ตอนที่ 306 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (1)
นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน
ดอกไม้ไฟวันปีใหม่ถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้ทั้งเมืองสว่างไสว ดอกไม้ไฟเหล่านั้นโชติช่วงไม่แพ้ดาวตกและภาพที่ออกมาก็น่าประทับใจ
ซูเสี่ยวมั่วจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าเธอด้วยแววตาว่างเปล่า ถึงแม้เธอจะเข้มแข็งมาตลอด แต่เธอก็เริ่มรู้สึกแสบร้อนภายในดวงตา
ทรายเข้าตาเธองั้นหรือ หรือว่าเป็นหิมะกันนะ
แต่หากอ้างอิงจากรายงานสภาพอากาศแล้ว วันนี้เป็นวันที่ไม่มีลม ไม่มีหิมะหรือเมฆ ดวงจันทร์ส่องสว่างและมีดาวประปราย
ไม่มีอะไรเข้าตาเธอหรอก เธอเพียงแค่อยากจะร้องไห้ต่างหาก
เลิกทำเหมือนเธอเป็นอะไรสักที ร้องไห้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา มันทำไมเหรอถ้ารักเขาแต่เขาไม่รักตอบ
มันทำไมเหรอ
“ฉันเข้าใจละ…” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มหลังจากรู้สึกยาวนานตราบชั่วนิรันดร “ใช่ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน! เพื่อนรัก!”
เธอตบไหล่ของเหอจยาอวี๋เบาๆ ด้วยท่าทีห้าวหาญ เหอจยาอวี๋ยิ้มตลอดเวลาและตอบเธอเป็นเชิงรับรู้ด้วยคำว่า “อืม” เสียงเบา
การตบนั้นเหมือนจะทำให้ซูเสี่ยวมั่วสูญเสียพลังทั้งหมดที่เธอมี เธอได้ยินเสียงตัวเองถามด้วยเสียงอันสั่นเครือ “เธอเป็นยังไงเหรอ ผู้หญิงที่นายชอบน่ะ”
เหอจยาอวี๋ยิ้มอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะกลับมาทำหน้าปกติ “เธออ่อนโยน ใจดี สวย แล้วก็เห็นอกเห็นใจผู้อื่น…เธอเป็นผู้หญิงที่คนอื่นจะรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ และนั่นทำให้ฉันอยากปกป้องเธอจากเรื่องร้ายๆ น่ะ”
ขนาดนั้นเลยเหรอ…เธอสมบูรณ์แบบขนาดนั้นเลยเหรอ…
เธอเป็นขั้วตรงข้ามกับผู้หญิงคนนั้นเลยแหะ
ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้โตมาเป็นคนที่นายชอบ ฉันขอโทษ
เธอคิดว่าเธอสามารถเข้มแข็งได้แบบผู้ชาย เธอคิดว่าอารมณ์ของเธอไม่แปรปรวนเหมือนตอนที่เธอกำลังฝึกซ้อมเทควันโด…เพียงเตะครั้งเดียว อารมณ์แย่ๆ ของเธอก็พลันมลายหาย
แต่เธอก็ยังรู้สึกแย่
แย่มาก แย่มากจริงๆ …
เธอจำไม่ได้ว่าเธอพูดอะไรกับเหอจยาอวี๋หลังจากนั้น หลังจากพูดจับใจความไม่ได้อยู่พักหนึ่ง เธอหันหลังและเดินจากมา
แต่ละก้าวเดิน เธอรู้สึกราวกับถูกฉุดให้ลงลึกไปในห้วงอเวจี ความเจ็บปวดกำลังจะฆ่าเธอ
ริมถนนสว่างไสวด้วยไฟหลากสีสัน ทั้งแสงและเงามืดปกคลุมทุกสิ่ง ไม่ว่าเรื่องดีหรือเรื่องร้าย
ปีใหม่มาถึงอย่างมีพลังแต่ก็สงบสุข
–
ในห้องเรียน
เหอจยาอวี๋ลดระดับสายตาของเขาและเห็นพื้นที่เปียกโชกใต้ที่นั่งของซูเสี่ยวมั่วอย่างชัดเจน
เขามองเธอตลอดเวลาที่เธอร้องไห้
ฉือหยวนเฟิงฮัมทำนองเพลงข้างๆ เขา เมื่อเห็นว่าเหอจยาอวี๋อยู่ในภวังค์เป็นเวลานาน เขาเอาศอกดุนและถาม “พี่มองอะไรอยู่”
เหอจยาอวี๋กลับมาได้สติ เขากะพริบตาและตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ไม่มีอะไร”
หลังจากนั้น เขาหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อ
เขาเป็นคนที่อ่อนและเด็ดเดี่ยวที่สุดมาตลอด
–
อันซย่าซย่าใจลอยทั้งวันด้วยความเป็นห่วงซูเสี่ยวมั่ว
หลังโรงเรียนเลิก เธอลากซูเสี่ยวมั่วไปที่ร้านสเต๊กทันที
มีเรื่องทุกข์ใจอะไรที่แก้ไม่ได้ด้วยบาร์บีคิวแสนอร่อยบ้าง ถ้ามีจริงล่ะก็ กินบาร์บีคิวอีกสักมื้อสิ!
เป็นอย่างที่คาดไว้ ซูเสี่ยวมั่วเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมาเมื่อเห็นอาหาร หนึ่งวินาทีที่แล้ว เธอยังคร่ำครวญกับความโศกเศร้าของตัวเองอยู่เลย หนึ่งวินาทีต่อมา เธอก็ต่อสู้กับอันซย่าซย่าเพื่อแย่งเบคอนซะแล้ว!
“อะไรวะ! ฉันนึกว่าเธอพาฉันมากินซะอีก เฮ้ ยัยเจ้าเล่ห์! วางเนื้อชิ้นนั้นลงแล้วเราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่!”
“ฮึก…อย่าเอาเนื้อฉันไปเลย…” ซย่าจอมตะกละโอดครวญด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร โชคไม่ดีนัก ซูเสี่ยวมั่วมีพละกำลังมากกว่าและขโมยเนื้อชิ้นงามไปจากตะเกียบของเธอ
เธอบ่นอุบ “เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรักตลอดกาล…ทำไมต้องแย่งเนื้อฉันทุกที…”
ซูเสี่ยวมั่วสั่นขาพร้อมทำหน้าตาชื่นบาน “โฮ่โฮ่ เพราะเนื้อของเธออร่อยกว่าเสมอยังไงล่ะ!”
อันซย่าซย่าเสียใจมากกว่าเดิม ทันใดนั้นเอง มีมือชุ่มเหงื่อคู่หนึ่งวางลงบนไหล่ของเธอจากด้านหลัง “น้องสาว อยากกินเนื้อเหรอจ๊ะ มานั่งโต๊ะพี่สิจ๊ะ!”
ตอนที่ 307 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (2)
อันซย่าซย่าถอยหนีด้วยความรังเกียจ แต่ผู้ชายคนนั้นตามเธอมา “เฮ้ สาวน้อย หนีพี่ทำไมล่ะจ๊ะ”
ซูเสี่ยวมั่วกระแทกตะเกียบของเธอลงกับโต๊ะและสั่งด้วยท่าทีวางอำนาจ “เอามือสกปรกของแกออกไปจากตัวเธอนะ!”
ชายคนนั้นผู้มีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไม่ได้ถอยหนี แต่ทว่าเขากลับโมโหเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อเห็นการกระทำของพวกเธอ เขาพุ่งเข้าใส่และพยายามใช้กำลังบังคับทั้งสองสาว
“นี่! เด็กเสิร์ฟ!” อันซย่าซย่าร้องตะโกน อย่างไรก็ตาม เหล่าเด็กเสิร์ฟในร้านทำเหมือนพวกเขาหูหนวกและไม่ได้สนใจที่เธอร้องขอความช่วยเหลือ
เธอมองไปรอบๆ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่คนมารับประทานมื้อค่ำเยอะสักเท่าไหร่ นอกจากพวกเธอแล้ว มีเพียงลูกค้าคนอื่นซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชายนั่งโต๊ะใกล้ๆ แต่แทนที่พวกเขาจะให้ความช่วยเหลือ พวกเขากลับยิ้มอย่างไร้ศีลธรรม
ซูเสี่ยวมั่วโกรธเกรี้ยว เธอตั้งหลักและกระโดดถีบ ทำให้ชายคนดังกล่าวล้มลงไปกับพื้นและปิดหน้าของตัวเองขณะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ไอ้สารเลวเอ้ย!” ซูเสี่ยวมั่วชูนิ้วกลางให้ชายคนนั้น เขาร้องโหยหวนราวกับหมูในโรงเชือด “อี***! กล้าดียังไงมาเตะฉัน!”
“แกสมควรโดนแล้วล่ะ!” ซูเสี่ยวมั่วเตะเขาซ้ำอีกครั้ง
ชายคนนั้นดิ้นไปมาและโบกมือ ทันใดนั้นเอง ผู้ชายทุกคนจากอีกโต๊ะลุกขึ้นยืนและเดินมาหาพวกเธอ
อันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วตะลึงงัน
“ฮึ่ม! นังพวกบ้า! วันนี้ฉันจะจัดให้พวกเธออย่างงามเลย!” เลือดไหลออกมาจากจมูกของเขาขณะที่เขาคำราม เพื่อนของเขาเริ่มม้วนแขนเสื้อขึ้นพลางเดินมาล้อมอันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วเป็นวงกลม
“เราจะทำยังไงกันดี” อันซย่าซย่าถือส้อมไว้เพื่อใช้เป็นอาวุธพลางถามซูเสี่ยวมั่วอย่างหวาดระแวง
ซูเสี่ยวมั่วก็กลัวเช่นกัน เธอไม่มีปัญหากับการจัดการผู้ชายหนึ่งหรือสองคน อย่างไรก็ตาม พวกนี้เกินความสามารถของเธอ!
“เธอคิดว่ายังไง…” เธอคร่ำครวญ “วิ่งงง…”
เธอหาช่องว่างระหว่างผู้ชายเหล่านั้นและลากอันซย่าซย่าไปที่ประตูร้าน!
อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นประตูปิดอยู่
“เฮ้! เปิดนะ!” ซูเสี่ยวมั่วตะโกน
เด็กเสิร์ฟบอกอย่างใจเย็น “ขอโทษด้วยครับ แต่คุณยังไม่ได้จ่ายค่าอาหาร”
อันซย่าซย่าหยิบธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนออกมาหลายใบและยื่นให้เขา แต่เด็กเสิร์ฟก็ยังไม่เปิดประตูให้
“บ้าจริง! อะไรกันเนี่ย เป็นพวกหลอกกินเงินนักท่องเที่ยวเหรอ”
เด็กเสิร์ฟมองพวกเธอด้วยสายตาที่ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ เขาทวนรายการอาหารที่พวกเธอได้รับ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องตกงาน เขายืนอยู่ตรงนั้นและแกล้งตาย ไม่ว่าอันซย่าซย่าจะพูดอะไร เขาก็ไม่ยอมเปิดประตูให้ง่ายๆ
พวกผู้ชายเหล่านั้นเดินมาหาพวกเธออย่างรวดเร็ว พวกเขาแยกออกเป็นสองกลุ่ม แต่ละกลุ่มล้อมพวกเธอไว้และเย้าหยอก
“ยังอยากวิ่งอยู่ไหม”
“เรื่องทั้งหมดนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าน้องมานั่งดื่มกับพี่…”
“ทำไมผิวเธอเนียนสวยจัง…”
ชายทั้งหกคนมือพันยั้วเยี้ยพวกเธอและสีหน้าของพวกเขาก็ดูคล้ายดอกเบญจมาศที่เบ่งบาน
ทำไมพวกเขาช่างโชคดีแบบนี้นะ มีคนจ่ายค่าอาหารให้ยังไม่พอ ยังได้เล่นกับนักเรียนสาวถึงสองคน คนคนนั้นยังสัญญาด้วยว่าจะรับผิดชอบสิ่งที่ตามมาหลังจากนี้เอง
เหอะๆ คงจะน่าเสียดายไม่น้อยถ้าพวกเขาไม่คว้าโอกาสทองนี้เอาไว้!
อันซย่าซย่าขัดขืนด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมี เธอพยายามโทรเรียกตำรวจ แต่โทรศัพท์ของเธอหลุดออกจากมือและกระเด็นไปไกล
“คิดหน่อยเซ่! ในร้านมีกล้องหลายตัวนะ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา แกจะต้องชดใช้!” อันซย่าซย่าขู่พวกเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผู้ชายพวกนั้นหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนั้น พวกเขาไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะพูดแบบนี้
อย่างไรก็ตาม คนคนนั้นสัญญาแล้วนี่…พวกเขาน่าจะไม่เป็นไร!
เมื่อคืนได้เช่นนั้น ผู้ชายคนหนึ่งจับไหล่ของอันซย่าซย่า “เหมือนน้องคนนี้จะหงุดหงิดนะ มาดื่มกับพี่แล้วพี่จะยกโทษ…เ***ยเอ๊ย…ใครทำวะ”
Related