แผนการของเขาประสบความสำเร็จ แต่เซิ่งอี่เจ๋อไม่แสดงอาการกระโตกกระตาก ชายหนุ่มกะพริบตาปริบๆ พลางบอก “เธอตกลงไวจัง ฉันควรกังวลไหมว่าเธอจะคืนคำ”
อันซย่าซย่าส่ายหน้าลนลาน “ไม่หรอก ฉันสัญญา”
“แค่คำพูดจะพิสูจน์อะไรไม่ได้” เซิ่งอี่เจ๋อบอก แสร้งทำเป็นลังเลใจ
อันซย่าซย่าอ่านสีหน้าเขาและอยากจะพิสูจน์ตัวเองอย่างจริงจัง “งั้นเรามาเซ็นสัญญากันก็ได้!”
“อืม… ดี ฟังดูเป็นความคิดที่ดี” เซิ่งอี่เจ๋อตอบ
“ได้” อันซย่าซย่ายิ้มอย่างน่ารัก
ห่างออกไปไกล ฉือหยวนเฟิงกับเหอจยาอวี๋ได้แต่มองหน้ากันแล้วถอนหายใจเฮือก ทั้งสองอยากจะ “ไว้อาลัย” ให้กับอนาคตอันขมขื่นของเด็กสาวจริงๆ
เซิ่งอี่เจ๋อเป็นคนสุดท้ายในโลกใบนี้ที่ใครสักคนอยากจะต่อรองด้วย ไม่เช่นนั้นละก็คุณอาจจะยังต้องนั่งนับเงินให้เขาอยู่ก็ได้ ต่อให้เขาจะขายคุณออกไปแล้วก็ตาม
เซิ่งอี่เจ๋อหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้เด็กสาว
“เอาจริงดิ นี่เขาเตรียมมาพร้อมเลย?” อันซย่าซย่าคิดด้วยความตะลึง
เธอมองที่กระดาษแผ่นนั้นและข้อความซึ่งถูกพิมพ์ด้วยตัวหนา “สัญญาจ้างตำแหน่งผู้ช่วย”
ฝ่ายว่าจ้าง : เซิ่งอี่เจ๋อ
ฝ่ายรับจ้าง : อันซย่าซย่า
หน้าที่ของฝ่ายว่าจ้าง : รับผิดชอบจ่ายค่าบริการให้คู่สัญญาฝ่ายรับจ้าง เงินค่าจ้างรายเดือนจะถูกหักจากจำนวนหนี้ หากการบริการจากฝ่ายรับจ้างเกินกว่ามูลค่าหนี้ ฝ่ายว่าจ้างจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับฝ่ายรับจ้างทันทีโดยไม่เกินระยะเวลาที่กำหนด
หน้าที่ของฝ่ายรับจ้าง : ต้องพร้อมสำหรับการเรียกตัวอยู่เสมอและพยายามทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ภารกิจต่างๆ และงานอื่นๆ อย่างดีที่สุด
ส่วนที่เหลือของเงื่อนไขด้านล่างดูเหมือนจะธรรมดาทั่วไป ดูไม่มีอะไรสลักสำคัญนัก
อันซย่าซย่าไม่คิดอะไรมาก หยิบปากกามาเซ็นชื่อบนกระดาษอย่างว่องไว
เซิ่งอี่เจ๋อเก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้พลางพูดด้วยสีหน้านิ่ง “ฉันหวังเราจะเข้ากันได้ดีในอนาคต”
หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ เมื่อปัญหาหนักอกที่คอยรบกวนจิตใจเธอมาตลอดได้รับการแก้ไขแล้ว เธอก็ดีใจสุดๆ แล้วรีบเผ่นลงไปข้างล่าง
เซิ่งอี่เจ๋อหรี่ตาพร้อมรอยยิ้ม
เธอช่างไร้เดียงสาพอๆ กับที่ถูกล่อลวงได้ง่ายเลย… จอมบื้อตัวน้อย
ที่ชั้นล่าง
เมื่อเจ้เคอได้ยินว่าป่าป๊าอันเป็นกุ๊กฝีมือเยี่ยม ดวงตาหล่อนก็ส่องประกาย และยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อขอให้ป่าป๊าอันดูแลเรื่องอาการการกินประจำวันให้กับเซิ่งอี่เจ๋อและคนอื่นด้วย
ป่าป๊าอันปฏิเสธที่จะรับเงินอย่างหนักแน่นพลางบอก “พวกเขายังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย นี่ยังไม่พูดถึงว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องของซย่าซย่าด้วยนะ เป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องดูแลพวกเขาอยู่แล้วละครับ”
เจ้เคอทำหน้าเฉยพร้อมกับโอนเงินเข้าบัญชีป่าป๊าอัน สยบการโต้แย้งอย่างเฉียบขาดและมีประสิทธิภาพ “ได้โปรดรับไว้เถอะค่ะ ฉันจะได้สบายใจ”
ดังนั้นป่าป๊าอันก็เลยไม่สามารถแย้งอะไรได้อีก เขาลุกขึ้นเดินไปทำงานต่อที่หลังร้าน
เจ้เคอขยับตัวเดินขึ้นชั้นบนอย่างสง่างาม “พวกเธอทุกคนยังจำที่สัญญากับฉันได้ไหม”
ไม่มีใครตอบเธอเลย
เจ้เคอจึงพูดอย่างช้าๆ ชัดๆ “ห้ามก่อเรื่อง ห้ามโพสต์อะไรลงในเวยปั๋วโดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามขาดหรือหนีซ้อม และที่สำคัญที่สุด ห้ามมีแฟน!”
เมื่อพูดจบ หล่อนก็จงใจมองไปที่เซิ่งอี่เจ๋อ “เธอได้ยินไหม”
“ก็ได้ ก็ได้ เจ้เคอคนสวย เราลงไปหาอะไรกินข้างล่างกันเถอะ!” ฉือหยวนเฟิงร้องบอก เจ้เคอเอ็นดูเขาที่สุด เธอจึงส่ายหน้าและยุติการคาดคั้น
ที่ชั้นสองของบ้าน
ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วร้านกาแฟของครอบครัวอันจะไม่ค่อยยุ่งมาก แต่เจ้เคอก็ยังขอร้องให้พวกเขาอยู่กันที่ชั้นบนเพื่อปลอดภัยไว้ก่อน เพราะถ้าลงไปข้างล่าง พวกเขาต้องปลอมตัว
ป่าป๊าอันได้จัดเตรียมเมนูอาหารน่าอร่อยไว้เต็มโต๊ะ และเรียกทุกคนมาที่โต๊ะอาหาร
ในเมื่อปลอดหนี้แล้ว อันซย่าซย่าก็สวาปามอาหารเข้าปากอย่างสบายอกสบายใจ หลังจากจัดการข้าวไปจานหนึ่งและกำลังจะซดซุป เธอก็สังเกตว่ามีสายตาหลายคู่กำลังจ้องมาที่เธอ
เด็กสาวมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าเจ้เคอเพิ่งจะทานอาหารไปไม่กี่คำก่อนจะวางตะเกียบลง ยิ่งไปกว่านั้นเซิ่งอี่เจ๋อและหนุ่มๆ สองคนก็ไม่ได้ทานมากมาย และกำลังซดน้ำซุประหว่างที่ตื่นตะลึงกับมารยาทบนโต๊ะอาหารของเธอ
การได้ร่วมโต๊ะกับหนุ่มหล่อทั้งสามคนแบบนี้มันก็รู้สึกดีอยู่หรอกนะ แต่อันซย่าซย่าก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างทะแม่งๆ
“ทำไมพวกนายไม่กินล่ะ”