ตอนที่ 290 อนาคตตัวเอง หรือ อันซย่าซย่า (2)
หรงเช่อกำลังจะกดปุ่มซึ่งเป็นจังหวะกับที่เซิ่งอี่เจ๋อก้าวออกมาจากม่านด้านหลังคล้ายสัตว์ที่กำลังซุ่มอยู่ ชายหนุ่มดึงคอเสื้อของหรงเช่อก่อนจะปล่อยหมัดเข้าไปที่ใบหน้าเขาอย่างจัง
รีโมตคอนโทรลเล็กๆ หลุดจากมือของคนตรงหน้าและตกลงพื้นสภาพแตกกระจาย
ผู้ชมต่างตกใจ ความสับสนวุ่นวายเกิดขึ้นในทันที —
“เฮ้ย! นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“คุณพระช่วย ทำไมกัปตันอี่เจ๋อถึงต่อยเขาล่ะ”
“อ้าาา! เกิดอะไรขึ้น… พระเจ้าช่วย…”
“…”
เด็กสาวกรีดร้อง เด็กหนุ่มสบถ แม้แต่คุณครูและเจ้าหน้าที่ที่นั่งชมยังตกใจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกรูกันเข้ามาและทั้งหอประชุมก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายและความตื่นตระหนก…
บนเวที หรงเช่อกำลังยิ้มอย่างเป็นสุข แม้จะรู้สึกปวดตรงรอยช้ำบนก้ม แต่เขากำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตอยู่นะสิ!
“ทำยังไงต่อดีนะ… เซิ่งอี่เจ๋อ นายโดนถ่ายไว้อยู่นะ…”
ใบหน้าหล่อของเซิ่งอี่เจ๋อนั้นไร้อารมณ์ ที่ด้านหลังทั้งสอง นักข่าวที่เพิ่งสัมภาษณ์เขาไปเดินย้อนกลับมา หยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์รัวๆ
ใช่จริงด้วย เขาโดนถ่ายเอาไว้
ไอดอลชื่อดังระดับชาติถูกถ่ายได้ขณะกำลังชกต่อยคนอื่น
เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะเฮอะแล้วต่อยคนตรงหน้าไปอีกหมัดก่อนจะหยุด
สิ่งสุดท้ายที่ชายหนุ่มเห็นก่อนที่เจ้าพนักงานจะพาเขาออกไปคือดวงตาเบิกโพลงที่ฉาบไปด้วยความไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นของอันซย่าซย่า
ยัยเด็กโง่ ฉันดีใจที่เธอปลอดภัยนะ…
–
ตระกูลอัน
อันซย่าซย่านั่งนิ่งและรับรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันยุ่งเหยิงไปหมด
เธอทนไม่ไหวกับความวิตกกังวลนี้ แต่ก็ไม่กล้ามองขึ้นไปที่ชั้นสองเช่นกัน
เสียงตวาดตีโพยตีพายของพี่เคอดังขึ้นในห้องนั่งเล่นชั้นสอง “เซิ่งอี่เจ๋อ! นายบ้าไปแล้ว! นายมันโรคจิต! ทำไมถึงทำแบบนี้กับฉันได้ ไอ้เด็กเหลือขอ… ฉันอุตส่าห์ดูแลนายมาตั้งสามปีแต่สิ่งที่นายรู้กลับมีแต่เรื่องต่อยตีและสร้างปัญหา…”
ทุกคำด่าทำให้อันซย่าซย่ากระวนกระวาย ตลอดเวลานี้เซิ่งอี่เจ๋อไม่ปริปากแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะแก้ตัวหรือตื่นตระหนก
ชายหนุ่มดูสงบจนเหมือนไม่ใช่ปัญหาของตัวเอง
ทั้งในทีวี อินเทอร์เน็ต ข่าวบนแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ สื่อ… ข่าวกัปตันวงสตาร์รี่ไนต์เล่นงานคนอื่นเต็มไปหมด
ทุกอย่างเป็นเรื่องอื้อฉาว
สิ่งที่เหล่าคนดังทุกคนต่างหวาดกลัวกัน
ส่วนบนชั้นสาม เหอจยาอวี๋ทนไม่ไหวและพยายามเข้ามาช่วย “พี่เคอ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็คือเกิดขึ้นไปแล้ว แล้วตวาดใส่เซิ่งอี่เจ๋อก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอกนะครับ เอาเป็นว่าเราลองมาหาทางแก้กัน…”
“แก้บ้าแก้บออะไรล่ะ! ลืมเรื่องเซิ่งอี่เจ๋อซะ นายสองคนตกอยู่ในอันตรายแล้วเนี่ย! นี่อาจเป็นจุดจบของสตาร์รี่ไนต์ก็ได้! นายยังดูไม่ออกอีกหรือ!” เรื่องทุกอย่างนี้กำลังทำให้พี่เคอปวดท้อง
อันซ่าซ่าหาโทรศัพท์ของเธอแล้วโทรไปหาเฉี่ยวมู
เรื่องไปถึงหูเธอแล้ว เฉี่ยวมูทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ของเว่ยยาง เธอไม่ถามด้วยซ้ำว่าทำไมอันซย่าซย่าถึงโทรมาหาเธอ
ตัดเรื่องตลกออก หญิงสาวโพล่งถาม “ไม่มีวิธีสะสางปัญหาให้พวกเขาเลยหรือ”
เฉี่ยวมูถอนหายใจ “ซย่าซย่า… นี่มันเรื่องใหญ่นะ…”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเขาตั้งแต่แรก ปัญหาต่างๆ อาจตามมาได้ในอนาคตอันใกล้…
เรียกได้ว่าอนาคตของสตาร์รี่ไนต์นั้นกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ยิ่งอันซย่าซย่าฟังมากเท่าไร เธอยิ่งเศร้ากว่าเดิม หญิงสาวลอบกัดริมฝีปากตัวเองเงียบๆ
ก่อนจะวางสาย ลู่เคอก็ปรากฏตัวด้วยความโกรธและเริ่มตลาดใส่อันซย่าซย่า “เธอเป็นผู้ช่วยของเขาไม่ใช่หรือ ทำไมไม่หยุดเขาล่ะ! มันเป็นความรับผิดชอบของเธอด้วยพอๆ กับอี่เจ๋อนั่นแหละ!”
อันซย่าซย่าไม่ได้กลัว แต่เธอจ้องลู่เคอกลับ
ลู่เคอยังคงว่าต่อ “เธอมองฉันทำไม! จำไว้ด้วยว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสตาร์รี่ไนต์ เธอหนีไม่พ้นแน่!”
“ลู่เคอ เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน หุบปากไปเลย!”
“พอได้แล้ว! อย่าดึงเธอเข้ามายุ่งเรื่องนี้นะ!”
ตอนที่ 291 อนาคตตัวเอง หรือ อันซย่าซย่า (3)
สองเสียงดังขึ้นในเวลาเดียวกัน ทั้งสองต่างปกป้องอันซย่าซย่า
ลู่เคอแปลกใจ ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะเป็นคนถูกไล่แบบนี้
หญิงสาวกัดฟัน พูดกัยเซิ่งอี่เจ๋อผ่านไหล่ตัวเอง “จะทำอะไรก็เรื่องของนายแล้วกัน!” จากนั้นเธอก็เดินกระแทกส้นสูงออกไป
เฉี่ยวมู่กระแอมอยู่ปลายสาย ปลอบใจอันซย่าซย่าด้วยความลังเล “ซย่าซย่า อย่าไปสนใจเธอเลย เธอเป็นหมาป่าสาวของบริษัทอยู่แล้ว เธอเกรี้ยวกราดเป็นบางครั้ง เธอทำเด็กใหม่ร้องไห้อยู่บ่อยๆ …”
อันซย่าซย่ายิ้มอย่างขมขื่นและกดวางสาย
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น เธอเห็นเซิ่งอี่เจ๋อยืนอยู่ที่บันได ชายหนุ่มเหมือนจะถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินมือล้วงกระเป๋าลงมา เขาลูบหัวเธอ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ เธอดูแย่มาก”
“เซิ่งอี่เจ๋อ… นายต่อยเขาทำไม…” อันซย่าซย่าสับสนเหลือเกิน
เธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนประเภทหุนหันพลันแล่น แล้วอีกอย่าง ถ้าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ยังมีอีกตั้งร้อยพันวิธีที่จะยั่วโมโหหรงเช่อ ทำไมต้องทำแบบนั้นลงไป
เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปสักพักก่อนจะยิ้มให้เธอ “เขามันน่ารำคาญก็แค่นั้นแหละ… ไม่เป็นไรหรอก เธอไม่ต้องกังวลไป ไปล้างหน้าล้างตาแล้วพักผ่อนซะนะ”
ชายหนุ่มปลอบโยนอันซย่าซย่าราวกับกำลังหลอกล่อเด็กน้อยอยู่ จากนั้นเขาก็กลับหลังหันไปทางบันได แต่อันซย่าซย่าจับปลายเสื้อของเขาเอาไว้
เสียงอ่อนๆ ของเธอดังขึ้นจากด้านหลังเขา “เซิ่งอี่เจ๋อ… ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้ฉลาดขนาดนั้นแล้วฉันก็อาจจะช่วยอะไรนายไม่ได้ แต่… แต่ฉันจะอยู่เคียงข้างนายเอง! ฉันจะอยู่เคียงข้างนายเสมอ! ถ้านายไม่มีความสุข นายก็บอกฉันได้…”
หญิงสาวต้องการแบ่งเบาภาระของเซิ่งอี่เจ๋อบ้าง อย่างน้อยก็อยากลอง แม้ว่าเธอจะช่วยอะไรได้ไม่มากก็ตาม!
