ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 378 เซิ่งเสี่ยวเฮย ฉีเสี่ยวฮัว (2) / ตอนที่ 379 การรักกับเซิ่งอี่เจ๋อมีราคาที่ต้องจ่าย

ตอนที่ 378 เซิ่งเสี่ยวเฮย ฉีเสี่ยวฮัว (2)

 

 

หลังจากที่คนคนนั้นชนป่าป๊าอัน เขาก็จับหมวกกันน็อคยึดเอาไว้และเร่งความเร็วหายไปในทันที

 

 

อันซย่าซย่ากรีดร้องออกมาและรีบวิ่งไปหา

 

 

“พ่อคะ…”

 

 

ป่าป๊าอันโบกมือเป็นสัญญาณเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร แต่ระหว่างที่เดินก็สูดปากเอาอากาศเย็นๆ เข้าไปด้วย เห็นได้ชัดว่าถูกชนเข้าที่ขา

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อและฉีเหยียนซีเดินมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม พลางช่วยอันซย่าซย่าประคองเขาเข้าไปในบ้าน

 

 

“ไม่เป็นไร ล้มลงไปแค่นี้เอง อายุมากแล้ว กระดูกกระเดี๊ยวก็ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน…” ป่าป๊าอันยิ้มอย่างเบิกบาน เขาเองก็เคยเป็นหมอมาก่อนจึงบีบๆ กระดูกดูก็พบว่ากระดูกไม่ได้หัก ทาเพียงยาแก้ฟกช้ำก็ดีขึ้นแล้ว

 

 

“พวกนายสองคนมาพอดีเลย ฉันมีของจะให้พวกนาย” ป่าป๊าอันชี้ไปที่เคาน์เตอร์บาร์ “มีถุงกระดาษสองใบอยู่ในตู้ด้านล่างน่ะ พวกนายทำงานที่ร้านของอามานานแล้ว ถือว่าอาให้ของขวัญเป็นการขอบคุณแล้วกัน”

 

 

ฉีเหยียนซีวิ่งไปหยิบถุงกระดาษทั้งสองใบออกมาแล้วยื่นให้เซิ่งอี่เจ๋อ ทั้งคู่ถึงกับผงะ

 

 

ในถุงกระดาษมีเสื้อนวมคอตตอนหนาๆ สไตล์สปอร์ต ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กผู้ชายวัยนี้

 

 

“พวกนายเป็นหนุ่มแล้วต้องรู้จักทำตัวหล่อๆ เข้าไว้ ดูแต่ละคนซิ ใส่อะไรกันเนี่ย!” ป่าป๊าอันอบรมพวกเขา “หน้าหนาวก็ใส่เสื้อผ้าเยอะๆ หน่อย อย่าคิดว่าในบ้านมีฮีทเตอร์แล้วจะใส่แค่เสื้อกันหนาวก็ได้ ถ้าหนาวตายล่ะจะทำยังไง?”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกับฉีเหยียนซีเงียบไปชั่วขณะและพูดขอบคุณพร้อมๆ กัน “ขอบคุณครับคุณอา”

 

 

ของขวัญที่ป่าป๊าอันมอบให้ ช่างอบอุ่นหัวใจจริงๆ

 

 

หากไม่ใช่เพราะการเอาใจใส่จากใจจริงก็คงทำไม่ได้เช่นนี้

 

 

“เอาล่ะ ชอบก็ใส่ซะสิ เมื่อวานหิมะตกยังไม่หนาวมาก วันนี้หิมะละลายถึงจะเป็นช่วงเวลาที่หนาวที่สุด!”

 

 

“พ่อ พ่อนี่จู้จี้จุกจิกจังเลย…” อันซย่าซย่าอุดหูและกลัวว่าสองคนนั้นจะโมโหเอาได้

 

 

เพราะจริงๆ แล้วทั้งสองก็ไม่ใช่คนอารมณ์ดีสักเท่าไหร่

 

 

แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกลับถอดเสื้อผ้าและสวมใส่อย่างเชื่อฟังจนเธอประหลาดใจ เนื่องจากพวกเขามีรูปร่างสูงยาวเข่าดี พอสวมเสื้อแบบนี้ก็ยิ่งดูดีเป็นพิเศษ อันซย่าซย่าจ้องมองตาเป็นประกาย “ว้าว…ดูดีจัง! แต่ว่าพ่อคะ พ่อซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้พวกเขาแล้วของหนูล่ะ?”

 

 

“ของลูกอยู่ข้างบน” ป่าป๊าอันลูบหัวเล็กๆ ของอันซย่าซย่าอย่างทะนุถนอม อันซย่าซย่าจึงรีบวิ่งขึ้นไปดูเสื้อผ้าใหม่

 

 

เขาหัวเราะเบาๆ พลางหยิบซองสีแดงสองซองออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยัดใส่มือเซิ่งอี่เจ๋อกับฉีเหยียนซี

 

 

“นี่เงินเดือนบวกกับเงินแต๊ะเอีย เอาไปสิ!”

