ตอนที่ 370 เรื่องราวในอดีตของเขากับเธอ (2)
วันถัดมาอันซย่าซย่าจับเอวที่ปวดเมื่อยพลางนั่งเขี่ยเป็นรูปวงกลมบนเตียงด้วยความแค้นใจ
หน้าเนื้อใจเสือ เธอขอสาปแช่ง
ส่วนที่ชั้นล่างกลับได้เจอเข้ากับแขกไม่ได้รับเชิญอย่างไม่คาดคิด
หลีฝานซิง หลีชั่นซิง
พี่น้องสกุลหลีเห็นเธอเข้าเพียงชั่วขณะสีหน้าก็ดูไม่ได้อย่างที่สุด
อันซย่าซย่าพักอยู่ที่บ้านเก่าแก่ของตระกูลเซิ่งเหรอ
“อี่เจ๋อ ซย่าซย่า มานี่สิ” ย่าเซิ่งกวักมือให้พวกเขา
เซิ่งอี่เจ๋อจูงมืออันซย่าซย่าเดินไปด้วยความใจเย็น
“ฝานซิงกับชั่นซิงก็อยู่ที่โรงเรียนฉีซย่า งั้นพวกเธอก็เป็นเพื่อนนักเรียนกันใช่ไหม” ย่าเซิ่งเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพลางยื่นมือไปลูบที่หัวของอันซย่าซย่าอย่างรักใคร่
หลานสะใภ้คนนี้ยิ่งมองยิ่งน่าเอ็นดูเสียจริง
น่ารักแบบซื่อๆ อยากจะให้เธอแต่งเข้ามาในตระกูลเซิ่งมากเลย
อันซย่าซย่ายิ้มเขิน “ใช่ค่ะ ชั่นซิงกับพวกเรายังอยู่ห้องเดียวกันด้วยค่ะ”
ขณะที่พูดก็มีเสียงเท้าดังมาจากด้านนอกกับน้ำเสียงเฉื่อยชาหนึ่งที่คุ้นเคย “ไอหยา ปู่เซิ่งย่าเซิ่ง ผมมาสวัสดีปีใหม่ทั้งสองท่านล่วงหน้าครับ”
“เหยียนซีมาแล้ว…” ย่าเซิ่งเอ่ยด้วยความประหลาดใจ ฉีเหยียนซียิ้มสดใส แต่พอกวาดตามองคนในห้องก็อึ้งไปเลย ทักทายย่าเซิ่งไม่กี่ประโยคเขาก็เดินมาอยู่ตรงหน้าอันซย่าซย่าแล้วแขวะด้วยเสียงเบา “โหย เธอกับศัตรูหัวใจแทบจะนั่งเล่นไพ่นกกระจอกโต๊ะเดียวกันได้แล้วนะ”
อันซย่าซย่า o ( ╯□╰ ) o
หลีฝานซิงเห็นว่าเขามาก็เผยรอยยิ้มน้อยๆ “เหยียนซี”
ย่าเซิ่งยังไม่รู้ว่าทั้งคู่เลิกกันแล้วจึงหยอกเย้าไป “พวกเธอสองคนเมื่อไหร่จะหมั้นกัน ทำไม ยังเขินอายอยู่เหรอ”
หลีฝานซิงก้มหน้าลงด้วยความกระดากอาย แต่ฉีเหยียนซีกลับอธิบายอย่างเย็นชา “ย่าเซิ่งครับ พวกเราสองคนเลิกกันแล้ว”
ย่าเซิ่งรู้สถานการณ์จึงไม่ได้พูดอะไรอีก หลีฝานซิงเหลือบมองเซิ่งอี่เจ๋อแล้วค่อยมองไปที่ฉีเหยียนซีเหมือนกับตัดสินใจแน่วแน่และพูดเสียงอ่อน “เหยียนซี เรามาคุยกันหน่อยเถอะ”
ฉีเหยียนซีเย้ยหยันอยู่ในใจ ใบหน้ากลับยังคงรอยยิ้มร้าย “ได้สิ”
ในเมื่อเธออยากจะเล่นละคร งั้นเขาก็จะให้ความร่วมมือจนถึงที่สุด
ทั้งสองเดินไปที่สวนด้านหลังแล้ว อันซย่าซย่าก็อยู่ในห้องด้วยความเบื่อหน่าย เซิ่งอี่เจ๋อจึงพาเธอออกไปสูดอากาศ
หลีฝานซิงยังคงมีสีหน้านิ่งเรียบพลางเดินตามพวกเขาสองคนอยู่ด้านหลังเงียบๆ
สวนในบ้านเก่าตระกูลเซิ่งกว้างมากและยังมีสระน้ำเปิดโล่ง ทั้งคู่จูงมือกันก้าวเดินไปอย่างเชื่องช้า อันซย่าซย่ากระทุ้งศอกเซิ่งอี่เจ๋อ “นายรู้สึกไหมว่าพวกเราสองคนเหมือนคู่แต่งงานเก่าเลย การเดินเล่นจำพวกนี้ปกติเป็นสิ่งที่วัยกลางคนถึงจะทำกันนี่นะ”
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้ว “อ๋อ? คุณหญิงเซิ่ง เธออยากรีบแต่งงานไวขนาดนี้เลย”
