ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 401 ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา (6) / ตอนที่ 402 เป็นหรือตาย (1)

ตอนที่ 401 ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา (6)

 

 

ภายในใจเหมือนทะเลสาบอันเงียบสงบที่มีก้อนหินโยนลงมาจนเกิดระลอกคลื่น…

 

 

ผู้ชายคนนี้…ทำไมถึงทำแบบนี้นะ…

 

 

อันซย่าซย่าเงยหน้าขึ้นฮัมเสียงเย็นชา

 

 

“อย่าโกรธฉันเลยได้ไหม…” เซิ่งอี่เจ๋อพูดเสียงอ่อน ฉือหยวนเฟิงที่ได้ยินก็หนาวสั่นขนลุกไปทั่วทั้งตัว

 

 

“เอ่อ…ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่จยาอวี๋ต้มบะหมี่ไว้ ฉันกลับไปกินข้าวแล้วนะ!” ฉือหยวนเฟิงส่งสายตาให้เซิ่งอี่เจ๋อพร้อมกับผละตัวออกไป

 

 

จุ๊จุ๊ พี่อี่เจ๋อเป็นคนฉลาดจริงๆ พอป่วย ซย่าซย่าก็วิ่งมาดูแล!

 

 

แต่ว่า…ทำไมเหมือนรู้สึกโดนหยิกที่แก้มนะ?

 

 

╮  ( ╯ _ ╰ )  ╭

 

 

 

 

ภายในห้อง เซิ่งอี่เจ๋อยังคงกุมมืออันซย่าซย่าเหมือนกับเด็กที่ทำตัวไม่ถูก

 

 

อันซย่าซย่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อตอนเที่ยง เมื่อกี้ยังกังวลอยู่เลยว่าเซิ่งอี่เจ๋อจะเป็นอย่างไรบ้าง ในเมื่อตอนนี้ดีขึ้นแล้วเธอก็สบายใจได้แล้ว แต่เธอยังรู้สึกทรมานร่างกายอยู่มาก

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเธอ เขาขยับไปข้างเตียงและตบที่ว่างข้างๆ “ซย่าซย่านอนเถอะ”

 

 

อันซย่าซย่าไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเซิ่งอี่เจ๋อในยามป่วยถึงได้ทำตัวเหมือนเด็กน้อย

 

 

อืม แล้วยังน่ารักกว่าเซิ่งเสียวเป่าอีกด้วย~

 

 

เธอนอนลงข้างๆ เขา สักพักอันซย่าซย่าก็ถูกรวบตัวเข้าสู่อ้อมกอดที่ร้อนผ่าว เธอบ่นเสียงเบา “นายจะแพร่เชื้อให้ฉันหรือเปล่าเนี่ย?”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปสองวิแล้วส่ายหน้า “ไม่หรอก”

 

 

“อ้อ…” อันซย่าซย่าเหลือบตามองเขา “คิดๆ ดูแล้ว นายก็สุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอดนี่? ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นไข้ขึ้นมาได้ล่ะ หรือว่าจะติดโรคระบาดอะไรนั่นหรือเปล่า…”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อร้อนตัวไปสองวิ

 

 

การอาบน้ำเย็นในเดือนมีนาคมเพื่อทำให้ตัวเองเป็นไข้ถือว่าติดโรคระบาด? แค่กๆๆ

 

 

“ซย่าซย่า ฉันง่วง” เซิ่งอี่เจ๋อขายความน่ารักอีกครั้ง

 

 

อันซย่าซย่าจนปัญญา เธอยกมือลูบหัวเขาเหมือนลูบขนสุนัข “เด็กดี หลับเถอะ นายดูนายสิ เป็นไข้สูงถึงขนาดนี้…คงเลอะเลือนแล้วล่ะ ตอนนายมีสติ ไม่เห็นจะน่ารักแบบนี้เลย”

 

 

ในที่ที่เธอมองไม่เห็น เซิ่งอี่เจ๋อกระตุกมุมปาก

 

 

แม้จะเป็นไข้ร้ายแรง แต่อาการป่วยนี้ยังถือว่าทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะตอนนี้สติปัญญาของเขายังสามารถทำโจทย์คณิตศาสตร์โอลิมปิกได้…

 

 

แต่เพื่อที่จะเกลี้ยมกล่อมอันซย่าซย่าให้กลับมา ด้านมืดก็ยังคงต้องเสแสร้งทำเป็นอ่อนแอต่อไป เขาเอาอันซย่าซย่ามาเป็นหมอนแล้วผลอยหลับไป

 

 

เขารู้สึกว่าตัวเองฝันเป็นเวลาอันยาวนาน ในความฝันเขากำลังเล่นเพลงแสงจันทร์ของบีโธเฟนอยู่ในคฤหาสน์ที่เมืองลั่วรื่อโดยมีซ่งซ่งเล่นไวโอลินอย่างงุ่มง่ามอยู่ข้างๆ เสียงแสบหูของไวโอลินกับเสียงไพเราะของเปียโนก่อให้เกิดข้อเปรียบเทียบอย่างชัดเจน

 

 

เมื่อเพลงจบ ซ่งซ่งก็ตะโกนด้วยความโมโห “ฉันไม่อยากฝึกไวโอลินแล้ว! ฮือออ….”

 

 

เขาปลอบใจอย่างช่วยไม่ได้ “นี่ เธอดูในทีวีแล้วบอกว่าคนที่เล่นเปียโนเป็นเจ้าชาย ส่วนคนที่เล่นไวโอลินเป็นเจ้าหญิงไม่ใช่เหรอ เธอถึงได้เรียนมันไง แล้วตอนนี้จะร้องไห้อีกทำไม…”

 

 

“แต่ฉันเล่นไม่เก่งนี่นา” ซ่งซ่งร้องไห้ปวดใจ ทั้งยังสะอึกสะอื้น

 

 

“ไม่เป็นไร ค่อยๆ ฝึก ต่อไปพวกเราจะได้เล่นด้วยกัน”

 

 

“จริงเหรอ? งั้นพี่ก็อย่าทิ้งฉันนะ…”

 

 

เดิมทีความทรงจำเมื่อหลายปีก่อนที่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควรจะเลือนลางไปแล้ว แต่ในค่ำคืนหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีต่อจากนั้นกลับปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

 

 

ในเวลานั้นเซิ่งอี่เจ๋อคิดเสมอว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ไม่คิดว่าคำสัญญาที่ทั้งสองจะร่วมเล่นดนตรีด้วยกันจะไม่เคยเกิดขึ้นจริงจนถึงตอนนี้

 

 

ในช่วงครึ่งหลังของความฝัน อันซย่าซย่าก็ปรากฏตัวขึ้น

 

 

ตัวเขาร้อนมาก แต่ตัวอันซย่าซย่าทั้งเย็นและนุ่มนิ่ม เขาจึงอดไม่ได้ที่จะกดลงไปใต้ล่าง…

 

 

เสียงหอบหายใจ เสียงร้องไห้ เสียงคำรามสอดประสานเข้าด้วยกัน…

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 402 เป็นหรือตาย (1)

 

 

หญิงสาวถูกเขากดลงใต้ล่าง เธองอแงด้วยความไม่พอใจ มือของเขาที่กอดเอวเธอไว้เพิ่มแรงหนักขึ้น เขาอยากกักเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนาราวกับชีวิตนี้จะไม่ยอมปล่อยให้ไปไหนอีก

 

 

ความฝันเป็นเหมือนดอกป๊อปปี้พิษ ดึงดูดให้คนยิ่งถลำลึกเข้าไป…

 

 

ท้องฟ้าสว่างสดใส เซิ่งอี่เจ๋อตื่นขึ้นมาก่อน

 

 

อันซย่าซย่ายังหลับอยู่ในอ้อมแขนด้วยความสงบ ใบหน้าของเธอยามหลับดูบอบบางและงดงาม ผิวขาวราวกับกระเบื้องเคลือบชั้นดีจนทำให้คนอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้

 

 

สีหน้าเซิ่งอี่เจ๋อทั้งดูอ่อนโยนและฉลาด เขายื่นนิ้วมือเรียวยาวสะกิดที่ใบหน้ารูปไข่ของอันซย่าซย่า

 

 

ยังนุ่มนิ่มเช่นเคย

 

 

เมื่อเทียบกับความฝันเมื่อคืน เธอดูเป็นความจริงกว่าตั้งเยอะ

 

 

พอนึกถึงความฝันไร้สาระเมื่อคืน เซิ่งอี่เจ๋อก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของตัวเองได้ทันที ในหัวเหมือนว่างเปล่าไปไม่กี่วิ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

 

 

เขาลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ เหงื่อที่ไหลท่วมตัวเป็นสัญญาณว่าไข้ใกล้จะหายแล้ว

 

 

สุดท้ายเขาโยนเสื้อผ้าสกปรกลงในตะกร้าซักผ้าและซักกางเกงในไปด้วย

 

 

ให้ตายเถอะ นี่ฉันฝันหวานว่าทำอะไรกับอันซย่าซย่าเหรอเนี่ย!

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ อันซย่าซย่ายังคงหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง เธอน่าจะกำลังฝันดี ทั้งยังฮัมเพลงอย่างสบายอกสบายใจ

 

 

ยัยบ๊อง!

 

 

เขาได้รับความทรมานมาตลอดทั้งคืน แต่เธอยังมีใจนอนหลับได้ลง!

 

 

แม้จะไม่พอใจ แต่หลังจากเห็นหน้าเล็กๆ ของอันซย่าซย่าแล้ว ก็พลันนึกถึงเธอที่ดูแลเขาอย่างสุดชีวิตด้วยความเป็นห่วง ผ่านไปได้สักพักความโกรธก็มลายหายไป

 

 

เมื่อลงมาชั้นล่างเพื่อเริ่มเตรียมอาหารเช้าก็ได้ยินเสียงคนกดกริ่งที่หน้าประตู

 

 

เขาเดินไปเปิดประตูก็พบว่าเป็นซ่งชิงเฉินยืนอยู่หน้าประตู รอยบนใบหน้ายังคงดูน่ากลัว หลังจากลังเลอยู่นานเธอก็พูดว่า “พี่อาเจ๋อ…ฉันจะเข้าร่วมแข่งขันรอบคัดพิเศษที่งานเทศกาลดนตรี คุณไปเล่นดนตรีคู่กับฉันได้ไหมคะ?”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้ว ยังไม่ยอมตอบตกลง

 

 

ซ่งชิงเฉินยิ้ม “ไม่ตกลงก็ไม่เป็นไร…คำสัญญาของพวกเรา มีแค่ฉันที่จำได้คนเดียว…”

 

 

เธอกำลังจะจากไปด้วยความอ้างว้าง แต่เซิ่งอี่เจ๋อกลับเรียกเธอไว้

 

 

“รอเดี๋ยว”

 

 

เธอย้อนกลับมามองเซิ่งอี่เจ๋อด้วยความแปลกใจ

 

 

อาจเป็นเพราะความฝันเมื่อคืนสามารถโน้มน้าวเซิ่งอี่เจ๋อได้ ท้ายที่สุดความสงสัยในใจของเขาที่มีต่อซ่งชิงเฉินก็ถูกปกคลุมด้วยความรู้สึกผิด

 

 

“ฉันจะช่วยเล่นเป็นคู่เธอ แต่เธอก็ต้องตกลงกับฉันเรื่องหนึ่ง ต่อไปอย่าตั้งตัวเป็นศัตรูกับซย่าซย่า” นี่เป็นเรื่องที่เขาขีดเส้นไว้

 

 

ซ่งชิงเฉินพยักหน้าติดต่อกัน “ได้ค่ะ ตราบใดที่คุณช่วยฉันเติมเต็มความปรารถนานี้ ฉันจะจากไป” ราวกับกลัวเซิ่งอี่เจ๋อไม่เชื่อ เธอจึงหยอกเล่น “แต่ว่า การชดเชยที่คุณเคยพูดถึงยังนับอยู่ไหม?”

 

 

“ไม่เป็นไร”

 

 

“ฉันได้ยินมาว่าบริษัททัวร์ที่อยู่ในเครือตระกูลเซิ่งได้เปิดตัวแผนการท่องเที่ยว แค่มีบัตร VIP ก็เดินทางเที่ยวรอบโลกได้แล้ว พี่อาเจ๋อ ฉันขอหนึ่งใบสิ ฉันอยากพักจากการเรียนไปเที่ยวรอบโลกสักช่วงแล้วค่อยกลับประเทศM” ซ่งชิงเฉินพูดด้วยความจริงใจ

 

 

ที่แน่ๆ นี่คือความฝันของเธอ

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพยายามจับสังเกตการโกหกผ่านนัยน์ตาเธอ แต่แววตาของซ่งชิงเฉินยังคงสว่างสดใส เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้า “โอเค”

 

 

ซ่งชิงเฉินเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจออกมา เธอกระโดดโลดเต้นเดินออกไปราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา

 

 

เหมือนความอบอุ่นที่อยู่ในความทรงจำของเขา

 

 

เขากลับไปที่ห้องครัวด้วยสีหน้าเย็นชาพลางขบคิดปัญหาข้อหนึ่ง

 

 

ทอดไข่ดาวให้ซย่าซย่าเป็นรูปหัวใจ? หรือจะเป็นรูปพระอาทิตย์ดี?

 

 

อืม นี่เป็นปัญหาสำคัญมาก

 

 

บ้านตระกูลหลี

 

 

หลีฝานซิงมองเจี่ยนซินเอ๋อร์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตากระวนกระวาย เธอสวมเสื้อผ้าขาดวิ่น มีคราบสกปรกบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณหนูตระกูลเจี่ยนในอดีตจะตกอับกลายมาเป็นคนเก็บขยะในวันนี้!

 

 

“เธอตามหาฉัน…ต้องการอะไร?”

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

Status: Ongoing
อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก! ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset