พวกสาวๆ ภายในโรงอาหารทำเหมือนกับเสียสติไปแล้ว ทั้งหมดหยุดกินและดวงตาทุกคู่จับจ้องไปที่ทั้งสามคน
คนที่กล้าที่สุดถึงกับตะโกนด้วยความมั่นอกมั่นใจ “ไอดอลของพวกเรา อยากทานอะไรคะ พวกเราจะซื้อให้!”
เซิ่งอี่เจ๋อตอบรับสาวๆ พวกนั้นอย่างสุภาพด้วยการพยักหน้าน้อยๆ ขณะที่กวาดสายตามองไปนั้น เขาก็เห็นโต๊ะที่อันซย่าซย่ากำลังนั่งอยู่ จากนั้นก็เดินตรงไปหาเธอ
คล้อยหลังเขา ฉือหยวนเฟิงและเหอจยาอวี๋พูดคุยทักทายแฟนๆ อยู่นานกว่าจะปลีกตัวตามมาได้
อันซย่าซย่าแจ้งคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะเธออย่างไม่เต็มเสียงนัก “โต๊ะนี้มีคนนั่งแล้ว”
เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างเฉยเมย “มีชื่อเขียนไว้ที่โต๊ะเหรอ เธอจะบอกว่าฉันนั่งตรงนี้ไม่ได้”
อันซย่าซย่ามีสีหน้ากระอักกระอ่วน “ไม่ใช่… เอ่อ.. เซียวเหยี่ยน เราไปนั่งที่อื่นเถอะ”
เซียวเหยี่ยนกำลังยกถาดที่เต็มไปด้วยของกินเดินมาพอดี เขาตอบอย่างยินดี “ได้สิ”
หญิงสาวลุกขึ้นกำลังจะเดินไป เซิ่งอี่เจ๋อชิงก็พูดขึ้น “อันซย่าซย่า ฉันบอกแล้วหรือว่าเธอไปได้”
“อะไรล่ะ” อันซย่าซย่าถาม ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย นายจอมปีศาจนี่เกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก
เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างหยิ่งยโส “ฉันอยากกินมื้อเที่ยง”
“ก็กินสิ” เธอไม่ตลกด้วย “ฉันกินไม่ได้หรอกนะมาเรียกฉันทำไมล่ะ”
เซิ่งอี่เจ๋อจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอพลางกัดฟันกรอด
เขาอยากจะขย้ำยัยบื้อนี่จริงๆ
กัดทีละคำๆ จนหมดทั้งตัวเลย!
จะได้ไม่ต้องมาคอยรำคาญ!
“ฉันอยากกินมื้อเที่ยง” เซิ่งอี่เจ๋อย้ำอีกครั้ง สายตาจับจ้องอยู่ที่อันซย่าซย่า
หญิงสาวอึ้งไปก่อนชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “นายกำลังจะบอกให้ฉันไปซื้อให้งั้นเหรอ”
เซิ่งอี่เจ๋อตอบ ‘อืม’ ส่งๆ ไปขณะลดตัวลงนั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจ
อันซย่าซย่า : เขาชี้นิ้วสั่งคนอื่นเก่งเหลือเกินนะ!
ต้องยกประโยชน์ให้กับสัญญา เธอมีทางเลือกเพียงทางเดียวคือยิ้มอย่างขอโทษขอโพยให้กับเซียวเหยี่ยน “เห็นทีนายจะต้องกินคนเดียวแล้วล่ะ ไว้เราค่อยนัดกันวันหลังนะ”
ถึงแม้เซียวเหยี่ยนจะเป็นคนตัวสูง แต่เขาก็ขี้อายกว่าอันซย่าซย่า เด็กหนุ่มเขินหน้าแดงก่อนตอบด้วยการพยักหน้าตอบ
อันซย่าซย่าถามเซิ่งอี่เจ๋อและอีกสองคนว่าอยากกินอะไรก่อนจะเดินไปซื้ออาหาร
ซูเสี่ยวมั่วเดินไปด้วยกันกับเธอเพราะเกรงว่ามันจะมากเกินกว่าที่อันซย่าซย่าจะถือมาเองไหว
เหอจยาอวี๋นิ่วหน้า “อี่เจ๋อ นายไม่คิดว่ามันเกินเลยไปหน่อยหรือ”
เซิ่งอี่เจ๋อยังคงมีสีหน้าเฉยเมยและไม่ตอบคำถามใดๆ
“สวัสดี นายเป็นเพื่อนร่วมห้องของซย่าซย่าเหรอ” เสียงอ่อนโยนถามขึ้น เซิ่งอี่เจ๋อเงยหน้าพลางมองตรงไปยังดวงตาเป็นมิตรของเด็กหนุ่มที่ชื่อเซียวเหยี่ยน
เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น “ใช่ ทำไมหรือ”
“ฉันไม่แน่ใจว่านายจะ…ช่วยส่งนี่ให้เธอหน่อยได้หรือเปล่า” เซียวเหยี่ยนยื่นซองสีฟ้าให้เขา “ขอบใจนะเพื่อน ไว้วันหลังจะเลี้ยงข้าวตอบแทนนะ”
เซิ่งอี่เจ๋อกัดฟันกรอดแต่ปั้นหน้ายิ้มแย้มเข้าใส่ “ด้วยความยินดีเลย!”
เซียวเหยี่ยนเดินจากไปเหมือนกับว่าเป็นเช้าวันคริสต์มาส ซึ่งแทบทำเอาเซิ่งอี่เจ๋อโมโหจนหน้าเปลี่ยนสี
เมื่ออันซย่าซย่ากลับมาพร้อมกับมื้อเที่ยง ยังไม่ทันจะมีโอกาสได้เช็ดเหงื่อที่หน้าผากเลย เขาก็ตบซองจดหมายลงกับโต๊ะต่อหน้าต่อตาเธอ “นั่นไงล่ะ สาส์นจากเจ้าคนขี้เหร่ ตัวเตี้ยน่าสงสาร อันซย่าซย่าถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันจะเปิดหูเปิดตาเอาไว้ เพราะถ้าได้แฟนแบบนั้นก็เท่ากับเธอลดตัวลงไป ถึงเธอจะไม่ได้น่ารักอะไรมากมายแต่ก็ควรจะหาได้ดีกว่านี้นะ! อย่าเสียเวลากับคนอย่างหมอนั่นเลย!”
กิริยาท่าทางของเขาเตือนให้เธอนึกถึงพวกสุนัขหวงก้าง และเธอก็รู้สึกเหมือนมีควันพวยพุ่งออกมาจากหูทั้งสองข้างเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
ว่าไงนะ หมายความว่าอะไรยะที่ว่า “ลดตัวลง” กับ “ไม่ได้น่ารักอะไรมาก”
“เซิ่งอี่เจ๋อ! นายกล้าดียังไง!” อันซย่าซย่าซึ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟผลักจานอาหารของเหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงให้กับทั้งสอง จากนั้นก็หันหลังกลับทันทีก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับมื้อเที่ยงส่วนที่เหลือ
“นี่ แล้วมื้อเที่ยงของฉันล่ะ”
“อดสักมื้อไม่ตายหรอก!” อันซย่าซย่ากระทืบเท้าเดินจากไป