ตอนที่ 240 101 วิธีหวานแหวว (1)
อันซย่าซย่าโอด “ไม่ ไม่ต้องทำอย่างนั้นหรอก ฉันจะไปจำกลอนแล้ว…จะทำแล้ว”
เซิ่งอี่เจ๋อยอมปล่อยเธอด้วยความพึงพอใจ เขาฉีกยิ้มกว้างขึ้นเมื่อมองดูอันซย่าซย่านั่งลงที่โต๊ะด้วยใบหน้าอันบึ้งตึง
–
ถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะเป็นแฟนกันแล้ว เซิ่งอี่เจ๋อก็ไม่ได้ละเลยเรื่องความเหมาะสม เขาออกจากห้องของเธอในไม่กี่นาทีถัดมา
ในห้องนั่งเล่น ฉีเหยียนซียังคงพูดคุยกับป่าป๊าอัน ถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่ก็ปฏิบัติตนอย่างมีมารยาท จนเห็นได้ชัดเลยว่าป่าป๊าอันชอบเขามาก
สายตาของเซิ่งอี่เจ๋อและฉีเหยียนซีประสานกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเงียบเข้าครอบงำไปชั่วครู่ จากนั้นฉีเหยียนซีขออนุญาตป่าป๊าอันเพื่อเดินไปหาเซิ่งอี่เจ๋อ
“คุยกันไหม”
เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้ารับไปอย่างนั้น
ทั้งสองขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า
ท้องฟ้าเบื้องบนถูกแต่งแต้มไปด้วยหมู่ดาวระยิบระยับ แสงไฟอันพร่ามัวจากตัวเมืองมากมายรายล้อมรอบตัว และลมฤดูหนาวที่เยือกเย็นจนรู้สึกคล้ายผิวกายโดนเฉือน
ทั้งสองยืนอยู่ริมขอบชั้นดาดฟ้าโดยไม่ได้เข้าปะทะกัน เป็นสถานการณ์ที่พบเจอได้ไม่บ่อยนัก ฉีเหยียนซีคีบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋า ในขณะที่เขากำลังจะจุดไฟ ดูเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างทำให้เขาปาบุหรี่มวนนั้นใส่เซิ่งอี่เจ๋อ
เซิ่งอี่เจ๋อรับบุหรี่มวนนั้นไว้โดยไม่แม้แต่จะชายตามองเขา เขาไม่ได้จุดไฟ แต่ทว่านำบุหรี่มาควงเล่น
“นายกับยัยซื่อบื้อซย่าคบกันอยู่เหรอ” ฉีเหยียนซีถามด้วยอารมณ์โกรธ
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มแทนคำตอบ
“บ้าจริง” ฉีเหยียนซีสบถในลำคอ จากนั้นเขาด่าว่าพลางชี้ไปที่จมูกของเซิ่งอี่เจ๋อ “บัดซบ! ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ พวกผู้หญิงเห็นอะไรในตัวแกวะ!”
เซิ่งอี่เจ๋อไม่พูดอะไรและมองด้วยสายตาเย็นชา
ฉีเหยียนซียังคงตะโกนด่าต่อ แต่ทว่าจู่ๆ เขาก็ยอมแพ้และถอนหายใจออกมา
เขาแพ้อีกแล้วสินะ
เซิ่งอี่เจ๋อเอาชนะเขาได้อีกแล้ว
ทั้งสองมองออกไปยังไฟนับร้อยนับพันดวงจากตัวเมือง ต่างคงต่างขบคิด
คนหนึ่งคิดเรื่องแฟนเก่าที่กลับมา ส่วนอีกคนหนึ่งก็คิดดีใจที่เขามีแฟน
“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนเป็นอุบัติเหตุ” สักพักหนึ่ง เซิ่งอี่เจ๋อก็โพล่งออกมา
ใบหน้าของฉีเหยียนซีคร่ำเคร่งขึ้นทันทีที่เขาได้ยิน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ไป! ไปให้พ้นหน้าฉัน!”
“เกลียดฉันต่อไปเถอะ” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้ม เขาดูไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ โดยสิ้นเชิง
ภาพดังกล่าวนั้นยั่วให้ฉีเหยียนซีต่อยเข้าที่ใบหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อ เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้วก่อนต่อยกลับโดยสัญชาตญาณ จากนั้นทั้งสองก็เข้าต่อสู้กัน
ร่างสูงทั้งสองฉะกันไปทั่วบริเวณชั้นดาดฟ้า ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
การปะทะยังดำเนินต่อไปจนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าย่างกรายเข้ามา พร้อมกับเสียงแหลมสูงของหญิงสาว
“อ๊าย! หยุดไล่ฉันนะเสี่ยวไป๋! ช่วยด้วย!”
“เหมียว~ เหมียว~” เจ้าแมวไล่ตามเธอมา
เซิ่งอี่เจ๋อและฉีเหยียนซีตกใจ พวกเขารีบสาวเท้ากลับมายืนจุดเดิมของตนเองโดยไวและทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ประตูชั้นดาดฟ้าเปิดออกดังปัง ปรากฏให้เห็นเป็นอันซย่าซย่าเดินขึ้นมา เธอกรี๊ดพลางรีบปิดประตูโดยพลัน พวกเขาได้ยินเสียงเจ้าเสี่ยวไป๋ข่วนประตูอีกฝั่งและร้องเหมียวๆ ไปพร้อมกัน
“ฮ่า…กำจัดมันได้ละ” อันซย่าซย่าตบหน้าอกของตนเองเบาๆ ตัวยังคงสั่นเทา ก่อนเธอจะสังเกตเห็นว่าเซิ่งอี่เจ๋อกับฉีเหยียนซีก็อยู่ข้างบนนี้เช่นกัน!
เธอส่งเสียงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ “นายสองคนขึ้นมาทำอะไรบนนี้”
ทั้งสองทำตัวปกติและไม่ได้ตอบอะไร
“ไม่ได้ทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหม” อันซย่าซย่าถาม พวกเขาเกือบทำเธอปวดหัวเลย
“เปล่า!” พวกเขาตอบเป็นเสียงเดียวกัน
อันซย่าซย่ามองพวกเขาด้วยความสงสัย “แล้วขึ้นมาทำอะไรล่ะ”
เซิ่งอี่เจ๋อตอบ “…มาชมวิวไง”
ฉีเหยียนซีตอบ “…ดูดาวแล้วก็ดูฮวงจุ้ยน่ะ”
อันซย่าซย่าไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป
เซิ่งอี่เจ๋อเข้าไปหาเธอและจูบเธอที่หน้าผาก เพื่อที่เธอจะได้ไม่ถามอะไรอีก “มาเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเสี่ยวไป๋ให้เธอเอง แล้วจะพาเธอเดินลงไปนะ”
ตามคาด อันซย่าซย่าแก้มแดงก่ำ แต่ทว่าเธอปฏิเสธ “เดี๋ยวก่อน ฉันต้องคุยกับฉีเหยียนซี”
ตอนที่ 241 101 วิธีหวานแหวว (2)
เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้ว รังสีความไม่พอใจแผ่ออกมาจนสามารถสังเกตเห็นได้
ทว่าเมื่อเห็นว่าหญิงสาวคาดหวังมากเพียงใด เขาจึงพิจารณาคำขอของเธอ
ก็ได้ ก็ได้ เขาจะเป็นแฟนที่ใจกว้าง
“เธอมีเวลาหนึ่งนาที” เขาพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น
เดี๋ยวนะ ให้คุยแค่หนึ่งนาทีนี่ใจกว้างแล้วเหรอ
เมื่อได้ยินดังนั้น อันซย่าซย่ารู้สึกเหมือนจะร้องไห้
“ฉีเหยียนซี ฉันเคยช่วยนาย นายจะขอบคุณฉันใช่ไหม” อันซย่าซย่ามองฉีเหยียนซี
ฉีเหยียนซีกลอกตา “แค่ต้องมาเห็นพวกเธอสองคนหวานแหววกันมันยังไม่พอเหรอ ต้องมาขอบคุณเธออีก ยัยซื่อบื้อซย่า เธอขอมากเกินไปแล้วนะ!”
“นี่! นาย!” อันซย่าซย่าพูดอย่างโมโห ความเจ้าเล่ห์ปรากฏในดวงตาของเธอ “นายตกลงจะลงเล่นบาสเกตบอลไม่ใช่เหรอ เซิ่งอี่เจ๋อ นายก็เล่นนี่นา ใช่ไหม”
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้ว ก่อนจะมองเธอด้วยสายตา “ใช่แล้ว”
เขาไม่ยอมแพ้ฉีเหยียนซีต่อหน้าแฟนของเขาหรอกนะ!
“ฉีเหยียนซี นี่คือสิ่งที่ฉันอยากให้นายทำ ตั้งแต่เริ่มต้นของการฝึกลงเกมจริง นายต้องทำตามที่เซิ่งอี่เจ๋อบอก ไม่ว่ายังไงก็ตาม!” ถึงแม้รอยยิ้มของอันซย่าซย่าจะน่าเอ็นดู แต่คำขอของเธอทำให้เขาต้องหวั่น
บ้าเอ๊ย! ยัยผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว!
“เธอคิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะยอม ฝันไปเถอะ” ไม่มีทางที่นายน้อยรองคนสุดท้องแห่งตระกูลฉีจะทำให้ตัวเองขายหน้าโดยการทำตามคำสั่งของผู้หญิงต่ำต้อยหรอกนะ!
“หนึ่งนาทีของเธอหมดแล้ว” เซิ่งอี่เจ๋อกำลังจะลากอันซย่าซย่าออกไป แต่ทว่าเธอไม่ยอมจำนน “ไม่ เขายังไม่ตอบตกลงเลย แล้วก็ดูเหมือนจะไม่ยอมด้วย…”
รอยยิ้มพลันปรากฏบนใบหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อ รอยยิ้มนั้นทำให้เธอนึกถึงแสงแรกหลังฤดูหนาว “ไม่ต้องห่วง ฉันจะอัดมันจนกว่ามันจะยอม! เอาล่ะ เป็นเด็กดีแล้วไปนอนได้แล้ว”
“โอ้…ก็ได้…” อันซย่าซย่าพยักหน้า ก่อนมองเซิ่งอี่เจ๋อด้วยสายตาจริงจัง “ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันคงต้องพานายไปตรวจที่โรงพยาบาล นายจะลงเล่นได้ต่อเมื่อหมอตรวจนายแล้วเท่านั้น!”
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มอีกครั้ง “ตามที่เธอพูดเลย”
ทั้งสองเดินจากไป ท่าทางรักใคร่หวานซึ้ง ยิ่งทำให้ฉีเหยียนซีช้ำใจมากขึ้น
เขาไม่เพียงแต่โดนข่มขู่ เขายังต้องมองทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน…
ให้ตายสิ บนโลกนี้ไม่มีที่ให้คนโสดเลยหรือไง
เขามองดูเซิ่งอี่เจ๋อไล่เจ้าเสี่ยวไป๋และพาอันซย่าซย่าลงไปจากชั้นดาดฟ้าด้วยความอิจฉา
หมอนั่นโชคดีจริงๆ ที่มีแฟนดีขนาดนี้
เขาต้องมีความสุขมากแน่ๆ
–
วันถัดมา
ในคาบวรรณกรรม
อาจารย์ประจำชั้นไป่จื่อเย่ว์เป็นคนสอน เธอเป็นอาจารย์ที่เก่งมาก ทำให้นักเรียนทั้งห้องฟังเธอบรรยายอย่างตั้งใจ
วันนี้เรียนเรื่องบทกลอนจีนโบราณ ซึ่งเป็นเรื่องที่เซิ่งอี่เจ๋อทำให้อันซย่าซย่าต้อง “ทรมาน” มากที่สุด
เซิ่งอี่เจ๋อฟังอาจารย์อย่างเงียบๆ แต่ทว่าเขารู้สึกได้ถึงสายตาอันขุ่นเคืองของอันซย่าซย่าที่มองมา
“อันซย่าซย่า เธอชอบกวีคนไหนมากที่สุด” อาจารย์ไป่จื่อเย่ว์ถามคำถามอันซย่าซย่า เมื่อเห็นว่าเธอใจลอย
อันซย่าซย่ากลับมาได้สติ เธอลุกขึ้นยืนและส่ายไปมา เพราะเธอไม่รู้ว่าจะต้องตอบยังไงดี
เธอลอบส่งสายตาข้อความช่วยเหลือจากเซิ่งอี่เจ๋อ เขายิ้มเล็กน้อย ก่อนจะย้ำคำถามให้เธอฟัง
อันซย่าซย่าคิดคำตอบ “หนูคิดว่าเฉินจื่ออั๋งค่ะ…”
อาจารย์ไป่จื่อเย่ว์ประหลาดใจเล็กน้อย “เขาไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นะ บทกลอนของเขามีเพียงไม่กี่บทที่ยังคงได้ยินอยู่จนถึงทุกวันนี้ และบทที่โด่งดังที่สุดมีการเอ่ยถึงในละครทีวี ‘องค์หญิงกำมะลอ’ กลอนบทนั้นกล่าวว่า ‘ผิบรรพชนมิยลก่อน ไยจักมีคำสอนบอกลูกหลาน เฉกฟ้าดินผินผันตามกลกาล แม้นห้าวหาญข้ายังครวญรัญจวนใจ’ อันซย่าซย่า เธอช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหมว่าทำไมเธอถึงชอบเขา”
อันซย่าซย่ารู้สึกเหมือนจะร้องไห้ “เพราะว่าบทกลอนของเขามีไม่กี่คำ จำง่าย แล้วเขาก็ไม่ได้แต่งกลอนทุกครั้งที่เมาค่ะ…”
ฮึ…
ทั้งห้องหัวเราะครืน