ตอนที่ 342 เขาพบการปรากฏตัวของเธอแล้ว (9)
อาจเป็นเพราะเซิ่งอี่เจ๋อพกความเย็นติดตัวมาจากด้านนอกมากระทบตัวอันซย่าซย่า ขนตาเรียวยาวจึงสั่นระริก อันซย่าซย่าลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงีย เธอช็อกไปทั้งตัวเมื่อเห็นว่าเซิ่งอี่เจ๋อกลับมาแล้ว
“ซย่าซย่า…” เขากระซิบชื่อเธอเบาๆ และถามด้วยความอาลัยรัก “ร้องไห้ทำไม?”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนเหมือนกำลังปกป้องสมบัติทีสวยงามที่สุดในโลก
แต่พออันซย่าซย่าคิดว่าเขาอาจจะมอบความอ่อนโยนนี้ให้กับผู้หญิงคนอื่น เธอก็เจ็บปวดใจอย่างรุนแรง
รอมาทั้งคืน เท้าก็ยังเจ็บ ทุกอย่างจึงกลายเป็นความขุ่นเคือง
เธอดึงเสื้อของเขาและพูดด้วยความกลัดกลุ้ม “คนรักวัยเด็กของนายกลับมาแล้วเหรอ?”
เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้ว อันซย่าซย่ารู้ได้อย่างไร?
แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่คิดจะปิดบังเธอพร้อมกับพูดอธิบาย “อืม…เธอเคยช่วยชีวิตฉันไว้จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด จากนั้นก็ถูกคนเก็บไปเลี้ยงและเรียนอยู่ที่ต่างประเทศมาตลอด จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เธอพบพ่อแม่แท้ๆ ของเธอแล้ว ตอนนี้ฉันถึงได้มาพบกับเธอได้ ฉันดีใจมาก”
อันซย่าซย่าตั้งใจฟัง ที่แท้เด็กสาวคนนั้นเคยช่วยชีวิตเขาไว้สินะ…
อืม…
“งั้นนายก็ต้องขอบคุณเธอเป็นอย่างดี” อันซย่าซย่าพึมพำ แต่กลับสับสนอยู่ในใจ
ในแง่ของเหตุผลบอกเธอว่าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นหนี้บุญคุณเด็กสาวคนนั้น เขาก็ควรตอบแทนเธอให้ดีหน่อย แต่ในแง่ของความรู้สึก เธอไม่ต้องการให้เซิ่งอี่เจ๋อทำดีกับผู้หญิงคนอื่น!
มนุษย์ย่อมมีความเห็นแก่ตัว เธอเองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
“น้ำเสียงคับแค้นใจแบบนี้ เธอคงไม่ได้หึงหรอกนะ?” เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะเบาๆ “วางใจเถอะ ซย่าซย่า หัวใจฉันมีแค่เธอ ฉันแค่ปฏิบัติกับเธอด้วยความซาบซึ้งและเป็นการขอบคุณเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกอื่นใดเลย”
ในคืนฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะก็เริ่มอบอุ่นขึ้นมาด้วยคำพูดประโยคนี้ของเขา
อันซย่าซย่าทำเสียงแง่งอนอยู่ในอ้อมกอดเขา เธอพลิกไปบนตัวเขาพร้อมกับประกาศอย่างวางอำนาจว่า “นายเป็นของฉัน ใครก็ห้ามแย่งไป!”
ดวงตาสีเข้มของเซิ่งอี่เจ๋อไม่ได้ลดน้อยถอยลง เขาพูดด้วยความหมายลึกซึ้ง “เพราะฉะนั้น…เธอจะยอมทำเรื่องน่าอายกับฉันไหม?”
“…” อันซย่าซย่าหน้าแดง แทนที่จะดุเขาว่าทะลึ่งเหมือนเมื่อก่อน เธอกลับกุมใบหน้าเขาไว้และขบริมฝีปากเขาไปหลายคำ
“นี่ทำอะไรเนี่ย?” เซิ่งอี่เจ๋ออดหัวเราะไม่ได้
“ประทับตรา!” อันซย่าซย่าตอบด้วยดวงตาสดใส
ขณะที่มือใหญ่โอบรอบเอวเธอแน่น เซิ่งอี่เจ๋อก็ค่อยๆ ยกมุมปาก “โอเค ค่อยๆ ทำ…”
อันซย่าซย่ากัดด้วยความโง่เขลาอยู่เป็นเวลานานโดยไม่รู้ว่าได้จุดไฟด้านมืดขึ้นมาแล้ว
หลังจากใช้เวลาประทับตรานานแล้ว อันซย่าซย่าก็นอนพักเหนื่อยอยู่ในอ้อมแขนเขา “ไม่เอาแล้ว…เหนื่อยจังเลย…”
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มอย่างเงียบๆ เขาพลิกตัวกลับโดยกดเธอกลับลงไปใต้ล่างอีกครั้ง
“เธอเหนื่อยแล้ว ให้ฉันทำแทนดีกว่าไหม?” เขายิ้มราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
อันซย่าซย่า : …อะไรนะ?!
