ซูเสี่ยวมั่วเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยการม้วนแขนเสื้อขึ้น “ยัยเจ้าเล่ห์ มันต้องมีการวางแผนการกันมาแล้วแน่ๆ ซย่าซย่า คอยดูนะ วันนี้ฉันจะจัดการยัยนี่ให้เละเป็นหมูบะช่อเลย!”
อันซย่าซย่าตะขิดตะขวงใจก่อนปลอบซูเสี่ยวมั่วผู้เดือดพล่านให้สงบลงทันที
คังเจี้ยนเองก็ตะโกนถาม “ซย่าซย่า มีใครแกล้งเธอเหรอ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอไม่บอกฉันล่ะ!”
เธอรู้สึกซาบซึ้งเมื่อเห็นเพื่อนสนิททั้งสองคนรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยเธอมาก แต่ก็แสร้งทำสีหน้ากลบเกลื่อนขณะตอบ “โอ๊ย ไม่มีอะไรน่า ก็แค่เรื่องผิดใจกันของผู้หญิงธรรมดา พวกเธอใจเย็นๆ ก่อนดีไหม”
ซูเสี่ยวมั่วและคังเจี้ยนมองตากันก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปอย่างเกรี้ยวกราด อันซย่าซย่ารีบกระโดดลุกขึ้นยืนและไล่ตามพวกนั้นไป
เซิ่งอี่เจ๋อควงปากกาเล่น รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก
โทรศัพท์ของเขาสั่นขึ้นครั้งหนึ่งก่อนจะกดรับสาย น้ำเสียงชัดใสของอันอี้เป่ยดังขึ้นจากปลายสาย “ไม่เลวเลย นายน้อยเซิ่งนี่เก่งจริงๆ ผมได้ยินว่าตระกูลเซิ่งได้โครงการที่ดินแห่งนั้นแล้วใช่ไหมครับ”
“เช่นเดียวกันครับ ขอยกความดีความชอบทั้งหมดให้คุณอัน ถ้าไม่ใช่เพราะคำร้องของคุณแล้ว หุ้นของเจี่ยนเอนเตอร์ไพรส์คงไม่ตกฮวบลงไปตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน” เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างถ่อมตน
ทั้งสองคุยกันเรื่องสัพเพเหระอีกครู่หนึ่งก่อนที่อันอี้เป่ยจะวางสาย ระหว่างนั้นเองน้ำเสียงเฉยชาของเขาก็ดังผ่านเสียงตามสายของโรงเรียน “นี่ คุณเจี่ยน เธอขอโทษน้องสาวผมอย่างจริงใจหรือเปล่า ทำไมผมถึงไม่รู้สึกถึงความจริงใจในนั้นเลย”
ใบหน้าเจี่ยนซินเอ๋อร์เปียกปอนไปด้วยน้ำตา ที่แก้มข้างหนึ่งของเธอมีรอยฝ่ามือแดงๆ ปรากฏชัดเจน— ซึ่งเป็นผลงานที่ทิ้งไว้จากฝ่ามือของพ่อเธอเมื่อคืนนี้
เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่าพี่ชายของอันซย่าซย่าจะมีอิทธิพลขนาดนั้น นี่ยังไม่นับรวมการที่จริงๆ แล้วเซิ่งอี่เจ๋อเป็นนายน้อยแห่งตระกูลเซิ่ง และอาจให้ครอบครัวของเขาหนุนหลังเพื่อตอบโต้กับเจี่ยนเอนเตอร์ไพรส์ พวกเขาไม่เพียงแค่ทำให้บริษัทย่ำแย่ลงเท่านั้น แต่ยังตัดหน้าขโมยโครงการที่ดินซึ่งทำให้พ่อของเธอแทบคลั่ง
เธอเช็ดน้ำตาอย่างไม่เต็มใจ และอ่านข้อความผ่านไมโครโฟนต่อไป “เป็นความผิดของฉันเอง ฉันขอให้อันซย่าซย่าได้โปรดยอมรับคำขอโทษอย่างจริงใจของฉันด้วย และฉันจะไม่รบกวนเธออีกต่อไป!”
เนื่องจากโรงเรียนเลิกแล้ว จึงมีนักเรียนเพียงไม่กี่คนที่ยังเกาะกลุ่มกันอยู่ที่ด้านนอกของห้องกระจายเสียง พลางชี้มือชี้ไม้ระหว่างที่กำลังซุบซิบกัน
“ฮ่าๆๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันคิดว่ายัยเจี่ยนซินเอ๋อร์นี่สุดยอดจริงๆ ฉันหัวเราะจนแทบขาดใจตายแล้วเนี่ย!”
“ฮึ เป็นทายาทเจี่ยนเอนเตอร์ไพรส์แล้วยังไง ในที่สุด เธอก็ต้องยอมถอดหัวโขนลูกคนมีเงินออกและยอมคุกเข่าขอโทษขอโพยเด็กนักเรียนโควตาความสามารถพิเศษล่ะนะ”
“สมควรโดนแล้ว! คนโรงเรียนนี้โดนเธอข่มมาเยอะแล้ว!”
“…”
เจี่ยนซินเอ๋อร์ได้ยินทั้งเสียงหัวเราะเยาะและวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นซึ่งกำลังทับถมในความโชคร้ายของเธอขณะที่ยกมือเช็ดน้ำตาอีกครั้ง
อันซย่าซย่ารีบรุดมาหาเธอตามลำพังและเจี่ยนซินเอ๋อร์ก็เขวี้ยงไมโครโฟนทิ้ง เธอหันมาชี้หน้าอันซย่าซย่า ปากก็พูดถาม “พอใจหรือยัง เธอไปบอกพี่ชายเธอให้ถอนฟ้องทุกข้อกล่าวหาได้หรือยัง”
อันอี้เป่ยแต่งกายในชุดสูท ดูท่าทางภูมิฐานน่ายำเกรงเป็นที่สุด ด้วยการพูดจาที่ดูเข้ากันกับท่าทาง เขาเอ่ย “เธอนี่ช่างอวดดีจริงนะ”
เจี่ยนซินเอ๋อร์น้ำตารื้น เธอรู้ว่าต้องสงบปากคำไว้บ้าง
เธอไม่อยากกลับไปโดนพ่อตบหน้าที่บ้านอีกและแน่นอนว่าไม่ต้องการให้หุ้นของตระกูลเจี่ยนตกฮวบลงไปอีกเช่นกัน
ถึงแม้เธอจะไม่ใช่คนฉลาด แต่ก็ไม่ถึงขั้นไร้สมอง ดังนั้นเธอจึงทำในสิ่งที่ทุกคนต้องตกตะลึง
“ฉันขอโทษนะอันซย่าซย่า เธอยกโทษให้ฉันได้ไหม” แล้วเธอก็หันไปหาอันซย่าซย่าแล้วโค้งคำนับจนตัวเป็นมุมฉาก
“ฉันยอมรับคำขอโทษของเธอ แต่ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้เธอ!” อันซย่าซย่าตอบอย่างสงบ เมื่อมองลงไปดู สีหน้าท่าทางของเจี่ยนซินเอ๋อร์นั้นดูน่ากลัวเป็นที่สุด