เขาไม่กลัวว่าข่าวที่เขาเคยได้ยินมามันจะผิด เพราะข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข่าวดังถึงขนาดที่ตัวเขาที่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับข่าวสารก็สามารถรับรู้ได้ ความน่าเชื่อถือของข่าวถือว่าสูงมาก
สีหน้าของจิวโมไป๋แสดงออกถึงความผิดหวังอย่างปิดไม่มิด
“เถ้าแก่ ในร้านมีของแค่นี้เหรอครับ”เขาหันไปร้องถามเถ้าแก่ที่อยู่หลังเคาเตอร์
เถ้าแก่ลูบเครามองสบตาด้วยความสนใจ เขาสังเกต เด็กหนุ่มคนนี้ตั้งแต่เดินเข้าร้าน เขาไม่มองหยกที่วางอยู่ในกระจกนิรภัยเลยสักนิดเดียว เอาแต่สำรวจกองแร่
แร่พวกนี้เป็นแร่ประหลาด หลังจากที่ความหนาแน่นของพลังธรรมชาติ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สมุนไพร แร่ หรือ หิน บางชนิดเกิดการแปรสภาพ คุณสมบัติของมันเปลี่ยนไปจนแปลกประหลาด
เขานำแร่ที่เกิดการแปรสภาพมาวางไว้ในร้าน เพื่อสร้างความสนใจให้แก่ผู้คนที่เข้ามาในร้าน
แร่พวกนี้วางอยู่ที่นี่มา 2 เดือน ก็ไม่ได้รับความสนใจมากนัก นอกจากพวกนักธรณีวิทยา ที่สนใจและขอซื้อไปทดลอง แต่มันก็เป็นส่วนน้อยมากๆ จนเขาคิดที่จะเอาไปทิ้งเสียหลายครั้ง แต่ก็ตัดใจไม่ได้สักที เพราะแร่พวกนี้มันดูลึกลับ จะทิ้งไปก็น่าเสียดาย
เมื่อเห็นว่ามีเด็กหนุ่มกำลังสำรวจแร่พวกนี้ด้วยท่าทางจริงจัง เขาก็เริ่มสนใจในตัวเด็กหนุ่มไม่น้อย
“ตามมา ที่ชั้น 2 มีแร่แปลกๆอีกไม่น้อย ถ้าพ่อหนุ่มสนใจก็ตามขึ้นมาได้เลย”เถ้าแก่ชราส่งยิ้มให้ แล้วพาเดินขึ้นไปชั้น 2 จิวโมไป๋เดินตามขึ้นไปอย่างช่วยไม่ได้ เขาจำได้ว่า ของสิ่งนั้นอยู่ชั้นที่ 1
ตอนนี้เขาหวังว่าของสิ่งนั้นจะอยู่บนชั้น 2
ชั้น 2 ของร้านไม่ได้จัดแร่ไว้เป็นหมวดหมู่นัก มันกองสุ่มๆกันตามจุดต่างๆทั้วห้อง
“ฮ่าๆ ขอโทษทีนะพ่อหนุ่มที่มันรกไปหน่อย แร่พวกนี้ฉันได้มาจากเหมือง หรือ ถิ่นทุรกันดาร แร่พวกนี้คุณสมบัติพื้นฐานของมัน แปลกประหลาดกว่าแร่หรือหินดั้งเดิม ฉันเห็นว่ามันน่าสนใจจึงเก็บเอามาสะสมไว้” เถ้าแก่อธิบายด้วยรอยยิ้ม จิวโมไป๋พนักหน้าเข้าใจ สายตากวาดมองผ่านกองแร่อย่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มหันไปสนใจกองแร่ เถ้าแก่ก็พูดขึ้น “พ่อหนุ่มเดินดูได้เลย ถ้ามีอะไรที่สนใจก็ลงมาบอกฉัน ด้านล่าง”
พูดจบเถ้าแก่ชราก็เดินลงไปชั้นที่หนึ่ง ไม่กลัวว่าเขาจะขโมยแร่พวกนี้ไปแม้แต่น้อย
ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกอะไร จะมีใครบ้า ขโมยแร่หนักๆ ออกจากร้านไปได้ ในเมื่อทางออกอยู่หน้าร้าน
