีเหยียนซีก่นด่าตัวเองในใจ เขาก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะอันซย่าซย่าที่รีบวิ่งมาอยู่ข้างๆ เขา
อันซย่าซย่าจับมือเขาก่อนจะหมุนตัวชายหนุ่มพร้อมมองเขาด้วยสายตาเป็นประกาย “ฉีเหยียนซี นายไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม”
ฉีเหยียนซีงุนงงแต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไรตอนที่อันซย่าซย่าลากเขาไปทางนู้นทีนี้ที ความอบอุ่นก่อตัวขึ้นในทรวงอกตัวเอง
ยัยเด็กน้อยน่ารำคาญนี่เป็นห่วงเขาอยู่งั้นหรือ…
พอคิดแบบนั้นอันซย่าซย่าก็ดูเจริญหูเจริญตาสำหรับชายหนุ่มไปทันที ใบหน้าดุๆ ของเขาอ่อนลงซึ่งนั่นเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
เซิ่งอี่เจ๋อเดินมาด้วยสีหน้าเย็นชา ดึงปกคอเสื้อด้านหลังของอันซย่าซย่าและลากเธอออกมาให้ห่างจากฉีเหยียนซี
“เฮ้…หยุดลากฉันสักที ฉันจะคุยกับฉีเหยียนซี!” อันซย่าซยย่าดิ้น
ขมับของเซิ่งอี่เจ๋อเต้นตุบๆ เสียงทุ้มของเขาแหวขึ้น “อันซย่าซย่า ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้เธอคุยกับไอ้หมอนี่!”
อันซย่าซย่าแลตามองเขา เขากล้าดีอย่างไรมาพูดกับเธอทั้งๆ ที่ทำตัวแบบนี้!
หญิงสาวจะต้องโน้มน้าวให้ฉีเหยียนซีลงแข่งในเกมครั้งนี้ให้ได้!
นักกีฬามีความสามารถอย่างเขาจะช่วยให้ฉีซย่ามีโอกาสแข่งชนะเยี่ยหยางได้แน่ๆ
แล้วเซิ่งอี่เจ๋อก็จะไม่ต้องลงแข่งแล้วก็ได้พักรักษาตัวต่อ…
“ยัยบื้อซย่าซย่า คิดถึงฉันไหม” ฉีเหยียนซีจงใจถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไร้ยางอาย
ตอนที่ 225 ถ้าอยากสู้นักก็มาสู้กับฉันนี่!
สีหน้าเซิ่งอี่เจ๋อดูน่ากลัวขึ้นสองสามระดับกับคำพูดของฉีเหยียนซี ตอนนี้เขากำคอเสื้อของอันซย่าซย่าไว้แน่น
อันซย่าซย่าดิ้นแขนขาของเธอแต่ดูเหมือนเซิ่งอี่เจ๋อจะจับเธอไว้เหมือนกับหิ้วลูกไก่ไว้อยู่ อันซย่าซย่าจะก้าวไปข้างหน้าสักก้าวโดยไม่ออกแรงดิ้นแทบตายไม่ได้เลย
เมื่อทำอะไรไม่ได้เธอเลยเลือกที่จะถามออกไปตรงๆ “ฉีเหยียนซี นายอยากจะช่วยโลก แต่งงานกับเจ้าหญิง กลายมาเป็นนายใหญ่ และไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตไหม”
“หือ” ฉีเหยียนซีไม่รู้ว่าหญิงสาวจะมาไม้ไหน
“นายก็ลงทีมบาสเกตบอลไปเลยสิ พ่อหนุ่ม!” อันซย่าซย่าตอบอย่างตรงไปตรงมา
ริมฝีปากฉีเหยียนซีกระตุก แสดงว่าหญิงสาวต้องการให้เขาลงแข่ง แต่มันจำเป็นต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ไหม
เซิ่งอี่เจ๋อหน้างอแถมดูน่ากลัวกว่าเดิม
อันซย่าซย่าหมายความว่าอย่างไรกัน นี่เธอเพิ่งขอให้ฉีเหยียนซีลงแข่งงั้นหรือ
ฉีเหยียนซีดูเล่นเก่งในนสายตาของเธออย่างนั้นหรือ
น่าสนใจแฮะ
โหมดปากไม่ตรงกับใจกลับมาทำงาน เขาดึงอันซย่าซย่าไปอยู่ด้านข้างก่อนจะมองฉีเหยียนซีด้วยสายตาข่มขู่ “เริ่มกันเลยไหม”
ฉีเหยียนซีถูกท้าทาย “ก็มาสิ!”
ทั้งสองหยิบลูกบาสเกตบอลก่อนจะเริ่มการแข่งขันโดยไม่มีกรรมการ
พอคนหนึ่งรุกอีกคนก็ตั้งรับ คนหนึ่งพยายามจะเลี้ยงลูกหลอกอีกคนก็ไหวตัวทัน เด็กหนุ่มทั้งสองเหมือนนักดาบที่มีความสามารถ ไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้กันเลย
เด็กนักเรียนรอบๆ มองการเคลื่อนไหวของทั้งสองแทบไม่ทัน พวกเขากลั้นหายใจ ไม่กล้าส่งเสียงเชียร์ออกมาด้วยกลัวว่าเสียงเชียร์จะไปรบกวนการแข่งขันของวัยรุ่นฝีมือขั้นเทพเข้า
อันซย่าซย่ายืนทึ่ง
เธอไม่นึกว่ามันจะออกมาแบบนี้!
เธอแค่พยายามจะโน้มน้าวให้ฉีเหยียนซีลงแข่งเพราะเธอไม่อยากให้เซิ่งอี่เจ๋อต้องไปปะทะกับคนอื่นในการแข่งขัน ทำไมจู่ๆ เซิ่งอี่เจ๋อก็ทำตัวเป็นคนแข็งแรงขึ้นมาทันทีได้ ทุกอย่างนี้ไม่เป็นไปตามจุดประสงค์ของเธอเลย!
ดวงตาของทั้งสองจับจ้องไปที่ลูกบาสเกตบอล อันซย่าซย่ากระทืบเท้าอย่างเป็นกังวลในขณะที่ดวงตาจับจ้องไปที่ข้อเท้าของเซิ่งอี่เจ๋อยามเขาวิ่งไปมาในสนาม
ความคิดบ้าๆ แล่นเข้ามาในหัวของหญิงสาว เธอกัดริมฝีปากของตัวเองก่อนจะหยิบลูกบาสเกตบอลขึ้นมาแล้วขว้างไปยังชายหนุ่มทั้งสอง
นักกีฬาทั้งสองเป็นนั้นกระฉับกระเฉงทำให้กระโดดหลบได้ทัน พวกเขาหันมองมาที่ต้อนตอและต้องประหลาดใจที่เห็นว่าลูกบาสเกตบอลมาจากทิศที่อันซย่าซย่ายืนอยู่
อันซย่าซย่าชี้ไปยังทั้งคู่ด้วยนิ้วเรียวสวยของเธอ “ถ้าอยากสู้กันนักก็มาสู้กับฉันนี่!”
เซิ่งอี่เจ๋อพูดไม่ออก
ฉีเหยียนซี: “…”
นักเรียนที่ยืนรอบสนามก็พูดไม่ออกเช่นกัน
“อันซย่าซย่าเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร เธอจะแข่งกับนักกีฬาคนเก่งของฉีซยาเนี่ยนะ”
“อันซย่าซย่า ขอบคุณเธอมากนะที่พยายามทำให้พวกเราขำ! แต่หยุดเถอะ! ฮ่าๆๆ!”
“ซย่าซย่า เธอบ้าหรอเปล่า” ซูเสี่ยวมั่วกระตุกแขนเสื้อของอันซย่าซย่า แต่หญิงสาวมองเธอด้วยความหนักแน่นก่อนจะหันไปคุยกับสองหนุ่มอย่างจริงจัง “มาแข่งชู้ตกันเถอะ ถ้าฉันชู้ตได้สามลูกติดกันพวกนายจะต้องทำตามคำสั่งของฉัน!”
ริมฝีปากฉีเหยียนซีกระตุก “ยัยบื้อซย่า เธอเพิ่งทำให้ฉันจำกัดความคำว่า ‘โง่’ ใหม่เลยนะ”
อันซย่าซย่ากลอกตาใส่เขา “จะแข่งหรือไม่แข่ง”
น้ำเสียงของเธอนั้นนุ่มนวลและข้อเสนอก็ดูน่าขำเสียจนฉีเหยียนซีคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เธอมีความสุขได้ “ได้ ฉันจะแข่ง แล้วถ้าเธอแพ้ล่ะ”
เซิ่งอี่เจ๋อเบ้ปาก ไม่ใส่ใจจะออกความเห็น
อันซย่าซย่าจะถือว่านั่นเป็นคำอนุญาตนัยๆ
“งั้นนายก็ไม่ต้องทำตามคำสั่งของฉันไง! เป็นข้อตกลงที่ดีไม่ใช่หรือไง” อันซย่าซย่ายิ้มให้ชายหนุ่มซึ่งนั่นทำให้กองเชียร์โดยรอบพูดไม่ออกกว่าเดิม
ขอโทษนะ แต่เธอคิดว่าคนดังสองคนนั้นเป็นตัวตลกหรืออย่างไร
แต่ที่น่าตกใจกว่าสำหรับกองเชียร์ คือคนโง่เซิ่งกับฉีตอบ… ตกลง