ตอนที่ 397 ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา (2)
“ก็หมายความตามอย่างที่นายเห็น! เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันเกลียดนาย คราวนี้ฉันโกรธมาก! โกรธมาก โกรธมากๆ!” อันซย่าซย่าแก้มแดงด้วยความโกรธ แต่สิ่งที่เธอพูดกลับทำให้เซิ่งอี่เจ๋อทำตัวไม่ถูก
ตอนแรกเขายังคิดจะโอ๋เธอ แต่ผลปรากฏว่าอันซย่าซย่าปิดประตูใส่หน้าเขาอย่างแรงจนเกือบกระแทกกับจมูกโด่งของเขา
เขานั่งเซื่องซึมอยู่บนม้านั่งด้านนอกด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
ยัยบ้า! เธอโกรธอะไรเนี่ย!
ซูเสี่ยวโม่เพิ่งมาถึงโรงพยาบาล เธอเห็นเทพบุตรรูปหล่อกำลังหน้าดำคร่ำเครียด ในความเย็นชายังมีความจองหอง ภายใต้ภาพลักษณ์เข้าถึงยากแฝงไปด้วยความซื่อบื้อ….
เธอยิ้มหน้าทะเล้นเดินเข้าไป “อ้าว ทะเลาะกับซย่าซย่าเหรอ?”
“เปล่า” เซิ่งอี่เจ๋อผินหน้าออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
“อ๋อ~~” ซูเสี่ยวโม่ตบไหล่เขาด้วยท่าทางองอาจ “พ่อหนุ่มเอ๋ย ถึงเวลาที่คนเป็นชายจะต้องยอมอ่อนให้ผู้หญิงแล้วหวนคืนสู่ความเป็นใหญ่ นายอยากให้ฉันบอกจุดอ่อนของซย่าซย่าไหม?”
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้ว เขาไม่เชื่อว่าซูเสี่ยวโม่จะยอมบอกเขาง่ายๆ
“แหะแหะ…” ซูเสี่ยวโม่ถูนิ้ว “จริงใจหน่อยสิ ดูๆ แล้วฉันว่านายก็ไม่ได้ชอบซย่าซย่ามากมายขนาดนั้น…”
“ใครบอกว่าฉันไม่ชอบเธอแล้ว!” เซิ่งอี่เจ๋อพูดโพล่งออกไป สีหน้าซูเสี่ยวโม่เปลี่ยนเป็นมีเลศนัย เขาหน้าแดงพลางกระแอมไอ “เธออยากได้อะไร?”
“ภาพเปลือยของเหอจยาอวี๋”
“……”
เซิ่งอี่เจ๋อถึงกับนิ่งด้วยความช็อกไปชั่วขณะ
“เปลือย…แบบที่ฉันเข้าใจใช่ไหม?” เซิ่งอี่เจ๋อถามออกมาอย่างลำบากใจ
“ถูกต้อง เอารูปมาแลกกับจุดอ่อน~” ซูเสี่ยวโม่พูดอย่างอวดดี จากนั้นก็เข้าไปในห้องผู้ป่วย
อันซย่าซย่ายังนอนอยู่บนเตียงเหมือนกับศพ เมื่อกี้ที่เธอเพิ่งโมโห หน้าอกของเธอก็เริ่มเจ็บอีกครั้งและยังอึดอัดมาก
ซูเสี่ยวโม่รีบวิ่งเข้าไป “ซย่าซย่า เป็นยังไงบ้าง? ได้ยินมาว่าเธอเป็นลมระหว่างการแข่งขันเมื่อกี้นี้ เธอนี่มันไก่อ่อนชัดๆ! ร่างกายก็อ่อนแอเกินไปแล้ว!”
เธอยังไม่รู้เลยว่าอันซย่าซย่าถูกวางยา
อันซย่าซย่าคร่ำครวญและพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “ฉันไม่เป็นไร…เธอเจออะไรดีๆ มาเหรอถึงได้ดูร่าเริงแบบนี้?”
“แหะแหะ…ฉันหาวิธีลงโทษคนบางคนได้แล้ว…” ซูเสี่ยวโม่ยิ้มอย่างร้ายกาจ
ในอีกมุมหนึ่ง เหอจยาอวี๋จามอย่างแรง
เฮ้อ ใครคิดถึงเขาขนาดนี้นะ?
–
อันซย่าซย่าไม่ชอบบรรยากาศโรงพยาบาล เธอจึงโทรศัพท์หาที่บ้านและหาข้ออ้างไปพักที่บ้านซูเสี่ยวโม่
เซิ่งอี่เจ๋อกำลังจะขับรถไปส่งเธออย่างเงียบๆ แต่อันซย่าซย่ากลับปฏิเสธ “ฉันไม่ต้องการให้นายไปส่ง!”
