ใบหน้าของป๊ะป๋าอันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบพร้อมกับรอยยิ้ม “ไม่ เธอไม่เคยจมน้ำ ไปถามซย่าซย่าเอาเองก็ได้”
อันซย่าซย่าซึ่งกำลังเคี้ยวแซนด์วิชตุ้ยๆ เต็มปากกะพริบตากับคำถามนั้นพลางเอียงคอ “ไม่นะ ฉันไม่เคยจมน้ำ ฉันว่ายน้ำไม่เป็นแล้วก็ไม่ชอบอยู่ใกล้ๆ น้ำด้วยจะไปจมได้ยังไงกันล่ะ”
ใบหน้าเซิ่งอี่เจ๋อซีดเผือดลงไป เขาค่อยๆ กำมือแน่นที่ใต้โต๊ะ
หลายปีมานี้ เขาอุตส่าห์ตามหาคนคนหนึ่งมาตลอด
คนที่เขาตกเป็นหนี้บุญคุณมากมาย
วันที่อันซย่าซย่าทำรถเขาเป็นรอย เขาพบว่าเธอค่อนข้างจะตลก และดวงตาดำขลับคู่นั้นก็เตือนให้เขานึกถึงคนที่อยู่ในความทรงจำของเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะแกล้งเธอเล่นๆ และจัดการให้คนตรวจสอบประวัติของเธอ
ทีมที่ทำการสืบค้นแนะนำกลับมาว่าอันซย่าซย่าอาจจะเป็นคนที่เขาคอยติดตามหาตัวมาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา
เรื่องนี้ทำให้เซิ่งอี่เจ๋อตกตะลึง มันเป็นช่วงที่เหมาะเจาะกับความขัดแย้งที่เริ่มเกิดขึ้นระหว่างวงของพวกเขากับบริษัท ผู้จัดการของพวกเขาจึงจัดการให้ทั้งสามคนกลับมาเรียน เขาขอให้ผู้จัดการจัดแจงเรื่องการเข้ามาเรียนที่โรงเรียนฉีซย่าโดยไม่จำเป็นต้องคิดทบทวน
และแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่ เขากับเธอกลายเป็นเพื่อนร่วมชั้นและย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งอันซย่าซย่าไม่ได้คาดการณ์เรื่องพวกนี้มาก่อน แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดล้วนเป็นแผนของเขา
แต่ตอนนี้… คนเบื้องบนกลับกำลังเล่นตลกกับเขา!
อันซย่าซย่ากลับไม่ใช่คนที่เขาตามหา!
“นี่… กินไหม” อันซย่าซย่าหยิบแซนด์วิชให้เขาอันหนึ่งพลางยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ
อย่างไรเสียเธอก็ยังคงหวังในตัวเซิ่งอี่เจ๋อว่าจะพาเธอไปกองถ่ายในฐานะผู้ช่วย
ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อกลับมีสีหน้าไร้ความรู้สึก ดวงตาเขาก็ดูดำมืดไม่อาจหยั่งถึง มีอารมณ์ที่สลับซับซ้อนซ่อนอยู่ภายในนั้นซึ่งเธอเองก็ไม่สามารถเข้าใจได้
“ฉันขอถามเธออีกครั้ง เธอเคยตกน้ำหรือเปล่า” เซิ่งอี่เจ๋อเบาเสียงลง
อันซย่าซย่าส่ายหน้าพลางคิดว่าเขาช่างไม่มีเหตุผลเสียเลย “ไม่เคย ทำไมฉันต้องโกหกเรื่องนั้นด้วยล่ะ”
อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน มีรังสีความคุกคามแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา อันซย่าซย่าผงะถอยหลังโดยสัญชาตญาณ
บรรยากาศรอบๆ ตัวเขาเย็นยะเยียบและเขาก็ดูน่ากลัวถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงอาการโมโหอะไรออกมาเลยก็ตาม ด้วยความตกใจ เธอถึงกับทำแซนด์วิชหลุดมือ
เซิ่งอี่เจ๋อเดินผ่านเธอและตรงขึ้นชั้นบนเลย
เขาเดินสะดุดขณะเดินขึ้นบันไดจนเกือบจะตกลงมาด้วยซ้ำ
อันซย่าซย่างงงันเอามากๆ เธอหันไปหาพ่อเชิงขอความช่วยเหลือ
ป่าป๊าอันดูจะมีลับลมคมในเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากบอกให้ลูกสาวไปพักผ่อนแล้ว เขาก็ขอตัวออกจากห้องไป
อันซย่าซย่าเหม่อมองจ้องอากาศอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนใจ เธอมองแซนด์วิชบนพื้นห้องด้วยความเสียดาย
อืม…พื้นก็ไม่ได้สกปรกขนาดนั้น เธอจะเก็บมากินได้ไหมนะ
หลังจากกลับห้องของตัวเอง อันซย่าซย่าก็หลับไปรวดเดียวจนถึงตอนเย็นเลย
เธอเพลียจริงๆ จากเหตุการณ์สองวันที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บในทางใดเลยเพราะเซิ่งอี่เจ๋อปกป้องเธอไว้ แต่ก็มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อไปทั่วทั้งตัวหลังจากตื่นขึ้นมา เธอคิดว่าน่าจะไปออกกำลังที่ชั้นล่างเสียหน่อย
หญิงสาววิ่งไปชนเข้ากับเซิ่งอี่เจ๋อที่ชานบันได
“เซิ่งอี่เจ๋อ นายควรพักอยู่บนเตียงไม่ใช่เหรอ” อันซย่าซย่าถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย
เซิ่งอี่เจ๋อดึงหมวกลงมาพลางอธิบาย “ฉันจำเป็นต้องเข้าไปที่บริษัท มีประเด็นบางอย่างเกิดขึ้นและฉันจำเป็นต้องแถลงข่าว”
อันซย่าซย่าตอบรับด้วยคำว่า “อ้อ” เธอเอานิ้วชี้ทั้งสองมือจิ้มกัน พยายามหาเรื่องอะไรสักอย่างพูดกับเขา แต่ชายหนุ่มกลับเดินลงบันไดไปเสียแล้ว
หญิงสาวเดินลงบันไดมากับเขาด้วย ทว่าพูดอะไรไม่ออก เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อเปิดประตูหน้าบ้าน เขาก็พบว่ากำลังมองไปยังใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“แหม เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันเห็นแล้วว่านายยังไม่ตาย” ฉีเหยียนซีพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งร้าย
เซิ่งอี่เจ๋อเย้ยกลับ “ยังอยู่ ผิดหวังละสิใช่ไหม”
อันซย่าซย่าซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเซิ่งอี่เจ๋อแทบสาบานได้เลยว่าเธอได้กลิ่นเขม่าดินปืน