“เจ้าอ้วน แกคิดว่าจะหนีไปได้อย่างนั้นเหรอ!”กงหนานที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บ เดินมาข้างหน้าด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง มองกลุ่มของจิวโมไป๋อย่างดุร้าย กงหนานคิดว่าเพราะดื่มมากเกินไป ทำให้ตอบสนองไม่ทันถูกหวังเสี่ยวเปาทำร้ายอย่างง่ายดาย เขาจึงนำลูกน้องในกลุ่มเลือดมังกรมา 40 คน มาป้องกันไม่ให้ใครหนีไปได้ เพื่อล้างความอับอาย
แต่เมื่อเห็นทั้งสี่ กงหนานรู้สึกดูถูก คิดว่าการที่เขาพาคนมา 40 คน มาจัดการ 3 คนกับ คนพิการ 1 เป็นการสิ้นเปลืองเกินไปด้วยซ้ำ!
นอกจากกลุ่มของกงหนาน ยังมีนักศึกษาอีกสิบกว่าคนที่ยังไม่นอน พวกเขายืนรอดูความตื่นเต้นอยู่ไม่ไกลนัก
“นั้นกลุ่มของหวังเสี่ยวเปาไม่ใช้เหรอ?”
“คิดว่ากงหนานพาคนมาจัดการใคร ที่แท้ก็เพื่อนของอัจฉริยะพิการ”
“เสียเวลารอดูจริงๆ”
“รอดูก่อนอาจมีอะไรสนุกให้ดู”
“ทำไมไม่มีใครมาห้าม”
“นั้นกลุ่มเลือดมังกรนะ เย่จือหยวนเป็นหัวหน้ากลุ่ม”
“…”
“อยากสู้ก็เข้ามา ดึกแล้วฉันจะไปนอน”หวังเสี่ยวเปาเห็นกงหนาน เขานึกถึงตอนที่อีกฝ่ายกำลังจะทำร้ายเหยาปิงปิงขึ้นมาทันที
หวังเสี่ยวเปาบุกเข้าไปหากงหนานโดยตรง กงหนานที่รออยู่แล้วเขาชกหมัดตอบโต้ตรงๆ ยิ้มเยาะอีกฝ่ายที่กล้าต่อสู้กับเขาตรงๆ แต่เพียงแค่ความคิดเท่านั้น พริบตาเดียวหมัดของหวังเสี่ยวเปาเปลี่ยนเป็นคว้าจับข้อแขนของกงหนาน บิดเพียงครั้งเดียวตัวของกงหนานหมุนวนทุ้มกระแทกกับพื้นอย่างแรง
“อั๊ก…แก”ใบหน้ากงหนานบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวหมัดหนักๆก็กระแทกชกเข้าใบหน้าอย่างแรงสามหมัด จนหมดสติไปในทันที
“ลูกพี่!”ลูกน้องคนที่อยู่ใกล้จะเข้าช่วยก็ถูกอูเหวินเข้ามาเตะกระเด็น อูเหวินในตอนนี้ราวกับพายุ เขาเข้าหากลุ่มของกงหนานตรงๆ ทุกครั้งที่เท้าของเขาเตะจะต้องมีร่างหนึ่งกระเด็นไปไกล เหมือนเงาเลือนลาง ยังไม่ทันตั้งตัวคนๆนั้นก็ถูกเตะกระเด็นไปในทันที ยิ่งต่อสู้ยิ่งรวดเร็วการ ร่างของอูเหวินเคลื่อนไหวไปมา ท่ามกลางฝูงคนจนวุนวายปั่นป่วนไปหมด
“มันหายไปไหนแล้ว?”
ชายคนหนึ่งร้องอย่างงุนงง
หวังเสี่ยวเปาที่ลุกขึ้นมา เขาเข้าคว้าไหล่ชานคนนั้นทันที โดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาถูกเขาทุ้มหมุนกระเด็นเป็นลูกข่าง ไม่เสียเวลาดูผลงานตัวเอง หวังเสี่ยวเปาเข้าหาคนอื่นๆ ทุกคนจะถูกทุ้มหรือโยนด้วยลักษณะแปลกประหลาด ทุกคนจะกลิ้งออกไปเหมือนลูกบอลกลมๆ สภาพสะบักสะบอมยับเยิน
ต่างจากคนอื่น การต่อสู้ของเฉินหู ดูเป็นการต่อสู้ที่เหมือนคนธรรมดาที่สุด เขาชก เตะ ต่อยเหมือนคนทั่วไป แต่ฝ่ายตรงข้ามทุกคนจะต้องเลือดอาบ อย่างน่าสยดสยอง ยิ่งต่อสู้เฉินหูยิ่งรุนแรงมากขึ้น จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ กลายเป็นเฉินหูต้องวิ่งเข้าหา
จิวโมไป๋ ยืนอยู่เฉยๆไม่เข้าร่วม แต่ก็มีคนไม่ยอมปล่อยให้เขาอยู่อย่างสบาย
“ไปจับไอ้พิการนั้นเร็ว”ชายคนหนึ่งพูดขึ้น คนที่เหลือเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ พวกเขาไม่รอช้าวิ่งเข้าหาจิวโมไป๋เหมือนหนีตาย
จิวโมไป๋ก็ไม่ปล่อยให้ถูกจับ เขาชกตรงๆ หมัดทุกหมัดเฉียบคมรวดเร็ว เพียงหมัดเดียวทุกคนหมดสติไปทันที เหมือนถูกวางยา
จิวโมไป๋จัดการอีก 4 คน คนอื่นก็ไม่กล้าเข้ามาโดยเฉพาะคนที่ร้องเรียก ไม่รู้เมื่อไหร่เขาถูกอูเหวินเตะไปไกล
จิวโมไป๋ส่ายหัวเล็กน้อย เพราะทุกคนฝึกเคล็ดวิชาหลอมกายา ที่เขาสอน ทำให้ร่างกายของทั้ง 3 แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปหลายเท่า โดยเฉพาะเฉินหู ที่แข็งแกร่งถึงขนาดที่ถูกเตะต่อยก็รู้สึกแค่เจ็บๆคันๆ คนอื่นแม้จะไม่เท่าเฉินหู แต่ก็ต่อสู้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะร่างกายยกขีดจำกัดไปแล้ว
หรืออาจเพราะทั้งหมดเป็นแค่ผู้บ่มเพาะขั้นที่ 2 กล้ามเนื้อธรรมดา ทำให้พวกเขาไม่ได้ใช้แรงอะไรมากนัก
เพียงพริบตาเดียว 40 คนก็นอนหมดสติ ไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย
“ทำไมยามรักษาความปลอดภัยยังไม่มาอีก”อูเหวินที่ไม่มีเหงื่อสักหยดเดียวถามขณะเดินมารวมกับคนอื่น
“อย่าลืมหัวหน้าของพวกนี้เป็นใคร”หวังเสี่ยวเปาพูดขึ้นขณะกดเรียกกดพยาบาล
“ไปกันเถอะ”จิวโมไป๋พูดขึ้นก่อนนำทุกคนขึ้นตึกไป เขาไม่กลัวมีปัญหา เพราะเขามีหลักฐานว่าอีกฝ่ายเป็นคนหาเรื่อง แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีคนหนุนหลัง แต่หลักฐานที่เขามีอีกฝ่ายไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างหาเรื่องพวกเขาได้ ทั้งสามคนพยักหน้ารับก่อนเดินตาม เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยที่นั่งดูอยู่กระโดดตามทันที
กลุ่มคนที่ยืนดูเรื่องสนุก หันมาพูดกันอย่างตื่นเต้น
“สุดยอด!”
“แค่ 4 คนจัดการล้มคน 40 คนได้แข็งแกร่งจริงๆ”
“พวกนายลืมอะไรไปรึเปล่า อัจฉริยะขยะ กลับมาบ่มเพาะพลังได้แล้ว!”
“…!”
เข้าไปที่ห้องอูเหวินพูดอย่างตื่นเต้น
“ไม่คิดเลยว่าฉันจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
“พี่สามอย่าตื่นเต้นเกินไป ที่พี่เอาชนะพวกนั้นได้เพราะพี่ฝึกเคล็ดวิชาหลอมกายา ร่างกายจึงแข็งแกร่งเกินขีดจำกัด คนที่ไม่ได้ฝึกร่างกายไม่สามารถสู้ได้ถ้าอยู่ระดับเดียวกัน”จิวโมไป๋หยุดพูดเล็กน้อย หันมามองเฉินหู“ถ้าตอนนี้ต่อสู้กับพี่รอง ด้วยร่างกายอย่างเดียว พี่สามก็ไม่สามารถต่อสู้ได้ เพราะพี่รองฝึกร่างกายจนเหนือกว่าพี่ใหญ่และพี่สามไปหลายขั้น”
“ฮ่าๆ ฉันบอกแล้วว่าเคล็ดวิชาที่น้องเล็กให้มามีประโยชน์ พวกนายไม่ค่อยฝึกกันเอง”เฉินหูหัวเราะพอใจ
หวังเสี่ยวเปายิ้มเล็กน้อย
อูเหวินยิ้มเยาะก่อนพูดไม่ไว้หน้า“เหอะๆ ฉันไม่อยากบ้าเหมือนใครบางคนที่ฝึกแต่ร่างกาย จนความเร็วในการบ่มเพาะพลังชักช้ายืดยาด”
เฉินหูเหวี่ยงมือตบหัวอูเหวิน
อูเหวินหลบอย่างรวดเร็ว เขาหันมาเยาะเย้ย พลางวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำไป
เฉินหูบ่นไม่พอใจ“ร่างกายเป็นรากฐานของความแข็งแกร่ง บ่มเพาะพลังมันก็แค่แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น”
จิวโมไป๋ยิ้มออกมา เพราะสิ่งที่เฉินหูพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริง แต่โชคร้ายที่ในตอนนี้โลกยังไม่มีโอสถระดับสูง ทำให้ยากที่จะทำลายขีดจำกัดขั้นได้
ถ้าไม่ใช้เพราะสายเลือดมังกรพายุอัสนีและเพลิงนิรันดร์ เขาคงไม่สามารถทำลายขีดจำกัด ระดับสร้างฐานผิวหนังขั้นสูงสุดได้
เขาอยากช่วยพี่รองทำลายขีดจำกัด แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
จิวโมไป๋เหมือนคิดอะไรได้เขาหันมาบอก“เพราะคนในโคลอสเซียมเทียนหลง มีรูปของอาวุธของพวกพี่แล้ว ฉันจะเอาพวกมันไปดัดแปลงก่อน เดียวจะเอามันมาคืน”
หวังเสี่ยวเปาและเฉินหูพยักหน้ารับแบบไม่คิดอะไรเพราะอาวุธเดิมทีก็เป็นของจิวโมไป๋อยู่แล้ว
เมื่ออูเหวินอาบน้ำเสร็จคนที่เหลือก็เข้าไปอาบน้ำ
เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหม่ย ในตอนนี้นอนหลับบนเตียงของจิวโมไป๋อย่างเกียจคร้าน…