ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 360 เราเลิกกันเถอะ (2) / ตอนที่ 361 เราเลิกกันเถอะ (3)

ตอนที่ 360 เราเลิกกันเถอะ (2)     อันซย่าซย่าถูกจูบจนพูดอะไรไม่ออก เธอสะอึกอยู่ไม่กี่ครั้งก็หายใจแทบไม่ทัน เซิ่งอี่เจ๋อจึงยอมปล่อยเธอไป     เธอหายใจเหมือนปลาขึ้นมาจากน้ำ ริมฝีปากสีชมพูเปลี่ยนเป็นบวมเจ่อ นัยน์ตาเซิ่งอี่เจ๋อเข้มขึ้นและยิ้มอย่างพอใจ     เซิ่งอี่เจ๋อสตาร์ทรถพาเธอออกจากบ้านตระกูลเซิ่ง     “นายจะพาฉันไปไหน?” อันซย่าซย่าเห็นว่าทางที่เขาพาไปไม่ใช่ทางกลับบ้าน     เซิ่งอี่เจ๋อเม้มปากและแสร้งทำเป็นพูดแฝงความหมายลึกซึ้ง “ไปเปิดห้อง เราสองคนจะไปมุดใต้ผ้านวม พูดคุยเรื่องชีวิต แลกเปลี่ยนอุดมคติกันเสียหน่อย”     จากนั้นเขาก็เห็นแววตาของอันซย่าซย่าที่เต็มไปด้วยความสยดสยองกำลังจ้องมองมาที่เขา     ส่วนลึกของหัวใจกลายเป็นความอบอุ่นอ่อนโยน เขาจับศีรษะเล็กของเธอด้วยมือเดียว “แหย่เธอเล่นน่ะ ฉันจะพาเธอไปกินของอร่อย”     “ฮึ นายอย่าคิดว่าจะพาฉันไปกินของอร่อยแล้วฉันจะยอมยกโทษให้นายหรอกนะ!” อันซย่าซย่าพูดด้วยความมุ่งมั่น     หนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอโบกช้อนส้อมไปมาในขณะที่กินของหวาน จากนั้นก็ถามเซิ่งอี่เจ๋อเหมือนสุนัขรับใช้ “กินอีกชิ้นได้ไหม?”     เซิ่งอี่เจ๋อกอดอกพลางยิ้มมุมปาก “อร่อยไหม?”     “อืมอืม!” อันซย่าซย่าผู้บ้าของกินพยักหน้า     “งั้นก็…” ยกโทษให้ฉันสิ ยังไม่ทันพูดประโยคนั้นจบ โทรศัพท์ก็สั่นอย่างรุนแรง     พอเปิดดูก็พบว่าเป็นคุณซ่งโทรมา     เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ จากนั้นก็รับสาย     เสียงคุณซ่งลอยเข้ามาผ่านทางโทรศัพท์ด้วยความร้อนใจ “อี่เจ๋อ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…ซ่งซ่งหมดสติไปแล้ว หมอบอกว่าเธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรง ฉันต้องการให้นายมาอธิบายให้ฉันฟังที่โรงพยาบาล!”     ในภาพจำของเซิ่งอี่เจ๋อ คุณซ่งเป็นคนอ่อนโยนและสง่างามมาโดยตลอด เขาไม่เคยพูดคำพูดรุนแรงกับใครเลย แต่ตอนนี้ดันเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อาการซ่งชิงเฉินจะร้ายแรงขนาดไหน…     หลังจากวางสาย อันซย่าซย่าก็มองเขาด้วยความสงสัย “มีอะไร?”     เซิ่งอี่เจ๋อสูดหายใจ “ซ่งซ่งหมดสติไป…ฉันต้องไปเยี่ยมสักหน่อย…”     อันซย่าซย่าหมดอารมณ์ลงทันที     เธอรู้ดีว่าที่เซิ่งอี่เจ๋อพาเธอมากินของหวานก็เพื่อเป็นการปลอบใจเธอ เธอก็พอใจมากแล้ว     ทั้งๆ ที่รู้ว่าการหมั้นของเขากับซ่งชิงเฉินเป็นแค่การจัดฉาก แต่จะเป็นไปได้อย่างไรที่ในใจเธอจะไม่รู้สึกเสียใจเลย? จะไม่ให้คิดเล็กคิดน้อยเลยงั้นเหรอ?     