ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตนอที่ 146

กลุ่มหัวใจเหล็กกล้า vs กลุ่มเลือดมังกร

สนามต่อสู้กลางแจ้งของมหาวิทยาลัยเทียนซู มีกฏการต่อสู้ ที่เป็นมาตราฐานเดียวกับ สนามประลองอย่างเป็นทางการ

คนที่เข้ารวมการต่อสู้ จะต้องใส่อุปกรณ์พิเศษ ชุดตรวจจับความเสียหาย ที่จะวัดระดับความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อจากการถูกโจมตี อุปกรณ์ตรวจจับจะคูณ 20 เท่าของความเสียหาย ที่เกิดจากการบาดเจ็บที่แท้จริง ความแม่นยำของระบบตรวจจับความเสียหายมีมากถึง 90% คนที่มีร่างกายแข็งแกร่งจะได้เปรียบ เพราะร่างกายทนความเจ็บปวดได้มากกว่า

และอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ จะเป็นอาวุธที่สร้างจากไม้ ยกเว้น ถุงมือและร้องเท้าจะทำจากหนัง อาวุธที่ใช้ในการต่อสู้จะมีตัววัดแรงกระแทกติดไว้ในอาวุธ

อาวุธแต่ละชิ้นจะมีระดับความรุนแรง จากการกระแทกไม่เท่ากัน มีดจะเบาที่สุดถ้าไม่ได้โจมตีจุดสำคัญ และอาวุธที่สร้างแรงความเสียหายได้มากที่สุดจะเป็นลูกธนูไม้

เมื่อเข้าต่อสู้ในสนามต่อสู้ ทุกคนจะมี ระดับขีดจำกัดความเสียหาย 100 ถ้าใครที่ขีดความเสียหายกลายเป็น 0 จะต้องออกจากการต่อสู้ทันที

เหตุผลที่มีอุปกรณ์เหล่านี้ ก็เพราะว่าผู้บ่มเพาะพลังสามารถสร้างความเสียหายในการต่อสู้ได้รุนแรงเกินไป เมื่อมีการต่อสู้กันโดยส่วนมาก จะต้องมีฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บสาหัส ทางรัฐบาลจึงสร้างอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้น เพื่อใช้ในการประลองอย่างเป็นทางการ

ในตอนที่กลุ่มของเหยาติงหลงเข้าไปในสนามประลอง คนของกลุ่มเลือดมังกรเดินเข้ามาเช่นกัน

เย่จื่อหยวนยืนอยู่ที่นั่งคนดู กงหนานยื่นอยู่ด้านข้าง เหยาติงติงถูกปล่อยตัวออกมา เธอวิ่งไปที่กลุ่มหัวใจเหล็กกล้ารวมตัวกัน

หวังเสี่ยวเปาเห็นเหยาติงติงปลอดภัยเขาก็เบาใจ สายตาจับจ้องไปยัง ทางฝั่งของกลุ่มเลือดมังกร ชาย 4 คนเดินนำสมาชิกกลุ่มเข้ามาในสนามประลอง

เมื่อคนดูเห็นคนทั้ง 4 พวกเขาก็กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าทั้ง 4 จะเป็นคนของกลุ่มเลือดมังกร

“เอะนั้นมัน ลี่ฝาง ผู้แข็งแกร่งอันดับ 9 ของเราไม่ใช้เหรอ”

“อันดับที่ 2 3 4 ของปีที่ 3 ก็อยู่กลุ่มเลือดมังกรด้วยเหรอ”

“น่าเสียดาย กลุ่มหัวใจเหล็กกล้า คงไม่มีทางสู้ได้หรอก นอกจาก เหยาตงหลินที่เป็นอันดับที่ 1 ของปีที่ 3 คนอื่นเป็นคนไร้ชื่อทั้งนั้น”

หวังเสี่ยวเปาได้ยิน ก็จำได้ทันที ความรู้สึกคุ้นเคยก็กระจ่าง เขาเคยเห็นหน้าของทั้ง 4 จากที่ไกลๆมาก่อน

ชายหนุ่มทั้ง 4 คน สามคนที่ต่อสู้กับเขา พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของปีที่ 3 เป็นรองแค่ เหยาติงติง ที่เป็นอันดับ 1

จางเฮอ อันดับที่ 2

อูหนิว อันดับที่ 3

ฝางกวน อันดับที่ 4

และอีกคนเป็นนักศึกษาปีที่ 4 และเป็น นักศึกษาที่แข็งแกร่งเป็นอันดับที่ 9 ของ มหาวิทยาลัยเทียนซู

ลี่ฝาน

จิตสัมผัสของเขาตรวจสอบระดับการบ่มเพาะพลังของลี่ฝาน เขาก็ตกใจ ขั้นที่ 4 ต้น

กลุ่มเลือดมังกรไม่คิดจะออมมือ ให้โอกาสพวกเขาแม้แต่น้อย

เหยาติงหลงเห็นคนทั้ง 4 ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเรียกประชุมกลุ่มหัวใจเหล็กกล้าวางแผนทันที

เขาคัดเลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุด 24 คน รวมทั้งหวังเสี่ยวเปา เฉินหู และอูเหวิน

พวกเขาวางแผนต่อสู้ แม้โอกาสที่จะชนะจะน้อยมากก็ตามที อูเหวินเสนอแผนลดกำลังคน เขาสังเกตเห็นอาวุธที่ใช้ในการประลองมีธนู เขามั่นใจว่าจะสามารถจัดการลดจำนวนคน จากระยะไกลได้มากแน่

เหยาติงหลงไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เขาเชื่อในแผนของอูเหวิน เหยาติงหลง หวังเสี่ยวเปา เฉินหู และต้าเคอ รองหัวหน้ากลุ่มหัวใจเหล็กล้า ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 3 กลาง พวกเขาทั้ง 4 จะดึงความสนใจ ลี่ฝางและพวก

สมาชิกกลุ่มคนอื่นก็จับคู่ 2 คน ต่อหนึ่งทีม อย่าพยายามต่อสู้โดยตรงแต่ค่อยๆหลบหนี แต่ถ้าได้จังหวะก็จัดการให้หมด

ทางด้านกลุ่มเลือดมังกร พวกเขาไม่ได้วางแผนเลยแม้แต่น้อย เพราะระดับพลังของทั้ง 2 กลุ่มแตกต่างกันเกินไป เหมือนสิงโตขย้ำกระต่าย จะเสียเวลาวางแผนทำไม

เมื่อถึงเวลาต่อสู้ มีกรรมการ เป็นชายวัยกลางคน เขาเป็นเจ้าหน้าที่ของสนามต่อสู้กลางแจ้ง เมื่อเขาให้สัญญาณ ทั้ง 2 กลุ่ม ก็เลือกอาวุธและเสื้อผ้า แยกกันไปเปลี่ยน

หวังเสี่ยวเปาใช้หอกไม้

เฉินหูใส่ถุงมือหนัง และ รองเท้าหนัง

อูเหวินใช้ธนูและลูกธนูไม้ด้าน

เหยาติงหลงใช้ดาบไม้

เมื่อใส่อุปกรณ์ครบแล้ว เหนือสนามประลอง ก็ปรากฎหน้าจอโฮโลแกรม ขนาดใหญ่ เป็นรูปภาพของสนามต่อสู้ ด้านข้างของหน้าจอโฮโลแกรม มีรูปและชื่อและค่าความเสียหายของผู้ลงสนามต่อสู้ทั้ง 48 คน

สัญญาณเรียกตัวดังขึ้น ทั้งสองกลุ่มเข้าไปในสนามต่อสู้

เมื่อสัญญาณเริ่มต่อสู้ดังขึ้น อูเหวินไม่รอช้าเขายิงธนู 4 ดอกใส่ 4 คนที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มเลือดมังกร ก่อนจะวิ่งออกไปวงนอกอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมยิงธนู จักการ สมาชิกของกลุ่มเลือดมังกรไป 1 คน

ฟางกวนชายร่างเล็ก ยิ้มเยาะ ก่อนจะเคลื่อนตัวด้วยท่าเท้าอันรวดเร็ว มาขวางหน้า อูเหวิน มีดสั้นในมือแทงออกอย่างฉับพลัน

อูเหวินชะงักเล็กน้อย แต่ไม่หวาดกลัว เขาใช้ลูกธนูป้องกันมีด ลูกธนูไม้หักครึ่งทันที แต่มันสร้างโอกาสให้อูเหวินหมุนตัวเหยียบก้อนหินปีนหนีขึ้นไป

ฟางกวนก็ไม่น้อยหน้าสมแล้วที่เป็นอันดับ 4 ของผู้แข็งแกร่งที่สุดปีที่ 3 เขาเหยียบลงไปที่ก้อนหิน วิ่งขึ้นไปดักหน้าอูเหวิน เหมือนไม่มีแรงโนมถ่วงโลก เขาเตะลงมาอย่างรุนแรง อูเหวินใช้เท้าเตะใส่ก้อนหิน หมุนตัวข้ามขึ้นไปเหมือนนกบิน และในเวลาเดียวกัน เขาขึ้นสายธนู 3 ดอกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ยิงธนูทั้ง 3 ดอกใส่ฟางกวน

ฟางกวนรู้ว่าเตะพลาด เขาก็หันกลับไปวิ่งตาม แต่เมื่อลูกธนู 3 ดอกพุ่งมาจาก 3 ทิศทาง เขาก็ต้องจำใจถีบก้อนหิน ลงมา เพื่อหลบลูกธนู

ทำให้อูเหวินสามารถหนีไปรอบนอกได้ แต่ฟางกวนก็ไม่ยอมปล่อยให้หนีไปง่ายๆ เขาหยิบมีดไม้ออกมา 3 เล่มและโยนออกไปด้วยความเร็วสูง ดักหน้าอูเหวินเหมือนมีตาทิพย์ อูเหวินต้องเสียเวลาหลบมีด ฟางกวนก็วิ่งตามมาติดๆ

ทางฝั่งเหยาติงหลง และ ลี่ฝาง เหมือนจะรู้ตัวว่าพวกเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของทีม พวกเขาพุ่งเขาหากันโดยไม่พูดอะไร ทั้งสองเป็นผู้ใช้ดาบเหมือนกัน ทำให้ต้องวัดกันที่เทคนิค ความเข้าใจดาบ แต่เพราะระดับการบ่มเพาะพลังห่างกัน 1 ขั้น และเป็นขั้นที่ ห่างกันในระดับพื้นฐานการบ่มเพาะพลัง ทำให้เหยาติงหลงเสียเปรียบอย่างมาก แต่เขาก็ยังมั่นคง ไม่มีการแสดงออกถึงความหวาดกลัวใดๆ

หวังเสี่ยวเปาเมื่อเห็นว่าแผนผิดไปเล็กน้อย เขาส่งสัญญาณให้ต้าเคอเป็นกำลังเสริม ส่วนตัวเขาหันไปมองชายหน้านิ่งจางเฮอ แววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร เพราะอีกฝ่ายได้ทำร้ายเหยาติงติง เขาไม่มีทางปล่อยไปแน่ เขาพุ่งเข้าหาจางเฮอ หอกไม่ในมือแทงออกอย่างรุนแรง จางเฮอเหมือนรู้ตัวอยู่ก่อน เขาไม่แสดงท่าทางแปลกใจอะไรออกมา หรืออาจเป็นเพราะเขาหน้านิ่ง ทำให้อ่านไม่ออก จางเฮอโยกตัวหลบและฟันใส่หัวของหวังเสี่ยวเปา แต่หวังเสี่ยวเปายกหอกขึ้นกันไว้ได้ ก่อนจะหมุนหอกแทงกลับ

สมาชิกกลุ่มทั้ง 2 เห็นหัวหน้ากลุ่มต่อสู้แล้ว พวกเขาก็เริ่มลงมือ สมาชิกกลุ่มหัวใจเหล็กกล้าจับกลุ่มกันหลบหนี ทำให้สมาชิกกลุ่มเลือดมังกรต้องเสียเวลาไล่ล่า

เฉินหู พุ่งเข้าไปจัดการสมาชิกกลุ่มเลือดมังกร แค่ชกไปไม่กี่หมัด คะแนนความเสียหายของพวกเขาก็ลดลงเหลือ 0 ทันที

ขณะที่เฉินหูกำลังจัดการสมาชิกกลุ่มเลือดมังกร อูหนิวไม่สนใจเข้าร่วมต่อสู้ เขายืนเฉยๆมองเฉินหู ยิ่งมองดวงตาของเขาเริ่มเป็นประกาย

เขาพบว่าเฉินหูเป็นผู้บ่มเพาะพลังสายร่างกายเช่นเดียวกับเขา เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น เขาอยากรู้จริงๆว่าร่างกายของใครจะเหนือกว่ากัน ไม่รอช้าอูหนิวพุ่งเข้าหาเฉินหู ทั้งสองสบตากันก็เข้าใจเจตนาของฝ่ายตรงข้าม พวกเขาชกหมัดปะทะกันทันที

ปัง!

กลับมาปัจจุบัน

ลูกธนูไม้พุ่งเข้าใส่เฉินหู ตรงจุดอันตราย

“ตาย!”เฉินหูร้องคำรามเสียงดังลั้น กล้ามเนื้อเกร็งขึ้นอย่างน่ากลัว เขาบิดตัวกลางอากาส ในท่าทางที่เป็นไปไม่ได้ ก่อนจะชกหมัดใส่ลูกธนูแตกกระจายกลางอากาศ

เฉินหู 30/100

คะแนนความเสียหายลดลงอยู่ในจุดอันตราย อูหนิวไม่ปล่อยให้เสียโอกาสนี้ เขาเคลื่อนไหวร่างมาด้านหน้าและชกหมัดใส่อย่างรุนแรง เท้าของเขาเหยียบพื้นดินแข็งจนพื้นที่เขาเหยียบแตกออกเล็กน้อย

แต่เฉินหูในตอนนี้ไม่สนใจว่าคะแนนความเสียหายจะลดลง เขายกมือจับหมัดของอูหนิว

ปัง!

เฉินหู 5/100

“อ๊ากกก!”เฉินหูกัดฟันข่มความเจ็บปวด กำหมัดอูหนิวไว้แน่น ไม่ให้ดึงกลับ จากนั้นเขาก็กระหน่ำชกใส่ร่างอูหนิวไม่ยั้ง

อูหนิว 65/100 60 53 45 35 20 5 0/100 ออกจากการต่อสู้

พริบตาเดียวสถานการเปลี่ยนไปในทันที เฉินหูหันไปทางที่ลูกธนูยิงมา

เขาเห็นหลังของฝางกวน ที่วิ่งหนีไป

เขาสูดลมหายใจช้าๆ แววตาบ้าคลั่งกวาดไปรอบๆ เขาเห็นหวังเสี่ยวเปากำลังสู้อยู่ เขาไปช่วยทันที

อูเหวิน 1/100

อูเหวินถูกแขวนอยู่บนกิ่งไม้เล็กๆ ที่ต้นไม้สูงกว่าพื้น 15 เมตร ถ้าตกไปคะแนนเหลือ 0 ทันที เขาไม่คิดเลยว่าทักษะปามีดของฝางกวนจะร้ายกาจขนาดนี้ เขาประมาทโดนมีดปักที่ข้อเท้า ทำให้เสียจังหวะถูกฟางกวนตามได้ทัน และถูกนำมาแขวนอยู่ที่นี่

การที่ฟางกวนแหวนเขาบนต้นไม้ มันไม่ได้เป็นการประมาท ปล่อยให้ศัตรูมีโอกาสหาทางเอาตัวรอด แต่เป็นการดูถูกเหยียดหยาม เพราะจุดที่อูเหวินถูกแขวนสูงมากและไม่มีทางที่เขาจะลงไปได้ ไม่ว่าจะทำยังไงก็ตาม เมื่อลงไปมีแต่ทำให้คะแนนที่เหลือ 1 จะลดลงกลายเป็น 0 ทันที

เขาทำอะไรไม่ได้เลย

อูเหวินมองออกไปไกลๆเห็น 3 คู่ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ เขาไม่สามารถไปช่วยได้เลย อูเหวินถอนหายใจออกด้วยความรู้สึกผิด แผนนี้ก็เป็นเขาเองที่ออกความเห็นแต่สุดท้าย ก็เป็นตัวเขาเองที่พลาด จนทำให้คนอื่นเดือดร้อน อูเหวินมองไปตามจุดต่างๆอย่างเหมอลอยเล็กน้อย และในตอนนั้นเอง ที่ฟางกวนกำลังยิงธนูที่ยึดไปจากเขา ยิงไปที่เฉินหู

อูเหวินก็ร้องออกมาอย่างไม่พอใจ กิ้งไม้เล็กๆที่แขวนเขาอยู่ก็หักลง เมื่อร่างกายค่อยๆล่วงลงมา อูเหวินพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ตก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะมันเป็นการฝืนหลักฟิสิกส์ แต่ในเวลาที่ใกล้ถึงพื้น อูเหวินเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้

เหลืออีกแค่ 50 ซ.ม. อยู่ๆก็มีลมอ่อนโยนพัดใส่ร่างอูเหวิน ทำให้เขาพลิกตัวกลางอากาศ อูเหวินใช้โอกาสนี้งอเท้าถีบเข้าใส่ต้นไม้ ม้วนตัวลงไปข้างหน้า ลดแรงกระแทกได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อูเหวินลุกขึ้นมามองรอบๆอย่างตื่นเต้น เขาเหมือนจะควบคุมสายลมได้มากกว่าเดิม จากความรู้สึกเลือนรางกลายเป็นชัดเจนมากขึ้น

ตระหนักรู้ธาตุลมขั้นต้น!

อูเหวินไม่เสียเวลาอีก เขาวิ่งไปเก็บมีดไม้ที่ฟางกวนทิ้งไว้ ไม่ได้เก็บไป และรีบไปช่วยเหลือคนอื่น อูเหวินรู้สึกเหมือนกับว่าความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น 2 เท่า จึดสัมผัสของเขาพบว่าเฉินหูปลอดภัย เขาก็เบาใจลง เขาวิ่งไปต่อเพียงพริบตาเดียวเขาก็ไปถึง จุดที่ลี่ฝางและเหยาติงหลงปะทะกัน

อูเหวินใช้จิตสัมผัสของเขา ตรวจพบฟางกวนที่อยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก เขาเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฟางกวนทันที เพราะคะแนนความเสียหายของเขาเหลือ 0 แค่โดนโจมตีแค่ครั้งเดียวก็ออกจากการต่อสู้ได้แล้ว เขาไม่สามารถออกไปต่อสู้โดยตรงได้

เขาค่อยๆไปด้านหลังฟางกวน เหมือนเสือซุ่ม ที่กำลังเตรียมขย้ำเหยื่อ

ฟางกวนไม่รู้ว่ามีคนกำลังมาที่ด้านหลังของเขา เขายกธนูขึ้นช้าๆ เตรียมที่จะยิงเหยาติงหลง สมาธิถูกเร่งให้ถึงขีดสุด เขาค่อยๆคำนวนจุดที่จะยิง และกำลังจะปล่อยลูกธนูออกไป

“เฮ้!”เสียงร้องดังขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาจะปล่อยลูกธนู ทำให้มือของเขากระตุกเล็กน้อย ลูกธนูยิงออกไปทางอื่น ในตอนนั้นเอง ความรู้สึกเจ็บแปลบกลางหลังก็ปรากฏขึ้น

อูเหวินจับไหล่ของฟางกวนให้มั่นคงและแทงจุดเดิมย้ำๆอีกหลายครั้ง

“จำไว้ อย่าเล่นกับศัตรู”อูเหวินกระซิบแผวเบา ก่อนจะปล่อยร่างฟางกวน เมื่อคะแนนความเสียหายของอีกฝ่ายเหลือ 0

ฟางกวน 0/100 ออกจากการต่อสู้

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์

ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์
Status: Ongoing
อ่านนิยายย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ จิวโมไป๋ ชายอายุเกือบ100ปี ได้ย้อนเวลากลับมาก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ เขาใช้ความรู้ในอนาคตเพื่อปกป้องครอบครัวและสหาย สร้างกองกำลังที่แข็งแกร่งเพื่อเข้าร่วมสงครามในอนาคต

Comment

Options

not work with dark mode
Reset