ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 387 เทศกาลดนตรี (4) / ตอนที่ 388 เทศกาลดนตรี (5)

ตอนที่ 387 เทศกาลดนตรี (4)

 

 

น้ำเสียงนุ่มนวลทำให้เซิ่งอี่เจ๋อหวนกลับเข้าสู่ห้วงความทรงจำ…

 

 

หน้าเขาเหม่อลอยไปชั่วขณะ แต่โชคดีที่เขาควบคุมตัวเองได้อย่างน่าทึ่งและตอบสนองอย่างรวดเร็วว่า “ใช่…แล้วยังเก่งมากอีกด้วย”

 

 

อันซย่าซย่าถอนหายใจ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ซ่งชิงเฉินคนนั้นที่อยู่ในแบบฟอร์มลงทะเบียนน่าจะเป็นคนรักวัยเด็กของเซิ่งอี่เจ๋อ

 

 

 

 

พริบตาเดียวก็ถึงวันศุกร์

 

 

วันนี้เป็นวันออดิชั่นผู้เข้าแข่งขันไวโอลินของเทศกาลดนตรี อันซย่าซย่าจึงขอลากับครูประจำชั้นหนึ่งวันเพื่อรีบไปเตรียมตัวเข้าร่วมแข่งขัน

 

 

ในห้องสำนักงาน เธอได้พบกับคนคุ้นเคยโดยบังเอิญ นั่นก็คือหลีฝานซิงและซ่งชิงเฉิน

 

 

ซ่งชิงเฉินสมัครไวโอลิน ส่วนหลีฝานซิงเล่นเปียโนบรรเลงเพลงร่วมกับเธอ

 

 

ไป่จื่อเยว์ซึ่งเป็นคุณครูประจำชั้นตรวจจดหมายลาพร้อมกับส่งยิ้มให้พวกเธอ “สู้ๆ นะ พวกเธอทั้งสามคน”

 

 

“ขอบคุณค่ะครู” ทั้งสามกล่าวขอบคุณพลางมองหน้ากันอย่างขัดหูขัดตา หลีฝานซิงกับซ่งชิงเฉินหยิบจดหมายลาออกไปก่อน

 

 

“นักเรียนอัน รอเดี๋ยว” ไป่จื่อเยว์เรียกอันซย่าซย่าพร้อมกับหยิบกองกระดาษแบบทดสอบจากบนโต๊ะของตัวเอง “นี่เป็นกระดาษแบบทดสอบวิชาประวัติศาสตร์ของพวกเธอ…ครูช่วยคุณครูถังแก้เสร็จแล้ว เธอเอาไปแจกให้เพื่อนๆ ได้เลย”

 

 

อันซย่าซย่าที่เป็นตัวแทนวิชาประวัติศาสตร์ก็กะพริบตาโต “คุณครูไป่ ทำไมต้องแก้กระดาษแบบทดสอบให้คุณครูถังด้วยล่ะคะ?”

 

 

“มือของเขาได้รับบาดเจ็บน่ะ ก็เลยแก้ให้ไม่ได้ ถ้าขืนให้เขาแก้คนเดียว การเรียนการสอนของทุกคนในชั้นเรียนจะล่าช้าเอาได้”

 

 

เธอพูดซะเป็นเรื่องใหญ่โต แต่ใบหน้ากลับแดงก่ำทรยศกับท่าทีของเธอ

 

 

“อ๋อ แบบนี้นี่เอง ผมควรต้องขอบคุณคุณครูไป่เสียหน่อยแล้วสิ จริงไหม?” เสียงผู้ชายที่เต็มไปด้วยพลังดึงดูดดังขึ้น ถังอี้จวินเดินมายืนอยู่ข้างๆ ไป่จื่อเยว์อย่างเอื่อยเฉื่อย

 

 

อันซย่าซย่าพบว่าคุณครูประจำชั้นของห้องพวกเธอหน้ายิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ

 

 

“คุณครูถัง มือของคุณครูเป็นอะไรคะ?” อันซย่าซย่าถาม

 

 

ถังอี้จวินยิ้ม “โรคที่เกิดจากการทำงานน่ะ พักสักสองวันก็หายแล้ว มานี่สิ ตัวแทนประจำวิชาของครู กินท๊อฟฟี่ซะ การแข่งขันเทศกาลดนตรีต้องทำให้ได้นะ สู้ๆ!”

 

 

เขาแบมือมาข้างหน้าอันซย่าซย่า บนฝ่ามือมีท๊อฟฟี่กระต่ายขาวรสนมอยู่หนึ่งเม็ด

 

 

อันซย่าซย่ารับมาและกล่าวขอบคุณเป็นมารยาท เธอถือท๊อฟฟี่รสนมและกระดาษแบบทดสอบออกจากห้องไป

 

 

o (*  ̄▽ ̄ *)  ブ  แหะแหะ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณครูทั้งสองคนนี้ ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่าง…

 

 

ในห้องสำนักงาน

 

 

ไป่จื่อเยว์รวบผมยาวคลุมไหล่และแกล้งทำเป็นดูPPTแผนการสอนในคอมพิวเตอร์ ถังอี้จวินหัวเราะเสียงต่ำพลางวางฝ่ามือไว้ตรงหน้าเธอ

 

 

สิ่งนั้นก็คือท๊อฟฟี่กระต่ายขาวหนึ่งเม็ด

 

 

 

 

อันซย่าซย่ารีบไปยังสถานที่จัดการแข่งขัน จากนั้นก็วิ่งไปที่ห้องลองเสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

 

หลังจากที่เปลี่ยนกระโปรงเสร็จแล้ว อันซย่าซย่าก็อดตัวสั่นไม่ได้

 

 

แม้ว่าภายในห้องจะมีเครื่องทำความร้อน แต่การสวมกระโปรงในฤดูหนาวแบบนี้ก็ทำให้หนาวมากอยู่ดี/ ( ㄒ o ㄒ ) /~~

 

 

เธอได้แต่ถูแขนพลางหยิบกล่องไวโอลินเดินไปที่หลังเวที

 

 

พอเดินไปได้ครึ่งทางก็รับโทรศัพท์จากเพื่อนคู่หูร่วมทีม

 

 

“ซย่าซย่า…ขอโทษด้วยนะ ฉันท้องเสียน่ะ ไปเล่นดนตรีกับเธอไม่ได้แล้ว…อู้ย ไม่ไหวแล้ว ฉันต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำอีกรอบแล้ว”

 

 

อันซย่าซย่าวางสายไป เธอถอนหายใจด้วยความรู้สึกแย่

 

 

อันที่จริงรอบออดิชั่นจะมีคู่ร่วมบรรเลงหรือไม่ ก็ไม่ได้สำคัญมากนัก…แต่คะแนนย่อมน้อยกว่าคนที่มีคู่ร่วมบรรเลงอยู่บ้าง

 

 

เธอดึงกระโปรงและเปิดประตูห้องลองเสื้อผ้า จากนั้นเดินขึ้นหลังเวทีไปตามบันได

 

 

บนชั้นบันไดมีคนรูปร่างสวยงามสองคนยืนอยู่

 

 

ทั้งสองขวางทางราวกับเทพประจำประตู อันซย่าซย่าขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “หลีกทาง”

 

 

“อันซย่าซย่า เธอจะรีบทำไม พวกเรามาคุยกันหน่อยสิ เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเพื่อนร่วมชั้น จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน” หลีฝานซิงยิ้มราวกับดอกท้อ

 

 

ซ่งชิงเฉินกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา “ซย่าซย่า ได้ยินมาว่าเธอไม่มีแม่นี่นา?”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 388 เทศกาลดนตรี (5)

 

 

อันซย่าซย่าโมโหจนหน้าซีด “หลีกทาง!”

 

 

เธอคิดจะผลักหลีฝานซิงกับซ่งชิงเฉินออกไปและเดินไปข้างบน!

 

 

“แม่ของเธอน่าจะตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ….? งั้นเธอก็คงเป็นเด็กก้าวร้าวที่ไม่มีแม่คอยอบรมสั่งสอนน่ะสิ…ไม่แปลกใจเลยที่นิสัยแย่ขนาดนี้ แล้วยังหน้าด้านมาเข้าร่วมการแข่งขันอีกแน่ะ…” ซ่งชิงเฉินถอนหายใจราวกับเห็นอกเห็นใจ แต่หลีฝานซิงกลับพูดให้แย่ลง “จริงด้วย คนบางคนไม่รู้จักละอายแก่ใจ ควรทำยังไงดีล่ะ?”

 

 

หลีฝานซิงค่อยๆ เหยียดเท้าออกมา แม้ว่าเท้าจะอยู่ใต้กระโปรงยาวๆ จึงทำให้มองไม่เห็นอย่างชัดเจน แต่ก็พอทำให้อันซย่าซย่าสะดุดล้มลงไปได้!

 

 

ตำแหน่งที่พวกเธอยืนอยู่ไม่ถือว่าสูงมากนัก อันซย่าซย่าคงล้มได้ไม่แย่เท่าไหร่ แต่เธอจะต้องขายหน้าสุดๆ ไปเลย!

 

 

เพี๊ยะ—-

 

 

เท้าของเธอยังไม่ทันขัดขาอันซย่าซย่า แต่กลับได้ยินเสียงฝ่ามือดังมาที่ข้างหู!

 

 

หลีฝานซิงตกตะลึงอ้าปากค้างจนทำอะไรไม่ถูก เห็นเพียงซ่งชิงเฉินเอามือกุมหน้าตัวเองด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

 

 

“เธอตบฉันเหรอ?!” เธอพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นั่นก็เพียงพอที่จะเห็นได้ว่าอันซย่าซย่าใช้แรงมากขนาดไหน

 

 

อันซย่าซย่าขอบตาแดง “คิดจะทะเลาะตบตี ฉันก็เป็นไงเป็นกัน! แต่อย่าแตะต้องครอบครัวของฉัน! เธอคิดว่าเธอเป็นใคร กล้าดียังไงมาวิพากษ์วิจารณ์คนในครอบครัวฉัน?”

 

 

ขีดจำกัดของอันซย่าซย่าคือ ครอบครัว

 

 

กระต่ายก็กัดคนได้เมื่อถึงคราวลนลาน ยิ่งไปกว่านั้นอันซย่าซย่าก็ไม่ใช่คนที่ใครจะรังแกได้!

 

 

เดิมทีเธอไม่เคยเจอแม่ของเธอมาก่อน ตอนที่ยังเด็ก พวกเพื่อนบ้านมักจะนินทาแม่ของเธอว่าทิ้งครอบครัวไปเพราะนอกใจ แล้วยังบอกว่าแม่ของเธอรักสุขสบายรังเกียจความจน จึงไม่ชายตามองคุณหมอมือสะอาดอย่างป่าป๊าอัน

 

 

เมื่อใดก็ตามที่เธอได้ยินคำพูดเช่นนี้ อันซย่าซย่าก็จะหยิบก้อนหินปาใส่คนคนนั้น และทุกๆ วันที่กลับมาบ้าน เธอยังโดนป่าป๊าอันอบรมเสียยกใหญ่ แต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ทำมันลงไป

 

 

ในหัวใจของอันซย่าซย่า คำว่า “แม่” นั้นเป็นคำศักดิ์สิทธิ์และไม่อนุญาตให้ใครดูถูกเหยียดหยาม!

 

 

หลีฝานซิงหน้าซีดพลางแอบชำเลืองตามองหน้าอันซย่าซย่า อันซย่าซย่าที่อยู่ในอารมณ์โกรธดูมุทะลุดุดันและน่ากลัวมาก เธอจึงไม่กล้ายั่วยุอันซย่าซย่าอีก

 

 

อันซย่าซย่าหัวเราะเยาะ หน้าสวยบอบบางเชิดขึ้น “ตอนนี้คนที่ขายหน้าคือใครกันแน่?”

 

 

“อันซย่าซย่า…เธอ!” ซ่งชิงเฉินปากสั่นระริก อันซย่าซย่าจึงพูดเพิ่มอีกประโยค “ด่าอีก ฉันก็จะตบอีก!”

 

 

มาดหยิ่งยโสโอหังได้ยุติการวิพากษ์วิจารณ์ทุกสิ่งอย่าง

 

 

การขู่คุกคามคนแบบนี้ เจ๋งไม่มีใครเทียบ อันซย่าซย่าก้าวขึ้นบันไดอย่างเชื่องช้า ความเมื่อยล้าที่อยู่ในใจก็รู้สึกผ่อนคลาย

 

 

ฮึ! โม่โม่พูดถูก ปัญหาที่แก้ด้วยการใช้กำลัง ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ!

 

 

“ชิงเฉิน…เธอยังจะเข้าร่วมการแข่งขันอยู่ไหม?” หลังจากที่อันซย่าซย่าเดินไปไกลแล้ว หลีฝานซิงก็ถามอย่างสองจิตสองใจ

 

 

“หน้าฉันเป็นแบบนี้แล้วจะเข้าร่วมยังไงล่ะ?” ซ่งชิงเฉินด่าอย่างเกี้ยวกราดพลางกำหมัดแน่น “ฉันแข่งไม่ได้…เธอก็อย่าคิดจะแข่งเลย!”

 

 

 

 

อันซย่าซย่านั่งเก้าอี้พักผ่อนอยู่หลังเวที เธอฮัมโน้ตเพลงที่จะเล่นออกมาเบาๆ

 

 

มีทีวีจอแอลซีดีวางอยู่หลังเวทีเพื่อทำการถ่ายทอดสดบรรยากาศภายในฮอลล์

 

 

พิธีกรขึ้นบนเวทีและเริ่มทำหน้าที่ดำเนินรายการ จากนั้นท่านประธานกล่าวสุนทรพจน์….ผู้เข้าแข่งขันต่างเฝ้าดูด้วยความสนใจ จนกระทั่งพิธีกรพูดขึ้นมาว่า “ลำดับต่อไป ขอเรียนเชิญวงสตารีรี่ไนต์ขึ้นทำการแสดงเพื่อเปิดงานให้กับพวกเราด้วยค่ะ….”

 

 

สักพักภายในห้องพักของผู้เข้าแข่งขันก็มีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว เนื่องจากผู้เข้าร่วมการแข่งขันนี้ล้วนเป็นเด็กนักเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายและคนที่ตามดาราอีกจำนวนมาก

 

 

“ (*@ ο @*) ว้าว ~ หล่อทั้งสามคนเลย…ขอฉันเข้าไปเลียหน้าจอหน่อยสิ!”

 

 

“อือ จยาอวี๋เล่นเปียโนก็ดี เสียงของอี่เจ๋อก็เพราะมากเลย…”

 

 

อันซย่าซย่าตาเป็นประกายพลางมองไปที่หน้าจอ

 

 

เธอกำลังขาดคนร่วมบรรเลง…

 

 

และเหอจยาอวี๋ก็…เล่นเปียโนได้!

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

Status: Ongoing
อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset