ตอนที่ 469 แคมป์ (5)
เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อที่ยังไม่ได้นอนได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืน เขาควานตัวอันซย่าซย่าที่กำลังหลับอย่างสะลึมสะลือ
“ซย่าซย่า ตื่นๆ!”
อันซย่าซย่าจิ๊ปาก “หือ…” เธอขยี้ตา เซิ่งอี่เจ๋อสวมเสื้อผ้าให้เธอด้วยความรวดเร็วแล้วพูดเสียงเข้ม “รอฉันอยู่ที่นี่ อย่าออกไปไหน!”
อันซย่าซย่าตอบ “อืม” ด้วยความตกใจและนั่งอยู่ในเต็นท์อย่างว่าง่ายโดยกอดกระเป๋านักเรียนกับไฟฉายที่เซิ่งอี่เจ๋อมอบให้
พอเซิ่งอี่เจ๋อถือร่มออกไปก็พบว่าข้างนอกฝนตกอย่างน่ากลัว สถานที่จัดค่ายของพวกเขาก็อยู่ใกล้กับน้ำพุภูเขา น้ำพุที่สวยงามตอนกลางวันกลายเป็นน้ำตกที่น่าหวาดกลัว น้ำจากแม่น้ำที่อยู่ไม่ไกลเอ่อล้นออกมาและอาจท่วมที่นี่ได้ทุกเมื่อ
ครูทั้งสองรีบตะโกนเรียกทุกคน ในขณะนี้ภายในค่ายเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้ของเด็กผู้หญิง ส่วนผู้ชายก็สบถด้วยความร้อนใจ
“แย่แล้ว! ทำไมซวยขนาดนี้วะ! พอจะนอนน้ำก็ทะลัก!”
“ฮือฮือฮือ…ทำยังไงดี พวกเราจะตายกันที่นี่ไหม?”
“ไม่เอา! ครูครับ พวกเราจะทำยังไงดี?
ไป่จื่อเยว์หน้าซีดเผือด ผมเปียกโชกไปด้วยฝน ถังอี้จวินทนไม่ได้จึงเอียงร่มเข้าหาเธอและตะโกนว่า “ทุกคน แพ็คสัมภาระเบาๆ พกของกินกับโทรศัพท์มือถือ ทิ้งเต็นท์ซะ! พวกเราจะขึ้นที่สูงกัน!”
ทุกคนต่างเริ่มเก็บของด้วยความชุลมุน ในใจถังอี้จวินเต็มไปด้วยความกังวล
เนื่องจากท้องฟ้ายังไม่ทันสว่าง เส้นทางบนภูเขาก็ไม่รู้ว่าจะเดินได้หรือไม่ และที่สำคัญที่สุดสำหรับการปีนขึ้นเขาท่ามกลางฝนตกหนักแบบนี้ก็อาจจะเจอกับภัยธรรมชาติอย่างเช่นโคลนถล่มก็เป็นได้…
แต่ถ้าอยู่ต่อก็จะต้องตายไปตามยถากรรม!
นี่เป็นครั้งแรกที่ไป่จื่อเยว์เป็นคุณครูประจำชั้นและเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ เธอร้องไห้ไม่เหลือสภาพ “ถัง ถังอี้จวิน …ฉัน ฉัน…”
“ร้องไห้ทำไม! เกิดอะไรขึ้น ผมรับผิดชอบเอง!” ถังอี้จวินทำหน้าจริงจัง เขากดจูบลงบนหน้าผากไป่จื่อเยว์แล้วฝ่าฝนห่าใหญ่ไปขานชื่อนักเรียน
ไป่จื่อเยว์กลั้นน้ำตาได้ทันท่วงที เธอเริ่มช่วยเหลือถังอี้จวิน จากเหตุการณ์โกลาหลก็ค่อยๆ กลายเป็นระเบียบเรียบร้อย
ถังอี้จวินให้นักเรียนฉีกผ้าปูที่นอนแล้วทำเป็นเชือกโดยผูกปมไว้ที่มือของแต่ละคน จากนั้นก็แจกจ่ายไฟฉายกระจายออกไปอย่างเท่าเทียมแล้วปีนขึ้นเขาไปด้วยกัน
หลังจากเดินไปได้สิบกว่านาที ทั้งกลุ่มก็ปีนขึ้นไปถึงที่สูงกว่าสักเล็กน้อย พอมองย้อนกลับไปก็เห็นท้องฟ้าทางทิศตะวันออกยามรุ่งอรุณ สถานที่ตั้งแคมป์ของพวกเขาถูกน้ำทะลักเข้าหมดแล้ว! เต็นท์หลายหลังลอยอยู่เหนือน้ำและไม่นานก็ถูกพัดหายไป…
ถังอี้จวินพูดดุท่ามกลางเสียงร้องระงมของเด็กผู้หญิงที่ดังขึ้น “หุบปาก! ร้องไห้แล้วแก้ปัญหาได้ไหม? เก็บแรงร้องไห้ไว้หนีตายยังดีเสียกว่า!”
พวกเด็กผู้หญิงต่างตกตะลึงกับท่าทางอันน่าเกรงขามของเขาจนไม่กล้าร้องอีก
หลังจากเดินไปได้สักพัก ภูเขาก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ และดินบนพื้นก็ยังลื่นอีกด้วย ทันใดนั้นมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงอุทานเป็นระลอก
เมื่อหันกลับไป ไป่จื่อเยว์ก็ตกใจจนหัวใจแทบกระดอนออกมา
หลีชั่นซิงหงายหลังและไถลลงไปที่ขอบทาง ซึ่งทางเดินภูเขานั้นไม่มีรั้วกั้นขอบ อีกทั้งข้างล่างยังเป็นหน้าผาสูงชั้นและลึกมาก
เธอร้องอย่างสุดชีวิต “อันซย่าซย่า เธออย่าปล่อยมือ! อย่านะ!”
หากดูดีๆ จะเห็นว่าอันซย่าซย่าที่อยู่ใกล้เธอที่สุดจับมือเธอไว้ อันซย่าซย่าหน้าแดงเถือกแต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยมือหลีชั่นซิงด้วยความดื้อรั้น!
แม้เธอจะเกลียดหลีชั่นซิงมาก แต่เธอก็ปล่อยชีวิตที่อยู่ตรงหน้าไปไม่ได้!
“ซย่าซย่า!” เซิ่งอี่เจ๋อพุ่งเข้าไปและจับมือหลีชั่นซิงแทนเธอพร้อมกับต่อว่า “เธอมันโง่! หลบไปด้านข้าง!”
ตอนที่ 470 แคมป์ (6)
เด็กผู้ชายอีกหลายคนทยอยเข้ามาช่วยกันลากหลีชั่นซิง หลีชั่นซิงกอดอันซย่าซย่าร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด “เธอ เธอ…”
เธอไม่คิดเลยจริงๆ ว่าอันซย่าซย่าจะช่วยเธอ
ตอนนั้นเธอคิดว่าตัวเองจะต้องตายแน่ๆ …
พอตกหน้าผา ศพก็มาถูกน้ำพัดไปอีก…แค่คิดก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
เซิ่งอี่เจ๋อโอบอันซย่าซย่ากลับมาด้วยสีหน้าเยือกเย็น เขาสวมเสื้อกันฝนหมีน้อยและหมวกให้เธอ ทั้งยังถามว่า “เดินไหวไหม?”
อันซย่าซย่ากัดริมฝีปาก เมื่อกี้นี้เธอออกแรงไปมากตอนที่ลากหลีชั่นซิง ตอนนี้จึงล้าไปทั้งตัว
เซิ่งอี่เจ๋อฮัมเสียงเย็นชาพร้อมกับย่อตัวลง “ขึ้นมา”
เธอขึ้นไปพิงบนตัวเขาอย่างว่าง่าย เซิ่งอี่เจ๋อแบกเธอไว้ข้างหลังโดยที่เธอถือร่มเอาไว้ จากนั้นทุกคนก็เริ่มปีนขึ้นยอดเขากันต่อ
ถังอี้จวินพาทุกคนเลาะไปตามเส้นทางคดเคี้ยวจนขึ้นไปถึงยอดเขาอย่างปลอดภัย ครึ่งชั่วโมงต่อมา เฮลิคอปเตอร์ก็บินมาหยุดอยู่ไม่ไกล ฉีเหยียนซีเช็ดฝนที่อยู่บนหน้า “ให้ตายเถอะ ในที่สุดก็ถึงสักที!”
คนที่มีลักษณะเหมือนพ่อบ้านลงมาจากข้างบนด้วยสภาพอ่อนล้า เขายืนอยู่ตรงหน้าฉีเหยียนซีด้วยความเคารพ “คุณชาย”
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดไร้สาระ รีบพาคนขึ้นไปซะ!”
มีเสียงโห่ร้องดีใจจากกลุ่มคนและเพิ่งตระหนักได้ว่านี่คือเครื่องบินส่วนตัวของคนตระกูลฉี
เมื่อทุกคนตะเกียกตะกายขึ้นเครื่องบินและมองดูน้ำท่วมที่อยู่ข้างล่าง พวกเขาก็ยังรู้สึกราวกับฝันไป
ภัยธรรมชาติและภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้นมักจะควบคุมไม่ได้ ชีวิตมนุษย์จึงเปราะบางเช่นนี้
อันซย่าซย่าถือถ้วยน้ำร้อนเอาไว้เพื่อให้มือของเธออุ่น หลีชั่นซิงเบียดมาด้านข้างเธออย่างไม่สบอารมณ์ พลางพึมพำเหมือนยุง
“เธอว่าอะไรนะ?” อันซย่าซย่าถาม
หลีชั่นซิงกัดริมฝีปาก “ขอบคุณ อันซย่าซย่า! ขอบคุณที่เธอช่วยฉันไว้!”
“อ๋อ…ไม่เป็นไร” อันซย่าซย่ายิ้ม “คนที่ช่วยเธอคือเซิ่งอี่เจ๋อและพวกผู้ชายห้องเรา เธอไปขอบคุณพวกเขาดีกว่า”
หลีชั่นซิงฮัมเสียงเย็นชา เธอมองอันซย่าซย่าเหมือนมีความลับจะพูด จากนั้นก็กระซิบ “เธอเลิกกับเซิ่งอี่เจ๋อซะเถอะ”
อันซย่าซย่าพูดไม่ออก ใช่แล้ว เธอไม่ควรคาดหวังในตัวหลีชั่นซิง!
“ฉันจริงจังนะ!” หลีชั่นซิงสูดหายใจเข้าลึกๆ “เธอก็รู้นี่ว่าพี่สาวฉันกับเธอไม่ถูกกัน? คราวที่แล้วเธอไปแหย่พี่สาวฉันแล้วยังกลับไปอยู่กับเซิ่งอี่เจ๋ออีก…ยังไงเธอก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ๆ อันซย่าซย่า เห็นแก่ที่เธอช่วยชีวิตฉัน ฉันอยากจะเตือนเธอว่ารีบออกห่างจากเซิ่งอี่เจ๋อให้เร็วดีกว่า! ไม่อย่างนั้นพี่สาวฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่นอน เท่าที่ฉันรู้ ในมือเธอมี…”
“ซย่าซย่า” เสียงเข้มทุ้มต่ำของเซิ่งอี่เจ๋อขัดจังหวะหลีชั่นซิง หลีชั่นซิงตัวแข็งทื่อ เมื่อสังเกตเห็นสายตาที่เย็นชาของเซิ่งอี่เจ๋อ เธอจึงไม่กล้าพูดอะไรมากและจากไปอย่างไม่ใยดี
“หลีชั่นซิงพูดอะไรกับเธอ?” เซิ่งอี่เจ๋อถามด้วยใบหน้าเย็นชา
อันซย่าซย่ายื่นมือเล็กออกมาหยิบทิชชู่เช็ดน้ำฝนบนหน้าให้เขา เนื่องจากเขาเอาเสื้อกันฝนเพียงตัวเดียวของตัวเองให้เธอ ทั้งยังเอียงร่มมาทางเธอ เธอจึงแทบจะไม่เปียกอะไรเลย แต่เสื้อผ้าบนตัวเขากลับเปียกโชกไปหมด
“ก็โดนคุกคามน่ะสิ…นายนี่ฮอตจริงๆ เลย โผล่มาคนแล้วคนเล่า…” อันซย่าซย่าพูดทีเล่นทีจริง
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้ว “ไม่ต้องไปสนใจเธอ”
“อื้อ”
ทั้งสองจู๋จี๋กันอยู่ทางด้านนี้ สายตาหลีชั่นซิงที่อยู่ไม่ไกลออกไปแฝงไปด้วยความพยาบาท
ในเมื่อไม่เชื่อเธอ งั้นเธอก็ไม่มีอะไรจะพูด!
ในเมื่ออันซย่าซย่าไม่รับน้ำใจ งั้นเธอก็จะรอดูการแสดงดีดีแล้วกัน
เพราะถึงอย่างไรการที่ทั้งสองแยกจากกัน มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเธอ!
พอคิดได้ดังนั้น หลีชั่นซิงก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย เด็กสาวไม่กี่คนที่อยู่ด้านข้างต่างก็ตกใจจนถอยออกมาโดยไม่กล้านั่งกับเธอ