 

 

ทั้งสองบอกปัดไม่ได้จึงได้แต่เก็บเอาไว้

 

 

หลังจากนั้นไม่นานอันซย่าซย่าก็สวมชุดใหม่เดินลงมา เมื่อเสื้อโค้ทขนแกะสีแดงอยู่บนผิวของเธอก็ยิ่งเพิ่มความขาวขึ้นไปอีก ทั้งตัวเต็มไปด้วยพลังแห่งความสดใส

 

 

“พ่อคะ หนูรักพ่อนะคะ!” อันซย่าซย่าส่งจูบให้ป่าป๊าอัน เมื่อเห็นเซิ่งอี่เจ๋อกับฉีเหยียนซีจ้องมองซองสีแดงที่อยู่ในมือได้สักพัก เธอก็อดโบกมือไปมาไม่ได้ “พวกนายสองคนเป็นอะไร?”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มและเก็บซองแดงไว้ “ไม่มีอะไร…”

 

 

เนื่องด้วยเขากับฉีเหยียนซีล้วนเป็นผู้สืบทอดตระกูลฉีและตระกูลเซิ่ง เงินค่าขนมในแต่ละเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ พอเข้าสู่วงการบันเทิงมาได้ไม่กี่ปีก็ได้เงินค่าตอบแทนมาเป็นจำนวนมาก เขาจึงไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับเงินค่าแรงจำนวนนี้

 

 

อันซย่าซย่าลากเขาไปแบกกระเป๋าลงจากรถ แต่ฉีเหยียนซียังนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลานานและพูดกับป่าป๊าอันว่า “คุณอาอันครับ ผมเรียกคุณอาว่าพ่อสักครั้งได้ไหม”

 

 

เขารู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้ายแถมยังดื้นรั้น คุณพ่อฉีมักจะทุบตีเขาเวลาที่พูดไม่เข้าหู

 

 

เขาไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นในบ้านหลังนั้น แต่เขาเต็มใจที่จะเป็นเด็กดีเมื่อได้อยู่กับป่าป๊าอันที่นี่

 

 

ป่าป๊าอันนิ่งไปสักพักและยิ้ม “ได้สิ”

 

 

ใบหน้าหล่อเหลาที่มีสีเหมือนข้าวสาลีของฉีเหยียนซีเริ่มกลายเป็นสีแดง เขาพูดเบาๆ ว่า “พ่อ…”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 379 การรักกับเซิ่งอี่เจ๋อมีราคาที่ต้องจ่าย

 

 

“อืม!” ป่าป๊าอันตอบรับและยิ้มอย่างอ่อนโยน “เด็กดี มาๆ ฉันจะให้อั่งเปานายอีกอัน”

 

 

ป่าป๊าอันหยิบซองแดงออกมาอีกใบแล้วยัดใส่มือฉีเหยียนซี

 

 

อันซย่าซย่าที่เพิ่งบอกลาเซิ่งอี่เจ๋อกลับมาเห็นฉากนี้เข้าจึงไม่พอใจ

 

 

เธอเม้มปาก “พ่อ ที่แท้พ่อก็แอบเอาซองอั่งเปาให้ฉีเหยียนซีลับหลังหนู!”

 

 

ป่าป๊าอันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ลูกก็ไปรับจากพี่ชายตัวดีไม่ได้เหรอ?”

 

 

“ไม่เอา!” อันซย่าซย่าไม่ยอมเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ เธอลากฉีเหยียนซีออกมาและพูดอย่างเอาแต่ใจ

 

 

“นายแย่งความรักจากพ่อของฉันไป! ฉันจะต่อยนาย!”

 

 

พอฉีเหยียนซีมองแขนและขาเล็กๆ ของเธอก็พูดเชิงดูถูก “ก็มาสิ ฉันต่อให้เธอใช้สองมือสองเท้าเลย”

 

 

น้ำเสียงเกรี้ยวกราดจนถึงขีดสุด

 

 

“ฮึ… ╭  ( ╯ ^ ╰ )  ╮ ถ้าไม่มีนาย ฉันจะได้เสื้อผ้าชุดใหม่อีกหลายๆ ชุด! แล้วก็ได้ซองอั่งเปาสองใบ…” อันซย่าซย่าโมโห

 

 

ฉีเหยียนซียิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นทำให้อันซย่าซย่านึกถึงคำขยายความได้เพียงคำเดียว

 

 

ความสุข

 

 

เธอไม่เคยเห็นฉีเหยียนซียิ้มแบบนี้มาก่อน

 

 

เสื้อผ้าใหม่หนึ่งชุด…กับซองอั่งเปาหนึ่งใบ…ทำให้เขามีความสุขมากขนาดนี้เลยหรือ?

 

 

เมื่อนึกย้อนไปถึงความสัมพันธ์ภายในครอบครัวของเขา อันซย่าซย่าจึงกัดริมฝีปาก “ฉีเหยียนซี…”

 

 

“อะไร? อยากได้ซองอั่งเปาเหรอ? ฉันไม่ให้เธอหรอก ไม่ให้หรอก” ฉีเหยียนซีบิดตูดให้เธอ ท่าทางขี้อวดแบบนี้ดูกวนบาทาเป็นที่สุด

 

 

ทว่าอันซย่าซย่ากลับคิดว่าที่ฉีเหยียนซีทำตัวแบบนี้ เหมือนเป็นการสวมหน้ากากปิดบังความรู้สึกตัวเอง

 

 

ความกร่าง ความดื้อรั้น และความชั่วร้ายของเขาล้วนดูเหมือนเป็นการจงใจแสร้งทำออกมาเพื่อป้องกันตัวเองจากความเจ็บปวด

 

 

“นายจะเอาเงินไปทำอะไร?” เธอเปลี่ยนเรื่อง

 

 

“แล้วเธอล่ะ จะเอาไปทำอะไร?” ฉีเหยียนซีถามกลับ

 

 

อันซย่าซย่าหัวเราะเก้อเขิน “ก็เก็บสิยะ! เก็บเป็นสินเจ้าสาว~”

 

 

“ไร้ อะ นา คต!” เขาประเมินคำพูดออกมาทีละคำ ฉีเหยียนซีเอื้อมมือมาลูบผมที่รุงรังของเธอ “ฉันไปละ บ้ายบาย เธอรีบเข้าบ้านเถอะ อย่าทำให้เป็นหวัดล่ะ” ฉีเหยียนซียิ้มด้วยความสดใสเผยให้เห็นฟันขาวสะอาด

 

 

เขากระชับเสื้อนวมคอตตอนที่อยู่บนตัวราวกับห่อหุ้มความอบอุ่นของโลกทั้งใบ ความอบอุ่นนั้นถูกส่งผ่านไปทั่วทั้งร่างและทำให้หัวใจของคนอ่อนโยนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

 

อันซย่าซย่ามองไปที่แผ่นหลังของเขาพลันรู้สึกเหมือนสัตว์พยศที่ได้รับบาดเจ็บ

 

 

จากนั้นก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้านและกินเลี้ยงฉลองพร้อมกับป่าป๊าอันและอันอี้เป่ย สมาชิกครอบครัวนั่งรายล้อมอยู่หน้าจอทีวีเพื่อดูรายการส่งท้ายปีเก่า

 

 

อันซย่าซย่าหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาและส่งข้อความสวัสดีปีใหม่ ผ่านไปได้สักพักก็ได้รับข้อความตอบกลับจากทุกคน

 

 

[มั่วมั่วหล่อที่สุดในจักรวาล]  : สวัสดีปีใหม่! ที่รักของฉัน จุ๊บจุ๊บ~

 

 

[ชื่อคังเจี้ยนไม่ใช่เจี้ยนคัง]  : สุขสันต์วันปีใหม่~ ซย่าซย่าเมียจ๋า!

 

 

[หยวนเสี่ยวเฟิง]  : นี่ข้างบนน่ะ! ใครอนุญาตให้นายเรียกเมีย! ซย่าซย่าเป็นของฉันต่างหากล่ะ

 

 

[ไม่อาจคาดเดา เพียงได้พบพาน]  : นั่งรอดูสองคนข้างบนโดนตี

 

 

[ZE เจ๋อ]  : หึหึ

 

 

ทันทีที่เซิ่งอี่เจ๋อส่งข้อความ ข้อความข้างล่างก็ดูหวาดกลัวขึ้นมา

 

 

[หยวนเสี่ยวเฟิง]  : แคกแคก วันนี้พระจันทร์สวยมากแฮะ

 

 

[ชื่อคังเจี้ยนไม่ใช่เจี้ยนคัง]  : นายโง่หรือเปล่า! ก็เห็นๆ อยู่ว่าวันนี้ฟ้าครึ้ม!

 

 

[มั่วมั่วหล่อที่สุดในจักรวาล]  : หุหุ ใครโง่กันแน่ เจ้าสองคนนั้นคงไม่ต้องอธิบาย

 

 

……

 

 

อันซย่าซย่าเตรียมจะตอบกลับ แต่จู่ๆ ก็ได้รับข้อความQQจากบุคคลนิรนาม

 

 

“รู้สึกอย่างไรที่คนรอบข้างได้รับบาดเจ็บอย่างไม่หยุดหย่อน? อันซย่าซย่า การที่เธอรักกับเซิ่งอี่เจ๋อมีราคาที่ต้องจ่าย!” มีอิโมติคอนรูปหัวกระโหลกกว่าสิบอันต่อท้ายข้อความนั้น พออันซย่าซย่าได้อ่านก็ชาไปทั่วหนังศีรษะ

 

 

ใครกัน…ที่ส่งมาให้เธอ?

 

 

คนรอบข้างได้รับบาดเจ็บ…

 

 

หรือว่าการที่ป่าป๊าอันและอันอี้เป่ยได้รับบาดเจ็บจะไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เกิดจากความตั้งใจของใครบางคนอย่างงั้นหรือ?

 

 

ในเวลานั้นอันซย่าซย่าตกใจจนเหงื่อตกไปทั้งตัว

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

Status: Ongoing
อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset