เธอมองดูหมายเลขนั้นอย่างตั้งใจ ไม่ใช่เบอร์ของเซิ่งอี่เจ๋อ หรือเบอร์ของคนที่เธอรู้จัก
ส่งผิดเบอร์? หรือว่าเป็นแค่ข้อความแกล้งกันเล่น
อันซย่าซย่ากดปุ่ม “ลบ” ข้อความทิ้ง จากนั้นก็ดึงผ้านวมมาคลุมหัวแล้วก็หลับไป
–
โรงอาหาร
ฉีเหยียนซีกำลังกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขณะกดรีเฟรชโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง
“อะไรกัน! ผ่านไปสองนาทีแล้วยังไม่โผล่มาอีก เธอไม่เคารพในตัวฉันบ้างเลยหรือไงกัน”
“ห้านาที… ป่านนี้ยังไม่ตอบอะไรมาสักคำ ยัยนั่นไม่เช็กโทรศัพท์หรือยังไง”
“เชอะ แล้วดูสิฉันถูกทิ้งให้ต้องนั่งกินอยู่คนเดียว… น่าเบื่อสุดๆ …”
เขาพูดพร่ำไปเรื่อยๆ พร้อมกับใบหน้าที่เคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
แน่นอนว่า พ่อครัวประจำโรงอาหารคิดว่าเขาทำตัวแปลกประหลาดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
อืม… เดี๋ยวนี้เด็กหนุ่มสาวคงจะเจอแรงกดดันหนักมากจนถึงขนาดคุยกับตัวเองอย่างออกรสออกชาติขนาดนั้น สมองของพ่อหนุ่มนี่จะต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ
–
วันต่อมา เด็กนักเรียนปีหนึ่งต้องเปลี่ยนไปใส่ชุดเครื่องแบบทหาร และต้องมารวมตัวกันที่ลานกว้างภายในฐานฝึก
ห้องของอันซย่าซย่านำโดยครูฝึกหนุ่มร่างกายกำยำซึ่งหาที่ร่มๆ เพื่อให้พวกนักเรียนได้หลบแดดและเริ่มอธิบายขั้นตอนการเคลื่อนไหวที่จำเป็นต่างๆ เริ่มด้วยการสอนให้ยืนในท่าทหาร
หลังจากที่ทุกคนยืนกันอย่างเป็นระเบียบแล้ว ร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาใกล้ซ้ำยังอ้าปากหาวอย่างเกียจคร้าน “หวัดดีตอนเช้าทุกคน”
เหล่านักเรียนที่กำลังยืนอยู่ในแถวเรียงรูปสี่เหลี่ยมพากันเงียบ แต่อดไม่ได้ที่จะหันไปมองยังทิศทางของเสียงนั้น
หนุ่มผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน เรียวคิ้วโค้งสูง รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา รอยยิ้มโกงๆ เป็นธรรมชาติ
เป็นฉีเหยียนซีผู้น่ารำคาญนั่นเอง!
“นักเรียน เธอต้องรายงานครูฝึกเวลามาสาย!”
ด้วยนิสัยหุนหันพลันแล่นของเขา อันซย่าซย่าคิดว่าเขาคงจะต้องมีเรื่องชกต่อยกับครูฝึกอย่างแน่นอน และก็อาจจะโดนกำราบก็เป็นได้!
แค่คิดอันซย่าซย่าก็สาแก่ใจเป็นที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม เขากลับทำตรงกันข้ามกับความคาดหมายของทุกคน ฉีเหยียนซีกล่าว “ขออนุญาตเข้าร่วมฝึกครับ” ตามคำแนะนำแล้วก็เข้ามาร่วมฝึก เขายังละทิ้งท่าทางอิดโรยของเขาอย่างสิ้นเชิงและยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางสมบูรณ์แบบอย่างกับทหารจริงๆ
ครูฝึกตบไหล่เขาเบาๆ ซ้ำยังเอ่ยชมเขาด้วยเสียงแผ่วต่ำ
อันซย่าซย่าเฝ้ามองเหตุการณ์นี้อย่างเชื่อไม่ลง พระเจ้า! นี่จอมปีศาจเพิ่งกลายร่างเป็นเทวดาไปแล้วหรือยังไง
เบื้องหลังเธอ เซิ่งอี่เจ๋อคอยจับตาดูอันซย่าซย่าอยู่ตลอด
ฮึ ยัยเตี้ย ทาก แล้วก็ชุ่มซ่าม…
เขากำลังร่ายข้อบกพร่องของอันซย่าซย่าในใจอย่างสนุกสนานเชียวละ
จากนั้นครูฝึกก็ปล่อยให้นักเรียนได้พักหลังจากยืนอยู่ราวครึ่งชั่วโมง
พี่เลี้ยงของห้องจัดเตรียมให้นักเรียนบางคนไปซื้อน้ำดื่มมาไว้แล้ว ซึ่งพวกเขานำมาวางไว้ด้านข้าง อันซย่าซย่าวิ่งเหยาะๆ ไปที่นั่นก่อนหยิบน้ำมาหนึ่งขวด เธอหมุนฝาเพื่อเปิดก่อนจะจิบน้ำเล็กน้อยและกำลังจะหันหลังกลับ ทว่าร่างท้วมๆ ของติงอีอีก็พลันชนเข้ากับเธอ
อันซย่าซย่าเซไปข้างหนึ่งและชนเข้ากับร่างสูงๆ ร่างหนึ่ง
ขวดน้ำในมือกระเซ็นเปียกไปทั่วตัวคนคนนั้น
ตายแล้ว… พระเจ้า ได้โปรดอย่าให้เป็นฉีเหยียนซีเลย… อย่าเป็นฉีเหยียนซีนะ…
ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่ได้ยินคำอ้อนวอนของเธอ แล้วน้ำเสียงคับข้องใจก็ดังขึ้นเหนือศีรษะเธอ “นี่ อันซย่าซย่า เธอทำตัวขวางหูขวางตามานานแล้วนะ นี่เธอจงใจทำหรือเปล่า”
อันซย่าซย่าตบหน้าผากด้วยเองด้วยความสิ้นหวัง
เจี่ยนซินเอ๋อร์กับเพื่อนผู้สมรู้ร่วมคิดอีกสองคนมองตากันไปมาด้วยความสะใจ
“ขอโทษ…”
“ขอโทษไปก็ไร้ประโยชน์! เธอจะทำยังไงกับเรื่องนี้” ฉีเหยียนซีโยนหินถามทาง ลึกๆ แล้วเขาหวังว่าอันซย่าซย่าจะเสนอตัวซักเสื้อผ้าให้เขาเหมือนกับผู้หญิงธรรมดาคนอื่นๆ
แต่ในขบวนความคิดทั้งหลายของอันซย่าซย่า เธอได้ย้อนกลับไปคิดถึงครั้งล่าสุดที่ฉีเหยียนซีบอกให้เธอคุกเข่าลงเพื่อขอโทษ…
หญิงสาวเสนอด้วยดวงตาใสแจ๋วราวกับลูกหมาตัวน้อย “เอาเป็นว่า… ฉันจะถอดเสื้อแจ็กเกตให้นายใส่แทนดีไหม”
กา— กา— กา— (เสียงนกการ้อง)
ฉีเหยียนซีรู้สึกว่ามีอีกาบินอยู่เหนือหัวเขาจริงๆ
เซิ่งอี่เจ๋อผู้ซึ่งกำลังจะก้าวเท้าออกไปช่วยอันซย่าซย่าก็ถึงกับริมฝีปากกระตุกโดยไม่รู้ตัวกับคำตอบของเธอเช่นกัน