พรืด
“ฉันเพียงแค่เปรียบเทียบ ไม่ใช่บอกว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันจริง” อันซย่าซย่าเถียงกลับด้วยใบหน้าแดง
นัยน์ตาเซิ่งอี่เจ๋อเจือรอยยิ้มพร้อมกับพูดอย่างเอื่อยเฉื่อย “หลังจากนี้พวกเราก็จูงมือกันแบบนี้เดินไปด้วยกันตลอดชีวิตเถอะ”
“ซื้อบ้านหลังใหญ่สักหน่อย ทำเลไม่จำเป็นต้องดีมากเกิน เงียบพอเป็นดีที่สุด มีลูกชายหรือลูกสาวฉันก็ชอบหมด เธอกลัวแมว งั้นเราก็เลี้ยงหมาและค่อยปลูกต้นไม้ดอกไม้ อ่า ใช่แล้ว ฉันตกปลาเป็นด้วย อยู่ที่ใกล้น้ำจะดีที่สุด พอตกปลาเสร็จกลับมาก็ทำอาหารให้เธอ”
น้ำเสียงของเขาค่อนข้างราบเรียบ คำพูดสั้นๆ แต่กลับพูดให้อันซย่าซย่าซาบซึ้งใจ
ไม่มีการสาบานรักต่อฟ้าดินอย่างอบอุ่น มีเพียงแค่คำสัญญาหนักแน่นที่เรียบง่าย
อนาคตที่เขาจินตนาการไว้ทุกอย่างมีเธออยู่เสมอมา
ทำให้เธอไม่ซึ้งใจเลยไม่ได้
เกิดเสียงดังกรอบแกรบเป็นเสียงคนเหยียบกิ่งไม้แห้ง
บรรยากาศงดงามถูกทำลายในชั่วขณะ
อันซย่าซย่าหันไปก็เห็นเพียงหลีชั่นซิงที่ยืนอยู่ในตำแหน่งไม่ไกลจากทั้งสองคนพร้อมกับจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
ตอนที่ 371 เรื่องราวในอดีตของเขากับเธอ (3)
ท่าทางของเธอไม่น่าไว้ใจ จ้องอันซย่าซย่าเขม็งจนอดตัวสั่นไม่ได้
แม่เอ๊ย…คงไม่ได้ตามพวกเขามาตลอดหรอกนะ…
น่ากลัวเกินไปแล้ว…
หลีฝานซิงสำหรับอันซย่าซย่าคือมีแต่ความเกลียดชัง ส่วนหลีชั่นซิงนั้นอันซย่าซย่ามีความหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก
หาทางหนีทีไล่เป็นสัญชาตญาณของคน
เซิ่งอี่เจ๋อชายตามองด้วยใบหน้าเย็นชา ระงับอารมณ์แล้วดึงอันซย่าซย่าให้หลบข้างหลัง
หลีฝานซิงกระแอมให้คอโล่ง น้ำเสียงฟังดูแล้วค่อนข้างไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ “อันซย่าซย่า ฉันมีเรื่องอยากพูดกับเธอ”
อันซย่าซย่าขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “เรื่องอะไร”
ดวงตาเยือกเย็นคล้ายแมวเลื่อนจากตัวเธอไปทางเซิ่งอี่เจ๋อ หลีฝานซิงพูดเอื่อยๆ “ฉันอยากคุยกับเธอตามลำพัง เป็นเรื่องสำคัญมาก”
อันซย่าซย่าเห็นสีหน้าของเธอไม่เหมือนว่าจะพูดโกหก สับสนอยู่ครู่เดียวก็พยักหน้า
เซิ่งอี่เจ๋อแม้จะไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกไป บอกด้วยเสียงเบาเท่านั้น “ฉันจะอยู่ใต้ต้นเมเปิลต้นนั้นรอเธอ มีอะไรเธอก็ตะโกนเลย ฉันจะได้ยินเธอ”
“ได้”
เขาเดินจากไป หลีชั่นซิงยิ้มเยาะ “คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นด้านอ่อนโยนของเซิ่งอี่เจ๋ออย่างนั้น”
แต่ก่อนหลีฝานซิงตามจีบเขาอย่างหนัก กลับมาบ้านเธอก็จะพูดถึงเซิ่งอี่เจ๋อให้ฟังทุกวัน
ความรู้สึกของเด็กสาวงดงามดังบทกวี ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เธอฟังจากปากของหลีฝานซิงเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่โดดเด่นคนนั้นก็รู้สึกดีไปด้วย
ถึงขั้นที่เธอไปหาเซิ่งอี่เจ๋อกับหลีฝานซิงด้วย แต่เซิ่งอี่เจ๋อก็ไม่ได้มองมาที่เธอเลยสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดว่าจำได้ว่าเธอเป็นใคร
เขามอบความเย็นชาให้กับทั้งโลกแต่กลับอ่อนโยนให้เธอเพียงคนเดียว
พอนึกถึงตรงนี้ หลีชั่นซิงกำมือแน่นพลางฉีกยิ้มให้กับอันซย่าซย่า
เธอคงจะไม่ค่อยยิ้มบ่อยเท่าไหร่ จู่ๆ ยิ้มออกมาก็รู้สึกแปลกอย่างประหลาดอย่างยิ่ง
“อันซย่าซย่า เธออยากรู้เรื่องราวในอดีตของเซิ่งอี่เจ๋อกับซ่งชิงเฉินไหม”
อากาศค่อยๆ มืดครึ้ม อันซย่าซย่าเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ขมุกขมัวและเดาว่าหิมะคงใกล้จะตกแล้ว
เดินกลับไปด้วยใจเหม่อลอย คำพูดเหล่านั้นที่หลีฝานซิงพูดวนเวียนอยู่ในสมอง
“เซิ่งอี่เจ๋อกับซ่งชิงเฉินรู้จักกันเมื่อสิบสองปีก่อนแล้ว ตอนนั้นแม่ของเซิ่งอี่เจ๋อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาเป็นโรคออทิซึมอย่างรุนแรง ซ่งชิงเฉินเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าไปในใจเขาได้
อุบัติเหตุครั้งหนึ่ง ทั้งคู่ตกน้ำไปพร้อมกัน เป็นซ่งชิงเฉินที่ใช้ช่วงวิกฤตสุดท้ายดันเซิ่งอี่เจ๋อ เซิ่งอี่เจ๋อจึงมีชีวิตต่อ เธอลอยไปตามน้ำ ทุกคนต่างก็นึกว่าเธอตายแล้ว
เซิ่งอี่เจ๋อเป็นบ้าเพราะเธออยู่สามปี ถูกพ่อเขาขังไว้สามปี หลังจากนั้นถึงได้รับการรักษา กลายมาเป็นลูกรักแห่งสวรรค์ กลายเป็นไอดอลแห่งชาติ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะเธอ เป็นเพราะซ่งชิงเฉิน”
เธอพูดจบในรวดเดียวแล้วยกยิ้มมุมปาก “เกลียดฉันล่ะสิ ถึงยังไงฉันก็ไม่ใช่คนดีอะไรและเลียนแบบทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยมของพี่ฉันไม่ได้ ฉันเกลียดเธอแบบไม่มีเหตุผล ก็เพราะเกลียดเธอ เลยบอกเธอ ก็แค่ไม่อยากให้เธออยู่อย่างมีความสุขเท่านั้น”
เธอเดินจากไปด้วยท่าทีผยองเหมือนกับเพิ่งไปชนะสงครามมา
อันซย่าซย่ากำหมัดแน่นพลางสูดลมหายใจอย่างแรง
เธอนึกว่าเธอจะไม่สนใจ แต่พอฟังเรื่องในอดีตเหล่านั้นจริงๆ แล้วก็รู้สึกแย่
เธอสงสารเซิ่งอี่เจ๋อที่ไม่เคยได้รับความรักในตอนนั้น เธออิจฉาซ่งชิงเฉินที่ให้ความอบอุ่นอยู่ข้างกายเขา
เคยได้ยินคำพูดหนึ่ง ไม่บ้า ไม่มีชีวิต
เธอมอบชีวิตให้เขา เขาเป็นบ้าเพื่อเธอ
แต่ตัวเธอเองถือว่าเป็นอะไรกันแน่
“ซย่าซย่า” เซิ่งอี่เจ๋อเห็นสีหน้าเธอดูแย่ลงเรื่อยๆ ก็ก้าวพรวดมาหา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความห่วงใย “เธอเป็นอะไรไป ไม่สบายเหรอ”
อันซย่าซย่าสะกดกลั้นความเสียใจแล้วเงยหน้าขึ้น “ฉันไม่เป็นไร…ใช่แล้ว เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันมีของขวัญจะให้นาย”