ตอนที่ 415 นายกับซย่าซย่าจบกัน (4)
“เธอจะไปต่างประเทศเมื่อไหร่?” เซิ่งอี่เจ๋อหันหน้ามาถามเธอ
ซ่งชิงเฉินรู้ดีว่าเขาได้จัดเตรียมทุกอย่างให้เธอแล้ว ทั้งยังให้บัตรVIPใบนั้นที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก เขาจัดแจงทุกอย่างอย่างรอบคอบโดยไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
เขาทำเพื่อชดเชยให้เธอในฐานะคนรักวัยเด็กจริงๆ และไม่ให้ความหวังเธอได้เข้าใกล้
ยิ่งเป็นแบบนี้เธอก็ยิ่งไม่พอใจและยิ่งเจ็บปวด
ซ่งชิงเฉินก้มหน้า ตอนนี้หลีฝานซิงได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอแล้ว เธอไม่อยากไปก็ต้องไป
“น่าจะสุดสัปดาห์นี้แหละค่ะ…” เธอพูดเบาๆ เซิ่งอี่เจ๋อตอบรับ “ฉันจะเตรียมคนไปส่งเธอ”
ซ่งชิงเฉินยิ้มอย่างหดหู่ ภายในใจมีอารมณ์หลากหลายผสมปนเปเต็มไปหมดด้วยความรู้สึกไม่สู้ดี
เธอลุกขึ้นเพื่อหาข้ออ้างที่จะออกไป โดยข้างนอกมีบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งเฝ้าอยู่
เธอขอร้องให้คุณซ่งส่งบอดี้การ์ดเหล่านี้มาเพราะเกรงว่าหลีฝานซิงจะจัดการเธอเหมือนอย่างที่จัดการกับอันซย่าซย่าอีกครั้ง
ภายในห้องผู้ป่วย
เซิ่งอี่เจ๋อบีบฝ่ามืออันซย่าซย่า “หึงเหรอ?”
อันซย่าซย่าพึมพำเบาๆ “มีอะไรให้หึง…ฉันไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้นเสียหน่อย!”
“ไม่ใจแคบ แล้วทำหน้ามุ่ยแบบนั้นทำไม?” เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะ “เอาล่ะ ไม่ต้องคิดมาก ตอนนี้เธอควรจะทำตัวโง่หน่อยแล้วเอาไอคิวไปใช้อย่างอื่นแทน”
อันซย่าซย่าไม่พอใจ “ฮึ!”
เธอปัดมือเซิ่งอี่เจ๋อออกแล้วซุกตัวในผ้าห่ม จากนั้นก็นอนต่อ
ฝ่ามือนั้นของเซิ่งชิงอี้ทำให้เธอเวียนหัวจนถึงตอนนี้
เมื่อมองส่วนโค้งมนที่อยู่ในผ้าห่ม เซิ่งอี่เจ๋อก็ถอนหายใจออกมา เขามักจะเรียกเธอว่ายัยโง่มาโดยตลอด แต่ในใจกลับรู้ดีกว่าใครว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โง่เลยสักนิด
ก็เหมือนกับจุดจบของหรงเช่อและเจี่ยนซินเอ๋อร์ เธอไม่ได้ถามอะไรและเขาเองก็ไม่อยากให้เธอรู้เรื่องราวด้านมืดเหล่านั้น
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะไม่รับรู้ไปได้ตลอด แบบนี้จะได้ไม่มีปัญหา
–
พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ อาการบาดเจ็บของอันซย่าซย่าดีขึ้นมากแล้ว ส่วนอาการของเซิ่งอี่เจ๋อก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เซิ่งอี่เจ๋อรับสายโทรศัพท์จากคุณซ่ง คุณซ่งเชิญเขาไปทานข้าวที่บ้านเพื่อเลี้ยงส่งซ่งชิงเฉิน
คุณซ่งอยากให้เซิ่งอี่เจ๋อพาอันซย่าซย่ามาด้วย แต่เขาก็ต้องตกใจมากเมื่อรู้ว่าอันซย่าซย่าได้รับบาดเจ็บ จึงกำชับเซิ่งอี่เจ๋อดูแลอันซย่าซย่าให้ดีและให้เธอพักผ่อนมากๆ ทั้งยังส่งคนเอาอาหารเสริมมาให้เธออีกด้วย
เซิ่งอี่เจ๋อสั่งบอดี้การ์ดออกไปสังเกตการณ์บริเวณรอบๆ โรงพยาบาลทั้งในที่แจ้งและที่ลับเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้อันซย่าซย่าก่อนที่จะไปบ้านตระกูลซ่งอย่างสบายใจ
ทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างมีความสุขบนโต๊ะอาหารค่ำ คุณซ่งชอบเซิ่งอี่เจ๋อมากและยังสั่งให้คนรับใช้ไปที่ห้องเก็บไวน์เพื่อหยิบไวน์เก่าที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นมานานหลายปี
ซ่งชิงเฉินยิ้ม “ให้หนูไปดีกว่าค่ะ แด๊ดดี้ พี่อาเจ๋อ พวกคุณสองคนคุยกันตามสบายเลย”
“ก็ได้” คุณซ่งยิ้มอย่างสง่างาม
ไม่นานหลังจากนั้น ซ่งชิงเฉินก็กลับมาพร้อมกับขวดไวน์ เมื่อเปิดจุกขวดออก ทั้งห้องก็ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นไวน์
เซิ่งอี่เจ๋อชนแก้วกับคุณซ่งไปหลายแก้ว จากนั้นคุณซ่งก็เมาพับ เขาจึงช่วยคนรับใช้ประคองคุณซ่งกลับไปที่ห้อง
หลังจากที่พาคุณซ่งวางลงบนเตียง คนรับใช้ก็ไปยกซุปแก้เมามาให้ เซิ่งอี่เจ๋อกำลังจะลุกก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย
เนื่องจากเป็นไวน์เก่าที่เก็บไว้นานกว่ายี่สิบปีจึงมีฤทธิ์ค่อนข้างแรง
เขาพิงกำแพงและพยายามประคองตัวเองไว้ภายใต้อาการวิงเวียน
แต่กลับชนเข้ากับสลักของห้องห้องหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ!
ภาพวาดวิวทิวทัศน์ที่เดิมทีหันหน้าไปทางเตียงของคุณซ่งหันอีกด้านหนึ่งกลับมาและเปลี่ยนเป็นภาพวาดสีน้ำมัน!
บนภาพวาดนั้นเป็นเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง หน้าตาน่ารักบอบบาง รอยยิ้มหวานสดใส สวยหยาดเยิ้มราวกับหญิงงามล่มเมือง
สีหน้าเซิ่งอี่เจ๋อเปลี่ยนไปในทันใด
หากเป็นเพียงคนสวยทั่วไปก็แล้วกันไป แต่บุคคลในภาพวาดนั้นกลับเหมือนอันซย่าซย่าราวกับพิมพ์เดียวกัน
ตอนที่ 416 นายกับซย่าซย่าจบกัน (5)
ไม่ พูดไม่ได้ว่าเหมือนอันซย่าซย่า
เนื่องจากใบหน้าของอันซย่าซย่ายังแฝงไปด้วยความอ่อนเยาว์และยังเติบโตไม่เต็มที่ พอมองแล้วยังให้ความรู้สึกไม่ประสีประสา
ทว่าหญิงสาวในภาพวาดกลับสวยหยาดเยิ้มอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อีกทั้งยังได้กลิ่นอายเสน่ห์แห่งความงามอันไร้ที่ติ
“พี่อาเจ๋อ ฉันยกซุปแก้เมามาให้แล้วค่ะ…” ซ่งชิงเฉินสาวเท้าเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว หลังจากเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า ถาดในมือก็ร่วงลงกับพื้น น้ำซุปหกกระจัดกระจาย
ใบหน้าของเธอซีดเซียวราวกับกระดาษในทันที
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีภาพเหมือน “เธอ” อยู่ในห้องของคุณซ่งด้วย
แววตาอันเฉียบคมของเซิ่งอี่เจ๋อค่อยๆ เลื่อนไป
ด้านล่างภาพวาดสีน้ำมันมีลายมือเล็กๆ อยู่หนึ่งแถว
มอบให้ภรรยาของซ่งหวน วันที่ X เดือน X ปี X
ชื่อของคุณซ่งก็คือซ่งหวน
มือของเซิ่งอี่เจ๋อสั่นเทา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
หรือว่าอันซย่าซย่าจะเป็นลูกสาวของคุณซ่ง…?
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าคุณซ่งมีลูกสาวเพียงคนเดียว เนื่องจากเกิดในเวลาเช้าตรู่ จึงตั้งชื่อว่าชิงเฉิน (倾晨) เพื่อให้พ้องเสียงกับคำว่าชิงเฉิน (清晨) ที่แปลว่าเช้าตรู่ และคำว่าชิง (倾) ก็นำตัวอักษรมาจากสำนวนจีนที่แปลว่างามล่มบ้านล่มเมือง (倾国倾城) จากนั้นเด็กคนนั้นก็ถูกพลัดพรากไป
อย่างงั้นซ่งชิงเฉินคนที่อยู่ตรงหน้าคือใคร?
ด้านหลังของเขา ซ่งชิงเฉินหัวเราะอย่างสลดราวกับกำลังร้องไห้
เซิ่งอี่เจ๋อหันกลับไปมองด้วยสีหน้าอันเยือกเย็นราวกับน้ำค้าง เขาถามอย่างเย็นชาว่า “ซ่งซ่ง เธอเป็นใคร?”
“ไม่ เธอไม่ใช่ซ่งซ่ง เธอเป็นใครกันแน่?”
ซ่งชิงเฉินเดินถอยหลังออกไปอย่างขลาดกลัว เซิ่งอี่เจ๋อก้าวเข้าไปประชิดจนเธอติดกับกำแพงในพริบตาเดียว
ซ่งชิงเฉินขอบตาแดงพร้อมกับเอื้อมมือขาวราวกับหยกขึ้นมาประคองแก้มเซิ่งอี่เจ๋อ
“ทำไมต้องรู้ด้วย…หากคุณไม่รู้มันจะดีสักแค่ไหน…เห็นๆ อยู่ว่าฉันจะไปแล้ว พี่อาเจ๋อ ลืมมันไปได้ไหม? ทำเหมือนว่าทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นได้ไหม?”
เซิ่งอี่เจ๋อจับข้อมือเธอไว้ กลิ่นอายแห่งการบังคับได้แผ่กระจาย เขาพูดเสียงต่ำ “เธอเป็นใครกันแน่?!”
“หึ…” ซ่งชิงเฉินหัวเราะแฝงไปด้วยน้ำตา “ฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้มาตั้งแต่แรก คุณบังคับฉันเอง”
เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ ตัวสั่น รูม่านตาขยาย จากนั้นก็ทรุดตัวลงไป
ซ่งชิงเฉินเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อและเรียกคนรับใช้มาพาเซิ่งอี่เจ๋อเข้าไปในห้องโดยอ้างว่าเขาเมาแล้ว พลางสั่งไว้ว่า “แด๊ดดี้บอกว่าช่วงนี้ทุกคงเหนื่อยมาก จึงให้พักได้หนึ่งสัปดาห์ บอกทุกคนไปเก็บของ ตอนนี้ก็ไปได้แล้ว”
พวกคนรับใช้ต่างรีบร้อนออกไปด้วยความดีอกดีใจ
ซ่งชิงเฉินกลับเข้ามาที่ห้องพลางจ้องมองเซิ่งอี่เจ๋อที่กำลังหลับใหลอย่างลุ่มหลง
เธอหยิบขวดออกมาจากกระเป๋าและหยิบยาเม็ดสีขาวออกมา ลังเลได้สักพักก็ป้อนให้เซิ่งอี่เจ๋อ จากนั้นก็ต่อสายโทรศัพท์โทรหาหลีฝานซิง
เสียงหยอกล้อของหลีฝานซิงลอยเข้ามา “อ้อ? ไม่หนีแล้วเหรอ?”
ซ่งชิงเฉินกัดฟัน “หลีฝานซิง เธอจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ไหม?”
“ตอนแรกพวกเราก็บอกว่าจะร่วมมือกัน ฉันอุตส่าห์หาวิธีแสดงละครเพื่อเกลี้ยกล่อมคุณซ่ง แต่เธอกลับไม่ยอมสู้เอาเอง ตอนนี้ยังจะมาโทษฉันอีกเหรอ?” หลีฝานซิงพูดกร่าง แต่จู่ๆ เสียงร้องไห้ของซ่งชิงเฉินก็ดังมาจากปลายสาย
เธอร้องไห้อย่างเจ็บปวดรวดร้าว พอหลีฝานซิงได้ยินก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“เธอร้องไห้ทำไม?”
ซ่งชิงเฉินเล่าเรื่องราวในวันนี้ด้วยเสียงที่ขาดหายเป็นห้วงๆ หลังจากที่หลีฝานซิงได้ฟังก็หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ “เธอว่าอะไรนะ? ภรรยาของคุณซ่งหน้าเหมือนซย่าซย่างั้นเหรอ? แล้วเธอยังวางยาเซิ่งอี่เจ๋ออีกเนี่ยนะ?”
“ใช่ ฉันใช้ยาทั้งหมดที่เธอให้มา” ซ่งชิงเฉินตอบกลับ ยาตัวแรกคือยาเม็ดสีขาวนั่น เธอใส่เข้าไปในไวน์ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้คนหมดสติไปชั่วคราว อาการผิวเผินจะดูคล้ายกับอาการเมาเหล้า