อันซย่าซย่าเขม้นมองเด็กหนุ่มคนนั้นเงียบๆ
เขาอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนสีดำ มีเนกไทแขวนหลวมๆ ไว้รอบลำคอเผยให้เห็นกระดูกฐานลำคอและผิวสีแทนบ่มแดด นอกจากใบหน้าท่าทางที่ดูดีแล้ว เขายังมีกลิ่นอายของความรุนแรง และท่าทางไม่ยอมฟังใครนั้นแผ่ออกมาอย่างน่ากลัวเลยทีเดียว
ความเงียบงันครอบงำไปทั่วภายในห้องเรียน เงียบเสียจนอันซย่าซย่ารู้สึกว่าไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย เมื่อมองไปรอบๆ เธอก็เห็นว่าทุกคนกำลังนั่งเงียบอยู่กับที่นั่งของตัวและดูเหมือนแทบไม่กล้าหายใจ ทั้งหมดเอาแต่ก้มหน้าก้มตา เด็กผู้หญิงบางคนตัวสั่นเทาราวกับใบไม้ไหวในฤดูใบ้ไม้ร่วง
เหมือนกับว่าทุกคนจะกลัวนายคนนี้และอยากจะวิ่งหนีไปให้พ้นๆ เหมือนหนีน้ำท่วมหรือไม่ก็สัตว์อันตราย
อันซย่าซย่าถือกระเป๋าเครื่องเขียนเดินเข้าไปยังที่นั่งของเธออย่างหวั่นๆ
ดันบังเอิญว่าที่นั่งสอบของเธอนั้นอยู่ทางซ้ายมือของเขาพอดี
อันซย่าซย่ารวบรวมความกล้าและกำลังจะนั่งลงเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นเตะโต๊ะเธอเสียงดังปัง!
“โทษนะ ฉันบอกให้เธอนั่งเมื่อไหร่” นายคนนั้นส่งสายตาดูร้ายกาจมายังอันซย่าซย่าพร้อมกับเชิดคางใส่
แต่อย่างไรไม่รู้ หลังจากเขาสังเกตใบหน้าของเธออย่างใกล้ชิดแล้ว เด็กหนุ่มก็ให้รู้สึกประหลาดใจในสิ่งที่เขาเห็น จากนั้นก็ผิวปากหวือ “เฮ้อ น่ารักจัง มีแฟนแล้วรึยัง”
อันซย่าซย่าผงะถอยหลังด้วยความกลัว เด็กหนุ่มขยับเข้ามาหา เขาหยอกล้ออันซย่าซย่าราวกับสิงโตกำลังขู่ลูกแมวน้อย
“จะทำอะไรน่ะ เดี๋ยวก็จะเริ่มสอบแล้วนะ!” อันซย่าซย่าตะโกนด้วยเสียงที่ดังขึ้น
ทั้งห้องเรียนเงียบกริบเหมือนกับก่อนหน้านี้ และไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อน
อันซย่าซย่าตื่นตระหนก ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันนะ
ทำไมเขาถึงได้ชั่วร้าย…
ก่อนหน้านี้เธอคิดเสมอว่าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นคนร้ายกาจ แต่หากเอามาเปรียบเทียบกับเด็กหนุ่มคนนี้แล้วละก็ เซิ่งอี่เจ๋อก็ไม่ได้เป็นไรมากไปกว่าฮัลโหลคิตตี้ผู้อ่อนโยนและใจดีเลย!
เขาคนนั้นผงะไปเล็กน้อย นานมาแล้วที่ใครสักคนจะกล้าท้าทายเขาอย่างเปิดเผย
คิดๆ ดูแล้ว… เจ้าแมวน้อยขี้โมโหถือเป็นส่วนที่สนุกที่สุด จะมีประโยชน์อะไรล่ะถ้าต้องเล่นสนุกกับท่อนไม้
เขายิ้มอย่างมีเลศนัย “ฉันให้สัญญาไม่ได้หรอกนะว่าจะไม่ทำอะไรเธอ ถ้าหากเธอไม่ยอมตอบคำถามฉัน”
เขาโบกกำปั้นไปมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลัง
พอเห็นท่าทางที่ดูแข็งแรงและหมัดที่เหวี่ยงไปมาแล้ว อันซย่าซย่าก็ถอยหลังด้วยความกลัวเกรง ใบหน้าบ่งบอกถึงความตื่นตกใจ
เด็กหนุ่มหรี่ตามองขณะที่บรรยากาศอันตรายแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา
ในตอนที่อันซย่าซย่าคิดว่าเธอกำลังจะถูกชกเข้าที่หน้านั้นเอง เซิ่งอี่เจ๋อก็ลากตัวเธอไปหลบไว้ข้างหลังเขาพลางพูดด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระ “ไม่ต้องกลัวไป อยู่ข้างหลังฉันไว้”
หญิงสาวอ้าปากค้างมองดูเหตุการณ์นี้ขณะที่พูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
ผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้ตัวสูงไหล่กว้าง เหมือนกับว่าเขากำลังยืนคั่นกลางอยู่ระหว่างเธอและอันตรายใดๆ ที่กำลังกล้ำกรายเข้ามาหาเธอ
อยู่ไม่อยู่ เธอก็รู้สึกว่าน้ำตาเริ่มเอ่อ
“เชอะ ทำมาเป็นช่วยนางเอกตอนกำลังเข้าตาจนสินะ ทุเรศว่ะ!” วัยรุ่นคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงน่าขยะแขยง
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น “อ้อ อย่างนั้นเหรอ”
อยู่ๆ หมัดของเซิ่งอี่เจ๋อก็พุ่งออกไปกระทบโหนกแก้มของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง!
นายคนนั้นเซไปข้างหลังหลายก้าวด้วยแรงหมัดพลางมองมาที่เซิ่งอี่เจ๋ออย่างไม่เชื่อสายตา
“กำปั้นของผู้ชายไม่ควรได้แตะต้องผู้หญิง” เซิ่งอี่เจ๋อพูดอย่างเย็นชา “ฉีเหยียนซีฉันว่างเสมอนะถ้าหากนายอยากมีเรื่อง”
ฉีเหยียนซียกมือขึ้นเช็ดมุมปากตรงที่เซิ่งอี่เจ๋อชก เขาสูดปากจากอย่างเจ็บปวดจากนั้นก็หัวเราะหึหึ
อันซย่าซย่ารู้สึกว่าขนอ่อนๆ ที่ต้นคอลุกซู่จากเสียงหัวเราะนั้น เธอเห็นฉีเหยียนซีกำหมัดแน่นก่อนจะร้องเตือน “เซิ่งอี่เจ๋อ ระวัง!”
ตุบ—
เซิ่งอี่เจ๋อหยุดหมัดที่กำลังตรงเข้ามาไว้ได้ แต่ ขาของ ฉีเหยียนซีกลับเตะเข้าที่ท้องของเขาอย่างจัง
“ฉันว่างเสมอถ้าหากนายอยากตาย!”