และตอนนี้…เขากำลังจะทิ้งเธอเพราะซ่งชิงเฉินอีกแล้ว…     “สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ นายควรไปเยี่ยมเธอเสียหน่อย” เธอพูดอย่างไม่งี่เง่า     ยิ่งเป็นแบบนี้ เซิ่งอี่เจ๋อก็ยิ่งรู้สึกผิด เขายอมให้อันซย่าซย่าโมโหและด่าเขาอย่างเอาแต่ใจยังจะดีเสียกว่า พอเห็นท่าทีอันซย่าซย่าที่เป็นแบบนี้แล้ว เขาก็เจ็บปวด     “ฉันจะให้คนขับรถไปส่งเธอกลับบ้าน ซย่าซย่า ขอโทษนะ” เขาขอโทษจากใจจริงและโทรศัพท์หาคนขับรถ “คนขับรถจะมาถึงอีกสิบนาที เธอรออยู่ที่นี่นะ อย่าซนล่ะ เข้าใจไหม?”     อันซย่าซย่ายิ้มและโบกมือให้เขา “ (^_^) /~~ บ้ายบาย อย่าลืมจ่ายเงินล่ะ ไม่งั้นฉันฆ่านายแน่!     เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มด้วยแววตาอ่อนโยน “อืม”     เขาจากไปอย่างรีบเร่ง อันซย่าซย่าตักของหวานขึ้นมากินอีกคำ แต่กลับไม่รับรู้รสชาติของความหวานอีกเลย ในปากตลบอบอวลไปด้วยรสขมฝาด     หัวใจฉันเจ็บ เจ็บปวดมากเหลือเกิน     แต่ฉันจะไม่พูด     เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างอ้างว้าง     –     คนขับรถพาเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย หลังจากที่อันซย่าซย่าอาบน้ำเสร็จ เธอก็ล้มตัวนอนขดอยู่บนเตียง ฝังตัวไว้ในผ้าห่ม     เสียงเตือนข้อความดังเข้ามาผ่านทางโทรศัพท์ เธอคลำไปที่ใต้หมอนแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรงหน้า     เมื่อเธอกดไปที่ข้อความ เลือดลมเธอก็พุ่งปรี๊ดขึ้นทันที เธอโมโหสุดขีด     มีเพียงภาพเดียวอยู่ในข้อความ ซึ่งเป็นภาพซ่งชิงเฉินผู้น่าสงสารกำลังดึงชายเสื้อเซิ่งอี่เจ๋อ และเซิ่งอี่เจ๋อกำลังปอกผลไม้ให้เธอ     นี่ไม่ใช่การโอ้อวด แต่เป็นการแสดงพลัง!             ตอนที่ 361 เราเลิกกันเถอะ (3)     เบอร์โทรศัพท์นี้อันซย่าซย่าเดาว่าไม่ใช่เบอร์ของซ่งชิงเฉิน เธอพยายามกดโทรออกแต่หมายเลขถูกยกเลิก     หากมองจากมุมนี้ ดูก็รู้แล้วว่าถ่ายโดยบุคคลที่สาม แม้ว่าเธอจะเอารูปไปให้เซิ่งอี่เจ๋อดู แต่ก็พิสูจน์อะไรไม่ได้     จุดประสงค์ของซ่งชิงเฉินมันชัดเจนแล้วสำหรับเธอ ซ่งชิงเฉินเพียงแค่ต้องการอวดว่าเซิ่งอี่เจ๋อดีกับเธอขนาดไหน อยากให้เธอเสียใจสินะ?     แต่อย่างไรก็ต้องบอกว่าเธอบรรลุเป้าหมายแล้ว     อันซย่าซย่ายังคงนอนอยู่ในผ้าห่มไม่ขยับเขยื้อน     –     วันรุ่งขึ้น     อันซย่าซย่าลุกจากที่นอนแล้วทำการบ้านปิดเทอมอย่างตั้งอกตั้งใจ     ทัศนคติที่เปลี่ยนไปทำให้อันอี้เป่ยสงสัย “โอ้โห ทำไมวันนี้นึกขยันได้ล่ะ?”     “ฉันปลงทางโลกแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะตั้งใจเรียนให้ดียิ่งยิ่งขึ้นไป รักประเทศรักชาติรักประชาชน!” อันซย่าซย่าพูดกับเขาพลางหัวเราะอย่างขี้เล่น     อันอี้เป่ยเอานิ้วจิ้มหัวเธอแล้วนั่งลงข้างๆ เขากวาดสายตามองเธอด้วยแววตาอันล้ำลึก “ทะเลาะกับไอ้สารเลวเซิ่งอี่เจ๋อล่ะสิ?”     “เปล่า…เหอะเหอะเหอะ…” อันซย่าซย่ายิ้มแห้งพลางเร่งมือแก้โจทย์ปัญหา     “ยัยโง่! คิดผิดแล้ว! ฟังก์ชันต้องแทนที่ด้วยเลขตัวนี้…” อันอี้เป่ยมองไปที่โต๊ะอย่างไม่ได้ดั่งใจ เขาเห็นว่าอันซย่าซย่านิ่งไปนานสักพักกว่าจะเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอถือปากกาสีดำขึ้นมาคิดใหม่โดยไม่ได้ขีดฆ่าวิธีการคำนวณอันก่อนหน้านี้     เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ อันอี้เป่ยก็นึกอะไรบางอย่างอยู่ในใจ     คนที่ทำให้อันซย่าซย่าผู้มองโลกในแง่ดีกลายมาเป็นแบบนี้ได้ นอกจากเซิ่งอี่เจ๋อแล้ว เขาก็ไม่พบว่าจะมีใครทำได้อีก     อันอี้เป่ยยื่นมือมาลูบหัวเล็กๆ ของอันซย่าซย่า พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างหาได้ยาก “ซย่าซย่า…ได้รับความขุ่นข้องหมองใจอะไรก็คุยกับพี่ได้ เธอยังมีพี่อยู่นะ พี่จะช่วยเธอจัดการไอ้สารเลวนั่น!”     อันซย่าซย่าอุ่นใจเล็กน้อย เธอลูบฝ่ามือเขาแล้วพูดอย่างซึ้งใจ “พี่ พี่ดีจังเลย…”     “อืม…พี่อยากถามอะไรสักหน่อย เธอสระผมหรือยัง?” อันอี้เป่ยบ่นพึมพำ     “นี่มันสำคัญตรงไหน!” อันซย่าซย่าแผดเสียง     อันอี้เป่ยยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ พลางแสดงสีหน้ารังเกียจ แต่จริงๆ แล้วเขาคอยลูบหัวเธออยู่ตลอด     –     เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก เขาก็ลงมาหยิบกาแฟที่ชั้นล่างและบังเอิญเจอกับเซิ่งอี่เจ๋อที่กำลังจะขึ้นไปชั้นบน     อันอี้เป่ยขวางทางเขาด้วยท่าทีดุดัน     “บนโลกใบนี้ไม่มีหรอกนะการที่จะเข้าถึงใจกันน่ะ นายไม่รู้หรอกว่าเธอเจ็บปวดแค่ไหน อย่าคิดว่าน้องสาวฉันจะรังแกได้ง่ายๆ ถ้าไม่สามารถมอบความสุขให้เธอได้ ก็วางมือเสียตั้งแต่ตอนนี้!” เขาต่อว่าเซิ่งอี่เจ๋ออย่างรุนแรง     เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็พยักหน้าและเดินขึ้นไปข้างบน     เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องอันซย่าซย่า เขาก็ยืนนิ่ง อันซย่าซย่าไม่ได้ปิดประตูไว้ เธอกำลังนั่งเขียนการบ้านอยู่บนโต๊ะ     เซิ่งอี่เจ๋อหยุดฝีเท้าโดยไม่พูดอะไร เขามองเธออย่างเงียบๆ     ความเคยตัวของเธอแทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย ทั้งที่เมื่อก่อนนี้ทำไปได้ไม่กี่ข้อก็ต้องเล่นโทรศัพท์ ปัดเวย์ปั๋ว หมุนปากกา หรือขีดเขียนมั่วซั่ว…     เธอที่เป็นแบบนี้ทำให้เขากังวลอยู่เต็มอกอย่างยากที่จะบรรเทา     อันซย่าซย่าหันมามองตามเสียงที่เคาะประตู เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือเขา เธอก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก     เซิ่งอี่เจ๋อมองออกว่ารอยยิ้มนั้นมันดูฝืนมาก     เขาถอนหายใจออกมาจากส่วนลึกของหัวใจและเดินเข้าไป จากนั้นก็ดูสมุดแบบฝึกหัดของเธอพลางกล่าวชม “อืม ทำถูกหมดเลย”     “ฉันเก่งไหม?” อันซย่าซย่าพูดพลางยืดตัวบิดขี้เกียจ “ฉันจะลงไปกินเค้กและชานมข้างล่างเพื่อฉลองเสียหน่อย”     เธอกระโดดโลดเต้นลงไปข้างล่าง เซิ่งอี่เจ๋อก็เดินตามเธอลงไป     เสียงที่ทำให้อันซย่าซย่ารู้สึกสะอิดสะเอียนดังลอยขึ้นมาจากชั้นล่าง     “พี่อาเจ๋อ ฉันมาหาคุณแน่ะ!” ซ่งชิงเฉินเมินอันซย่าซย่าที่อยู่ตรงบันได แต่หันหน้าทักทายเซิ่งอี่เจ๋อด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้ง