เมื่อเถ่าแกชราลงไปแล้ว จิวโมไป๋ก็เริ่มเดินหาอีกครั้ง
“แร่หินประกายแสง”
“หินเกล็ดปลา”
เขาสำรวจกองแกอย่างสนใจ มีแร่ระดับ 3 จำนวนมาก ใมอนาคตแร่พวกนี้จะมีราคาแพงอย่างมาก
แต่มันก็ไม่ใช้สิ่งที่เขาต้องการ
“หืม”สายตาสะดุดเขากับ หินสีเขียวเข้มกลมเกลี้ยง ขนาดไข่ไก่ เขาชะงักครู่หนึ่งแล้วเดินเข้าไปหาอย่างตื่นเต้น
“หัวใจพฤกษาบรรพกาล”เขาหยิบหินสีเขียวเข้ม มีลวดลายเป็นเส้นเล็กซ้อนกันเป็นชั้นๆ ขึ้นมาอย่างตื่นเต้น มือของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อหยิบมันขึ้นมา
เขาเพ่งสำรวจอย่างละเอียด แต่โชคร้ายที่เข้ายังไม่สามารถใช้พลังจิตวิญญาณได้ ทำให้ไม่สามารถใช้จิตสัมผัส เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติอื่นๆของมันได้
แต่เขาก็ไม่เสียใจมากนักเพราะ แค่หัวใจพฤกษาบรรพกาลธรรมดา มันก็เป็นสมบัติสวรรค์ ระดับ 7 แล้ว จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้ยังไง
โชคดีที่เขาเคยเห็นหัวใจพฤกษาบรรพกาล จากผู้บ่มเพาะคนหนึ่งมาก่อน ทำให้เขาจดจำลักษณะของมันได้
นอกจากนั้นขนาดของหัวใจพฤกษาบรรพกาล ในมือของเขามีขนาดเท่าไข่ไก่ ซึ่งใหญ่กว่าหัวใจพฤกษาบรรพกาลที่เขาเคยเห็นที่มีขนาดเท่าผลลำใย เขาจำได้ว่าราคาของมันมหาศาลอย่างมาก จนผู้บ่มเพาะคนนั้นกลายเป็นมหาเศรษฐี อันดับต้นๆของโลก
หัวใจพฤกษาบรรพกาลในมือของเขามีขนาดใหญ่กว่า ราคาของมันต้องมากกว่าหลายเท่าอย่างแน่นอน
พลิกดูอีกสองรอบเขาก็สูดหายใจอย่างยินดี ไม่คิดเลยว่าจะได้ของล้ำค่าอย่างคาดไม่ถึง เขาถือมันไว้ในมือแล้วออกเดินหาสิ่งที่ต้องการต่อ สิ่งๆนั้นมีค่ามากกว่า หัวใจพฤกษาบรรพกาล มากจนไม่อาจประเมินได้
ถ้าเขาหาไม่เจอ มันจะส่งผลกระทบต่อแผนการของเขาอย่างมากในอนาคต
เดินดูไปแล้วกว่า 2 ใน 3 ของชั้น 2 สีหน้าของเขาเริ่มแย่ขึ้นเรื่อยๆ หรือว่าจะไม่เจอจริงๆ?
จนกระทั้ง…
มุมในสุดของห้องมีกองแร่ที่ดูเหมือนจะถูกละเลย ไม่มีใครสนใจ มีก้อนหินหยาบกระด้างสีดำขี้เถ้าดูไร้ค่า ขนาดลูกแตงโม มันไม่มีจุดสนใจอะไรเป็นพิเศษเลยแม้แต่น้อย ใครเห็นก็ต้องมองผ่านไปอย่างไม่ใยดี
แต่เมื่อจิวโมไป๋ได้มองเห็นมันใบหน้าของเขาก็ฟื้นตัวกลายเป็นตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าตอนที่เจอหัวใจพฤกษาบรรพกาล
“ในที่สุดก็เจอ ‘โลหิตมังกรพายุอสนี’” จิวโมไป๋เดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว