ตอนที่ 374 ยัยทึ่มซย่าซย่า อย่าเข้ามา
เซิ่งอี่เจ๋อทำหน้าจนปัญญา เขามองเนคไทแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่ง
ราคาต้องแพงมากแน่ๆ
“ฉันกับไก่ทอด…อะไรสำคัญกว่า…” เงามืดถามคำถามที่ราวกับสูญเสียเอกราชและเสียเกียรติภูมิของชาติ
อันซย่าซย่าทำท่ากลัดกลุ้มอยู่นานสองนาน พลางมองเซิ่งอี่เจ๋ออย่างไม่สบายใจ
เดิมทีเขายังคิดว่าตัวเองยังพอมีพื้นที่ในใจของสาวน้อยคนนี้ แต่ดูแล้วตอนนี้สถานะค่อนข้างน่าเป็นห่วง!
“นายสำคัญกว่าหน่อยนึง…” เพราะจริงๆ แล้วเซิ่งอี่เจ๋อสามารถซื้อไก่ทอดให้เธอได้ แต่การกินไก่ทอดไม่สามารถทำให้เซิ่งอี่เจ๋อออกมาได้!
อันซย่าซย่าอยากยกนิ้วให้ตัวเองเป็นการชื่นชม!
หน้าตาเซิ่งอี่เจ๋อดูมืดมน อืม ดีมาก ดีมาก สำคัญกว่าไก่ทอด ช่างควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง
เฮ้ย ไม่ใช่? ฉลองกับผีน่ะสิ! นายแค่สำคัญกว่าไก่ทอดเองนะเจ้าบ้า!
“หิมะตกแล้ว!” อันซย่าซย่ารีบออกไปอย่างกระดี๊กระด๊า พอคุณปู่เซิ่งกับคุณย่าเซิ่งซึ่งกำลังทานอาหารอยู่ข้างล่างเห็นท่าทางเบิกบานใจของเธอ ใบหน้าก็พลอยเปื้อนยิ้มไปด้วย
“เสี่ยวซย่าซย่า มีเรื่องอะไรถึงได้มีความสุขขนาดนี้?”
“คุณปู่เซิ่ง คุณย่าเซิ่งคะ หิมะตกแล้ว! หนูจะออกไปปั้นตุ๊กตาหิมะแล้วก็เล่นปาหิมะค่ะ!” อันซย่าซย่าพูดด้วยความตื่นเต้น
“ดีดีดี มาทานข้าวก่อนสิ! ทานเสร็จแล้วก็ให้คุณปู่ไปช่วยปั้น!”
“เอ่อ ไม่ต้องหรอกมั้งคะ อากาศหนาวเกินไป ถ้าคุณปู่โดนความเย็นเข้า ขาจะไม่ดีเอาได้” อันซย่าซย่าพูดจริงจัง จากนั้นก็ยิ้มหวาน “หนูจะปั้นตัวใหญ่ๆ ให้คุณปู่กับคุณย่าดูก็ได้ค่ะ”
ด้วยคำพูดเหล่านั้น ทำให้คนแก่ทั้งสองยิ้มกว้างอย่างมีความสุข พวกเขาต่างชื่นชมอันซย่าซย่าที่เป็นเด็กรู้ความ
หลังจากทั้งสามทานอาหารเสร็จ อันซย่าซย่าก็เตรียมจะออกไปข้างนอก แต่กลับถูกเซิ่งอี่เจ๋อขวางเอาไว้
เขาสวมหมวก ผ้าพันคอและถุงมือให้เธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ อันซย่าซย่าพึมพำ “หนาเกินไปแล้ว…”
“ถ้าไม่หนาก็อย่าคิดจะออกไป ถ้าเป็นหวัดขึ้นมาจะทำอย่างไร?” เซิ่งอี่เจ๋อทำหน้าตาบูดบึ้ง เขาอยากห่อเธอด้วยผ้านวมก่อนจะปล่อยเธอออกไปเสียด้วยซ้ำ
อันซย่าซย่าบุ้ยปาก หลังจากที่ติดอาวุธเสร็จก็ถึงจะเดินเข้าไปในสวนและเริ่มปั้นก้อนหิมะเล็กๆ น่ารักๆ
“ลา ลา ลา ลา” เธอฮัมเพลงลาลาลาด้วยตัวเองพร้อมกับกลิ้งก้อนหิมะอย่างมีความสุข
เสียงของฉีเหยียนซีลอยมาในกลางอากาศ “เฮ้! ยัยทึ่มซย่าซย่า เธอทำอะไรอยู่น่ะ?”
พออันซย่าซย่าเงยหน้าขึ้นก็เห็นฉีเหยียนซียืนอยู่ริมรั้วที่ไม่ไกลออกไปมากนัก เขาสวมเพียงเสื้อกันหนาว ในมือถือบุหรี่ที่ยังไหม้ไม่หมด
“ฉีเหยียนซี…นายอาศัยอยู่ที่นี่เหรอ?” อันซย่าซย่าตกใจ
ฉีเหยียนซีหัวเราะเยาะพร้อมกับบีบไฟบุหรี่ เขาหันออกไปอย่างเย็นชา “ใช่แล้ว ฉันเป็นเพื่อนบ้านเซิ่งอี่เจ๋อ”
“งั้นพวกนายก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วสินะ? เป็นคู่แค้นแสนรักกันมานานขนาดนี้ พวกนายสองคนนี่สิถึงจะเรียกว่ารักแท้!”
“ฉันไม่ใช่เกย์เสียหน่อย! เฮ้เฮ้ มานี่ซิ…” ฉีเหยียนซีตะโกนแล้วซุบซิบกับอันซย่าซย่าอยู่สองสามประโยค ใบหน้าของทั้งสองเผยรอยยิ้มคล้ายๆ กัน ทำให้เซิ่งอี่เจ๋อหน้านิ่วคิ้วขมวด
สองคนนั้นทำอะไรน่ะ?
ยังไม่ทันได้เข้าใจ ทั้งสองก็ปาหิมะไปทางเซิ่งอี่เจ๋อ
เขาหลบไปด้านข้าง อันซย่าซย่ากับฉีเหยียนซีก็เริ่มปั้นหิมะอีกครั้ง
เขาพูดดุด้วยหน้าตาบึ้งตึง “ซย่าซย่า เธอช่วยมันเอาชนะฉันเหรอ?”
“แหะแหะ ฉีเหยียนซีบอกว่าถ้าช่วยเขาเอาชนะนายได้สำเร็จ เขาจะเลี้ยงไก่ทอดฉันตั้งหนึ่งเทอมแน่ะ!” อันซย่าซย่าปั้นลูกหิมะอย่างร่าเริง
เซิ่งอี่เจ๋อถึงกับกุมหน้าผาก เอาเขาไปขายเพื่อไก่ทอดเนี่ยนะ?
แฟนตัวน้อยของเขายังสามารถทำอะไรได้อีก!
เขาค่อยๆ ปั้นก้อนหิมะอีกหลายลูกอย่างใจเย็นและปามันทั้งหมดไปที่ฉีเหยียนซี
ฉีเหยียนซีไม่ทันได้ตั้งตัวจึงได้แต่ถอยหลังออกไปและกรีดร้องออกมา
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มอย่างได้ใจ “ซย่าซย่า ฉันจะเลี้ยงไก่ทอดและเพิ่มโค้กให้เธอด้วย หักหลังมันซะ!”
แววตาอันซย่าซย่าสว่างวาบ สายตาของฉีเหยียนซีจ้องมองราวกับมีเรดาร์ขนาดเล็กๆ
“บ้าเอ๊ย ยัยทึ่มซย่าซย่า เธออย่าเข้ามานะ!” ฉีเหยียนซีลนลาน
ตอนที่ 375 เธอกำลังหัวเราะ ส่วนเธอกำลังร้องไห้ (1)
“ยัยทึ่มซย่าซย่า เธอมันผู้หญิงไม่มีจุดยืน ไร้หลักการ! อ๊ะ…ให้ตายเถอะ ซย่าซย่า อย่ายัดลงไปที่คอสิ!”
ฉีเหยียนซีกรีดร้องเมื่อถูกเซิ่งอี่เจ๋อกับอันซย่าซย่ารุมทำร้าย
เสียงหัวเราะของพวกเขาลอยมาแต่ไกล
พอเล่นด้วยกันจนเหนื่อยแล้ว จู่ๆ อันซย่าซย่าก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้พลางหันไปถามฉีเหยียนซี “มู่หลีก็อยู่ที่นี่ใช่ไหม?”
“หืม…อืม” ฉีเหยียนซีขมวดคิ้ว “เธออยากเจอมู่หลีเหรอ?”
อันซย่าซย่าพยักหน้า พูดไปแล้วเธอยังไม่ได้เจอมู่หลีเลยสักครั้งนับตั้งแต่ปิดเทอมจนถึงตอนนี้”
“ฉันจะไปเรียกเธอออกมา เธอรอฉันอยู่ที่นี่แป๊บนึงนะ” ฉีเหยียนซีสั่งเอาไว้ก่อนกลับบ้านไป
อันซย่าซย่ากลิ้งก้อนหิมะต่อ เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อเห็นว่าเธอชอบ เขาจึงวิ่งไปช่วยเธอ
–
บ้านตระกูลฉียังคงปล่อยร้างเช่นเดิม
เมื่อไม่นานมานี้คุณท่านอาการกำเริบ ลู่เหอจึงย้ายไปอยู่สถานพักฟื้นกับเขา เกรงว่าช่วงปีใหม่ก็คงยังไม่กลับมา
ในบ้านจึงเหลือคนรับใช้อยู่เพียงไม่กี่คน
ฉีเหยียนซีขมวดคิ้ว เขาอาศัยความจำที่มีอยู่เพียงน้อยนิดเดินไปยังอาคารห้องแถวสองชั้นที่อยู่ข้างหลังเรือนหลัก
ที่นี่เป็นสถานที่ที่คนรับใช้ประจำบ้านตระกูลฉีพักอาศัยอยู่ ตัวอาคารถูกแบ่งออกเป็นห้องเล็กๆ มู่หลีกับแม่ของเธออาศัยอยู่ที่นี่มาสิบกว่าปีแล้ว
เมื่อก้าวเข้าไปในอาคารหลังเล็ก ฉีเหยียนซีก็ได้ยินเสียงร้องไห้อันเลือนลางของเด็กสาวที่อยู่ข้างใน เขาเดินไปตามแหล่งกำเนิดเสียงนั้นอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเยือกเย็น
เขาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำห้องหนึ่ง ข้างในมีเสียงผู้ชายดังลอยออกมา “แม่งเอ๊ย…เสแสร้งอะไรอยู่ได้ ใครก็รู้ว่าเธอโดนฉุดมาแล้วตั้งกี่ครั้ง! ถ้ายังดิ้นอีก ฉันจะฆ่าเธอกับนังแม่วัณโรคคนนั้นทิ้งซะ!!”
“ฮือฮือ…” เด็กสาวเหมือนถูกปิดปากเอาไว้ เธอจึงส่งเสียงร้องออกมาอย่างเลือนลางและสะอื้นอยู่เป็นพักๆ
ฉีเหยียนซีโมโหมากจึงถีบประตูออก!
ภาพที่เห็นคือคนขับรถของตระกูลฉีกำลังทำตัวรุ่มร่ามกับมู่หลีในอ่างอาบน้ำด้วยเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง
ปากของมู่หลีถูกปิดด้วยผ้าขนหนูสีขาว ใบหน้าสวยบอบบางเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เมื่อเห็นฉีเหยียนซี เธอก็ยิ่งร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง
“คุณ คุณชาย…” คนขับรถดึงกางเกงขึ้นอย่างสั่นกลัว หน้าตาอับอายเหมือนถูกไฟเผา
เขาอยากได้ลูกสาวของแม่บ้านคนนี้มานานแล้ว เมื่อก่อนเขาคิดเสมอว่าเธอเป็นคนขี้เหร่ แต่ไม่คาดคิดว่าในช่วงไม่กี่วันมานี้ พอเธอได้แต่งเนื้อแต่งตัวจะดูมีเสน่ห์สดใสอย่างคาดไม่ถึง
เขาใช้โอกาสในช่วงวันปีใหม่ที่คนรับใช้ในบ้านออกไปกันหมดแล้วและเหลือเพียงมู่หลีกับแม่ของเธอ
เนื่องจากแม่ของเธอสุขภาพไม่ค่อยดีจึงทำอะไรเขาไม่ได้! วันนี้เขาอ้างว่าจะมอบของขวัญวันปีใหม่ให้พวกเธอ จากนั้นก็หลอกเธอไปที่บันไดและลากเข้าไปในห้องน้ำ…
เป็นเพียงลูกสาวของคนรับใช้ เขาอยากลองจับขย่มลิ้มรสดูว่าจะดีสักแค่ไหน!
ฉีเหยียนซีหน้าบึ้ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นและคว้าชั้นวางของที่อยู่ข้างๆ ฟาดเข้าที่ศีรษะของชายคนนั้นอย่างรุนแรง!
“อ๊าาาา” ชายคนนั้นกรีดร้อง “คุณชาย ผมผิดไปแล้ว…ปล่อยผมไปเถอะ นังเด็กแพศยาคนนี้เป็นฝ่ายมายั่วผมก่อน ผม…ไม่!”
ฉีเหยียนซีคว้าคอเสื้อของเขากระแทกลงไปบนอ่างอาบน้ำ เนื่องจากชายหนุ่มออกแรงไปมาก หลังจากกระแทกลงไปได้ไม่กี่ครั้ง ภายในอ่างอาบน้ำก็ถูกย้อมด้วยสีเลือด
ชายคนนั้นถูกเขากระแทกจนหมดสติ ฉีเหยียนซียังไม่สบายใจจึงเตะไปอีกหลายครั้งอย่างเกี้ยวกราด เขาโมโหถึงขั้นฆ่าคนได้!
มู่หลีกัดริมฝีปากและร้องไห้อย่างเงียบๆ
เขาช่วยเธอไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา…เกรงว่าเธอจะต้องแปดเปื้อนเพราะคนขับรถที่น่าขยะแขยงคนนี้…
ฉีเหยียนซีดึงผ้าขนหนูสองผืนมาพันรอบตัวเธอ
“เธอพักอยู่ที่ไหน?”
มู่หลีจับเสื้อสเวตเตอร์ของเขาแน่นและร้องไห้ “ฉัน ฉันกลับไปไม่ได้…ฉันไม่อยากให้แม่เห็นฉันในสภาพนี้…”