ตอนที่ 360 เราเลิกกันเถอะ (2)

 

 

อันซย่าซย่าถูกจูบจนพูดอะไรไม่ออก เธอสะอึกอยู่ไม่กี่ครั้งก็หายใจแทบไม่ทัน เซิ่งอี่เจ๋อจึงยอมปล่อยเธอไป

 

 

เธอหายใจเหมือนปลาขึ้นมาจากน้ำ ริมฝีปากสีชมพูเปลี่ยนเป็นบวมเจ่อ นัยน์ตาเซิ่งอี่เจ๋อเข้มขึ้นและยิ้มอย่างพอใจ

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อสตาร์ทรถพาเธอออกจากบ้านตระกูลเซิ่ง

 

 

“นายจะพาฉันไปไหน?” อันซย่าซย่าเห็นว่าทางที่เขาพาไปไม่ใช่ทางกลับบ้าน

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเม้มปากและแสร้งทำเป็นพูดแฝงความหมายลึกซึ้ง “ไปเปิดห้อง เราสองคนจะไปมุดใต้ผ้านวม พูดคุยเรื่องชีวิต แลกเปลี่ยนอุดมคติกันเสียหน่อย”

 

 

จากนั้นเขาก็เห็นแววตาของอันซย่าซย่าที่เต็มไปด้วยความสยดสยองกำลังจ้องมองมาที่เขา

 

 

ส่วนลึกของหัวใจกลายเป็นความอบอุ่นอ่อนโยน เขาจับศีรษะเล็กของเธอด้วยมือเดียว “แหย่เธอเล่นน่ะ ฉันจะพาเธอไปกินของอร่อย”

 

 

“ฮึ นายอย่าคิดว่าจะพาฉันไปกินของอร่อยแล้วฉันจะยอมยกโทษให้นายหรอกนะ!” อันซย่าซย่าพูดด้วยความมุ่งมั่น

 

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอโบกช้อนส้อมไปมาในขณะที่กินของหวาน จากนั้นก็ถามเซิ่งอี่เจ๋อเหมือนสุนัขรับใช้ “กินอีกชิ้นได้ไหม?”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกอดอกพลางยิ้มมุมปาก “อร่อยไหม?”

 

 

“อืมอืม!” อันซย่าซย่าผู้บ้าของกินพยักหน้า

 

 

“งั้นก็…” ยกโทษให้ฉันสิ ยังไม่ทันพูดประโยคนั้นจบ โทรศัพท์ก็สั่นอย่างรุนแรง

 

 

พอเปิดดูก็พบว่าเป็นคุณซ่งโทรมา

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ จากนั้นก็รับสาย

 

 

เสียงคุณซ่งลอยเข้ามาผ่านทางโทรศัพท์ด้วยความร้อนใจ “อี่เจ๋อ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…ซ่งซ่งหมดสติไปแล้ว หมอบอกว่าเธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรง ฉันต้องการให้นายมาอธิบายให้ฉันฟังที่โรงพยาบาล!”

 

 

ในภาพจำของเซิ่งอี่เจ๋อ คุณซ่งเป็นคนอ่อนโยนและสง่างามมาโดยตลอด เขาไม่เคยพูดคำพูดรุนแรงกับใครเลย แต่ตอนนี้ดันเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อาการซ่งชิงเฉินจะร้ายแรงขนาดไหน…

 

 

หลังจากวางสาย อันซย่าซย่าก็มองเขาด้วยความสงสัย “มีอะไร?”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อสูดหายใจ “ซ่งซ่งหมดสติไป…ฉันต้องไปเยี่ยมสักหน่อย…”

 

 

อันซย่าซย่าหมดอารมณ์ลงทันที

 

 

เธอรู้ดีว่าที่เซิ่งอี่เจ๋อพาเธอมากินของหวานก็เพื่อเป็นการปลอบใจเธอ เธอก็พอใจมากแล้ว

 

 

ทั้งๆ ที่รู้ว่าการหมั้นของเขากับซ่งชิงเฉินเป็นแค่การจัดฉาก แต่จะเป็นไปได้อย่างไรที่ในใจเธอจะไม่รู้สึกเสียใจเลย? จะไม่ให้คิดเล็กคิดน้อยเลยงั้นเหรอ?

 

 

และตอนนี้…เขากำลังจะทิ้งเธอเพราะซ่งชิงเฉินอีกแล้ว…

 

 

“สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ นายควรไปเยี่ยมเธอเสียหน่อย” เธอพูดอย่างไม่งี่เง่า

 

 

ยิ่งเป็นแบบนี้ เซิ่งอี่เจ๋อก็ยิ่งรู้สึกผิด เขายอมให้อันซย่าซย่าโมโหและด่าเขาอย่างเอาแต่ใจยังจะดีเสียกว่า พอเห็นท่าทีอันซย่าซย่าที่เป็นแบบนี้แล้ว เขาก็เจ็บปวด

 

 

“ฉันจะให้คนขับรถไปส่งเธอกลับบ้าน ซย่าซย่า ขอโทษนะ” เขาขอโทษจากใจจริงและโทรศัพท์หาคนขับรถ “คนขับรถจะมาถึงอีกสิบนาที เธอรออยู่ที่นี่นะ อย่าซนล่ะ เข้าใจไหม?”

 

 

อันซย่าซย่ายิ้มและโบกมือให้เขา “ (^_^) /~~ บ้ายบาย อย่าลืมจ่ายเงินล่ะ ไม่งั้นฉันฆ่านายแน่!

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มด้วยแววตาอ่อนโยน “อืม”

 

 

เขาจากไปอย่างรีบเร่ง อันซย่าซย่าตักของหวานขึ้นมากินอีกคำ แต่กลับไม่รับรู้รสชาติของความหวานอีกเลย ในปากตลบอบอวลไปด้วยรสขมฝาด

 

 

หัวใจฉันเจ็บ เจ็บปวดมากเหลือเกิน

 

 

แต่ฉันจะไม่พูด

 

 

เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างอ้างว้าง

 

 

 

 

คนขับรถพาเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย หลังจากที่อันซย่าซย่าอาบน้ำเสร็จ เธอก็ล้มตัวนอนขดอยู่บนเตียง ฝังตัวไว้ในผ้าห่ม

 

 

เสียงเตือนข้อความดังเข้ามาผ่านทางโทรศัพท์ เธอคลำไปที่ใต้หมอนแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรงหน้า

 

 

เมื่อเธอกดไปที่ข้อความ เลือดลมเธอก็พุ่งปรี๊ดขึ้นทันที เธอโมโหสุดขีด

 

 

มีเพียงภาพเดียวอยู่ในข้อความ ซึ่งเป็นภาพซ่งชิงเฉินผู้น่าสงสารกำลังดึงชายเสื้อเซิ่งอี่เจ๋อ และเซิ่งอี่เจ๋อกำลังปอกผลไม้ให้เธอ

 

 

นี่ไม่ใช่การโอ้อวด แต่เป็นการแสดงพลัง!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 361 เราเลิกกันเถอะ (3)

 

 

เบอร์โทรศัพท์นี้อันซย่าซย่าเดาว่าไม่ใช่เบอร์ของซ่งชิงเฉิน เธอพยายามกดโทรออกแต่หมายเลขถูกยกเลิก

 

 

หากมองจากมุมนี้ ดูก็รู้แล้วว่าถ่ายโดยบุคคลที่สาม แม้ว่าเธอจะเอารูปไปให้เซิ่งอี่เจ๋อดู แต่ก็พิสูจน์อะไรไม่ได้

 

 

จุดประสงค์ของซ่งชิงเฉินมันชัดเจนแล้วสำหรับเธอ ซ่งชิงเฉินเพียงแค่ต้องการอวดว่าเซิ่งอี่เจ๋อดีกับเธอขนาดไหน อยากให้เธอเสียใจสินะ?

 

 

แต่อย่างไรก็ต้องบอกว่าเธอบรรลุเป้าหมายแล้ว

 

 

อันซย่าซย่ายังคงนอนอยู่ในผ้าห่มไม่ขยับเขยื้อน

 

 

 

 

วันรุ่งขึ้น

 

 

อันซย่าซย่าลุกจากที่นอนแล้วทำการบ้านปิดเทอมอย่างตั้งอกตั้งใจ

 

 

ทัศนคติที่เปลี่ยนไปทำให้อันอี้เป่ยสงสัย “โอ้โห ทำไมวันนี้นึกขยันได้ล่ะ?”

 

 

“ฉันปลงทางโลกแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะตั้งใจเรียนให้ดียิ่งยิ่งขึ้นไป รักประเทศรักชาติรักประชาชน!” อันซย่าซย่าพูดกับเขาพลางหัวเราะอย่างขี้เล่น

 

 

อันอี้เป่ยเอานิ้วจิ้มหัวเธอแล้วนั่งลงข้างๆ เขากวาดสายตามองเธอด้วยแววตาอันล้ำลึก “ทะเลาะกับไอ้สารเลวเซิ่งอี่เจ๋อล่ะสิ?”

 

 

“เปล่า…เหอะเหอะเหอะ…” อันซย่าซย่ายิ้มแห้งพลางเร่งมือแก้โจทย์ปัญหา

 

 

“ยัยโง่! คิดผิดแล้ว! ฟังก์ชันต้องแทนที่ด้วยเลขตัวนี้…” อันอี้เป่ยมองไปที่โต๊ะอย่างไม่ได้ดั่งใจ เขาเห็นว่าอันซย่าซย่านิ่งไปนานสักพักกว่าจะเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอถือปากกาสีดำขึ้นมาคิดใหม่โดยไม่ได้ขีดฆ่าวิธีการคำนวณอันก่อนหน้านี้

 

 

เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ อันอี้เป่ยก็นึกอะไรบางอย่างอยู่ในใจ

 

 

คนที่ทำให้อันซย่าซย่าผู้มองโลกในแง่ดีกลายมาเป็นแบบนี้ได้ นอกจากเซิ่งอี่เจ๋อแล้ว เขาก็ไม่พบว่าจะมีใครทำได้อีก

 

 

อันอี้เป่ยยื่นมือมาลูบหัวเล็กๆ ของอันซย่าซย่า พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างหาได้ยาก “ซย่าซย่า…ได้รับความขุ่นข้องหมองใจอะไรก็คุยกับพี่ได้ เธอยังมีพี่อยู่นะ พี่จะช่วยเธอจัดการไอ้สารเลวนั่น!”

