ตอนที่ 242 จูบที่รสเหมือนบ๊วยเคลือบน้ำตาล (1)
แม้แต่เซิ่งอี่เจ๋อยังห้ามตัวเองไม่ให้อมยิ้มไม่ได้
อาจารย์ไป่จื่อเย่ว์ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี จากนั้นเธอทำท่าให้อันซย่าซย่านั่งลง
ทั้งห้องยังคงหัวเราะไม่หยุด
“แต่งกลอนทุกครั้งที่เมางั้นเหรอ…มาคิดดูแล้ว เอามาใช้กับกวีคนอื่นได้อีกหลายคนเลย พวกเขาแต่งกลอนตอนกิน ตอนดื่ม แล้วก็ตอนเลิกกับแฟน!”
“เฮ้อ ฉันพนันได้เลย พวกเขาไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ตัวเองขีดเขียนจะทำให้พวกเราต้องมาพยายามนั่งจำแน่ๆ”
“เหมือนพวกนักปรัชญาแล้วก็คนดังอีกหลายคนเลย…ไม่ว่าพูดอะไรก็กลายเป็นคำคมเฉย”
ได้ยินบทสนทนาดังนั้น อันซย่าซย่ามุดหัวลง
เซิ่งอี่เจ๋อหยอกเธอ “อันซย่าซย่า คืนนี้เราจำกลอนบทไหนกันดี”
อันซย่าซย่าทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอหยิกเอวของเขาใต้โต๊ะพลางเบะปาก “นายนี่น่ารำคาญจริงๆ!”
เซิ่งอี่เจ๋อไม่ได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขากลับจับมือของเธอเข้ามาในกระเป๋ากางเกงของเขา
อันซย่าซย่างงงัน เธอมองเขาล้วงมือตัวเองเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเช่นกัน
พวกเขากำลังจับมือกันระหว่างเรียนในเช้าของฤดูหนาว
เลือดฝาดแก้มของอันซย่าซย่า เธอพยายามดึงมือออกหลายครั้ง แต่ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อก็หยุดเธอไว้ทุกครั้ง
โชคดีที่ที่นั่งของพวกเขาอยู่ตรงมุมห้องบริเวณแถวที่สองนับจากแถวสุดท้าย ประกอบกับเสื้อหนาๆ สำหรับกันหนาว ถ้าไม่มองใกล้ๆ ละก็ ไม่มีทางเห็นเลยว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่
อย่างไรก็ตาม เหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงที่นั่งอยู่ข้างหลังพวกเขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
ฉือหยวนเฟิงนำมือมาวางไว้บนหัวใจของตนเองพลางพูดด้วยความเจ็บปวด “พี่จยาอวี๋ ไม่คิดว่าการที่สองคนนี้มานั่งข้างหน้าเราเป็นการทรมานคนโสดเหรอ อ๊ากกก! ไปลงนรกซะ! อยากเห็นโดนไฟเผาจริงๆ!”
เหอจยาอวี๋ยิ้มนิดๆ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะเหม่อลอยทุกครั้งที่เหลือบมองถุงกระดาษใต้โต๊ะ
มันคืออาหารบำรุงร่างกายที่ซูเสี่ยวมั่วให้เขา ภายในถุงบรรจุด้วยถั่วนานาชนิด เธอบอกว่าเขาเอาไปทำซุปได้
ใครเขาให้ของพรรค์นี้กัน…
เฮ้อ…
ถึงแม้จะถอนหายใจ แต่ก็มีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า
–
สุดสัปดาห์
ในขณะที่ฉือหยวนเฟิงและเหอจยาอวี๋ไปทำกิจกรรมโปรโมต เซิ่งอี่เจ๋อขอไม่ไปด้วย เขาให้เหตุผลว่าเพราะป่วย ส่งผลให้แฟนคลับแสดงความเสียใจกันทั้งแอปเวยปั๋ว
ตอนนี้ ไอดอลระดับประเทศขวัญใจสาววัยรุ่นจำนวนมหาศาลกำลังถกเถียงกับแฟนสาวเรื่องบ๊วยเคลือบน้ำตาล
“ทำไมถึงซื้อไม่ได้ ฉันกินเองถ้านายไม่กิน!”
“มันไม่ถูกสุขลักษณะ ต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ดีต่อสุขภาพ อีกอย่าง เธอไม่โตเกินอะไรแบบนี้ไปหน่อยเหรอ”
“ฉันไม่สนหรอก! ฉันอยากกิน! เปิดประตูนะ!”
คนขับรถวัยกลางคนปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก เขาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อพบว่านายน้อยคิดเช่นนั้น
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากการที่อันซย่าซย่าไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเซิ่งอี่เจ๋อ พาเขาไปตรวจสุขภาพ เมื่อมาถึงครึ่งทาง อันซย่าซย่าก็มองเห็นบ๊วยเคลือบน้ำตาลในร้านขายขนม เธอเลยขอให้คนขับจอดรถ แต่ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อคิดว่ามันไม่ถูกสุขลักษณะ เลยไม่ให้เธอซื้อ
เซิ่งอี่เจ๋อทำหน้าบึ้ง เขาไม่ยอมเปิดประตูรถ
อันซย่าซย่าทำหน้าย่น เธอชี้นิ้วไปที่เซิ่งอี่เจ๋อ ก่อนจะกล่าวหาเขา “นายไม่รักฉันแล้วใช่ไหมล่ะ”
“…” เซิ่งอี่เจ๋อพูดไม่ออก เธอคิดอย่างนั้นได้ยังไงกัน
“ตกลงรักฉันใช่ไหม” อันซย่าซย่าถามขณะมองหน้าเขา “งั้นเปิดประตูให้ฉันสิ! เดี๋ยวฉันแบ่งให้นายกิน~”
เมื่อเห็นหญิงสาวทำตัวน่ารัก เซิ่งอี่เจ๋อส่ายหัวเป็นเชิงยอมแพ้ ก่อนปลดล็อกประตู
อันซย่าซย่ากระโดดลงจากรถด้วยความร่าเริง เซิ่งอี่เจ๋อถามไล่หลังเธอ “นั่นเธอมีเงินติดตัวบ้างไหมน่ะ”
ร่างเล็กหันกลับมาเมื่อนึกขึ้นได้
เซิ่งอี่เจ๋อโยนกระเป๋าสตางค์ของเขาให้อันซย่าซย่า เธอฉีกยิ้มกว้าง “จ๊วบ!” จากนั้นเธอวิ่งหายเข้าร้านไป
เซิ่งอี่เจ๋อคิดว่านั่นเป็นการจูบจริงๆ เขาเลิกคิ้ว
จ๊วบ…โอเค~
ตอนที่ 243 จูบที่รสเหมือนบ๊วยเคลือบน้ำตาล (2)
สองนาทีหลังจากนั้น อันซย่าซย่าเดินออกมาจากร้านพร้อมแท่งบ๊วยเคลือบน้ำตาลในมือ
เธอกัดขนมในมือทันทีที่เธอขึ้นรถ
อืมมม หวานเหมือนที่เธอจำความได้เลย!
เมื่อเห็นใบหน้ากลมปุ๊กแสนน่ารักของเธอ เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มออกมา “อร่อยขนาดนั้นเลย?”
คำถามนั้นแสนธรรมดา แต่ทว่าซย่าจอมตะกละตกใจราวได้ยินเสียงสายฟ้าฟาด
เธอค่อยๆ เขยิบหนีไปอีกด้านหนึ่งของตัวรถอย่างระมัดระวัง ก่อนกระซิบเสียงเบา “ใช่…”
เซิ่งอี่เจ๋อมองดูการกระทำของเธอ “เธอเขยิบหนีทำไม คิดว่าฉันจะแย่งงั้นเหรอ”
อันซย่าซย่าพยักหน้ายอมรับ
เซิ่งอี่เจ๋อพูดไม่ออก
อันซย่าซย่ารีบกินบ๊วยแต่ละแท่งให้หมดภายในคำเดียวอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงแท่งสุดท้าย
บ๊วยสีแดงสดแต่ละแท่งเคลือบด้วยน้ำเชื่อมแข็ง เซิ่งอี่เจ๋อมองดูเธอกิน แต่อันซย่าซย่ากลับเข้าใจผิดว่าเขาคิดจะแย่งขนมของเธอ…
อันที่จริง…นายน้อยหนุ่มผู้ร่ำรวยอย่างเซิ่งอี่เจ๋อไม่เคยลองกินขนมธรรมดาๆ แบบนี้มาก่อน!
เธอยื่นบ๊วยเคลือบน้ำตาลให้เขา “อยากลองชิมไหม”
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้ว โอ้ การที่สาวน้อยคนนี้เต็มใจเอ่ยปากชวนเช่นนี้ แสดงว่าเธอก็แคร์เขาอยู่หน่อยๆ แหละนะ
เขาหัวเราะเบาๆ แต่ทว่าขณะที่เขากำลังจะกัดขนม อันซย่าซย่าชักมือกลับ และเอ่ยอย่างไม่เต็มใจนัก “แต่เหลือแค่แท่งเดียว…”
“อันซย่าซย่า!” เซิ่งอี่เจ๋อทำหน้าเครียด ยัยผู้หญิงขี้งกนี่!
อันซย่าซย่าไม่อยากทำให้เขาหงุดหงิด แต่เธอก็ไม่อยากแบ่งขนมของเธอให้เขาเหมือนกัน จนสุดท้าย เธอเสนอแนะบางอย่างที่ทำให้เซิ่งอี่เจ๋อไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะเมื่อได้ฟังดี “เซิ่งอี่เจ๋อ นายไม่ชอบของหวานๆ อยู่แล้วนี่นา งั้นนายแค่เลียก็พอ แล้วเดี๋ยวฉันกินที่เหลือเอง!”
กาาา กาาา กาาา
เซิ่งอี่เจ๋อแทบเห็นภาพฝูงนกอีกาบินผ่านศีรษะของเขาไป ทิ้งขนปลิวว่อน
“แค่เลียเนี่ยนะ ฉันมีความคิดที่ดีกว่านั้น…” เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะเบาๆ อย่างมีเลศนัย อันซย่าซย่าดีใจ “ความคิดอะไรเหรอ”
ไม่ว่าอะไรก็ดีกว่าการมากินบ๊วยเคลือบน้ำตาลของเธอทั้งนั้นแหละ! จอมตะกละย่อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องอาหารไว้! ใช่แล้ว!
แววตาของเซิ่งอี่เจ๋อเปล่งประกาย เขาผลักอันซย่าซย่าติดเบาะ จากนั้นประกบริมฝีปากของเขาลงไปบนริมฝีปากของเธออย่างแรง
อันซย่าซย่าไม่ทันตั้งตัว “อื้อออ…”
เธออุตส่าห์คิดว่าตัวเองสามารถปรับตัวกับสถานะแฟนได้แล้วเชียว แต่เธอยังไม่พร้อมกับการแสดงความรักแบบนี้
เขาจูบเธออีกแล้ว!
ปากเล็กๆ ของเธอยังปิดไม่สนิทดี เซิ่งอี่เจ๋อเปิดปากของเธอและบดขยี้หนักขึ้น ลิ้นของเขาสอดเข้าไปพัวพันกับลิ้นของเธอ
เป็นไปตามคาด รสชาติของน้ำเชื่อมหวานชื่นใจท่วมปากของเขา…
เสียง “จ๊วบ” อันยาวนานยังคงดำเนินต่อไป…
คนขับรถเปิดเพลงอย่างใจเย็นและขับต่อไปโดยไม่ชำเลืองมองกระจกมองหลัง
โฮะๆ นายน้อยหนุ่มของเขานี่สุดยอดไปเลย!
–
ที่โรงพยาบาล
ในขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อกำลังตรวจร่างกาย อันซย่าซย่าคุยกับหมอแก้เบื่อ
“คุณลุงหมอคะ เขาพร้อมจะลงเล่นจริงๆ ใช่ไหมคะ”
“แค่กล้ามเนื้อตึงเฉยๆ น่ะ ไม่มีอะไรน่ากังวลหรอก เดี๋ยวต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมอีกทีนะ” หมอตอบพร้อมรอยยิ้ม “หนูเป็นห่วงเขามากเลยเหรอ หนูถามคำถามเดิมมาเจ็ดรอบแล้วนะ…”
“เอ่อ…หนูแค่ไม่อยากให้เขาเป็นอะไรน่ะค่ะ” อันซย่าซย่าก้มหัวลงอย่างเหนียมอาย เธอกัดริมฝีปากล่างตามนิสัย แต่กลับต้องเจ็บตัวซะงั้น
ทั้งหมดเป็นความผิดของเซิ่งอี่เจ๋อ! ปากของเธอต้องบวมแน่ๆ!
เซิ่งอี่เจ๋อกลับเข้ามาภายในห้องและเห็นว่าพวกเขาสนทนากัน
เขาเดินไปหาอันซย่าซย่าและลูบผมของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ซย่าซย่า มากับฉันหน่อยสิ ฉันจะให้เธอเจอบางคน”
“หา ใครเหรอ”
เซิ่งอี่เจ๋อเว้นวรรคเล็กน้อย “พ่อของฉันเอง ฉันเพิ่งเจอเขาน่ะ”