ตอนที่ 246 พวกคนร้ายที่เหลืออยู่ไหน (2)
เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนพร้อมตะโกนลั่น “พวกเขาไม่ใช่ตำรวจ! เป็นพวกค้ามนุษย์! หนูเป็นนักเรียนโรงเรียนมัธยมฉีซย่า หนูไม่ใช่ขโมยนะ! ช่วยด้วย…ช่วยด้วย…ฮือออ…”
เมื่อได้ยินเธอร้องอ้อนวอน คนหนึ่งในฝูงชนตั้งคำถาม “หรือว่าเธอจะพูดความจริง…”
“เธอโกหก!” คุณยายคนก่อนหน้านี้ยืนยันหนักแน่น “เธอเป็นขโมย! ปล่อยให้ตำรวจจัดการเถอะ!”
อันซย่าซย่าแทบเป็นบ้า เธอเคยได้ยินมาว่าคนยิ่งแก่ยิ่งนิสัยไม่ดี ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าเป็นเพราะคนนิสัยไม่ดีอายุมากขึ้นต่างหากล่ะ!
นี่มันบ้ากันไปใหญ่แล้ว!
เป็นไปได้ไหมว่า…คนพวกนี้ทำงานกันเป็นทีม
พอคิดเช่นนั้นแล้ว อันซย่าซย่ายิ่งกลัวมากขึ้น
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ นี่มันเจตนาลักพาตัวนี่…
เธอลอบมองโทรศัพท์ของเธอในกระเป๋าและกดเบอร์ของเซิ่งอี่เจ๋อ ก่อนจะทำท่าทีขัดขืนต่อ
ฝ่ามือที่ปิดปากของเธอคลุ้งกลิ่นเหม็นของบุหรี่ราคาถูก เธอหายใจไม่ออกจนไม่สามารถพูดต่อได้
ความหวังเดียวของเธอ…คือเซิ่งอี่เจ๋อ
เซิ่งอี่เจ๋อ ฮึก … ทำไมนายไม่มาช่วยฉันสักที
ชายสองคนในชุดตำรวจลากตัวอันซย่าซย่าขึ้นรถ มีคนหนึ่งในฝูงชนตระหนักได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง “เฮ้! นั่นไม่ใช่รถตำรวจนี่นา ใช่ไหม!”
“อ๋อ…เราเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบน่ะ ก็ต้องไม่ขับรถตำรวจสิ…ฮ่าๆ” ชายในชุดเครื่องแบบคนหนึ่งอธิบาย
“เหวย! เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบแล้วใส่เครื่องแบบทำไม คงไม่ได้เป็นพวกค้ามนุษย์ใช่ไหม ผมเพิ่งอ่านวิธีลักพาตัวแบบใหม่นี้ในเน็ต!” ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกน
นั่นทำให้ทุกคนเอะใจ จากนั้นคนอื่นๆ เริ่มตั้งข้อสงสัย เมื่อชายทั้งสองคนเห็นว่าหลายๆ สิ่งเริ่มไม่เป็นไปตามแผน พวกเขาใช้กำลังพาอันซย่าซย่าไปที่รถ
อันซย่าซย่าพยายามขัดขืน เธอใช้ขาสั้นๆ ของเธอเตะเข้าไปที่เป้าของชายคนหนึ่ง เขาร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนผลักอันซย่าซย่ากระเด็น
อันซย่าซย่าล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง อย่างไรก็ตาม ไม่มีเวลาจะมาร้องไห้ให้กับความเจ็บปวด เธอรีบลุกขึ้นยืน
ในช่วงชุลมุน เธอบังเอิญเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่ง เธอกำลังจะกล่าวขอโทษ แต่ทว่ากลิ่นเลม่อนจางๆ เตะจมูก
เซิ่งอี่เจ๋อ!
เมื่อเธอเงยหน้ามองก็พบว่าใช่เขาจริงๆ เซิ่งอี่เจ๋อใบหน้าเคร่งเครียด เขาดันเธอเข้าแนบอก ก่อนยิ้มเยาะให้กับชายสองคนที่ตรงดิ่งเข้ามาหาเขา “คุณตำรวจครับ คุณควรจะใช้กำลังในการรักษากฎหมายงั้นเหรอ”
“ไอ้สะเออะ! เป็นใครถึงกล้ามาสั่ง! ส่งตัวขโมยมาให้เรา ไม่งั้นจะจับข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่!”
“ขโมย…” เซิ่งอี่เจ๋อพูดย้ำด้วยเสียงต่ำ เขาหรี่ตา “ถ้าคิดว่าเธอเป็นขโมย งั้นเราคืนของให้ไหมล่ะ”
ชายทั้งสองคนรวมถึงคู่รักตะลึงงันกับวิธีที่เขาโต้ตอบ
มีคนหนึ่งในฝูงชนจำเซิ่งอี่เจ๋อได้ เธอหวีดร้อง “โอ้พระเจ้า! นั่นเซิ่งอี่เจ๋อ! เซิ่งอี่เจ๋อวงสตาร์รี่ไนต์!”
เกิดความวุ่นวายขึ้นในฝูงชนทันที เซิ่งอี่เจ๋อทำท่าทางให้พวกเขาเงียบ
เหล่าแฟนคลับสาวที่กำลังบ้าคลั่งหยุดนิ่งราวกับต้องมนตร์สะกด พวกเธอยิ้มด้วยความหลงใหล
เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายทั้งสองพยายามลอบหนีขึ้นรถ จากนั้นเสียงไซเรนรถตำรวจดังขึ้นและเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายก็กระจายกำลังเข้าจับกุมชายทั้งสอง
เซิ่งอี่เจ๋อลูบผมของอันซย่าซย่าอย่างอ่อนโยน แต่ทว่าน้ำเสียงของเขากลับเยือกเย็น “พวกคนร้ายที่เหลืออยู่ไหน”
อันซย่าซย่าสะอึกสะอื้น เธอส่ายหน้า ก่อนจะพูดด้วยความเสียใจ “เซิ่งอี่เจ๋อ คราวหลังมาให้เร็วกว่านี้นะ!”
หัวใจของเซิ่งอี่เจ๋อหยุดเต้นไปชั่วขณะ สีหน้าเขาอ่อนโยนมากขึ้น เขาสัญญาด้วยเสียงต่ำ “ฉันจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
ตอนที่ 247 เขาเป็นแฟนของฉันจริงๆ นะ! (1)
อันซย่าซย่ารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่าน เธอรู้สึกมีก้อนจุกในลำคอ
เมื่อกี้เธอรู้สึกกลัวมากจริงๆ
ทันทีที่เขาปรากฏตัว เธอก็เชื่อมั่นได้เลยว่าเขาสามารถช่วยเธอได้อย่างไม่มีข้อกังขา
คู่รักคู่นั้นรวมถึงคุณยายก็ถูกรวบตัวด้วยเช่นกัน ตำรวจนายหนึ่งอธิบาย “พวกนี้เป็นพวกค้ามนุษย์ที่ทำงานกันเป็นทีม แถมก่อเหตุที่อื่นมาหลายครั้งแล้ว ต้องขอบคุณแม่สาวน้อยหัวแหลมคนนี้ที่หยุดพวกมันไว้ เราถึงจับพวกมันได้”
อันซย่าซย่าซ่อนตัวหลังเซิ่งอี่เจ๋อ เธอมองเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างระแวง
เจ้าหน้าที่ตำรวจกระแอมในลำคอ “เอาละ…หนูต้องไปให้การเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา…”
อันซย่าซย่าส่ายหัว ตอนนี้เธอเป็นโรคกลัวตำรวจไปแล้ว…
เซิ่งอี่เจ๋อตอบแทน “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมให้คนไปเดินเรื่องเอง”
เจ้าหน้าที่ตำรวจมองเขาและคิดว่าเด็กคนนี้คงไม่โกหก เขาพยักหน้ารับก่อนจากไป
เซิ่งอี่เจ๋อรีบพาอันซย่าซย่ากลับโรงพยาบาล โดยให้กลุ่มบอดีการ์ดจัดการแฟนคลับ
ทั้งรูปและวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดถูกลบและเหตุการณ์นั้นก็เงียบหายไปแบบนั้นเลย
–
ที่โรงพยาบาล
อันซย่าซย่ายืนกรานว่าเธอไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ตาม เซิ่งอี่เจ๋อเป็นกังวล จึงให้เธอเข้ารับการตรวจร่างกาย
ทุกอย่างปกติดี เธอเพียงแค่อยู่ในอาการตกใจเท่านั้นและต้องการการพักผ่อน
ระหว่างทางกลับบ้าน เซิ่งอี่เจ๋อขอให้คนขับรถซื้อบ๊วยเคลือบน้ำตาลให้เธอ เธอจะได้มีความสุข
ซื้อเพิ่มให้เป็นสองเท่าเลย!
อันซย่าซย่าถือแท่งบ๊วยสองแท่งไว้ในมือพร้อมยิ้มหวาน ทำให้เซิ่งอี่เจ๋อเห็นแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก
เขาหยิกแก้มนิ่มๆ ของเธอพลางถอนหายใจ “ยัยซื่อบื้อเอ๊ย…”
ยัยซื่อบื้อไม่สนโลกของเขา
อันซย่าซย่ากัดบ๊วยคลือบน้ำตาล ก่อนยิ้มอย่างน่าเอ็นดู อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เธอโดนลักพาตัวทำให้เธอขบคิดอีกครั้ง
“เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันถามอะไรนายหน่อยสิ”
“หืม”
“ฉันดู…หลอกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ…ทำไมทุกคนต้องพยายามลักพาตัวฉันด้วย…” อันซย่าซย่าถามด้วยความไม่พอใจ เธอก็เคยมีประสบการณ์คล้ายกันนี้ตอนที่เธอยังเด็ก อันอี้เป่ยพาเธอไปซูเปอร์มาร์เก็ต ก่อนที่เธอจะหลงหายไปในฝูงชน อันอี้เป่ยตามหาเธอจนเขาแทบจะเป็นบ้า จนสุดท้าย เขาไปพบเธอจับมือกับชายแก่โรคจิตที่กำลังจ้องเธอตามันเยิ้ม
เรื่องนั้น!
เซิ่งอี่เจ๋อบิดปาก ก่อนที่เขาจะตอบตามความจริง “ใช่…”
อันซย่าซย่าเกือบจะร้องไห้
–
เมื่อกลับถึงบ้าน อันซย่าซย่าไม่อยากให้คนอื่นๆ ต้องเป็นห่วงเธอ เธอเลยไม่บอกครอบครัวเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม สายตาอันเฉียบคมของอันอี้เป่ยสะดุดเข้ากับรอยฟกช้ำบนแขนของอันซย่าซย่าขณะที่เธอม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อรับประทานเนื้อ
อันอี้เป่ยพูดเรื่องบาดแผลพร้อมชี้ไปที่เซิ่งอี่เจ๋อ “นี่อะไร ขโมยน้องสาวฉันไปแล้วยังไม่สนใจเธออีก! ฉันนี่ไม่อยากจะเชื่อเลย! แกต้องตอบมาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ! ไอ้เวร! กล้าดียังไงปล่อยให้เธอเจ็บตัว…” เขาแกว่งทัพพี พยายามจะฟาดไปที่หน้าของเซิ่งอี่เจ๋อ อันซย่าซย่ากลัวจนตัวสั่น เธอห้ามเขาไว้ “คิดหน่อย! อย่าใช้ความรุนแรงสิ!”
เมื่อเห็นว่าเธออยู่ข้างเซิ่งอี่เจ๋อ อันอี้เป่ยยิ่งโมโหมากกว่าเดิม “แค่อยู่ด้วยกันวันเดียวก็อยู่ข้างมันแล้วเหรอ อันซย่าซย่า ตอนเธอเด็กๆ ใครเป็นคนซักผ้าปูที่นอนตอนเธอฉี่ราด ใครซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ให้เธอ ใครแอบเอาขนมไปไว้ในตู้เสื้อผ้าให้เธอ ทำไมเธออยู่ข้างมัน!”
อันซย่าซย่าชะงัก ก่อนนั่งลงที่เดิม เธอกุมขมับและมองไปที่เซิ่งอี่เจ๋อด้วยความหงุดหงิด
เซิ่งอี่เจ๋อไม่ได้ผงะ เขาเพียงแค่กะพริบตา “งั้นผมให้ร่างกายของผมกับอันซย่าซย่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบดีไหมล่ะ”
ฮึ…
อันอี้เป่ยแทบจะคว่ำโต๊ะ “แกไม่รอดแน่!”