ดวงตาสีเข้มล้ำลึกมองไปที่เธอด้วยความจนใจ
“ซย่าซย่า…เธออย่าโมโหสิ…” เป็นครั้งแรกที่เขายอมรับผิดก่อน แต่อันซย่าซย่ากลับทำเสียงเย็นชา “ก่อนที่ฉันจะยกโทษให้นาย ไม่ต้องมาพูดกับฉัน! ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา!”
ซูเสี่ยวโม่เอามือปิดปากกลั้นขำ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเทพบุตรถูกไล่ต้อน เจ๋งสุดๆ
“งั้นให้ฉันไปส่งพวกเธอเถอะ” เหอจยาอวี๋ยิ้มอ่อนโยน ทันใดนั้นซูเสี่ยวโม่ก็ตกใจจนสติหลุด
“ไม่ต้อง…” หรอก ประโยคนี้ยังไม่ทันพูดจบ อันซย่าซย่าก็พยักหน้า “อืม ขอบใจ”
ซูเสี่ยวโม่อยากจะโยนอันซย่าซย่าลงในมหาสมุทรแปซิฟิก
เหอจยาอวี๋หันไปยิ้มให้เซิ่งอี่เจ๋อ จากนั้นก็พาทั้งสองไปส่งถึงบ้านตระกูลซู
ซูเสี่ยวโม่กล่าวอย่างมีมารยาท “จะขึ้นไปดื่มชาหน่อยไหม?”
เหอจยาอวี๋ไม่ปฏิเสธและสาวเท้าก้าวขึ้นไปชั้นบนพลางมองซูเสี่ยวโม่กระอักเลือด
เธอเดินไปชงชาอย่างไม่เต็มใจ เหอจยาอวี๋นั่งบนโซฟาและเห็นเพียงหนังสือการ์ตูนกระจัดกระจายอยู่เต็มโซฟา ในขณะที่เขาหยิบขึ้นมาหนึ่งเล่มก็ได้ยินเสียงคำรามของซูเสี่ยวโม่ดังเข้ามากะทันหัน “ชายชาตรี วางลงอย่าขยับ!”
ตอนที่ 398 ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา (3)
“เอ่อ…” เขาผงะไปชั่วขณะ หนังสือการ์ตูนร่วงลงจากง่ามนิ้วและกางออก เผยให้เห็นรูปวาดสกปรกที่ไม่น่าดู…
เงียบฉี่…
เงียบปางตาย…
ซูเสี่ยวโม่ทำหน้าเจ็บปวดรวดร้าวเหมือนหญิงพลีชีพ เธอหวังว่ากาน้ำชาที่อยู่ในมือจะกลายเป็นระเบิดที่ระเบิดป้อมปราการอย่างเหอจยาอวี๋ซะที!
ไม่…นี่เป็นความคิดเดียวที่อยู่ลึกๆ ในใจของเธอ
เมื่ออันซย่าซย่าเห็นสถานการณ์ดังกล่าวก็ยกมือแตะหน้าผาก “นั่น ฉันไม่สบายนิดหน่อยน่ะ…ขอตัวไปนอนก่อนนะ…” ช่วงเวลาแบบนี้ เธอจะรออยู่ไปทำไม!
พอเห็นอันซย่าซย่ารอดตัวไปแล้ว ซูเสี่ยวโม่ก็อ้าปากค้างและคิดว่าจะแก้ตัวอย่างไรก็ไม่พ้นข้อกล่าวหา
เหอจยาอวี๋หยิบหนังสือขึ้นมาด้วยท่าทีเฉื่อยชาและกล่าวชม “วาดได้ไม่เลวนี่”
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นคนวาด?” ซูเสี่ยวโม่เพิ่งเอ่ยปากถามออกไป พอตอนนี้นึกอยากจะตบหน้าตัวเอง!
ให้ตายเถอะ นี่ไม่ใช่ว่ารับสารภาพแล้วหรอกเหรอ!
“แคกแคก…ไม่ๆ ฉันไม่ได้วาดเอง ฉันซื้อมาน่ะ…เฮ้ย ฉันพูดผิด ฉันแค่ยืมมาเรียนน่ะ ยืมมาใช้เพื่อการเรียนรู้ นายเข้าใจไหม? นี่ไม่ใช่ของสกปรกลามกอะไร นี่…นี่มันแฝงไปด้วยศิลปะ!” ซูเสี่ยวโม่อธิบายอย่างหน้าด้านๆ หน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ เพราะความอาย
เธอเป็นหญิงแกร่งนั้นไม่ผิด ชีวิตจึงมีทั้งด้านหยาบกระด้างและรุนแรง แต่เมื่อถูกผู้ชายที่ตัวเองชอบเห็นการ์ตูนทะลึ่งที่เธอวาด เธอก็อายจะแย่อยู่แล้ว!
เหอจยาอวี๋ยิ้มและเปลี่ยนเรื่อง “เธออยู่บ้านคนเดียวเหรอ?”
รอยยิ้มของเขาดูเหมือนจะเยียวยาทุกอย่าง ทำให้ซูเสี่ยวโม่สงบสติอารมณ์ลงได้โดยไม่รู้ตัว เธอตอบอย่างคลุมเครือพลางรินน้ำให้เหอจยาอวี๋และรอให้เขาดื่มเสร็จแล้วจากไป
อาจเป็นเพราะสายตาดูร้อนรนเกินไปจึงทำให้เหอจยาอวี๋ซึ่งเป็นคนสบายๆ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “อย่ามองฉันแบบนี้”
ซูเสี่ยวโม่สะบัดหน้าและหน้าก็กลับมาแดงอีกครั้ง เธอยิ้มแห้งพลางหยิบโทรศัพท์ออกมา “เพื่อน นายดื่มสิ ฉันขอเล่นฮาร์ทสโตนก่อน”
“เธอเป็นเด็กสาวที่ยังเล่นเกมโทรศัพท์อยู่สินะ” เหอจยาอวี๋โน้มตัวมาดูเธอเล่นเกม ทว่าโทรศัพท์ของซูเสี่ยวโม่สั่นแรงๆ อยู่สองครั้งและแสดงข้อความหนึ่งขึ้นมา
พอคลิกเปิดดู บรรยากาศภายในห้องก็เงียบสงัดอีกครั้ง
ผู้ส่ง : เซิ่งอี่เจ๋อ
เนื้อหาข้อความ : รูปถ่ายที่เธออยากได้
รูปถ่ายดังกล่าวเป็นรูปถ่ายของเหอจยาอวี๋ยืนอยู่ริมชายหาด สวมเพียงกางเกงว่ายน้ำ รูปร่างดีไม่มีที่ติ แทบจะเป็นรูปเปลือย…
พรึ่บ—-
น่าอับอาย! มีคำว่าอับอายเขียนตัวโตๆ!
เทพบุตรเซิ่งอี่เจ๋อ นายจะส่งมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ทำไมต้องส่งมาในเวลานี้!
เธอกลืนน้ำลายพลางเค้นสมองอย่างหนักว่าจะอธิบายอย่างไรดี
เหอจยาอวี๋เงียบไปสักพัก แววตาที่มองซูเสี่ยวโม่ก็ยิ่งล้ำลึก
ในหัวของซูเสี่ยวโม่สว่างวาบขึ้นมา เธอตบบนต้นขา “ฉันอธิบายนายได้ พ่อหนุ่ม ที่จริงแล้วฉันแค่อยากเห็นว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องของผู้ชายมันเป็นยังไง เซิ่งอี่เจ๋อก็เลยยินดีช่วยฉันโดยการส่งรูปมาให้ฉันหนึ่งรูป อืม เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ อัยหยา นายดูสิหน้านายหล่อชะมัดเลย ซิกแพคนี่อีก แล้วยังมีเมอร์เมดไลน์ตรงนี้อีก ถ้าได้ลูบแล้วคงให้ความรู้สึกที่ดีมากแน่ๆ …”
“ฉันพูดอะไรได้ไหม?” เหอจยาอวี๋ถามเบาๆ ซูเสี่ยวโม่พยักหน้าด้วยความงุนงงเล็กน้อยก็เห็นเขากระแอม “อย่างแรกก็คือ ที่เธอเพิ่งตบไป มันคือต้นขาฉัน…แค่กแค่ก เพื่อนนักเรียนซู แรงเธอยังเยอะเหมือนเดิมเลยนะ…จะพูดยังไงดีล่ะ…”
ซูเสี่ยวโม่แทบจะกระอักเลือด อ๊าอ๊าอ๊า น่าขายหน้าชะมัด!
“ส่วนเรื่องที่สอง ถ้าเธออยากลูบ ตอนนี้ก็ได้นะ” เขาพูดจบอย่างใจเย็นแล้วเลิกเสื้อขึ้น เผยให้เห็นซิกแพค กล้ามเนื้อและเมอร์เมดไลน์วับๆ แวมๆ
ซูเสี่ยวโม่ “!!!”
เมื่อความงดงามมาอยู่ตรงหน้า ลูบ? หรือไม่ลูบ!