จิวโมไป๋และสามพี่น้องออกจากอาคารบ่มเพาะพลัง สายลมในตอนกลางคืนพัดเข้ากระทบร่างของทั้งสี่ ทำให้ร่างของพวกเขารู้สึกถึงความหนาวเย็นของฤดูหนาว
“พรุ่งนี้หิมะน่าจะตกแล้ว”หวังเสี่ยวเปาลูบฝ่ามือขณะเดินนำออกจากอาคารบ่มเพาะ เขาใส่ชุดฝึก มีเนื้อผ้าบางและน้อยชิ้น เมื่อถูกลมหนาวพัดใส่ แม้จะเป็นผู้บ่มเพาะพลังก็ต้องรู้สึกหนาวไม่มากก็น้อย
อูเหวินใส่ชุดกันหนาวทั้งตัว เขาไม่พูดอะไร รีบเดินนำกลับหอพักไปก่อน เฉินหูหัวเราะเยาะเสียงดังใล่หลัง เขาใส่ขาสั้นและเสื้อกล้าม ร่างกายของเขาไม่มีผลกระทบจากความหนาวเย็นเลยแม้แต่น้อย จิวโมไป๋ในชุดคลุมยาวธรรมดา ยิ้มไม่พูดอะไร ก่อนที่พวกเขาจะเดินตามอูเหวินกลับหอพัก
เมื่อถึงหอพัก หวังเสี่ยวเปา เฉินหูและอูเหวินทิ้งตัวลงนอนหลับไปในทันที เพราะในช่วง 7 วันที่ผ่านมา พวกเขาถูกจิวโมไป๋บังคับให้บ่มเพาะพลังและฝึกวิชาต่อสู้อย่างหนัก
แม้จะเหน็ดเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด แต่ระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเขาก้าวหน้าอย่างมากจน ทะลวงผ่านเป็นขั้นที่ 3 เส้นเอ็นต้น ในเวลาแค่ 7 วัน ทั้งๆที่ พวกเขาพึ่งจะเลื่อนขั้น เป็นขั้นที่ 2 กล้ามเนื้อปลาย เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
นอกจากนั้นวิชาต่อส่อสู้และท่าร่าง ที่จิวโมไป๋ถ่ายทอดให้กับพวกเขา
พวกเขาสามารถใช้กระบวนท่าทั้งหมด ได้อย่างลื่นไหลไม่ติดขัด ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้เลยว่า ในตอนนี้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดไหน ถ้าพวกเขาต่อสู้กับกลุ่มเลือดมังกรอีกครั้ง พวกเขามั่นใจว่ามันต้องจบลงในเวลาอันรวดเร็ว
จิวโมไป๋ไม่ได้นอนหลับเหมือนคนอื่น เขาหยิบกำไลข้อมือไร้ตัวตนมาใส่ เข้าระบบเชื่อมต่อกับกำไลข้อมือของถงเหวย เมื่อเห็นที่อยู่ปัจจุบันของถงเหวย จิวโมไป๋ก็ยิ้มเยาะอย่างแผ่วเบา เพราะถงเหวยตอนนี้ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาล แม้จะมีการคุมตัวอยู่ แต่ก็ไม่เข้มงวดมากนัก
ตระกูลเซียวถึงกับต้องพยายามรักษาเบี้ย ที่ใช้แล้วทิ้งเอาไว้แบบนี้ ดูเหมือนว่าตอนนี้ตระกูลเซียวจะลำบากไม่น้อย พวกเขาไม่ยอมให้ตระกูลถงถูกเล่นงานได้ง่ายๆ เพราะอย่างน้อยพ่อและพี่ชายของถงเหวย ยังมีตำแหน่งเป็นตำรวจยศสูง ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ ในเวลาที่กลุ่มอื่นเข้ามาก่อความวุ่นวายในเมืองเทียนซู
สำหรับกลุ่มสัตว์ร้าย ในตอนนี้ พวกเขาถูกกลุ่มอื่นแย่งชิงทรัพยากรไปเป็นจำนวนมาก ใกล้ล้มสลายลงไปได้ทุกเมื่อ แต่ตระกูลเซียวยื่นมือเข้าช่วย ประคองกลุ่มสัตว์ร้ายไม่ให้พังลง เพราะว่ากลุ่มสัตว์ร้ายยังไงก็เป็นกลุ่มใหญ่มาก่อน ยังคงมีกำลังคนพอ ที่จะเป็นห่ากระสุนปืนในช่วงคับขัน ตระกูลเซียวไม่มีทางปล่อยไปอย่างแน่นอน
จิวโมไป๋ใช้กำไลข้อมือของถงเหวย เจาะไปที่ข้อมูลภายในของตระกูลถง เพื่ออ่านข้อมูลลับเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน เพราะในช่วง 7 วันผ่านมาเมืองเทียนซูสงบอย่างน่าประหลาด ประชาชนธรรมดาต่างก็ใช้ชีวิตเหมือนปกติ ข่าวในช่วงเวลานี้ มีแต่ข่าวบันเทิง ข่าวการเมืองและอาชญากรรมแทบจะไม่มี ดูก็รู้ว่าถูกปิดข่าว
ทำให้เขาต้องเจาะหาข้อมูลภายใน เพื่อศึกษาเหตุการณ์ตอนนี้ ใช้เวลาไม่นานเขาก็ได้ข้อมูลมา
ในตอนนี้ตระกูลเซียวได้ขอความช่วยเหลือจากสำนักดั่งเดิม สำนักทะเลหยก สำนักระดับสูง เพื่อเข้ามาคุ้มครองเหมืองแร่เหล็กดำ เพราะมันเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ถ้าสูญเสียไปจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่มาก ตระกูลเซียวไม่มีทางสูญเสียเหมืองแร่เหล็กดำไปได้
หัวหน้าตระกูลเซียวเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักทะเลหยก และคนตระกูลเซียวหลายคน ก็เป็นศิษย์ของสำหนักทะเลหยก ไม่แปลกที่พวกเขาจะขอกำลังคน ของสำนักทะเลหยกมาได้
แต่ถึงจะมีสำนักทะเลหยกมาช่วย แต่เหมืองแร่เหล็กดำก็ไม่ปลอดภัย ในช่วงเวลานี้ป่านอกเมืองเทียนซูมีการต่อสู้กันหลายครั้ง การต่อสู้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มคนที่จ้องเหมืองแร่เหล็กดำก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนมีสำนักดั่งเดิมอื่นๆเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง
จิวโมไป๋อ่านรายชื่อสำนักเหล่านั้นก็สะดุดกับชื่อสำนักผีเสื้อดารา และสำนักสำนักใจทมิฬ สองสำนักคู่แค้น ก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงเหมืองแร่เหล็กดำกับสำนักอื่น
จิวโมไป๋แปลกใจเพราะปกติสำนักผีเสื้อดารา ไม่ยุ่งเรื่องทางโลก พวกเขาจะยุ่งกับเหตุการณ์ใหญ่เท่านั้น และพวกเขายังเป็นสำนักระดับสูงที่เหนือกว่าสำนักทะเลหยก โดยปกติพวกเขาจะไม่ยุ่งกับสำนักที่อ่อนแอกว่า แต่ครั้งนี้พวกเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงเหมืองแร่เหล็กดำ ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้
อาจเป็นเพราะสำนักใจทมิฬ อยากจะยึดครองเหมืองแร่เหล็กดำ สำนักผีเสื้อดาราจึงต้องเข้ามาขัดขวางสำนักคู่แค้น
หรืออาจเป็นเพราะคุณหยิงลั่วปิงและเตี๋ยเสวี่ยเจียวอยู่ที่นี่ก็เป็นได้
จิวโมไป๋เก็บความสงสัยมาตั้งนานแล้วว่า จนถึงตอนนี้ทำไมยังไม่มีใครตามหาคุณหยิงลั่วปิงและเตี๋ยเสวี่ยเจียวเลย หรือพวกเขาอาจจะกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ จึงไม่สามารถมารับตัวทั้งสองกลับ เขาก็ไม่มีทางรู้
จิวโมไป๋อ่านข้อมูล การต่อสู้ส่วนใหญ่จะอยู่นอกเมือง ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายในเมืองเทียนซู อาจเพราะกลัวถูกรุฐบาลเพ่งเล็ง พวกเขาจึงไม่กล้าขยายขอบเขตการปะทะมาในเมือง
เมื่อเห็นว่าไม่มีผลกระทบกับเขาและครอบครัว เขาก็เบาใจ นอนหลับลงอย่างเหนื่อยอ่อน
เช้าวันต่อมาหิมะเม็ดแรกของปีก็ตงลงมา ใช้เวลาไม่นาน เมืองเทียนซูก็ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสว่างตา
จิวโมไป๋ขับรถยนต์ไปที่ร้านอาหารตระกูลจิว
จิวโมไป๋ชะงักเล็กน้อย จิตสัมผัสของเขาก็ตรวจพบยอดฝีมือระดับสูงกำลังซุ่มอยู่ รอบร้านอาหารตระกูลจิว พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าเซียวฮั่นหยาง ตระกูลเซียว
ยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่มีถึง 2 คน จิวโมไป๋ค่อยๆถอนจิตสัมผัสออกมาอย่างช้าๆ เขาพยายามตรวจสอบให้แนบเนียนที่สุด ไม่ให้ใครรู้ตัว ใช้เวลาไม่นานเขาก็พบว่า พวกเขามีการก่อค่ายกลลบร่องรอย
คนของสำนักผีเสื้อดารา
จิวโมไป๋เบาใจลง คนของสำนักผีเสื้อดาราแม้จะหัวแข็ง ซื่อตรงเกินไปเหมือนไม้บรรทัด จนน่าปวดหัว แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำร้ายใครอย่างไร้เหตุผล และพวกเขายังปกป้องคนอ่อนแอ ช่วยเหลือผู้อื่น อยู่ในหลักความเป็นธรรม คนพวกนี้ต้องมาคุ้มครองคุณหยินลั่วผิงและเตี๋ยเสวี่ยเหมยอย่างแน่นอน
เรื่องที่เขาสงสัยก็คลี่คลายลง มีคนพวกนี้อยู่ เขาก็เบาใจลงว่าครอบครัวเขาจะปลอดภัย
จิวโมไป๋ขับรถยนต์ไปจอดในที่จอดรถและเดินในร้าน บรรยากาศในร้านกลับมาคึกคักเต็มไปด้วยลูกค้า จิวโมไป๋เดินไปห้องเจ้าของร้าน เขาเห็นพ่อจิวโมไปเทียนกำลังทำเอกสาร แม่ฮันหวูเหยากำลังนั่งดูรายการสารคดีสัตว์ป่ากับคุณหยินลั่วปิง เตี๋ยเสวี่ยเจียว กำลังดูการ์ตูนอยู่อีกด้าน เมื่อจิวโมไป๋เข้าไปในห้อง เธอก็ลุกขึ้นมาหาจิวโมไป๋อย่างดีใจ แม้จะไม่กระโดดเกาะเหมือนจิวเสวี่ยเหม่ย แต่เธอก็กล้าที่จะเข้าหาและพูดคุยกับเขาก่อนแล้ว
จิวโมไป๋ลูบหัวเด็กสาวเบาๆ และพูดคุยกับพ่อและแม่ บอกว่าจะออกไปฝึก เขาอยู่เล่นกับเตี๋ยเสวี่ยเจียวจนถึงเที่ยง ก่อนจะขับรถยนต์ออกจากร้านอาหารตระกูลจิว
จิวโมไป๋ไปที่หมู่บ้านใบไม้ร่วง สำนักงานบริษัทที่เขาสร้างในที่สุดก็เสร็จ
ด้านข้างบริษัทของเขาก็กำลังก่อสร้างสำนักงานศูนย์วิจัย และสำนักงานรักษาความปลอดภัย
ไปถึงหน้าอาคารสูงขนาดใหญ่ รูปร่างทันสมัยที่เขาเป็นคนออกแบบเอง จิวโมไป๋ก็ยิ้มพอใจ
มีพนักงานของหน่วนงานที่ดินชายสองหญิงสองกำลังยืนมารออยู่แล้ว
“ฉันจะพาคุณจิวโมไป๋ เข้าไปตรวจสอบอาคาร”พนักงานหญิงเชิญจิวโมไป๋เข้าไปตรวจสอบ ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
พวกเขาก็ออกจากอาคาร จิวโมไป๋เซ็นสัญญารับรองอาคารหลังนี้ พนักงานก็พาจิวโมไป๋ไปในหมู่บ้าน เพื่อดูอาคารอื่นๆที่จิวโมไป๋สร้าง
จิวโมไป๋เซ็นสัญญาทั้งหมด แต่มีพื้นที่ผืนหนึ่งที่จิวโมไป๋ยังไม่ได้สร้างอะไร มันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ อยู่ตรงเขตส่วนระหว่างส่วนภายในและรอบนอกของหมู่บ้านใบไม้ร่วง
เขาส่งภาพวาดที่เขาออกแบบ ให้เป็นอาคารฝึกการต่อสู้กึ่งที่พักขนาดใหญ่ ให้กับพนักงาน
“ที่ดินผืนนี้สร้างตามแบบนี้ ได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหาในการออกแบบแปลนก่อสร้าง เราสามารถสร้างทั้งหมดในเวลา 10 วัน”พนักงานหน่วยงานที่ดินพยักหน้ารับงาน ก่อนจะทำสัญญากับจิวโมไป๋ เมื่อเสร็จแล้วพนักงานทั้งสี่ก็จากไป
จิวโมไป๋จะมอบอาคารฝึกการต่อสู้ ให้กับชายหัวล้านติงซ่งหลี่และเด็กกำพร้า มาอาศัยอยู่
สำนักงานบริษัทโลกเสมือนจริง เขาจะยังไม่ให้หนิงหานเป่ยและหลิวมี่เอินย้ายมาที่นี่ เพราะตอนนี้บริษัทยังไม่ได้ปรับให้เขาที่ ยังต้องมีการปรับเปลี่ยนอีกมาก ถ้าเสียเวลาย้ายอีก มันจะวุ่นวายมากกว่าเดิม
เมื่อเสร็จแล้วจิวโมไป๋ก็ไปที่เกาะโดดเดี่ยว
—
วันนี้ตอนเดียวครับ