ทั้งสี่คนที่ยืนอยู่บนฝั่งนิ่งไปด้วยความประหลาดใจ
ซูเสี่ยวมั่วตกตะลึงขณะที่เจี่ยนซินเอ๋อร์กรีดร้อง
“โทรศัพท์สิ! พวกเขาจะตาย…” ติงอีอีพูดขึ้นมา ใบหน้าอวบๆ ของเธอขมวดมุ่นจากนั้นทุกคนก็เงียบ
ไม่มีใครกล้าพูดอะไร มันเงียบมากเสียจนทั้งหมดที่ทุกคนได้ยินก็คือเสียงสายน้ำเชี่ยวกรากและเสียงหายใจซึ่งรังแต่จะกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ
เมื่ออันซย่าซย่าจมไปอีกครั้ง ก็อ้าปากหายใจ แต่แทนที่จะเป็นออกซิเจน เธอกลับกลืนน้ำเข้าไปเต็มปาก
แขนขาของเธอเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ และสมองก็รู้สึกสับสน
จู่ๆ ทันใดนั้นเอง วงแขนแข็งแรงคู่หนึ่งก็รัดเข้าที่รอบเอวเธอพร้อมกับดึงเธอขึ้นสู่ผิวน้ำ
อันซย่าซย่าเกาะคนคนนั้นไว้แน่นราวกับได้เจอห่วงชูชีพ เธอกอดแขนข้างหนึ่งไว้อย่างแน่นหนา ฉุดเอาคนที่มาช่วยดิ่งลงไปกับเธอด้วย
เซิ่งอี่เจ๋อเสียสมดุลและถูกดึงจมลึกลงไปโดยอันซย่าซย่า
“ยัยโง่!” เขาสบถเบาๆ ในใจก่อนจะดำลงไป เมื่อเห็นอันซย่าซย่าดิ้นรนอย่างทรมาน เขาก็จับเธอไว้ให้นิ่งโดยการประคองท้ายทอย จ้องไปที่ริมฝีปากและประทับริมฝีปากของเขาลงไปอย่างแม่นยำ
อันซย่าซย่าลืมตาขึ้นเพราะสัมผัสแปลกๆ นั้น
แม้จะมองผ่านสายน้ำที่ขุ่นมัว แต่หญิงสาวก็ยังคงจดจำใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่น่าเชื่อของเซิ่งอี่เจ๋อได้แม่น
เธอมองเขาอย่างงงงันเต็มที่ ทว่าสัญชาตญาณบอกให้เธอสูดเอาออกซิเจนจากปากของเขา และอย่างช้าๆ เธอค่อยๆ หยุดสะบัดแขนขาไปมา
เซิ่งอี่เจ๋อนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะโอบเอวเธอเอาไว้และพาทั้งคู่กลับขึ้นสู่ผิวน้ำช้าๆ เพื่อหายใจ
ทันทีที่ได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ อันซย่าซย่าก็ไอจนปอดแทบระเบิดพร้อมกับรัดแขนรัดขารอบตัวเซิ่งอี่เจ๋อราวกับปลาหมึก
เซิ่งอี่เจ๋อเบือนหน้าหลบ ผิวอ่อนบริเวณหลังใบหูเปลี่ยนเป็นสีชมพูจัดกับความคิดถึงความนุ่มนวลที่เขาได้สัมผัสระหว่างริมฝีปากเมื่อครู่นี้
อันซย่าซย่ากอดคอเขาไว้ด้วยกำลังที่มีพลางเอ่ยถาม “ทำไมเราไม่กลับไปที่ริมตลิ่งล่ะ แค่ก…”
ชายหนุ่มอธิบายให้ฟังด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระตามเคยของเขา “กระแสน้ำเชี่ยวมาก ฉันคนเดียวก็ว่ายกลับได้อยู่ แต่พอมีเธอด้วยมันก็ยากหน่อย”
เธอเบ้ปาก “อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่…”
เซิ่งอี่เจ๋อกลอกตาใส่ ยัยซื่อบื้อตัวน้อยเอ๊ย
เขาคงปล่อยเธอทิ้งไปแล้วถ้าเขาอยากทำ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขาได้เสี่ยงชีวิตกระโจนลงลำธารเพื่อช่วยเธอไว้ด้วยซ้ำ!
ระหว่างที่เขากำลังวนเวียนคิดในสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมาอยู่นั้น อยู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าอันซย่าซย่ากอดเขาแน่นขึ้นพร้อมกับมือที่เกาะแน่นขึ้นด้วย
“อะไร เพิ่งมากลัวเอาเดี๋ยวนี้เหรอ หรือว่าเธอพยายามจะฉวยโอกาสฉัน” เซิ่งอี่เจ๋อให้เวลาตัวเองเล็กน้อยกับการหยอกเธอเล่นขณะที่มือก็ลูบหัวเธอ
อันซย่าซย่าตัวซีดไปหมดแล้ว ไม่ยอมปล่อยตัวเขาสักชั่ววินาที เธอพูดเป็นห้วงๆ “ฉันว่ายน้ำไม่เป็น… ฉันกลัวน้ำ…”
เซิ่งอี่เจ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง
กลัวน้ำ…
เธอจะใช่คนคนนั้นที่เขากำลังตามหาอยู่หรือเปล่า
“ฮื่อ… เซิ่งอี่เจ๋อ นายจะทำยังไงต่อ เราจะลอยตุ๊บป่องๆ กันอยู่อย่างนี้เหรอ” อันซย่าซย่าแนบทั้งตัวเข้าหาเขา
ชายหนุ่มขยับตัวอย่างไม่สบายใจ “หลับตาเสียถ้ากลัวละก็ ฉันจะบอกเองเมื่อเราถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว”
“อ้อ… โอเค…” อันซย่าซย่าพยักหน้า โอนอ่อนผ่อนตามอย่างกับอะไรดี
มันดูเหมือนยาวนานชั่วนิรันดร์กว่าที่สายน้ำจะลดความเชี่ยวกรากลง หลังจากพยายามสักพัก เซิ่งอี่เจ๋อก็ลากอันซย่าซย่าขึ้นฝั่ง
ทั้งสองอยู่ในจุดที่อยู่ห่างไกลและพื้นที่บริเวณรายรอบก็ดูรกร้าง
เซิ่งอี่เจ๋อถอดเสื้อแจ็กเกตเพื่อบิดน้ำออกขณะที่อันซย่าซย่ามองไปรอบๆ อย่างตื่นตะลึง แล้วก็ตรวจดูในกระเป๋า— เธอยังมีโทรศัพท์ติดตัวอยู่!
ขอบคุณอันอี้เป่ย โทรศัพท์ของเธอถูกใส่ไว้ในถุงกันน้ำ เธอหยิบออกมาอย่างรีบร้อนแล้วกดปุ่มเปิด หน้าจอสว่างขึ้น!
อันซย่าซย่าดีอกดีใจ กำลังจะโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบเรื่องที่แย่ยิ่งกว่า คือโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ!
เธอกลิ้งตัวลงไปกับพื้นอย่างเดือดดาล “เซิ่งอี่เจ๋อ เราจะทำยังไงกันดี เราจะตายกันที่นี่เหรอ”