 

 

อันซย่าซย่าอุ่นใจเล็กน้อย เธอลูบฝ่ามือเขาแล้วพูดอย่างซึ้งใจ “พี่ พี่ดีจังเลย…”

 

 

“อืม…พี่อยากถามอะไรสักหน่อย เธอสระผมหรือยัง?” อันอี้เป่ยบ่นพึมพำ

 

 

“นี่มันสำคัญตรงไหน!” อันซย่าซย่าแผดเสียง

 

 

อันอี้เป่ยยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ พลางแสดงสีหน้ารังเกียจ แต่จริงๆ แล้วเขาคอยลูบหัวเธออยู่ตลอด

 

 

 

 

เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก เขาก็ลงมาหยิบกาแฟที่ชั้นล่างและบังเอิญเจอกับเซิ่งอี่เจ๋อที่กำลังจะขึ้นไปชั้นบน

 

 

อันอี้เป่ยขวางทางเขาด้วยท่าทีดุดัน

 

 

“บนโลกใบนี้ไม่มีหรอกนะการที่จะเข้าถึงใจกันน่ะ นายไม่รู้หรอกว่าเธอเจ็บปวดแค่ไหน อย่าคิดว่าน้องสาวฉันจะรังแกได้ง่ายๆ ถ้าไม่สามารถมอบความสุขให้เธอได้ ก็วางมือเสียตั้งแต่ตอนนี้!” เขาต่อว่าเซิ่งอี่เจ๋ออย่างรุนแรง

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็พยักหน้าและเดินขึ้นไปข้างบน

 

 

เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องอันซย่าซย่า เขาก็ยืนนิ่ง อันซย่าซย่าไม่ได้ปิดประตูไว้ เธอกำลังนั่งเขียนการบ้านอยู่บนโต๊ะ

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อหยุดฝีเท้าโดยไม่พูดอะไร เขามองเธออย่างเงียบๆ

 

 

ความเคยตัวของเธอแทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย ทั้งที่เมื่อก่อนนี้ทำไปได้ไม่กี่ข้อก็ต้องเล่นโทรศัพท์ ปัดเวย์ปั๋ว หมุนปากกา หรือขีดเขียนมั่วซั่ว…

 

 

เธอที่เป็นแบบนี้ทำให้เขากังวลอยู่เต็มอกอย่างยากที่จะบรรเทา

 

 

อันซย่าซย่าหันมามองตามเสียงที่เคาะประตู เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือเขา เธอก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อมองออกว่ารอยยิ้มนั้นมันดูฝืนมาก

 

 

เขาถอนหายใจออกมาจากส่วนลึกของหัวใจและเดินเข้าไป จากนั้นก็ดูสมุดแบบฝึกหัดของเธอพลางกล่าวชม “อืม ทำถูกหมดเลย”

 

 

“ฉันเก่งไหม?” อันซย่าซย่าพูดพลางยืดตัวบิดขี้เกียจ “ฉันจะลงไปกินเค้กและชานมข้างล่างเพื่อฉลองเสียหน่อย”

 

 

เธอกระโดดโลดเต้นลงไปข้างล่าง เซิ่งอี่เจ๋อก็เดินตามเธอลงไป

 

 

เสียงที่ทำให้อันซย่าซย่ารู้สึกสะอิดสะเอียนดังลอยขึ้นมาจากชั้นล่าง

 

 

“พี่อาเจ๋อ ฉันมาหาคุณแน่ะ!” ซ่งชิงเฉินเมินอันซย่าซย่าที่อยู่ตรงบันได แต่หันหน้าทักทายเซิ่งอี่เจ๋อด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้ง

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

Status: Ongoing
อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset