เหอจยาอวี๋ยิ้มอย่างอ่อนโยน ฉือหยวนเฟิงดูท่าทางอิจฉาขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อมีหน้าตาเฉยเมย
เจ้เคอบอก “พวกเขาจะน้ำหนักขึ้นน่ะถ้าทานเยอะเกินไป จะทำให้ดูไม่ดีเวลาอยู่หน้ากล้อง” หลังจากอธิบายเสร็จ เธอก็สำทับอย่างจริงจัง “อย่าลืมออกกำลังกายประจำวันล่ะ แค่ขึ้นมาหนึ่งกิโลก็ทำให้ดูอืดต่อหน้ากล้องได้แล้ว! ดังนั้นเพื่อเห็นแก่อนาคตของพวกเธอเองก็จงจำไว้!”
ท่าทีของเธอดูเหมือนกับครูที่ดุและเข้มงวดจนทำให้อันซย่าซย่านึกสยอง ตอนนี้เธอรู้สึกค่อนข้างจะเห็นใจวงสตาร์รี่ไนต์ขึ้นมาแล้วสิ
ที่แท้… การเป็นไอดอลนี่ก็ไม่ง่ายเลย…
แค่จะเติมท้องให้อิ่มยังไม่ได้… อู้ฮู อันซย่าซย่าคิดในใจและ “ไว้อาลัย” ให้กับพวกเขา
หลังจากทานกันไปได้ครึ่งทาง เจ้เคอก็มีโทรศัพท์เข้ามาและรีบร้อนออกไป
ทันทีที่เธอคล้อยหลัง เซิ่งอี่เจ๋อก็สั่งเธอทันที “อันซย่าซย่า”
“หือ” เธอกำลังกินซุปปลาอันแสนอร่อยของพ่ออยู่
“เอาข้าวมาให้ฉันถ้วยนึง”
“ฉันด้วย!”
“อะแฮ่ม… ขอฉันถ้วยนึงด้วย”
หนุ่มหล่อทั้งสามกำลังมองเธออย่างหิวกระหาย ทำให้เธอใจละลาย
“โอเค…” เด็กสาวหัวเราะคิกคักพลางเติมข้าวให้พวกเขา
เธอมองดูพวกเขากินข้าวด้วยทัศนคติที่หลากหลาย ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าอันที่จริงแล้วพวกเขาต้องปิดบังตัวเองจากเจ้เคอ!
ไม่ว่าในทีวีพวกเขาจะดูเป็นผู้ใหญ่แค่ไหน แต่ที่จริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างไปจากวัยรุ่นส่วนใหญ่เลย
ในใจเธอนั้น เธอได้ลดความเกลียดชังที่เคยมีต่อพวกเขาลงไปมากทีเดียว แม้แต่ความอยากที่จะสนับสนุนหรงเช่อไอดอลของเธอ ด้วยการคอยตามกระแนะกระแหนทั้งสามตามโซเชียลมีเดียก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน
–
อันซย่าซย่าหลับไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลายเพราะการมีเซเลบทั้งสามมาอาศัยอยู่ในบ้านของเธอ
วันต่อมา
หญิงสาวตื่นขึ้นเพราะเสียงเรียกเข้ามือถือ พลิกตัวอย่างหงุดหงิดบนเตียง เธอกดรับ “ฮัลโหล ใครน่ะ”
น้ำเสียงทุ้มน่าฟังของเซิ่งอี่เจ๋อดังผ่านลำโพงโทรศัพท์ “อันซย่าซย่า เธอมีเวลาสามนาที มาหาฉันเดี๋ยวนี้”
“โธ่… ฉันจะนอน”
“อ้อ นี่เธอลืมไปแล้วหรือไงว่ามีหน้าที่เป็นผู้ช่วยของฉัน ก็ได้ ฉันจะไปหาลุงอัน บอกให้เขาจ่ายหนี้แทนเธอ!” เซิ่งอี่เจ๋อขู่อย่างเลือดเย็น
วิธีนี้ได้ผลอย่างประหลาด เพราะทำให้อันซย่าซย่ากระโดดผึงลงจากเตียงทันที เธอบ่นอู้อี้ “โทษที… ฉันจะไป ไปเดี๋ยวนี้แหละ โอเคยัง”
เธอล้างหน้าแปรงฟันด้วยตาสะลึมสะลือ ท่าทางเศร้าหมอง
ชาติก่อนเธอไปทำบาปทำกรรมอะไรเอาไว้นะ พระเจ้าถึงได้ส่งปีศาจร้ายตนนี้มาลงโทษเธอ?!
อันซย่าซย่าหยิบชุดเดรสมาใส่ก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดอย่างรีบเร่ง เซิ่งอี่เจ๋อกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อย่างเกียจคร้านอยู่บนโซฟา
พอได้ยินเสียงเธอ เขาก็พูดเนิบๆ “เธอมาสายสองนาที”
อันซย่าซย่าเข้าไปหาเขาพลางพูดอย่างประจบสอพลอ “บอสอี่เจ๋อ เห็นใจฉันหน่อยเถอะนะ เสาร์อาทิตย์ใครเขาตื่นเช้ากัน ว่าแต่ อยากพบฉันเรื่องอะไรคะ”
แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสบานยักษ์ภายในห้อง ใบหน้าบอบบางของเธออยู่ใกล้จนได้กลิ่นตะไคร้อ่อนจาง เป็นเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงสำหรับเซิ่งอี่เจ๋อ
จากนั้นครู่หนึ่งเขาก็ยืนขึ้น “ไปบริษัทกับฉัน ฉันต้องไปเอาของบางอย่าง คนขับรถรออยู่ข้างล่างแล้ว”
อันซย่าซย่าโอดครวญอีกครั้ง “นายก็ไปของนายเองได้นี่ ทำไมต้องให้ฉันไป…”
“คุณอัน กรุณาทำตัวให้สมกับเป็นผู้ช่วยอย่างที่ควรจะเป็นด้วย!” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มมุมปาก “ถ้าขืนยังทำตัวแบบนี้ ฉันจะถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ แล้วเธอก็จะต้องจ่ายเงินคืนฉันในทันที!”
ทันทีที่เขายกเรื่องเงินมาพูด ความทระนงตัวของเธอก็ถูกกำราบลงโดยพลัน หญิงสาวน้อมศีรษะเดินตามหลังเซิ่งอี่เจ๋อไปแต่โดยดี
เธอเชื่อฟังเหมือนแมวตัวน้อย
‘ยิ่งทำตัวดีก็ยิ่งน่ารักนะ’ เซิ่งอี่เจ๋อคิด