อันซย่าซย่านั่งมึนอยู่ตรงนั้น
เธอไม่เห็นจอมปีศาจตนนี้มาตลอดช่วงเช้าจนคิดว่าในที่สุดก็หลุดพ้นจากหมอนี่เสียที แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย!
ฉีเหยียนซียิ้มด้วยรอยยิ้มร้ายกาจพลางโบกมือให้นักเรียนปีหนึ่งห้องสาม “สวัสดีทุกคน ฉัน…ฉีเหยียนซี จากนี้ต่อไปฉันจะมาเป็นเพื่อนร่วมห้องของพวกเธอ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ”
ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมทั่วทั้งสนามบาส
เด็กโรงเรียนฉีซย่าทุกคนรู้จักฉีเหยียนซีดีในนามปีศาจจอมชั่วร้าย…
เมื่อเห็นว่าไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบใดๆ จากทุกคน รอยยิ้มของฉีเหยียนซีก็เหือดหายไปจากใบหน้าและเปลี่ยนเป็นสวมสีหน้าเย้ยหยันหยิ่งยโสออกมาแทน “แน่นอน ฉันจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดี!”
ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ ลูกบาสเกตบอลก็ลอยกลับไปหาเขาจากองศาที่ไม่น่าเป็นไปได้ แม้แต่คนที่คล่องแคล่วว่องไวอย่างฉีเหยียนซีก็หลบไม่ทัน
พลั่ก—
ตรงเป้าเผง!
ลูกบาสกระแทกเข้ากับใบหน้าหล่อๆ ของฉีเหยียนซีอย่างจัง!
เขาแตะหน้าตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อแล้วมือนั้นก็ยกขึ้นมารองเลือดกำเดาจากจมูก
เขามองไปยังทิศทางของสนามบาสเกตบอล ที่ซึ่งเซิ่งอี่เจ๋อกำลังยิ้มให้เขาอย่างเย็นชา “โทษทีนะ มือมันลื่นน่ะ”
อารมณ์หลากหลายแล่นผ่านใบหน้าฉีเหยียนซี เขามีท่าทีเครียดขรึมตอบแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียวและดูเหมือนว่าจะมีรังสีออร่าความอันตรายแผ่ซ่านออกมา นักเรียนคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวเขาขยับออกห่าง เพราะเกรงว่าอาจจะไปทำให้จอมปีศาจขุ่นเคืองโดยไม่ได้ตั้งใจ
ฉีเหยียนซีหัวเราะอย่างเดือดดาล “เยี่ยม! ดีมาก! เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันประทับใจนะ!” เขาก้มหยิบลูกบาสและกำลังจะโยนมันกลับไปยังเซิ่งอี่เจ๋อ ทว่าอะไรบางอย่างกระเด็นมาโดนด้านหลังศีรษะเขา
ลูกบาสลูกหนึ่งกำลังกลิ้งอยู่แทบเท้าขณะที่เขามองกลับไปอย่างไม่เชื่อ อันซย่าซย่ากำลังโมโหจัด “ฉีเหยียนซี! นายจะบ้าไปแล้วหรือไง! ไอ้คนบ้า!”
ผู้คนรายรอบต่างก็พากันกลั้นหายใจพร้อมๆ กันแม้กระทั่งเซิ่งอี่เจ๋อก็ยังนิ่วหน้าเล็กน้อย
“เธอเพิ่งขว้างบอลกระแทกฉันเรอะ อันซย่าซย่า” ฉีเหยียนซีถามพลางกัดฟันกรอด
“นายก็เพิ่งขว้างใส่ฉันเหมือนกันนี่ นายทำลายโอปป้าหรงเช่อของฉันด้วย!” อันซย่าซย่าขาดสติโดยสิ้นเชิงเพราะหน้าจอโทรศัพท์ของเธอแตกละเอียดตอนที่ลูกบาสกระแทกจนมันหลุดมือ เธอกำลังจินตนาการภาพฝันกับรูปของหรงเช่ออยู่ในตอนที่ถูกขัดจังหวะนั้น!
ให้เธอทนอะไรอย่างอื่นก็ทนได้หมด แต่ห้ามยุ่งกับไอดอลของเธอ!
นั่นทำให้เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟซึ่งผลทำให้เธอปาได้ตรงเป้าเผง
ฉีเหยียนซีเดินย่างสามขุมมาหาอันซย่าซย่าผู้ซึ่งไม่ได้เกรงกลัวท่าทางขู่นั่นแม้แต่น้อย เธอเชิดคางขึ้นก่อนจะพูด “มาเล่นกันตัวต่อตัวไหมล่ะ ฉันขอท้านาย!”
ฉีเหยียนซีแทบหัวเราะออกมา ยัยนี่เป็นบ้าไปแล้วหรือไง
คังเจี้ยนกระโดดลุกขึ้นอย่างกังวลใจ “ไม่ได้การแล้ว! นี่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงใช่ไหม! ฉันต้องไปช่วยซย่าซย่าที่รักของฉันแล้ว!”
ซูเสี่ยวมั่วฟาดเขาให้หยุด “หุบปากเจ้าโง่! นายรู้ได้ยังไงว่าซย่าซย่าจะแพ้”
“ยัยคนไร้หัวใจ! แล้วถ้าเกิดเมียฉันถูกรังแกล่ะ!” คังเจี้ยนร้อนรนจนแทบอยากจะลงไปดิ้นพราดๆ อยู่กับพื้น
ครูวิชาพละเบื่อกับเรื่องไร้สาระนี้เต็มที จึงเป่านกหวีดเรียกนักเรียนทุกคนให้มารวมตัวกัน
ฉีเหยียนซีตามไปพร้อมกับเสียงเย้ยหยัน
คุณครูกระแอมก่อนจะแนะนำตัว “ทุกคน นี่คือฉีเหยียนซี เขาเพิ่งย้ายมาเข้าคลาสกับพวกเราวันนี้ ครูหวังว่าพวกเธอจะเข้ากันได้ดีและกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในอนาคต!”
เสียงปรบมือของทุกคนดังขึ้น
แล้วระฆังก็ดังขึ้นในตอนนั้นเอง ครูพละส่งสายตาเป็นห่วงให้กับอันซย่าซย่า
เขาเองก็อยากจะช่วยเธอแต่ทำไม่ได้! นี่มันเกินอำนาจเขา!
เขาทำได้เพียงแค่กระซิบเตือนเด็กสาว “อันซย่าซย่า ครูคิดว่าจะเป็นการฉลาดกว่าที่เธอจะล้มเลิกเสียตอนนี้”
อันซย่าซย่าพูดไม่ออกกับคำแนะนำนั้น ฉีเหยียนซีกำลังเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า
อันซย่าซย่ายืนหลังตรงแหน็ว “ฉีเหยียนซี! นายเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”
“แน่นอน!”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันต้องเป็นคนตั้งกฎใช่ไหม”
ฉีเหยียนซีบุ้ยปาก เขารู้อยู่แล้วว่าแม่คนนี้จะต้องมีแผน
แต่อย่างไรก็ช่างเถอะ มันดูสนุกดีออก
“อยากเล่นยังไง”