ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 296 การเปลี่ยนข้าง (2) / ตอนที่ 297 การเปลี่ยนข้าง (3)

ตอนที่ 296 การเปลี่ยนข้าง (2)

 

 

อันซย่าซย่าไม่นึกเลยว่าเบื้องหลังอันเลวทรามของหรงเช่อจะเปิดเผยออกมาเร็วขนาดนี้!

 

 

โพสต์ในเวยปั๋วถูกอัปโหลดโดยบัญชีของผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดอันโด่งดัง “คุณข่าวลือ” แต่ทว่าเขาลบโพสต์นั้นออกไปภายในเวลาไม่ถึงห้านาทีต่อมา

 

 

ปฏิกิริยาของผู้คนรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากโพสต์นั้นถูกลบออกไป บางคนได้คัดลอกและบันทึกโพสต์นั้นไว้ก่อนที่มันจะถูกลบและนำมาโพสต์ใหม่อีกครั้ง การถกเถียงยังคงดำเนินต่อไป

 

 

โพสต์ใหม่นั้นบอกรายละเอียดของสาขาเอกในมหาวิทยาลัยที่หรงเช่อเคยศึกษา รวมถึงเปรียบเทียบเพลง “ช่วงเวลาอบอุ่น” กับเพลง “คืนแต้มดาวอันยาวนาน” และเพลงอื่นๆ อีกหลายเพลงที่เซิ่งอี่เจ๋อแต่ง

 

 

ผู้แต่งแต่ละคนมีอุปนิสัยและลักษณะเฉพาะตัว และเห็นได้ชัดว่าเพลง “ช่วงเวลาอบอุ่น” เป็นผลงานของเซิ่งอี่เจ๋อ

 

 

มากไปกว่านั้น ผู้อัปโหลดยังมีประวัติแช็ตระหว่างหรงเช่อและตัวแทนของเขาอีกด้วย ซึ่งบทสนทนามีดังต่อไปนี้…

 

 

[เปลี่ยนชื่อผู้แต่งเป็นชื่อฉัน แล้วปล่อยเป็นซิงเกิลด่วน]

 

 

[เอ่อ เช่อ นายคิดว่าทำแบบนั้นถูกต้องแล้วเหรอ]

 

 

[ทำไมล่ะ พวกนั้นแค่มือใหม่ พวกมันจะทำอะไรฉันได้]

 

 

[ก็ได้]

 

 

ทั้งชุมชนโลกออนไลน์แตกตื่นเมื่อเห็นโพสต์ดังกล่าว และพวกเขาอยู่ข้างเซิ่งอี่เจ๋ออย่างไม่มีข้อแม้

 

 

[กัปตันอี่เจ๋อผู้น่าสงสารของฉัน! เขาถูกเข้าใจผิดไป!]

 

 

[ไอ้หรงเช่อคนหลอกลวง! ทำไมเขาถึงพูดเหมือนการลอกเพลงมันถูกต้องได้นะ ฉันว่าที่กัปตันอี่เจ๋อต่อยเขาคงเป็นแค่การสั่งสอนเบาๆ เท่านั้นแหละ มาเถอะ ไปเย้ยเขาในหน้าเพจเวยปั๋วของเขากัน ใครเอาด้วยบ้าง]

 

 

[มีข้อมูลเบื้องลึกเหตุการณ์ต่อยกันอีกไหม อ๊ากกก! อย่าเพิ่งหยุดกลางคันสิ! แล้วก็ ฉันคิดแบบนี้นะ: กัปตันอี่เจ๋อน่ะสุดยอดที่สุด! ฉันจะรักคุณจนวันตาย!]

 

 

“…”

 

 

ในขณะเดียวกัน เซิ่งอี่เจ๋อได้อัปโหลดโพสต์ใหม่ในหน้าเพจเว่อป๋อของเขา หลังจากที่เงียบมานาน

 

 

มันเป็นไฟล์เสียงบทสนทนาระหว่างเขาและหรงเช่อที่โรงพยาบาลในวันนั้น!

 

 

“…ยังคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าวงที่โด่งดังอยู่อีกเหรอ ฉันบอกไว้เลยนะ เดี๋ยวไม่ช้านายก็ต้องโดนเขี่ยทิ้ง!”

 

 

“…ฉันอยากบอกนายแค่อย่างเดียวเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของนายวันนี้…นายสมควรโดนแล้วล่ะ”

 

 

นอกเหนือจากไฟล์เสียงนั้น เซิ่งอี่เจ๋อโพสต์เพียงหนึ่งประโยค [ก็…สัญญาสิ้นสุดแล้วและผมจะกลับบ้านแล้ว]

 

 

เหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงต่างรีทวิตโพสต์นั้น…

 

 

ฉือหยวนเฟิงวี: [ดีจังที่ได้เป็นอิสระ เหอะๆ ~]

 

 

เหอจยาอวี๋วี: [ [ยิ้ม] กลับบ้านกันเถอะ]

 

 

คอมเมนต์ข้างใต้มีแต่ “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน!”

 

 

ช่วงเวลานั้น ดวงตาหลายคู่มันวาวเพราะน้ำตาปริ่ม

 

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวงสตาร์รี่ไนต์ถึงได้ไม่มีการเคลื่อนไหวเลยตลอดระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมา พวกเขาไม่เพียงแค่ไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณชนเท่านั้น แต่บริษัทของพวกเขายังไม่จัดกิจกรรมใดๆ ให้พวกเขาเลย

 

 

พวกเขาถูกเขี่ยทิ้ง!

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น หรงเช่อก็กดดันพวกเขามาตลอด!

 

 

ทันทีทันใด ผู้คนจำนวนมหาศาลยืดเหยียดนิ้วของตัวเองและรีบเข้าไปที่หน้าเพจเวยปั๋วของหรงเช่อ คอมเมนต์ในหน้าเพจของเขากลายเป็นการนองเลือดโดยฝีมือของกลุ่มแฟนคลับผู้เกรี้ยวกราด!

 

 

ในขณะเดียวกัน บนอะพาร์ตเมนต์สุดหรู หรงเช่อทุ่มโต๊ะของเขาเข้ากับกำแพงและแผดเสียง “เกิดอะไรขึ้น มันเกิดขึ้นได้ยังไง”

 

 

เขาวางแผนทุกอย่างไว้แล้วและกำลังจะทำลายเซิ่งอี่เจ๋อเป็นครั้งสุดท้าย!

 

 

หมอนั่นทำแบบนี้กับเขาได้ยังไง!

 

 

ตัวแทนพูดด้วยปากที่สั่นเทา “ฉัน…ฉันไม่รู้เลย…เช่อ เราจะทำยังไงต่อดี”

 

 

“ยังจะกล้าถามฉันอีกเหรอ! ออกไป!” หรงเช่อคำราม ตัวแทนของเขาออกจากห้องไป ทิ้งให้เขาทรุดฮวบลงบนโซฟา เขามืดแปดด้าน

 

 

มันไม่ใช่ความผิดของเขา เซิ่งอี่เจ๋อต้องเป็นคนที่พ่ายแพ้สิ แต่ทำไมมันถึงเป็นเขาแทนล่ะ

 

 

 

 

ณ เว่ยยาง

 

 

หัวหน้าจ้องมองเวยปั๋วอย่างเลื่อนลอย เขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง วงสตาร์รี่ไนต์ยุติสัญญาแล้ว!

 

 

เขาติดต่อเบอร์ของเซิ่งอี่เจ๋อทันที สายติดในเวลาไม่นานและเสียงที่ไม่สนใจไยดีก็ดังมาจากปลายสาย “ฮัลโหล”

 

 

“เซิ่งอี่เจ๋อ! นายบ้าไปแล้ว! ลบโพสต์นั้นซะและฉันจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราจะทำให้นายดังอีกครั้ง!” หัวหน้ากระแอมและพูดอย่างมั่นใจ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 297 การเปลี่ยนข้าง (3)

 

 

เขารู้ว่าเซิ่งอี่เจ๋อมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา แต่ตัวเซิ่งอี่เจ๋อเองไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้ของเขามาก่อน หลังจากการสอบถามหาความจริงที่เหมือนจะไร้ประโยชน์ หัวหน้าเลิกพูดเรื่องนั้นไป

 

 

เขาทำให้วงสตาร์รี่ไนต์เป็นได้อย่างทุกวันนี้เพียงตัวคนเดียวและวงก็เป็นสินทรัพย์ที่ทำเงินให้แก่บริษัท พวกเขายุติสัญญาแบบนี้ได้ยังไง

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะ “ผู้บริหารลัวครับ คุณไปเอาความมั่นใจจากไหนมาสั่งสอนผมว่าคุณถูกต้อง”

 

 

ผู้บริหารลัวฉุนขาด “อยากเล่นวิธียากใช่ไหม ถ้าไม่มีเว่ยยางนายจะเป็นยังไง ก็เป็นแค่เด็กฝึกงานสามคน…ฉันเป็นคนมอบโอกาสให้นาย แต่นายไม่สำนึกบุญคุณแล้วยังจะมาทำแบบนี้อีก นายรู้ไหมว่าฉันให้นายออกจากวงการบันเทิงได้เลยนะ!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อถามด้วยน้ำเสียงหลอกล่อ “งั้นหรือครับ ถ้าอย่างนั้นผู้บริหารลัวคิดว่าผมควรทำยังไงดี”

 

 

ผู้บริหารลัวกระแอม ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ด้วยความที่คิดว่าตนเองอยู่เหนือกว่า “ขอโทษผ่านสื่อและเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับบริษัท ฉันจะคิดซะว่าการกระทำบุ่มบ่ามนี้เป็นเพราะพวกนายยังไม่บรรลุนิติภาวะ”

 

 

“เดี๋ยวนะครับ” เซิ่งอี่เจ๋อขัด “ขอโทษ ขอโทษใคร”

