ตอนที่ 238 ซย่าซย่า เธอไม่ได้กำลังมีความรักใช่ไหม?
ณ บ้านครอบครัวอัน
จานชามของป่าป๊าอันถูกจัดแจงบนโต๊ะรับประทานอาหาร เขาต้อนรับฉีเหยียนซีอย่างอบอุ่น
“ทำตัวตามสบายนะ เราเจอกันล่าสุดก็สักพักแล้ว เธอสูงขึ้นนะ พวกเด็กผู้ชายนี่โตเร็วจริงๆ” ป่าป๊าอันยิ้มอย่างเป็นมิตร ทำให้ฉีเหยียนซีไม่สบายใจเล็กน้อย
เขาโตมากับพ่อที่เข้มงวดกับเขามาก พ่อแม่ของเขาหย่ากันตอนที่เขาไม่เด็กมากนัก ตอนนี้ทั้งสองก็มีครอบครัวใหม่แล้ว จะพูดว่าฉีเหยียนซีรู้เรื่องความรักในครอบครัวน้อยมากก็ไม่ผิดนัก
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอารมณ์รุนแรงตลอดเวลา
เขาก้มมองชามที่ป่าป๊าอันใส่อาหารให้เขาจนเต็ม ก่อนเบาเสียงลงและพึมพำ “ขอบคุณครับ…”
“ไม่ต้องพูดแล้ว! ถ้านายไม่กิน ฉันจะกินละนะ!” อันซย่าซย่าจ้องเนื้อในชามของเขาตาเป็นมัน
เซิ่งอี่เจ๋อเคาะหัวน้อยๆ ของเธอพร้อมมองเธอด้วยสายตาอบอุ่น ทำให้อันซย่าซย่าทำตัวดีขึ้นในพริบตา
อันอี้เป่ยสังเกตเห็นความผิดปกติระหว่างทั้งคู่ได้ทันที เขาจ้องน้องสาวตาเขม็ง “ซย่าซย่า เธอไม่ได้กำลังมีความรักใช่ไหม”
“เปล่า…ฉันเปล่า!” อันซย่าซย่าตอบเสียงอ่อย
“อ๋อ งั้นแสดงว่าช่วงนี้ทะเลาะกับแฟนเหรอ” อันปี้เป่ยหลอกล่อ
ซย่าซย่าผู้ใสซื่อตกหลุมพรางฉับพลัน เธอทำหน้าบึ้ง “ใช่ เขาทำตัวแย่กับฉัน แล้วเมื่อตอนบ่ายก็ด่าฉันด้วย…”
ฮึ…
ซย่าซย่ารีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง!
นี่เธอเพิ่งยอมรับสารภาพเองเลยเหรอ!
อันอี้เป่ยมองเธอด้วยสายตา “ฉันกะแล้วเชียว”
เหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
ป่าป๊าอันกลับใจเย็นกว่ามาก เขายิ้มขณะเอ่ยชม “ผู้ชายที่ซย่าซย่าชอบเนี่ยต้องเป็นคนดีมากแน่ๆ เลย”
อันซย่าซย่าเอามือปิดแก้มด้วยความเขินอาย และเผลอมองเซิ่งอี่เจ๋อโดยไม่รู้ตัว
เซิ่งอี่เจ๋อนั่งข้างฉีเหยียนซีพอดี ทำให้อันอี้เป่ยเข้าใจผิดไปเล็กน้อย
“เอ้อ เป็นคนซ้ายหรือคนขวากันล่ะ” ตะเกียบของอันอี้เป่ยครูดกันขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงอันน่ากลัว
เธอเห็นว่าพี่ชายของเธอกำลังจะเอื้อมไปหยิบมีด อันซย่าซย่าเลยยอมเปิดเผยแฟนหนุ่มของเธอ เธอชี้นิ้วเล็กๆ ของเธอไปที่เซิ่งอี่เจ๋ออย่างรู้สึกผิด
เซิ่งอี่เจ๋อกระแอม เขาไม่ได้ผงะแม้แต่น้อย เขามองเธอเป็นเชิงจำยอมและพูดด้วยเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะ ฉันไม่น่าด่าเธอเลย”
เป๊าะ!
ตะเกียบไม้มะเกลือในมือของอันอี้เป่ยหักออกเป็นสองท่อน จากนั้นเขากระแทกมันลงกับโต๊ะ
“ไอ้เลว! กล้าดียังไงมาคบกับน้องสาวของฉันวะ!” เขาม้วนแขนเสื้อของตัวเองขึ้นอย่างเดือดดาล ทำให้อันซย่าซย่ากลัวจนตัวสั่น
“อี้เป่ย” ป่าป๊าอันปรามลูกชายของตน ก่อนกระแอมเล็กน้อย “สองคนกินเสร็จแล้วใช่ไหม จะกลับห้องก็ได้นะถ้าต้องการ แต่อย่าอยู่ดึกนักล่ะ ป๊าไม่ว่าอะไรหรอกถ้าลูกจะคบใครตอนนี้ แต่ต้องระวังไม่ให้ความสัมพันธ์กระทบกับการเรียนนะ”
อันซย่าซย่าพยักหน้าถี่ๆ ขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อรู้สึกเขินนิดหน่อยแต่ก็ซึ้งในเวลาเดียวกัน
พ่อของเธอนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่สุภาพและใจดีจริงๆ
ทั้งสองคนกลับห้องทีละคน ทิ้งให้อันอี้เป่ยกับฉีเหยียนซีนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เพราะคนหนึ่งถูกแย่งน้องสาวไป ส่วนอีกคนหนึ่งก็แพ้ให้กับเซิ่งอี่เจ๋ออีกแล้ว!
“ไอ้เลวนั่น…”
“ไอ้เวร! สวะไร้ค่า!”
ทั้งสองมองหน้ากัน ดูเหมือนว่าต่างฝ่ายต่างชื่นชมกันและกันเป็นช่วงเวลาพักหนึ่ง
–
อันซย่าซย่ากระโดดลงบนเตียงเล็กๆ ของเธอ ก่อนจะม้วนตัวพร้อมผ้านวมในอ้อมแขน แก้มของเธอแดงระเรื่อ
เธอไม่ได้ขัดขืนความรู้สึกอย่างที่เธอเคยคิดว่าเธอจะทำ แล้วมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดด้วย นี่เองสินะ…ความรู้สึกของการตกหลุมรัก…
ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเก็บงำความลับบางอย่าง ความลับอันแสนหวานและงดงาม
แต่ทว่าจินตนาการของเธอต้องพังทลายลงในไม่กี่อึดใจถัดมา เพราะข้อความของเซิ่งอี่เจ๋อที่ส่งมา…
[อย่าลืมจำบทกลอนล่ะ ฉันจะสุ่มทดสอบเธอพรุ่งนี้]
อันซย่าซย่าจมลงในกองผ้าบนเตียงของเธอ
ทำไมเธอถึงได้มีแฟนเข้มงวดขนาดนี้นะ
ตอนที่ 239 เธอคิดว่าฉันจะ…นอนกับเธอเหรอ
เธอพิมพ์ตอบข้อความนั้นด้วยนิ้วสั่นเทา [เราเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ เราควรจะคบกันอย่างมีความสุขไม่ใช่เหรอ นายต้องรักฉันแล้วก็ทำตามที่ฉันบอกทุกอย่างไม่ใช่เหรอ ทำไม…ทำไมฉันต้องมาจำกลอนด้วย!]
บนชั้นสาม
เซิ่งอี่เจ๋อเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขาใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดผมให้แห้งพร้อมกับพิมพ์ตอบกลับไปด้วย
[โอ้ว~ ดูท่าจะคิดเรื่องฉันเยอะเลยนะเธอเนี่ย]
อันซย่าซย่าปิดหน้าด้วยความเขินกับสิ่งที่เธอได้อ่าน ก่อนส่งเสียงลอดออกมาเล็กน้อย จากนั้นเธอรวบรวมความกล้าพิมพ์ตอบกลับไป [เปล่า เปล่าซะหน่อย!]
ฮึ่ม! อย่างที่เซิ่งอี่เจ๋อพูดนั่นแหละ เธอเป็นแฟนเขาอย่างเป็นทางการแล้ว! แล้วเขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง!
[จริงเหรอ]
[จริง!] วันนี้อันซย่ารู้สึกกล้าไม่เบา
[เปิดประตู]
[ว่าไงนะ]
[ฉันบอกให้เปิดประตูไง]
ในขณะที่เธอกำลังรู้สึกงงอย่างที่สุด เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเป็นจังหวะ
อันซย่าซย่ารู้สึกคล้ายกับมีน้ำตาร่วงอาบแก้ม เธอกัดเล็บ ลังเลว่าจะเปิดประตูดีหรือไม่
[ถ้าฉันไม่เปิด ฉันจะโดนอะไรไหม] เธอถามด้วยความกลัว
เซิ่งอี่เจ๋อตอบสั้นๆ ได้ใจความ [เดาสิ]
อันซย่าซย่ารู้สึกเข่าอ่อน เธอรีบกระโดดออกจากเตียงเพื่อไปเปิดประตูให้เขา
ฮึก …เซิ่งอี่เจ๋อคือคนที่เธอไม่กล้าทำให้โกรธจริงๆ
เซิ่งอี่เจ๋อรีบเดินเข้ามาในห้องทันทีที่ประตูเปิดออกและปิดไล่หลัง
ผมของเขายังไม่แห้งดี ส่งผลให้มีน้ำหยดลงบนหน้าอกได้รูปของเขา
มีคำกล่าวยอดฮิตในอินเทอร์เน็ตกล่าวไว้ว่า หล่อจนแทบอยากถอดกางเกง!
ถึงแม้เขาจะทำให้เธอตกตะลึง เธอก็ไม่อยากท่องจำบทกลอนอยู่ดี เธอกระทืบเท้าพร้อมเงยหน้า “เซิ่งอี่เจ๋อ! ขืนนายยังทำแบบนี้อีกล่ะก็ ฉันจะ… ฉันจะ… เลิกกับนาย!”
เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มในดวงตาเซิ่งอี่เจ๋อพลันถูกแทนที่ด้วยความขุ่นข้อง
เขาอุตส่าห์ล่อยัยซื่อบื้อตัวน้อยนี้ให้เข้ามาในกำมือได้สำเร็จแล้วเชียว ทำไมเธอถึงพูดเรื่อง “เลิก” ได้อย่างกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่
เขาถอนหายใจ ก่อนจับคางของอันซย่าซย่าพร้อมบีบเบาๆ “อันซย่าซย่า ฉันไม่อยากได้ยินคำว่า ‘เลิก’ จากปากเธออีก จำได้ไหม ฉันไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้น”
อันซย่าซย่าน้ำตาคลอเบ้า “นายไม่ได้ใจดี…นายให้ฉันเป็นแฟนนาย นายหวังให้ฉันทำยังไงล่ะ”
ด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน เธอเอามือปิดหน้าอกด้วยความกลัว “บอกไว้เลยนะ! ฉันอาจจะเป็นแฟนคลับไร้สมอง แต่ฉันไม่มีทางนอนกับไอดอลแค่เพราะว่าฉันชอบหรอก! ฝันไปเถอะ!”
เซิ่งอี่เจ๋อหน้าตาตึงเครียด เขาตั้งใจฟัง “เธอคิดว่าฉันจะ…นอนกับเธอเหรอ”
ฮึ …
อันซย่าซย่าหน้าแตกดังเพล้ง
ฟังเขาพูดเข้าสิ…เขาจะบอกว่าเธอไม่มีเสน่ห์งั้นเหรอ
“ถ้าไม่ใช่ แล้วมีอะไร…” อันซย่าซย่าถามกลับอย่างเคอะเขิน
เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มให้ “ก็มีส่วนลึกๆ ที่คิดอยากจะทำอะไรกับเธออยู่หรอกนะ…แต่ว่าที่ฉันสนใจตอนนี้คือเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่!”
เขาเคาะหัวอันซย่าย่าด้วยนิ้ว ก่อนจะสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไปจำกลอนซะ”
“นาย…ฉัน…” อันซย่าซย่ารู้สึกมีน้ำโหมากเสียจนเธอเหวี่ยงกำปั้นไปที่ใบหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อ
ผัวะ!
แล้วเธอก็ต่อยจนได้
เซิ่งอี่เจ๋อถึงกับพูดไม่ออก
อันซย่าซย่า “…”
แฟนหนุ่มเจ้าเล่ห์กัดฟันกรอด เขาดันอันซย่าซย่าแนบประตู ก่อนประกบริมฝีปากของเขากับเธอ
อันซย่าซย่าร้องเล็กน้อย พยายามดิ้น แต่ทว่าเขายกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะและจับมันไว้แน่น เขาบดขยี้ริมฝีปากหนักขึ้น
เธอรู้สึกว่ามันยาวนานเหลือเกินกว่าที่เขาจะยอมปล่อยเธอ เขาแสยะยิ้ม “ต่อยฉันอีกไหมล่ะ จะได้จูบกันอีกไง”