คำพูดพวกนั้นอบอุ่นหัวใจจนเซิ่งอี่เจ๋อไม่รู้จะตอบกลับยังไง
เขาควรจะเป็นคนปกป้องอันซย่าซย่าสิ แต่กลายเป็นว่าเด็กน้อยคนนี้กลับเป็นคนบอกเขาว่าเธอจะอยู่เคียงข้างเขาและช่วยเหลือเขา
“ฮึ่ม…” มันช่างเนิ่นนานจนเหมือนชั่วนิรันดร์ก่อนที่เขาจะตอบมา อันซย่าซย่ายิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะปล่อยเขาไป
เธอกลับไปยังห้องของตัวเอง แต่กลับรู้สึกกระสับกระส่าย ทันใดนั้นก็มมีเสียงเคาะประตู
หญิงสาวรีบวิ่งไปเปิดประตูและพบกับเด็กหนุ่มกำลังยิ้มให้เธออย่างเคอะเขินอยู่ด้านนอก “ขอฉันเข้าไปได้ไหม”
“อืม… ได้สิ”
เขาคือเหอจยาอวี๋
ชายหนุ่มยืนแก้วนมให้เธอ “กินนี่เสียหน่อย มันจะช่วยให้เธอหลับง่ายขึ้น”
อันซย่าซย่าขอบคุณอีกฝ่ายแต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามอีกฝ่าย “เหอจยาอวี๋ นายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเซิ่งอี่เจ๋อกับหรงเช่อน่ะ”
เหอจยาอวี๋ยิ้มเบี้ยวๆ “จริงๆ ฉันก็มาเพื่อคุยเรื่องนี้แหละ”
เว่ยยางเคยเลือกทั้งสามคนเข้ามาเป็นเด็กฝึก ในตอนนั้นหรงเช่อมีชื่อเสียงอยู่แล้วและตอนนั้นทั้งสามก็เป็นคนสุภาพกันมาก เรียกเขาว่า “รุ่นพี่” ตลอดเวลาที่พวกเขาพบกัน
หรงเช่อมีชื่อเสียงเพราะเป็นนักแสดงมากฝีมือ ความเป็นที่นิยมของเขาเริ่มลดน้อยลงหลังผ่านไปสักพัก แต่หลังจากนั้นหกเดือนอัลบั้มใหม่ของเขาก็ดังพลุแตกแถมได้รางวัลอีกมากมายด้วย เส้นสายต่างๆ ก็ตามมา เขาไม่ได้เป็นเพียงนักร้อง แต่ยังเริ่มแสดงในภาพยนตร์ ละครทีวี หรือกระทั่งเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ของช่องช่องหนึ่ง…
เท่านั้นเอง ชื่อของหรงเช่อก็เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศและได้รับฉายา “ราชาเพลงรัก”
ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงเดียวกับที่ข่าวฉาวและข่าวลือเริ่มดังไปทั่วเว่ยยาง
กลายเป็นว่าหรงเช่อไปไม่ถึงจุดที่เขาฝันเอาไว้เพราะความสามารถของตัวเอง… แต่เพราะชู้ต่างหาก
อันซย่าซย่ายู่หน้าตัวเองเล็กน้อย “เป็นชู้?”
“อะแฮ่ม…” เหอจยาอวี๋เริ่มรู้สึกว่าหัวข้อนี้กระอักกระอ่วน “ใช่… แล้วเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีแค่เจ๊เลี้ยงท่านั้น… แต่เขายังมีเสี่ยเลี้ยงอีกด้วย…”
ฟึ่บบบ —
อันซย่าซย่าพ่นนมออกปากกับประโยคนั้น