 

 

“ยังต้องถามอีกเหรอ ขอโทษหรงเช่อไง! นายรู้ไหมว่าราคาหุ้นของบริษัทจะได้รับผลกระทบถ้ามีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับหรงเช่อ…” ผู้บริหารลัวตอบอย่างโกรธเกรี้ยว เสียงหัวเราะของเซิ่งอี่เจ๋อดังมาจากปลายสายอีกครั้งหนึ่ง แต่ทว่าน้ำเสียงของเขากลับเยือกเย็น

 

 

ถึงแม้เขาจะเป็นทายาทตระกูลเซิ่ง แต่เขาเคยถูกพ่อควบคุมในทุกๆ เรื่อง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจเข้าวงการบันเทิงและตามหาคนคนนั้นด้วยวิธีของเขาเอง ย้อนกลับไป เว่ยยางก็เคยดีกับเขา พูดได้เลยว่าเขาเป็นหนี้บริษัทที่มองเห็นความสามารถในตัวเขา

 

 

และเขาก็ยกย่องบริษัทในเรื่องนั้น เขาฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งและไม่ทำตัวเด่นจนเกินไป ถึงแม้ว่าหลังจากที่พวกเขากลายเป็นที่รู้จัก เว่ยยางให้พวกเขาออกงานมากมายเพื่อกอบโกยโชคลาภเข้าบริษัท เขาก็ยังนิ่งเฉย

 

 

เขาอดทนมานานกับเว่ยยาง แต่เหตุการณ์เพลง “ช่วงเวลาอบอุ่น” ทำให้เขาผิดหวังเป็นที่สุด!

 

 

เห็นได้ชัดว่าหรงเช่อใส่ร้ายเขา แต่เขาก็ยังตอบกลับด้วยความเมตตา ผู้บริหารลัวเอ่ยเรื่องขอโทษหรงเช่อขึ้นมาได้ยังไงกัน!

 

 

“ผู้บริหารลัว ผมจะบอกคุณแค่ประโยคเดียว” เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะเยาะ “ไม่ มี ทาง ที่มันจะเกิดขึ้น!”

 

 

เขานี่แหละเซิ่งอี่เจ๋อ!

 

 

หัวหน้าวงสตาร์รี่ไนต์!

 

 

ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเซิ่ง!

 

 

เขาไม่ใช่สุนัขจรจัดที่จะยอมกับทนความอับอายขายหน้าและเลียมือที่ตบเขา!

 

 

ผู้บริหารลัวอ้ำอึ้ง เกิดอะไรขึ้น ทำไมเซิ่งอี่เจ๋อไม่ยอมฟังเขา

 

 

เขาฉุกคิดบางอย่างและกดรีเฟรชหน้าเพจที่แสดงราคาหุ้นของบริษัทด้วยนิ้วที่สั่นระรัว

 

 

ตลาดหุ้นยังไม่ปิด แต่เขาไม่เห็นอะไรเลยนอกจากสีเขียว

 

 

นั่นหมายความว่า…ราคาหุ้นของพวกเขาต่ำสุดเป็นประวัติการณ์…

 

 

เรื่องอื้อฉาวของหรงเช่อเพิ่งจะออกมา ถึงมันจะส่งผลกระทบ แต่ก็ไม่น่าส่งผลขนาดนี้นี่!

 

 

หรือว่าจะเป็นเพราะ…วงสตาร์รี่ไนต์ยุติสัญญาของพวกเขา!

 

 

ดวงตาของเขาเบิกโพลง เขาร้องด้วยความตื่นตระหนก “เซิ่งอี่เจ๋อ! เราต่อรองรายละเอียดกันได้นะ…ฮัลโหล! ฮัลโหล!”

 

 

เขากำลังจะยอมเซิ่งอี่เจ๋อแล้ว แต่ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อวางสายใส่เขาไปเสียก่อน

 

 

ตอนนั้นผู้บริหารลัวรู้สึกอยากจะเตะตัวเองแรงๆ!

 

 

 

 

หลังจากวางสาย เซิ่งอี่เจ๋อส่งกองเอกสารบนโต๊ะของเขาให้กับทนาย ก่อนจะอธิบายให้ฟัง จากนั้นเขาโทรหาฉือหยวนเฟิง

 

 

“ซย่าซย่าเป็นไงบ้าง”

 

 

ฉือหยวนเฟิงตอบพร้อมทำหน้าทุกข์ใจ “เธอขังตัวเองในห้องมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว…เธอไม่เปิดประตูให้พวกเราเลย…”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อหน้าถมึงทึง เขาคว้ากุญแจจากบนโต๊ะ “ฉันจะรีบไป”

 

 

“อืม…ระวังด้วยล่ะ อ้อแล้วก็สถานการณ์พลิกเร็วมากเลยเพราะมีคนสุดโหดมาคอมเมนต์ช่วยนายในเว่ยป๋อ พี่จ้างคนมาคอมเมนต์หรือเปล่า”

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset