โคลอสเซียมเทียนหลง
หวังเสี่ยวเปาและเฉินหูเดินไปเดินมาอย่างกระสับกระส่าย มองไปรอบๆราวกับรอใครบางคนอยู่ ตอนนั้งเองกำไลข้อมือของหวังเสี่ยวเปาก็สั่นเบาๆ เมื่อเขากดบนกำไลข้อมือก็มีข้อความปรากฏขึ้น
‘มาที่โรงแรมxxx ชั้น 3 ห้อง308 ห้ามใช้ลิฟท์ เดินขึ้นบันไดด้านหลังเคาเตอร์’
หวังเสี่ยวเปาหันมาสบตากับเฉินหูที่กำลังอ่านข้อความพร้อมกัน พวกเขาก็พากันเดินไปโรงแรมเล็กๆในซอยแคบๆที่อยู่ไม่ไกลนัก ไม่มีพนักงานหน้าเคาเตอร์ พวกเขาสามารถก็เดินอ้อมไปด้านหลังและเดินขึ้นไปชั้น 3 และเดินไปจนถึงห้อง 308 ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเคาะ ประตูห้องก็เปิดออก
จิวโมไป๋ในชุดคลุมสีดำยาว เปิดทางให้ทั้งสองเข้ามา ก่อนจะปิดห้อง
“พี่ใหญ่ พี่สามเหลือเวลาลงสนามต่อสู้เท่าไหร่”จิวโมไป๋ถาม
“อีก 1 ชั่วโมงครึ่ง”หวังเสี่ยวเปาดูเวลาก่อนจะตอบ
จิวโมไป๋พยักหน้าก่อนจะส่งเสื้อคลุมสีดำ ที่เหมือนของเขาสองตัวไปให้หวังเสี่ยวเปาและเฉินหู บนเสื้อคลุมมีหน้ากากเต็มใบปกปิดหน้าทั้งหมด
“กฏของการประลองใต้ดินของโคลอสเซียมเทียนหลง บอกไว้ว่าเมื่อลงทะเบียนต่อสู้แล้วถอนตัวไม่ได้ ด้วยกำลังของพวกเราไม่สามารถช่วยพี่สามได้”จิวโมไป๋เงียบไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ”แต่เราสามารถรวมกลุ่มกันต่อสู้กับสัตว์ป่าได้ ถึงแม้จำนวนสัตว์จะเพิ่มตามจำนวนผู้ร่วมทีมก็ตาม แต่ด้วยอาวุธพวกนี้เราสามารถเอาชนะพวกมันได้”จิวโมไป๋พูดขณะกำลังหยิบกระเป๋าใบใหญ่มาเปิดที่ด้านหน้าของทั้งสอง
“แต่สัตว์ที่เราต้องประลองมันมีความแข็งแกร่งเท่าพวกเรา ยิ่งมีพวกเราหลายคน มันก็ยิ่งยากขึ้นกว่าเดิม ถึงเราจะมีอาวุธดีๆ มันก็ยังยากที่จะเอาชนะได้”เฉินหูถามด้วยความกังวล สัตว์ป่าจะแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะพลังในระดับเดียวกัน 1 ขั้น แม้ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะพลังระดับเดียวกับสัตว์ป่า 5 คนก็ไม่สามารถจัดการมันได้
ทำให้การประลองใต้ดินบนสนามโคลอสเซียมเทียนหลง ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ผู้ชมการประลอง ไม่ได้ดูการต่อสู้ที่กล้าหาญ แต่พวกเขาดูการหนีเอาชีวิต การพนันที่โคลอสเซียมเทียนหลง จะเป็นการพนัน จำนวนเวลาที่มีชีวิตอยู่1นาที-29นาที ถ้าเกิน 30 นาที ผู้ประลองจะเป็นฝ่ายชนะและออกจากลานประลองได้
ตั้งแต่มีการเปิดประลองใต้ดินโคลอสเซียมเทียนหลง มาเกือบ 7 ปี มีการประลองหลายหมื่นครั้ง มีผู้รอดชีวิตแค่ร้อยกว่าคนเท่านั้น พูดได้ว่าบนสนามประลองมีคนทิ้งชีวิตบนสนามประลองมากกว่าหมื่นคน ถามว่าการประลองบนโคลอสเซียมเทียนหลง ผิดกฏหมายหรือไม่ คำตอบคือผิด แต่คนที่ถูกบังคับให้ลงสนามประลองส่วนมากจะเป็นนักโทษร้ายแรง ส่วนคนที่เต็มใจเข้าร่วมการประลองโดยสมัครใจ ส่วนมากจะเป็นคนจนที่หวังรวยทางลัด หรือคนที่สิ้นหวังในชีวิต
คนที่เสียชีวิตบนการประลองใต้ดินโคลอสเซียมเทียนหลงส่วนมากเป็นคนที่สมควรตาย
ทำให้รัฐบาลหลับตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้โคลอสเซียมเทียนหลงยังมีการจัดประลองใต้ดินอยู่
“ไม่ต้องห่วงพี่รอง ฉันเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว”จิวโมไป๋ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะผลักกล่องที่มีถุงมือเหล็กสีเงินสว่างให้เฉินหู
“พี่รองถุงมืออันนี้ ฉันซื้อมาจากคนรู้จัก มันเหมาะกับทักษะต่อสู้ของพี่รองมาก”
เฉินหูหยิบถุงมือเหล็กมาถือ ปรากฏว่ามันเบามากเหมือนไม่ได้สร้างจากเหล็ก เขาหยิบถุงมือเหล็กขึ้นมาเขย่าเบาๆข้อต่อนิ้วมือเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ เฉินหูอดไม่ได้ที่จะลองใส่มัน เมื่อใส่ถุงมือทั้งสองข้าง เขาก็สัมผัสได้ทันที่ว่าเขาไม่พบอุปสรรค์ในการขยับมือและนิ้วมือเลย เหมือนกับว่าไม่ได้สวมถุงมือ ด้วยความตื่นเต้นเขาเดินออกไปเล็กน้อย ก่อนจะชกหมัดออกใส่อากาศพลังหมัดทำให้เกิดเสียงแหวกอากาศดังจนน่ากลัว ชกไม่กี่ครั้งเขาก็พยักหน้าพอใจ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มไม่ยอมหุบ
“น้องสาม ถุงมือนี้มีชื่อว่าอะไร”เฉินหูขยับข้อมือถุงมือเหล็กในระหว่างพูด
“มันไม่มีชื่อ พี่รองตั้งชื่อได้เลย”จิวโมไป๋ยิ้มขณะพูด
เฉินหูมองถุงมือขณะครุ่นคิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาก่อนพูดว่า “ฉันเรียกมันว่า ถุงมือพยัคฆ์“
จิวโมไป๋ยิ้มไม่พูดอะไรก่อนจะส่งกล่องอีกไปให้หวังเสี่ยวเปา ด้านในเป็นทวนสีดำสนิทยาว 1.8 เมตรปลายทวนเป็นใบมีดสีเขียวอ่อน ดูแหลมคมทรงพลัง
ดวงตาของหวังเสี่ยวเปาเป็นประกายทันทีที่เห็นทวนยาว ทักษะต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาคือทวน แต่โชคร้ายไม่มีทวนในที่เหมาะกับเขาเลย แต่ในตอนนี้ทันทีที่ดูทวนสีดำเลือดในกายของเขาก็เลือดพล่าน เมื่อหยิบทวนขึ้นมาหวังเสี่ยวเปาไม่รอช้า เขาออกกระบวนท่าหอกที่เขาคุ้นเคยมันกับดูมีพลังมากกว่าเดิม
กระบวนท่าหอกพริ้วไหว แต่เต็มไปด้วยพละกำลัง ขัดกับร่างอ้วนของหวังเสี่ยวอย่างมาก
“หอกนี้ไม่มีชื่อ พี่ใหญ่ตั้งชื่อให้มันได้เลย”จิวโมไป๋พูดขึ้น
“เรียกมันว่า หอกเหล็กดำ“
ฟังชื่อหอกจิวโมไป๋เลิกคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจไม่คิดว่าหวังเสี่ยวเปาจะตั้งชื่อหอกธรรมดาแบบนี้
“ไปหาพี่สามก่อน ฉันจะอธิบายแผนต่อสู้อีกครั้ง”จิวโมไป๋พูดจบ เขาก็ใส่หน้ากากบิดบังหน้าตามือข้างหนึ่งถือกล่องยาวสองใบ
“รีบไปกันเถอะ เราต้องลงทะเบียนทีมต่อสู้”
หวังเสี่ยวเปาและเฉินหูมองสบตากันเล็กน้อยก่อนจะหันมาพยักหน้าให้จิวโมไป๋ แววตาของทั้งสามเต็มไปด้วยพลัง เมื่อทั้งสองใส่เสื้อคลุมดำและหน้ากากปิดบังตัวตนมิดชิดอาวุธก็ใส่ไว้บนกล่องของตัวเอง จิวโมไป๋ก็พาทั้งสองออกจากโรงแรมจากทางด้านหลัง
หลังจากทั้งสามจากไปไม่นาน พนักงานสาวที่นอนอยู่ใต้เคาเตอร์ก็สะดุ้งตื่น เมื่อรู้ตัวว่าเผลอหลับไป เธอรีบเปิดหน้าจอดูกล้องวงจรปิดของโรงแรม เธอตรวจสอบดูภาพย้อนหลังทั้งหมดอยู่นาน
เธอก็ถอนหายใจ
“โชคดีที่ตอนฉันหลับไม่มีใครมา”
…
ชายในชุดคลุมสีดำดังสามเดินตรงเข้าโคลอสเซียมเทียนหลง โดยไม่มีใครสงสัยเพราะรอบข้างของพวกเขา เกือบทุกคนใส่เสื้อผ้าปกปิดหน้าตา มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่ปกปิดตัวตน ท่าทางของพวกเขาต่างก็เย่อหยิ่ง บ่งบอกได้ว่าพื้นหลังของพวกเขาแข็งแกร่ง ทำให้พวกเขาไม่กลัวใคร เพราะไม่มีใครกล้าทำร้ายพวกเขา
ทั้งสามคนเดินไปพร้อมกับกลุ่มคนจนถึงประตูเหล็กสูงสิบเมตร ด้านหน้ามีคนสิบคนในชุดสูทสีดำเต็มยศกำลังทำหน้าที่ลงทะเบียนคนที่เข้าไปที่โคลอสเซียม
เมื่อถึงคิวของทั้งสามจิวโมไป๋ก็พูดทันทีไม่เสียเวลา
“พวกเราสมัครลงการประลอง แบบทีม”
ชายคนหนึ่งที่กำลังจ่ายเงินลงทะเบียนเข้าโคลอสเซียมเทียนหลงอยู่ หันมามองด้วยความตกใจ พลางลอบยกนิ้วชื้นชมในความกล้าหาญ
ชายชุดสูทดำมองทั้งสามคนก่อนจะ กดโฮโลแกรมด้านหน้าของเขา
“ประลองแบบทีม 3 คนใช่ไหม ถ้าใช้ลงชื่อได้เลย”
“พวกเรามีเพื่อนอีกคนที่ลงทะเบียนต่อสู้ไปก่อน ฉันเรียกเขามารวมทีมได้ไหม”จิวโมไป๋ถามขึ้น
ชายชุดสูทดำเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า
“ถ้าคิวต่อสู้ เพื่อนของคุณยังเหลือเวลาก่อนการประลองมากกว่า 1 ชั่วโมง เขาสามารถรวมทีมกับคุณได้”
จิวโมไป๋พยักหน้าก่อนที่จะส่งข้อความไปหาอูเหวิน เพียงไม่นานอูเหวินในชุดคลุมสีน้ำตาล ใบหน้าปกปิดด้วยหน้ากากไม้เดินมาจากทางด้านใน เมื่อเขาเดินมาถึงเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงต่ำอย่างรู้สึกผิด
“พี่ใหญ่ พี่รอง น้องเล็ก…”
“ไม่ต้องพูดอะไร มาลงชื่อก่อน”จิวโมไป๋พูดขัดขึ้นพลางเลื่อนหน้าจอไปทางอูเหวิน
อูเหวินมองสบตาภายใต้หน้ากาก เขาก็ลงชื่อในนามแฝงทันที ชื่อของเขากระพริบเล็กน้อยเหมือนตรวจสอบอะไรบางอย่างอยู่ เพียงไม่นานชื่อจองเขาก็กลายเป็นสีขาว
“เปลี่ยนตารางการประลองเรียบร้อย พวกคุณลงชื่อได้”ชายชุดสูทดำเลื่อนหน้าจอโฮโลแกรมมาทางทั้งสามคน
จิวโมไป๋ หวังเสี่ยวเปา เฉินหูลงนามแฝงบนโฮโลแกรมอย่างไม่ลังเล
ชายชุดสูทมองทั้งสี่ด้วยแววตาชื่นชมก่อนที่เขาจะกดลงไปบนหน้าจอไม่กี่ครั้ง
“เวลาประลองของพวกคุณจะเริ่มในอีก 1 ชั้วโมง 10 นาที ก่อนถึงเวลาประลอง 30 นาที จะส่งสัญญาณไปแจ้งเตือนพวกคุณ ในระหว่างนี้ พวกคุณสามารถเดินทุกที่ในส่วนปกติของโคลอสเซียมเทียนหลงได้”พูดจบชายชุดสูทก็เปิดทางให้พวกเขาเข้าไป
ทั้งสี่เดินเข้าไปอย่างพร้อมเพียง อูเหวินลังเลเล็กน้อยอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จิวโมไป๋ยกมือห้ามเอาไว้ ก่อนจะเดินนำไปตรงส่วนพนัน
แววตาของจิวโมไป๋เป็นประกายภายใต้หน้ากาก
เขาเกือบลืมไปแล้วว่าโคลอสเซียมเทียนหลง เป็นกิจการของตระกูลเซียว…