ตอนที่ 419 นายกับซย่าซย่าจบกัน (8)
ถูกพบเข้าแล้ว!
ซ่งชิงเฉินกลอกตาไปมาและกรีดร้องด้วยความตกใจ เธอดึงผ้าห่มมาคลุมบนตัวของตัวเองพร้อมกับสะอื้นไห้เบาๆ เหมือนเด็กสาวบริสุทธิ์ที่ถูกรังแก
ข้างนอกห้องยังมีใครอีกคน เมื่อเขาเดินเข้ามาด้วยฝีเท้าอันหนักแน่น ก็เห็นภาพเหลวไหลที่อยู่ภายในห้องนั้น สายตาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
นิ้วค่อยๆ ดันแว่นตาลง อันอี้เป่ยพูดจาถากถาง “เซิ่งอี่เจ๋อ นายคิดจะแก้ตัวว่ายังไง? ฉันยินดีล้างหูรอฟัง!”
ใครก็ตามที่เห็นฉากนี้ ก็ย่อมเข้าใจดีว่าทั้งสองเพิ่งทำอะไรกันมา
เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้วพยายามจะอธิบาย แต่สมองกลับขาวโพลนเนื่องด้วยความเหนื่อยล้าจากอาการเมา
ให้ตายเถอะ! เขานึกไม่ถึงว่าภาพจะถูกตัดไป! จำได้แค่ว่าดื่มเหล้ากับคุณซ่งไปไม่น้อย เรื่องราวต่อจากนั้นเขานึกไม่ออกแล้วจริงๆ!
ฉีเหยียนซีพุ่งเข้าไปต่อยเซิ่งอี่เจ๋อสองสามหมัดด้วยดวงตาแดงก่ำ
ซ่งชิงเฉินลนลานและพูดอย่างอ่อนแรง “อย่าตีเขา…ถ้าจะตีก็มาตีที่ฉันนี่ ฉันมันไม่ดีเอง…เพราะพี่อาเจ๋อเมาแล้ว เขาก็ลากฉันมาในห้องนี้ ฉัน…ฮึกฮึก…”
พอพูดไปได้ครึ่งทางก็ยิ่งทำให้คนจินตนาการไปไกล ทำให้คนนึกถึงภาพเซิ่งอี่เจ๋อเมาแล้วสะเปะสะปะผลักคนรักวัยเด็กล้มลงไปเหมือนในละคร…
ฉีเหยียนซียิ่งโมโหและด่าออกไป “แม่งเอ๊ย! เธอหุบปาก! ถ้าพูดอีกฉันจะฉีกปากเธอซะ!”
ซ่งชิงเฉินจึงหุบปากอย่างมีสติและร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด
ในขณะที่อันอี้เป่ยกำลังมองดูละครตลกฉากนี้อยู่ตรงหน้าประตู รอยยิ้มจางๆ ก็ผุดขึ้นตรงมุมปาก
ก็ดีที่ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเซิ่งอี่เจ๋อชัดๆ เสียที!
“ฉันไม่สนหรอกว่าพวกเธอจะทำด้วยความเต็มใจหรือแสร้งทำเป็นใจอยากปากปฏิเสธ ฉันขออวยพรให้พวกเธออยู่ด้วยกันไปนานๆ อย่าได้เลิกกันแล้วไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นล่ะ!” อันอี้เป่ยพูดด้วยคำพูดเย็นชา เซิ่งอี่เจ๋อหน้าตึง “พี่อัน…”
“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่! ฉันขอประกาศตรงนี้เลยว่านายกับซย่าซย่าจบกัน! นับแต่นี้เป็นต้นไปนายกับเธออยู่กันคนละทาง!” อันอี้เป่ยทิ้งประโยคนี้ด้วยความโกรธและทำหน้าเข้มเดินออกไป
ฉีเหยียนซีชูนิ้วกลางให้ทั้งสองและเดินตามไป
ภายในห้องจึงเหลือเพียงเซิ่งอี่เจ๋อกับซ่งชิงเฉิน
เงียบสงัด
ซ่งชิงเฉินนั่งลงบนเตียงอย่างเชื่อฟังพร้อมกับเช็ดน้ำตาเป็นครั้งคราว เธอถามเบาๆ “พี่อาเจ๋อ คุณจะรับผิดชอบฉันไหม?”
เซิ่งอี่เจ๋อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ยืดตัวตรง เขายิ้มเหน็บแนม “ทำหรือไม่ เธอรู้ดีกว่าฉันไม่ใช่เหรอ?”
แม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็เดาได้ว่ามันเป็นแผนของซ่งชิงเฉิน!
ให้ตายเถอะ!
ไม่ควรไว้ใจเธอเลย!
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเสียงดังขนาดนี้…” คุณซ่งเดินลงมาด้วยท่าทางงัวเงีย เนื่องจากซ่งชิงเฉินไม่ได้ใส่ยาลงไปในไวน์มากนัก เขาที่อยู่ชั้นบนจึงถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงทะเลาะวิวาทของฉีเหยียนซีเมื่อครู่นี้
เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง สีหน้าของเขาก็ดูแย่ลงในทันใด เขาพูดด้วยเสียงทุ้ม “ซ่งซ่ง เกิดอะไรขึ้น?”
ขนตาซ่งชิงเฉินสั่นระริก น้ำตาหลั่งออกมาเหมือนกับว่าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นคนรังแกและทิ้งเธอไป!
“แด๊ดดี้…พี่อาเจ๋อเขา…” เธอเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดจนคุณซ่งที่เป็นคนอ่อนโยนเริ่มมีอารมณ์ ในเวลานี้เขาถูกกระตุ้นให้โมโห “เซิ่งอี่เจ๋อ! ไม่ต้องมาพูดว่าเธอมีแฟนแล้ว เธอรู้ไหมว่าความบริสุทธิ์ของเด็กผู้หญิงนั้นสำคัญแค่ไหน? เธอทำกับซ่งซ่งได้ลง…สารเลว! เรื่องนี้เธอต้องมีคำอธิบายให้ฉัน!”
เซิ่งอี่เจ๋อเหยียดหลังตรง แสดงสีหน้าเยือกเย็น
เมื่ออยากโทษใครก็ย่อมมีเหตุผลหรือหาข้ออ้างได้เสมอ
ฝีมือซ่งชิงเฉินช่างร้ายกาจเสียจริงๆ
โทรศัพท์สั่นได้ไม่เท่าไหร่ เซิ่งอี่เจ๋อก็กวาดตามอง เขาแข็งทื่อไปทั้งตัว
อันซย่าซย่าโทรมา
เขาหยิบขึ้นมากดรับสายด้วยนิ้วที่สั่นระริกโดยไม่รู้ตัว
เสียงที่อ่อนหวานและนุ่มนวลของเด็กสาวลอยเข้ามา “เซิ่งอี่เจ๋อ เราเลิกกันเถอะ”
ตอนที่ 420 นายกับซย่าซย่าจบกัน (9)
เสียงนี้ไม่ต่างอะไรกับฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
เสียงเขาทุ้มต่ำ “ซย่าซย่า…”
อันซย่าซย่าพูดตัดบท “ไม่เป็นไร ไม่ต้องอธิบายให้ฉันฟัง” เธอแสร้งทำเป็นพูดเร็ว “เมื่อก่อนฉันเคยบอกนายแล้วไง ถ้านายมีคนที่ชอบก็บอกฉันสักคำ ฉันจะไม่กวนใจนายแน่นอน”
พอพูดเสร็จก็ตัดสายไป
ในโทรศัพท์ยังมีภาพเปลือยที่ซ่งชิงเฉินส่งมา…อันอี้เป่ยโทรศัพท์หาเธอแล้ว เพื่อเป็นการยืนยันสิ่งที่เธอคาดเดา…
พวกเขาทั้งสอง…กันจริง
เนื่องจากเธอรู้ว่าวันนี้เซิ่งอี่เจ๋อจะไปบ้านตระกูลเซิ่ง เธอจึงหาข้ออ้างให้อันอี้เป่ยไปรับเขา ฉีเหยียนซีก็ตามไปสมทบด้วย
หากซ่งชิงเฉินพูดโกหก นั่นก็ถือว่าเป็นการแพ้ภัยตัวเอง
แต่อันอี้เป่ยกลับบอกเธอว่าเขาพบเซิ่งอี่เจ๋อกับซ่งชิงเฉินนอนเปลือยกายอยู่ด้วยกัน…
เธอรู้สึกเหมือนมีโพรงขนาดใหญ่ถูกงัดออก เลือดไหลออกมาอย่างน่ากลัว จากนั้นก็โรยเกลือไปอีกหนึ่งกำมืออย่างไร้ความปรานี
การทรยศเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะยอมรับที่สุดในเรื่องของความสัมพันธ์
อันซย่าซย่าหลบอยู่ใต้ผ้าห่มและร้องไห้อย่างเงียบๆ การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของผ้าห่มก็สามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์โศกเศร้าของเธอ
บ้านตระกูลซ่ง
เซิ่งอี่เจ๋อเม้มริมฝีปากและรีบอธิบายให้คุณซ่งเพียงสองสามประโยค จากนั้นก็ขับรถปอร์เช่ออกไปอย่างรวดเร็วปานลมกรด
คุณซ่งโกรธมากและกำหมัดแน่น “ซ่งซ่ง…พ่อจะทวงความยุติธรรมให้ลูกเอง!”
“แด๊ดดี้ พี่อาเจ๋อมีคนอยู่ในใจแล้ว…เรื่องของหนูช่างมันเถอะค่ะ ยังไงหนูก็ต้องไป! จะได้ไม่ต้องอยู่ขวางหูขวางต่อหน้าเขา!” ซ่งชิงเฉินเช็ดน้ำตา สีหน้าคุณซ่งดูโหดร้ายแต่ยังใจอ่อน “เขากล้า! ถ้าเขาไม่ยอมให้คำอธิบายกับลูกแม้แต่วันเดียว ลูกก็ห้ามไปแม้แต่วันเดียว! แล้วถ้าเขายังทำเลวอีก พ่อจะไปเยือนตระกูลเซิ่งถึงหน้าประตู!”
“ขอบคุณค่ะแด๊ดดี้…แด๊ดดี้ดีกับหนูที่สุด…” ดวงตาแดงก่ำของซ่งชิงเฉินเผยให้เห็นรอยยิ้มบรรลุผลสำเร็จ
–
โรงพยาบาล
เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อมาถึงที่โรงพยาบาล เตียงของอันซย่าซย่าก็ว่างเปล่า
พยาบาลบอกเขาว่ามีคนมาทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้อันซย่าซย่าและได้ออกไปแล้ว
เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้าด้วยความเหนื่อยล้าพลางเดาถึงความเป็นไปได้ของสถานที่ที่อันซย่าซย่าน่าจะไป
คิดไปคิดมาก็มีเพียงสถานที่เดียวที่มีความเป็นไปได้ที่สุดนั่นก็คือบ้านตระกูลอัน
เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเธอไม่จำเป็นต้องพักอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนป่าป๊าอันเองก็เคยเป็นศัลยแพทย์มาก่อน ซึ่งดูแลเธอได้ไม่มีปัญหา
พอคิดได้ดังนั้นเขาก็รีบขับรถปอร์เช่ไปยังบ้านตระกูลอัน
ร้านกาแฟชั้นหนึ่งของบ้านตระกูลอันแขวนป้ายปิดร้านชั่วคราว พอเขาดันประตูเข้าไปก็เห็นอันอี้เป่ยกำลังใช้แล็ปท็อปทำงานอยู่และมีถ้วยกาแฟอยู่บนโต๊ะ
เมื่อเห็นเซิ่งอี่เจ๋อเข้ามา อันอี้เป่ยก็พูดด้วยความเย็นชา “ที่นี่ไม่ต้อนรับนาย ไสหัวไป!”
“ซย่าซย่าล่ะ?” เซิ่งอี่เจ๋อถาม
สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็คือหาตัวอันซย่าซย่าและอธิบายทุกอย่างให้กระจ่าง
“เธอไม่อยากเจอนาย ฉันคิดว่านายควรให้เกียรติเธอด้วย ความรักแบบเด็กๆ สำคัญกว่าก็คือการจากกันด้วยดี” อันอี้เป่ยกล่าวอย่างเย้ยหยัน นัยน์ตาเซิ่งอี่เจ๋อหม่นหมอง เขาขยับขายาวๆ เพื่อคิดเดินตรงไปยังชั้นบน
อันอี้เป่ยกล่าวถึงความเป็นจริงที่ทำให้เขาถึงกับชะงักเท้า “ซย่าซย่าบอกว่าถ้านายยังยืนกรานจะเจอเธอให้ได้ งั้นเธอขอยอมตายเสียดีกว่า”
เซิ่งอี่เจ๋อชักเท้ากลับมาอย่างกะทันหันพร้อมกับกำหมัดแน่น
เขาไม่สนว่าซย่าซย่าจะด่าหรือทุบตีเขาอย่างไร แต่เขาไม่กล้าเอาซย่าซย่ามาเดิมพัน
หากซย่าซย่าเกิดหุนหันพลันแล่นทำร้ายตัวเองขึ้นมา จะทำอย่างไร?
“กลับไปเถอะ แล้วต่อไปอย่ามาเหยียบที่นี่อีก ครอบครัวของเราไม่ต้อนรับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแฟนเก่า” อันอี้เป่ยพูดปากคอเลาะร้าย เซิ่งอี่เจ๋อหายใจเข้าลึกๆ แล้วยืนโค้งคำนับอยู่ตรงหน้าเขา “พี่อัน ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แต่ผมไม่เคยทำเรื่องไม่น่าให้อภัยกับซย่าซย่าเลย”