ปี๊บ—
หัวใจดวงน้อยที่กำลังเต้นตึกตักของอันซย่าซย่าแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยคำพูดนั้น
“งั้นฉันก็จะไม่คุยกับคนซื่อบื้ออย่างนาย! ไปให้พ้น!” อันซย่าซย่าผลัก เซิ่งอี่เจ๋ออย่างสุดแรง น้ำตาเอ่อท้นอยู่ในดวงตา รู้สึกเลวร้ายมาก
เธออาจจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในห้องเรียน แต่เธอก็ยังเป็นคนปกติธรรมดา ทำไมเขาถึงได้คิดว่าตัวเองสูงส่งนักหนา ชอบมาดูถูกเธอเพียงเพราะตัวเองได้เปรียบที่ไอคิวสูงกว่า!
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังโกรธ เซิ่งอี่เจ๋อก็เกิดความหงุดหงิดซึ่งไม่อาจอธิบายได้ขึ้นภายในใจ
คล้ายๆ กับว่า… เขารู้สึกแย่เวลาที่ทำให้เธอไม่สบายใจ
แต่เขากลับยังคงสีหน้าเฉยชาพลางต่อสู้กับอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ชายหนุ่มเดินกลับขึ้นชั้นบนด้วยท่าทีนั้น ไม่แม้แต่จะเอ่ยลาสักคำ
อันซย่าซย่าพ่นลมออกจมูกจากนั้นก็กลับไปที่ห้องของตัว ที่ซึ่งพบว่ากระเป๋าเดินทางของเธอได้ถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้ว— คงเป็นผลงานของใครไปไม่ได้นอกจากอันอี้เป่ย
เธอเบะปากเล็กน้อยก่อนจะล้มตัวลงนอนบนที่นอนและหยิบมือถือมาเล่น
อันอี้เป่ยค่อยๆ ปิดประตูห้องของเขา รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้น
เขาไม่พลาดฉากเมื่อครู่นี้
และเขาก็เดาไม่ผิด เจ้าหนุ่มคนนั้นมีใจให้น้องสาวของเขา!
ฮึ่ม! พวกนี้คิดว่าจะใครจะมาหยามน้ำใจน้องสาวเขาก็ได้งั้นเรอะ
ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ!
—
และแล้วไม่นานวันหยุดยาวก็สิ้นสุดลง อันซย่าซย่ามาถึงยังจุดนัดหมายพร้อมกับสัมภาระตามเวลาที่กำหนดไว้เพื่อรอรถบัสของโรงเรียน ซึ่งจะพานักเรียนไปยังค่ายที่จะทำการฝึกทางการทหารต่อไป
อันอี่เป่ยตรวจสอบกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอให้อีกครั้งก่อนจะค่อนแคะกระแนะกระแหนน้องสาวเป็นการทิ้งท้าย ก่อนที่เธอจะเดินตะบึงตะบอนจากไปขึ้นรถบัส
ป่าป๊าอันก็มาส่งเธอด้วยเช่นกัน เขาถามลูกชายขณะเดินผ่าน “น้องเอากระเป๋าสตางค์ไปไหม”
อันอี้เป่ยชะงัก ดูเหมือนเขาจะลืมเรื่องนั้นไป…
ความจำของอันซย่าซย่าสั้นเหมือนปลาทอง เธอจะจำได้ยังไงเล่า อันอี้เป่ยกำลังจะตามขึ้นไปบนรถและหยิบเงินให้อันซย่าซย่าขณะที่ป่าป๊าอันกวักมือเรียกเซิ่งอี่เจ๋อพร้อมรอยยิ้ม “ซย่าซย่าเขาลืมเอาเงินมาด้วย— เขาขี้ลืมแบบนี้แหละ ลุงฝากเงินไว้กับเธอก็แล้วกันนะ ถ้าเขาต้องการใช้เงินก็มาเอาที่เธอก็แล้วกันได้ไหม”
เซิ่งอี่เจ๋อประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบ
จากนั้นป่าป๊าอันจึงยื่นแบงก์ร้อยหยวนให้เขาสองสามใบ เซิ่งอี่เจ๋อรับไว้เพราะเห็นว่าหากปฏิเสธคงจะไม่เหมาะสม
อันอี้เป่ยถอนใจพรืด “นายต้องตอบคำถามฉันหากเกิดอะไรขึ้นกับอันซย่าซย่าภายใต้การดูแลของนาย”
“อี้เป่ย ระวังคำพูดหน่อย!” ป่าป๊าอันตำหนิลูกชาย อันอี้เป่ยจึงหันหลังเดินไปโดยไม่พูดอะไรอีก
เซิ่งอี่เจ๋อไม่คิดอะไรให้มากความ เขาเหวี่ยงเป้ขึ้นสะพายไหลแล้วก็ขึ้นรถบัสไปพร้อมกับเหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงระหว่างที่นักเรียนสาวๆ พากันกรี๊ดกร๊าดอยู่รอบๆ ตัวทั้งสาม
เมื่อกราดตามองไปภายในรถบัส เขาก็มองเห็นร่างเล็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว
อันซย่าซย่าสวมชุดกระโปรงลายการ์ตูน กำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่กับซูเสี่ยวมั่วจากโทรศัพท์มือถือ สองสาวพากันหัวเราะสนุกสนานอยู่บ่อยๆ
เซิ่งอี่เจ๋อเกิดไม่สบอารมณ์ขึ้นมาจึงมองไปทางอื่น ก่อนจะหลับตาเพื่อพักสายตา
–
สามชั่วโมงต่อมา
รถบัสของโรงเรียนก็ขับเข้ามาภายในฐานฝึกบริเวณเชิงเขาในเมืองอวี้ ฐานแห่งนี้มีการทำสัญญากับโรงเรียนต่างๆ สำหรับการฝึกทางการทหารอยู่บ่อยๆ หรือไม่ก็รองรับโปรแกรมการฝึกสำหรับบริษัทต่างๆ
อาจารย์ประจำชั้นจัดแบ่งให้นักเรียนพักห้องละสี่คน อันซย่าซย่า ซูเสี่ยวมั่ว มู่หลีและหลี่ชั่นซิงต้องกลายเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน
สองสาวเพื่อนซี้แทบจะพร้อมในทันทีสำหรับการออกสำรวจพื้นที่ที่น่าสนุกบริเวณรอบๆ ฐาน แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ทั้งสองจะออกไป มู่หลีก็รั้งแขนอันซย่าซย่าไว้
“หืม มีอะไรเหรอ”
มู่หลีกระซิบเบาๆ “อันซย่าซย่า ขอให้ปลอดภัยและระวังด้วย…”
ก่อนที่หล่อนจะทันพูดจบ หลี่ชั่นซิงก็เดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม “พวกเธอคุยอะไรกันหรือ”
หลี่ชั่นซิงแทบไม่เคยยิ้ม ดังนั้นสีหน้าที่แสดงออกมาจึงดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย มู่หลีปล่อยแขนอันซย่าซย่าทันทีจากนั้นจึงผละไปเอาของออกจากกระเป๋าเงียบๆ
“ไม่มีอะไร” อันซย่าซย่าไม่ชอบหลี่ชั่นซิงอยู่แล้ว เธอจึงรีบออกไปพร้อมกับซูเสี่ยวมั่วหลังจากตอบสั้นๆ
ลับหลังทั้งสองคน หลี่ชั่นซิงจ้องมองมู่หลีด้วยสายตาบูดบึ้ง จนแทบจะเป็นแววตาประสงค์ร้ายเลยทีเดียว