ตอนที่ 453 กลยุทธ์เกี้ยวหนุ่ม (1)
อันซย่าซย่าบังโทรศัพท์ด้วยท่าทางลนลาน “เปล่า ไม่มีอะไร…แค่คุยกับโม่โม่ไปเรื่อยเปื่อยน่ะ…”
“อ๋อ” …ใครบางคนยังทำทีหยิ่งยโส
อันซย่าซย่าแอบอ่านวีแชท——
ซูเสี่ยวโม่ส่งอีโมจิหวาดผวากลับมา “บ้าชิบ นี่พวกเธอยังไม่ได้นอนด้วยกันเหรอ? ฉันคิดมาตลอดเลยนะว่าเซิ่งอี่เจ๋อลุ่มหลงในตัวเธอหัวปักหัวปำ หรือเขาไม่ได้จริงใจกับเธอ?”
อันซย่าซย่า “…”
เธอบล็อกยัยเพื่อนคนนี้ได้ไหมเนี่ย?
“ความเป็นเพื่อนเราจบกัน! บาย!” อันซย่าซย่าตอบพลางย่นจมูก
“ไม่น๊า~ นายท่านซย่าซย่า ข้าน้อยผิดไปแล้ว มาๆ ฉันจะบอกเคล็ดลับให้ก็ได้ เธอเก็บข้อมูลได้เลย~” ซูเสี่ยวโม่ส่งข้อมูลมาให้เป็นกองแล้วหัวเราะได้ใจ
เนื่องจากวาดการ์ตูน มือถือของเธอจึงจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระเบียบ เมื่อทำการคัดลอก เธอก็ได้คัดลอกไปยัง “กลยุทธ์เกี้ยวสาว” แต่ตอนที่ส่งไปให้อันซย่าซย่าก็บอกเธอว่าเป็น “กลยุทธ์เกี้ยวหนุ่ม”
เนื่องด้วยวาดโครงร่างอย่างเร่งรีบ พอหลังจากที่ส่งให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็โยนโทรศัพท์ไว้ด้านข้าง
อันซย่าซย่าดูภาพพวกนั้นและครุ่นคิดอย่างเป็นจริงเป็นจัง
เซิ่งอี่เจ๋อแสดงอาการเย็นชาตลอดทาง หลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็ลากเธอกลับบ้าน
อารมณ์บูดบึ้ง~และยังคงบูดบึ้งอย่างต่อเนื่อง~
เซิ่งอี่เจ๋อทำหน้าราวกับบอกว่า “รีบง้อฉันเร็ว” แต่แฟนสาวซื่อบื้อของเขากลับเอาแต่จับโทรศัพท์ไม่ยอมวาง นั่นจึงทำให้เขาแค้นฝังลึก
เมื่อก่อนไม่ได้อร่อยเท่าไก่ทอดก็แล้วไป พอมาตอนนี้เขายังสู้โทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งไม่ได้เนี่ยนะ?!
ในหัวเซิ่งอี่เจ๋อมีแต่ความคับแค้นใจ ในที่สุดอันซย่าซย่าก็รู้สึกตัว เธอเงยหน้าด้วยตาเป็นประกาย “เซิ่งอี่เจ๋อ เย็นนี้นายอยากกินอะไร?”
เซิ่งอี่เจ๋อ “หืม?”
“ฉันจะทำอาหารให้นายเอง” ดวงตาและคิ้วโค้งมนมองมาที่เขา
เซิ่งอี่เจ๋อตอบกลับ “อ้อ”
ง้อฉัน! นี่เธอกำลังง้อฉันอยู่! เมี๊ยวเมี๊ยวเมี๊ยว~
ถ้าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นแมว หางเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังคงกำลังแกว่งไปแกว่งมาอย่างแน่นอน~
อันซย่าซย่าไปเตรียมอาหารเย็นอย่างมีความสุข ส่วนเซิ่งอี่เจ๋อนั่งไขว่ห้างผิวปากเชียร์
ไม่คิดเลยว่าอันซย่าซย่าจะทำอาหารให้เขา…เดี๋ยวก่อนนะ อันซย่าซย่าทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?
ราวกับเป็นการตอบสนองต่อการคาดเดาของเขา มีเสียงดังสนั่นดังมาจากในครัว เขาตกใจจนวิ่งหัวซุกหัวซุนเข้าไป
อันซย่าซย่าหน้าดำทะมึนกำลังถือมีดทำครัวพลางมองเขาอย่างไร้เดียงสา
ภายในห้องครัวมีสภาพระเกะระกะ เซิ่งอี่เจ๋อช็อกจนเหงื่อแตก ถ้าเขามาช้าอีกนิดเดียวคาดว่าครัวคงระเบิดไปแล้วหรือไม่ก็คงสร้างระเบิดปรมาณู!
“ซย่าซย่า ถ้าเธอคิดอะไรไม่ตกก็บอกฉันได้ อย่าผลีผลาม วางมีดลง!” เซิ่งอี่เจ๋อพูดอย่างเคร่งขรึม
อันซย่าซย่าทำปากย่น “ฉันยังทำกับข้าวไม่เสร็จเลย…”
“ฉันทำเอง ฉันทำ! ฉันทำให้เธอเอง ฉันจะทำให้เธอไปตลอดชีวิต!” เซิ่งอี่เจ๋อละทิ้งหลักการโดยสิ้นเชิงและลากอันซย่าซย่าออกจากห้องครัว
อันซย่าซย่าเดินไปล้างหน้าเหมือนภรรยาตัวน้อยที่ได้รับความคับข้องใจ เซิ่งอี่เจ๋อจัดห้องครัวเสร็จก็เริ่มทำอาหาร
หลังจากที่อันซย่าซย่าล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้วเดินออกมา เธอก็เห็นเซิ่งอี่เจ๋อทำอาหารด้วยความตั้งใจ ซึ่งมีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อ
เมื่อนึกถึงกลยุทธ์นั้น เธอก็กลืนน้ำลายและวิ่งเหยาะๆ เข้าไปหาพลางเรียกด้วยเสียงหวาน “เซิ่งอี่เจ๋อ!”
“หืม?” เซิ่งอี่เจ๋อหยุดการเคลื่อนไหวที่อยู่ในมือ สาวน้อยโถมตัวเข้าหาเขา จากนั้นก็มีเสียงดังแปะ อุ้งมือตบไปบนเครื่องดูดควัน ใบหน้าเล็กของเธอกล่าวอย่างจริงจัง “นายมันปีศาจน้อยจอมยั่ว ยั่วฉันแล้ว ห้ามหนี!”
เซิ่งอี่เจ๋อ “…”
อันซย่าซย่าพยายามเขย่งเท้าและทำคาเบะด้ง
“นับแต่นี้ไป…นายเป็นคนของฉันแล้ว…เอ่อ คำหลัง คำหลังคือคำว่าอะไรนะ?” อันซย่าซย่าลนลานทำอะไรไม่ถูก
ตอนที่ 454 กลยุทธ์เกี้ยวหนุ่ม (2)
หน้าเซิ่งอี่เจ๋อไม่แสดงความรู้สึกใด ถึงขนาดใช้คำมาอธิบายได้ว่าหมดอาลัยตายอยาก
“เธอทำอะไรอยู่น่ะ?” เขาถาม
บนหน้าของสาวน้อยย้อมเป็นสีชมพูสวย ใบหูแดง เธอเอียงศีรษะแล้วทำท่าครุ่นคิดอย่างหนักคล้ายกับว่ากำลังทรมานอยู่กับการท่องบทเรียนในชีวิตปกติไม่ได้
ฉันก็กำลังยั่วนายอยู่นี่ไงพ่อเทพบุตร! อันซย่าซย่าบ่นในใจ
ทั้งหมดต้องโทษบทในข้อมูลที่ซูเสี่ยวโม่ให้มา มันยากเกินกว่าเธอจะท่องไหว เธออ้ำอึ้งอยู่นาน จากนั้นก็พูดถูๆ ไถๆ “ปีศาจน้อยปากไม่ตรงกับใจ ปากบอกว่าไม่รักฉัน แต่ร่างกายกลับซื่อสัตย์เสียจริงๆ!”
เซิ่งอี่เจ๋อ “…”
เนื่องจากความสูงระหว่างทั้งสองแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อันซย่าซย่าพยายามเขย่งเท้าเท่าไหร่ก็ถึงแค่ไหล่ของเขา ถ้าว่ากันตามกลยุทธ์แล้ว ตอนนี้จะต้องจูบอีกฝ่ายอย่างหนักหน่วง…
หนักหน่วง…หนักหน่วงอะไรกัน! เอื้อมไม่ถึงแล้วจะหนักหน่วงได้ยังไงเนี่ย!
ในขณะที่เธอนึกพาลโกรธก็ดึงเนคไทเซิ่งอี่เจ๋อลงมา “นายก้มลงหน่อย!”
เซิ่งอี่เจ๋อทำตัวไหลไปตามน้ำ เขาโน้มตัวลงและมองเธออย่างช่วยไม่ได้
อันซย่าซย่ายังเอื้อมไม่ถึง ดังนั้นเธอจึงกระโดดขึ้น!
พรึบ——
ริมฝีปากชมพูแตะริมฝีปากบางของเขาเบาๆ
เมื่ออันซย่าซย่าพอใจแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองเจ๋งสุดๆ ~
แววตาเซิ่งอี่เจ๋อมืดมนลงไปบางส่วน ภายในเต็มไปด้วยแสงสว่างที่อันซย่าซย่าไม่อาจเข้าใจได้ มือใหญ่ของเขาคว้าตัวสาวน้อยเข้ามาในอ้อมแขน เขาอุ้มเธอแล้วหมุนตัววางบนเคาน์เตอร์ทำอาหาร
อันซย่าซย่าช็อก “หืม…”
ปลายนิ้วเรียวยาวของเซิ่งอี่เจ๋อลูบไล้ริมฝีปากของเธอ “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เธอ?”
อันซย่าซย่าร้อนตัวมองไปทางอื่นและพูดปากแข็ง “เปล่านี่ ไม่มีใครสอน…”
“อ้อ งั้นดูเหมือนว่าฉันจะดูแลเธอไม่ทั่วถึงสินะถึงเติมเต็มความปรารถนาของเธอไม่พอ?”
คำพูดน่าอับอายเหล่านั้นโพล่งออกมาจากปากเขา อันซย่าซย่าหน้าแดงระเรื่อสุดขีด
“ฉันเปล่านะ!” เธอแก้ตัว
เขาเพียงแค่เอนตัว จูบอันร้อนแรงก็ประทับลงมาอย่างดุเดือด สาวน้อยดึงเสื้อเชิ้ตของเขาอย่างอ่อนระทวยเมื่อถูกบังคับให้รับการครอบงำจากเขา
ในตอนท้ายของการจูบ เขาอุ้มอันซย่าซย่าลงแล้วปลอบใจเธอเหมือนเด็กน้อย “เด็กดี อย่าก่อเรื่อง ฉันยังทำอาหารไม่เสร็จ”
อันซย่าซย่ารู้สึกอับอายอย่างมากจนวิ่งหนีไป
พอกลับมาถึงห้องนั่งเล่น อันซย่าซย่าก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง
เธอทำผิดตรงไหนกันแน่ ทำไม “กลยุทธ์เกี้ยวหนุ่ม” ถึงใช้ไม่ได้ผล?
เธอหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
อืม คาเบะด้งเมื่อกี้เป็นเพียงขั้นตอนแรก ขั้นต่อไป! จะต้องได้ผลแน่ๆ!
อันซย่าซย่าผู้ไร้เดียงสายังไม่รู้ตัวว่าถูกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดอย่างซูเสี่ยวโม่ขุดหลุมพรางไว้เสียแล้ว…
พอเซิ่งอี่เจ๋อยกอาหารค่ำออกมา อันซย่าซย่าก็วิ่งเข้าไปหยิบตะเกียบคีบเนื้อส่งไปที่ปากเซิ่งอี่เจ๋ออย่างเอาอกเอาใจ “ให้นายกิน~”
น้ำเสียงที่อ่อนหวานนุ่มนวลทำให้เซิ่งอี่เจ๋อชอบใจเป็นอย่างมาก พอเขาอ้าปาก อันซย่าซย่าก็ชักตะเกียบกลับมาให้ตัวเองกิน
เซิ่งอี่เจ๋อทำหน้าจนใจ เขาเห็นว่าสาวน้อยกำลังโอบรอบคอที่เรียวยาวของเขา ริมฝีปากชมพูโน้มเข้ามาแล้วยิ้มตาหยี “ให้นายกิน~”
เหมือนมีอะไรบางอย่างระเบิดอยู่ในหัวเขา เซิ่งอี่เจ๋อหน้าแดงก่ำพลางตำหนิอย่างทำตัวไม่ถูก “เธอสำรวมหน่อยสิ!”
อันซย่าซย่าไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เธอยังคงทำตามที่กลยุทธ์บอกไว้โดยการใช้เรี่ยวแรงให้มากที่สุดกดตัวเซิ่งอี่เจ๋อนอนลงไปกับพื้น
พื้นปูด้วยพรมขนนุ่ม ทั้งสองสบตากันราวกับว่าพวกเขาสามารถมองเห็นแสงดาวในดวงตาของกันและกันได้
พรึบ——
อุ้งมืออันซย่าซย่าเท้ากับพื้นอีกครั้ง “ปีศาจน้อย ร่างกายของนาย หัวใจของนายเป็นของฉัน…”
เซิ่งอี่เจ๋อตัวแข็งทื่อ อันซย่าซย่าเชยคางเขาเหมือนอันธพาล “ริอาจเล่นกับไฟ นายตายแน่!”
ใครบางคนยิ้มด้วยความมืดมน “เธอเดาซิว่า…ใครกันแน่ที่ต้องตาย?”