ตอนที่ 346 ถ้าต้องเลือก ก็ต้องเป็นเธอแน่นอน (3)
เซิ่งเสียวเป่าก้มหน้าลงและตอบด้วยเสียงอ่อยๆ “ผมเข้าใจแล้ว…”
พอพูดเสร็จ เขาก็หยิบหนังสือการ์ตูนของอันซย่าซย่าขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ บนหน้าปกมีตัวการ์ตูนผู้ชายกับผู้หญิงอยู่คู่หนึ่ง เขาพึมพำ “พี่ ผมอ่านอันนี้ได้ไหม?”
“ไม่ได้” เซิ่งอี่เจ๋อปฏิเสธเขาอย่างไม่แยแส “นี่มันหนังสือการ์ตูนของเด็กผู้หญิง มีแต่เด็กผู้หญิงเท่านั้นที่อ่านได้”
เซิ่งเสียวเป่า “…”
เขาจึงวางหนังสือการ์ตูนลงด้วยความจำยอมและวิ่งไปเล่นวิดีโอเกม
หลังจากที่อันซย่าซย่าตื่นขึ้นมา เธอก็วิ่งไปเล่นเกมกับเขาอย่างร่าเริง
เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อมองผู้ใหญ่กับเด็กเล่นเกมเข้าขากันแบบนี้แล้ว ในใจก็สับสนเล็กน้อย
บ้านที่เคยว่างเปล่าตลอดมา มีเพียงกลิ่นอายแห่งความหนาวเหน็บ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกถึงกลิ่นอายของความเป็นบ้าน
“เซิ่งเสียวเป่า! เจ้าเด็กบ้า! ทำการบ้านก็ออกจะฉลาดขนาดนั้น แต่พอเล่นเกมทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้นะ! นายโกงจนฉันตายไปสองรอบแล้วเนี่ย!” อันซย่าซย่าบ่นอุบพลางกดปุ่มเกมคอนโซลอย่างรวดเร็วด้วยนิ้วของเธอ
เซิ่งเสียวเป่ารู้สึกอับอายจึงพูดแก้ตัว “ก็ฉันไม่เคยเล่นมาก่อนนี่!”
“อะไรนะ?” อันซย่าซย่าช็อก “งั้นทุกวันนี้นายทำอะไร?”
“เข้าเรียน เรียนพิเศษ รับการศึกษาระดับเด็กหัวกะทิ…แล้วก็ กินข้าว เข้านอน” เซิ่งเสียวเป่าขมวดคิ้วพลางอธิบายโดยไม่ให้ตกหล่น
“โอ้ มายก๊อด…” อันซย่าซย่าตกใจนิ่งไปสักพัก นี่คงไม่ได้หมายความว่าในแต่ละวันไม่มีกิจกรรมบันเทิงแม้แต่อย่างเดียวเลยสินะ “นายไม่ดูการ์ตูนเหรอ? แล้วก็ไม่ได้ออกไปเล่นกับพวกเพื่อนๆ งั้นเหรอ?”
เซิ่งเสียวเป่านิ่งเงียบ
อันซย่าซย่ากระตุกมุมปาก ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ สินะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่อายุยังน้อยแต่ทำตัวเหมือนผู้ใหญ่เสียขนาดนั้น เพราะเดิมทีเขาถูกทำให้กลายเป็นแบบนี้นี่เอง
“เสียวเป่า น่าสงสารจัง” อันซย่าซย่าลูบศีรษะเขาด้วยความเห็นใจ เซิ่งเสียวเป่าหลบอย่างหยิ่งๆ “เด็กตระกูลเซิ่งก็ผ่านแบบนี้มากันทั้งนั้น พี่ชายนายก็เหมือนกัน!”
อันซย่าซย่าชักมือกลับพลางลอบมองใครคนหนึ่งที่กำลังทำอาหารด้วยความสงสัยว่าเมื่อก่อนเซิ่งอี่เจ๋อเป็นอย่างไร
จู่ๆ เธอก็รู้ตัวว่าเดิมทีเธอชอบใครสักคน ไม่ใช่แค่เพราะต้องการใช้เวลาร่วมกันในปัจจุบันหรือแค่วาดฝันอนาคตร่วมกันกับเขา แต่ยังอยากรู้อดีตของเขาด้วยว่าเขาสุขหรือทุกข์ ผ่านมาด้วยดีหรือไม่
–
เซิ่งอี่เจ๋อทำอาหารเย็นมากมายเต็มโต๊ะ อันซย่าซย่าและเซิ่งเสียวเป่าทานอย่างเอร็ดอร่อย
หลังจากอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ดีขึ้นมาก การแสดงออกที่เห็นได้ชัดก็อย่างเช่น…การแย่งเนื้อ
“นี่เป็นอาหารที่พี่ชายของฉันทำให้ฉันกินนะ!”
“เขาเป็นพี่ชายนายยังไม่พอ เขายังเป็นแฟนฉันด้วยแหละ!”
“ฮึ! เธออ้วนซะขนาดนี้ยังจะกินเนื้อเข้าไปอีก อ้วนจะตายอยู่แล้ว…
“เจ้าเด็กบ้า! นายไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ระวังเถอะ ต่อไปจะหาแฟนไม่ได้!”
“……”
เซิ่งอี่เจ๋อตัดสินข้อพิพาทระหว่างทั้งสองด้วยประโยคง่ายๆ “พวกเธอทำการบ้านเสร็จหรือยัง?”
อันซย่าซย่า “…เสียวเป่า เย็นวันนี้ขาไก่อร่อยมาก นายกินเยอะๆ หน่อย!”
เซิ่งเสียวเป่า “….ไม่ไม่ไม่ พี่ซย่าซย่ากินเยอะๆ เถอะ อย่าเกรงใจผมเป็นอันขาด!”
ต้องรู้ไว้ว่าทั้งสองสุมหัวเล่นเกมด้วยกันทั้งวัน…จะไปทำการบ้านอะไรนั่นได้อย่างไรล่ะ!
พอทานอาหารเสร็จ ทั้งสองก็มลายหายลับเข้าไปในห้อง
เซิ่งอี่เจ๋ออาบน้ำเสร็จก็เช็ดผมไปด้วยตำหนิเธอไปด้วย “เธอทำเสียวเป่าเสียนิสัยไปหมดแล้ว แท้ที่จริงแล้วโรคขี้เกียจก็เป็นโรคติดต่อนี่เอง…”
“แหะแหะ…ซะที่ไหนล่ะ…” อันซย่าซย่าทำทีหัวเราะและแกล้งทำเป็นเล่นเวย์ปั๋วเพื่อเลี่ยงการสนทนากับเซิ่งอี่เจ๋อ
ทันทีที่กดคลิกรายการเร่งด่วน โทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมาทันใด
เธอกดเปิดข้อความ
(ซย่าซย่า เราออกมาเจอกันหน่อย อย่าให้อี่เจ๋อรู้)
ชื่อสุดท้ายคือ : เซิ่งชิงอี้!
ตอนที่ 347 ถ้าต้องเลือก ก็ต้องเป็นเธอแน่นอน (4)
อันซย่าซย่ามือสั่นเทาจนโทรศัพท์มือถือแทบหล่น
เซิ่งชิงอี้…นั่นพ่อของเซิ่งอี่เจ๋อไม่ใช่หรือ…
ต้องการพบเธอทำไม? มีเรื่องอะไรทำไมไม่พบเซิ่งอี่เจ๋อก่อน?
ด้วยความสงสัยทุกรูปแบบ อันซย่าซย่าจึงตอบกลับไปแค่ว่า “ค่ะ” ทางด้านเซิ่งชิงอี้ก็แจ้งที่อยู่ร้านอาหารและเวลานัดหมายกลับมาอย่างรวดเร็ว
“เล่นอะไรอยู่น่ะ?” เซิ่งอี่เจ๋อกระซิบถามเธออยู่ข้างๆ
“เปล่า…” อันซย่าซย่าเก็บโทรศัพท์ เธอยิ้มให้เซิ่งอี่เจ๋อและสูดหายใจเข้าลึกๆ
เป็นวาสนาไม่ใช่คราวเคราะห์ แต่ถ้าเป็นคราวเคราะห์ก็หลบไม่พ้น (อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด)
เจอก็เจอ
–
วันรุ่งขึ้น
อันซย่าซย่าไปร้านอาหารที่เซิ่งชิงอี้แจ้งไว้ตามเวลาที่ระบุ
เซิ่งชิงอี้ตรงต่อเวลากว่าเธอ เห็นได้ชัดว่าเขามาถึงก่อนเวลาได้สักพักแล้ว ใบหน้าพกพารอยยิ้มสง่างามแบบชายวัยกลางคน ท่วงท่าเผยให้เห็นถึงเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่
ตามความเห็นของอันซย่าซย่า เซิ่งอี่เจ๋อเหมือนเขาในเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ เซิ่งอี่เจ๋อมีความเหมือนพ่ออยู่มาก
“ซย่าซย่า นั่งสิ” เขายิ้มในขณะที่พูด อันซย่าซย่านั่งลงอย่างเชื่อฟัง
เซิ่งชิงอี้เริ่มเปิดประเด็น “เธอรู้ไหมว่าฉันเรียกเธอมาทำไม?”
อันซย่าซย่าส่ายหน้าด้วยความสัตย์จริง แต่ในใจมีลางสังหรณ์ว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซิ่งอี่เจ๋อซะส่วนใหญ่
เซิ่งชิงอี้หยิบถ้วยชาดินเผาขึ้นมาอย่างใจเย็นและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันไม่ต้องการเล่นละครที่โยนเช็คเงินสดให้เธอหนึ่งใบแล้วให้เธอออกไปจากชีวิตลูกชายฉันหรอกนะ แต่ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ ซย่าซย่า เธอกับอี่เจ๋อไม่เหมาะสมกัน”
อันซย่าซย่าหลุบตาลง เธอเองก็รู้ว่าเรื่องทุกอย่างจะต้องกลายมาเป็นแบบนี้
“เขาได้รับการสั่งสอนอย่างดีที่สุดมาตั้งแต่เด็ก เรียนโรงเรียนที่ดีที่สุด ใช้ของยี่ห้อดีที่สุด…แน่นอนว่าฉันไม่ได้อวดร่ำอวดรวยเพราะมันไม่จำเป็น แต่หากวิเคราะห์ในแง่ของเหตุผลแล้ว พื้นเพครอบครัวของพวกเธอ การศึกษา และสภาพแวดล้อมในวัยเด็กล้วนเทียบกันไม่ติด เรื่องฐานะครอบครัวที่ต่างกัน คนรุ่นใหม่อย่างพวกเธออาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ยังไงก็ต้องบอกว่าเด็กที่มาจากพื้นฐานครอบครัวที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นมุมมอง ความคิดความอ่าน นิสัยหรือรวมไปถึงทุกๆ ด้านก็ย่อมแตกต่างกัน”
อันซย่าซย่านั่งฟังเงียบๆ นิ้วเรียวดึงที่ชายเสื้ออย่างแรงจนข้อต่อลอยเด่นเป็นสีขาวอมฟ้า
“ความรักเป็นสิ่งดีงาม ความจริงใจก็เป็นสิ่งที่น่าซาบซึ้ง วาทศิลป์พวกนี้เธอไม่ต้องบอกฉันก็ได้ ที่เรียกเธอมา ฉันก็แค่จะแจ้งให้เธอทราบว่าคนที่อี่เจ๋อจะแต่งงานด้วยจะต้องไม่ใช่เธอ ถ้าเธอยังหน้าด้านยืนยันจะอยู่เคียงข้างเขาต่อไป ฉันก็จะไม่ห้าม แต่ตระกูลเซิ่งจะไม่มีวันยอมรับเธอและเธอก็จะไม่มีตัวตนไปตลอดชีวิต อยากเป็นคนรักหรือมือที่สามก็เชิญตามสบาย”
เซิ่งชิงอี้ยิ้มจางๆ ราวกับไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเองโหดร้ายกับเด็กสาวอายุสิบหกมากเพียงใด เมื่อเห็นอันซย่าซย่าหน้าซีดเผือด เขาก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น
นี่ก็คือคนตระกูลเซิ่ง ไร้ความรู้สึก ทั้งยังโหดร้ายและเลือดเย็น
สำหรับคำพูดของเขา เขาเพียงแค่อธิบายข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นอันซย่าซย่าจะรับได้หรือไม่ เจ็บปวดหรือไม่ก็ล้วนไม่เกี่ยวกับเขา
อันซย่าซย่าได้แต่ยิ้มและพูดว่า “คุณลุง ถ้าคุณต้องการช่วยเซิ่งอี่เจ๋อเลือกภรรยา คุณจะเลือกใครหรือคะ?”
เซิ่งชิงอี้เลิกคิ้ว เขารู้ว่าอันซย่าซย่าเคยพบซ่งชิงเฉินแล้วจึงมอบคำบาดหูให้เธออีกครั้ง “ลูกสาวคนเล็กของตระกูลซ่ง คนรักวัยเด็กของอี่เจ๋อ ถ้าต้องเลือก ก็ต้องเป็นเธออย่างแน่นอน”
ตระกูลซ่งกับตระกูลเซิ่งผนึกพลังกันสร้างตำนานธุรกิจต่อไป!
ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างเซิ่งอี่เจ๋อกับซ่งชิงเฉินก็มีความรู้สึกต่อกันอยู่แล้ว! อันซย่าซย่าที่คบหากันเพียงแค่ครึ่งปีจะมีดีอะไรไปสู้ซ่งชิงเฉินที่รู้จักกันมาสิบกว่าปี อีกทั้งเธอยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้อีกด้วย?
“ถึงอย่างไรคุณก็ไม่ใช่เซิ่งอี่เจ๋อ ทำไมต้องเลือกแทนเขาด้วยล่ะคะ?”