ชุดนอนกระต่ายถูกเขาแยกออก รอยจูบทั้งสีเข้มสีอ่อนที่เขาทิ้งไว้เมื่อไม่กี่วันก่อนยังคงปรากฏอยู่บนผิวขาวๆ นัยน์ตาเซิ่งอี่เจ๋อเข้มขึ้น เขาจูบไปที่บริเวณกระดูกไหปลาร้าอันบอบบางของเธอ
ทันใดนั้นอันซย่าซย่าก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด “เจ็บเจ็บเจ็บ!”
เซิ่งอี่เจ๋อยังคงดำเนินต่อไป “อย่างแสร้งทำเป็นน่าสงสาร วิธีนี้ใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก”
“ไม่ใช่สักหน่อย ฉันปวดเท้าต่างหากล่ะ! วันนี้ฉันช่วยเจ้าเด็กเซิ่งเสียวเป่านั่น เท้าก็เลยพลิก…” อันซย่าซย่าขมวดคิ้ว เมื่อกี้เธอไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเอาแต่คิดเรื่องเซิ่งอี่เจ๋อกับคนรักวัยเด็กของเขา พอตอนนี้เข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บเท้าขึ้นมาทันใด
เซิ่งอี่เจ๋อเอื้อมมือเปิดโคมไฟและมองไปที่เท้าอ้อนแอ้นของเธอ
ข้อเท้าบวมจวนจะเป็น หมั่นโถวอยู่แล้ว
ตอนที่ 343 เขาพบการปรากฏตัวของเธอแล้ว (10)
เขาขมวดคิ้วลุกขึ้นเดินไปเอากล่องยาและทายาให้อันซย่าซย่าอย่างระมัดระวัง
อันซย่าซย่าเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า เซิ่งอี่เจ๋อพูดด้วยความหงุดหงิด “เจ็บขนาดนี้ทำไมไม่รู้จักทายา ยัยโง่!”
“ก็ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดมากขนาดนั้นนี่นา…” อันซย่าซย่าพึมพำ เซิ่งอี่เจ๋อถลึงตาใส่เธอและอบรมเธอไปสักสองสามประโยค อย่างไรก็ตามมือกลับเคลื่อนไหวเบาลงเรื่อยๆ เพราะกลัวว่าเธอจะเจ็บ
พอทำเสร็จ ท้องฟ้าก็เริ่มสว่าง หลังจากที่นอนชดเชยอยู่ในอ้อมแขนเซิ่งอี่เจ๋อได้สักพัก อันซย่าซย่าก็ตื่นขึ้นเนื่องจากเสียงรบกวนภายนอก
เมื่อเธอลุกขึ้นนั่ง เซิ่งอี่เจ๋อก็ไม่อยู่ตั้งนานแล้ว พอเดินลงมาข้างล่าง เซิ่งเสียวเป่าก็วิ่งมาหาเธอด้วยความเป็นห่วง “นั่นน่ะ…ซย่าซย่า เท้าเธอเป็นยังไงบ้าง?”
อันซย่าซย่าขำเล็กน้อย เจ้าเด็กคนนี้ยังพอรู้เรื่องรู้ราวอยู่บ้าง หลังจากที่เธอช่วยเขาเอาไว้ เขาก็ไม่เรียกเธอว่ายัยอัปลักษณ์ซย่าซย่าอีกแล้ว
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก…ใช่แล้ว เสียวเป่า ข้างนอกเสียงดังอะไรกันน่ะ?”
เซิ่งเสียวเป่าทำทีบ่นเหมือนผู้ใหญ่ “มีคนย้ายมาอยู่ข้างบ้านพวกเรา แล้วยังเรียกพี่ออกไปด้วย ได้ยินว่า…เป็นพี่สาวคนสวยที่รู้จักกับพี่มาตั้งแต่เด็กน่ะ! ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน…”
รอยยิ้มอันซย่าซย่าพังทลาย รู้จักกันตั้งแต่เด็ก…ความสัมพันธ์อันดี…นอกจากคนรักวัยเด็กของเซิ่งอี่เจ๋อแล้ว เธอก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะเป็นใครได้อีก
“ซย่าซย่า” มีคนเรียกเธอจากด้านนอกประตู อันซย่าซย่าหันไปตามเสียงก็เห็นเพียงหญิงชายคู่หนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู
ชายคนนั้นคือเซิ่งอี่เจ๋อ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและสเวตเตอร์สีดำ ส่วนผู้หญิงด้านข้างสวมชุดเดรสสีขาวโดยมีเสื้อโค้ทสีดำคลุมอยู่ด้านนนอก
ท่าทางสบายๆ ไม่ขัดเขินเหมือนกัน รูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหมือนกัน ดูแล้วเหมือนกับคู่รักที่กำลังสวมชุดคู่รัก
ซ่งชิงเฉินส่งยิ้มให้เธออย่างใจกว้าง “สวัสดี ฉันคือซ่งชิงเฉิน เพิ่งย้ายเข้ามาพักอยู่ข้างๆ บ้านพี่อาเจ๋อ เธอก็คือซย่าซย่าใช่ไหมคะ? น่ารักจังเลย”
อันซย่าซย่ายิ้ม “สวัสดีค่ะ”
คนรักวัยเด็กของเขาเป็นคนที่สวยมากคนหนึ่ง…
นิสัยก็ดีมาก…ดีไปทุกอย่าง…
แต่ทำไมต้องเรียกเซิ่งอี่เจ๋อว่า “พี่อาเจ๋อ” ด้วยล่ะ? อายุตั้งขนาดนี้แล้วยังจะเรียกแบบละครอยู่ได้!
เห็นได้ชัดว่าซ่งชิงเฉินมีนิสัยเป็นกันเอง เธอเดินเข้ามาคว้าแขนอันซย่าซย่าและยิ้ม “ซย่าซย่า ฉันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ไม่รู้จักเพื่อนคนอื่นเลย เธอมาเป็นเพื่อนรักฉันได้ไหม?”
อันซย่าซย่าขมวดคิ้ว บางทีมันอาจจะเป็นผลกระทบทางจิตใจ เธอมักจะรู้สึกไม่ดีเล็กน้อยกับการเข้าหาของซ่งชิงเฉิน
“เหอะเหอะ…” เธอได้แต่แค่นหัวเราะโดยไม่ตอบรับ
ซ่งชิงเฉินกะพริบตาและลากเธอไปพูดคุยด้วยความสนิทสนม ส่วนเซิ่งอี่เจ๋อก็ไปสอนการบ้านให้เซิ่งเสียวเป่าแล้ว
พอเซิ่งอี่เจ๋อเดินออกไป อันซย่าซย่าก็รู้สึกได้ทันทีว่าออร่าบนตัวซ่งชิงเฉินได้เปลี่ยนไป
เธอยังคงยิ้ม แต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเป็นศัตรู
“ซย่าซย่า ไหนบอกมาซิว่าถ้ามีคนแย่งของของเธอไป เธอจะทำยังไง?” ซ่งชิงเฉินยิ้มละมุน
อันซย่าซย่าเข้าใจความหมายของเธอดี เธอแบะปาก “การได้มาคือโชคดีของฉัน การเสียไปก็คือโชคชะตาของฉัน”
“หึ…” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นเล็กน้อย “แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่ ถ้ามีคนแย่งของของฉันไป ฉันจะต้องแย่งคืนมาให้ได้!”
อันซย่าซย่ายืดหลังตรง “แต่เขาเป็นแฟนฉัน”
ซ่งชิงเฉินยิ้มมุมปากด้วยความมั่นใจ “อันซย่าซย่า เธอรู้จักเขามานานแค่ไหน? แล้วเธอรู้ไหมว่าเรารู้จักกันมานานเท่าไหร่? สิบสองปี! เขาเคยสัญญาว่าจะแต่งงานกับฉัน! พวกเราผ่านอะไรด้วยกันมาโดยที่เธอไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ เธอคิดว่าครึ่งปีของเธอจะสู้สิบสองปีของเราได้อย่างงั้นเหรอ?”