ภายในห้องที่มืดมิด มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่ส่องลงมาผ่านแผ่นหลังคาใส แสงสว่างที่ผ่านลงมาช่วยให้มองเห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ร่างสูงกำยำในชุดผ้ากันเปื้อน ลากหญิงสาวที่กำลังพยายามดิ้นลนขัดขืนมาที่หน้าเครื่องยก เขากดกลไกบนเครื่อง โซ่ที่ห้อยอยู่ก็ค่อยๆตกลงมา
ชายร่างกำยำ หยิบร่างของหญิงสาวขึ้น เพื่อนำไปแขวนกลับหัวบนโซ่
ฉึก! มีดสั้นพุ่งเข้ามาตัดเข้าที่หลอดลมของคนงานโรงชำแหละ ทำให้ร่างกำยำชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันมาใช้แขนข้างที่ว่างอยู่ ฟาดใส่ร่างของอูเหวิน
อูเหวินดึงมีดสั้นออกจากลำคอของคนงานโรงชำแหละ แต่ดึงไม่ได้มันเหมือนถูกยึดเอาไว้ในชั้นไขมันใต้คอ
วูบ ปัง! เฉินหูรีบเข้ามาป้องหันเอาไว้ได้ แต่แรงปะทะทำให้เขาถอยไปสองก้าว
“แรงเยอะเป็นบ้า!”
ดาบสั้นอีกเล่มฟันใส่ข้อมือข้างที่ยกหญิงสาว บาดลึกถึงกระดูก ทำให้มือคล้ายออก ปล่อยร่างของหญิงสาว
มู่คังจะรับร่างของหญิงสาว แต่มือที่ถูกตัดก็ทุบลงมาอย่างแรง มู่คังรีบยกดาบสั้นป้องกันเอาไว้ได้ แต่แรงปะทะทำให้ร่างของมู่คังกระเด็นออกไปหลายก้าว ในเวลาเดียวกันอูเหวินใช้แรงดึงมีดสั้นได้สำเร็จ เขาก็แทงไปที่ไหล่ของคนงานโรงชำแหละอย่างแรง เพื่อสร้างจังหวะให้หวังเสี่ยวเปาแทงหอก เข้าไปที่คอของคนงานโรงชำแหละที่เดียวกับจุดที่อูเหวินฟันไว้ จนทะลุออกด้านหลัง
คนงานโรงชำแหละร้องคำรามมันยกมือกำหอกยาว แล้วยกขึ้นทำให้ร่างหวังเสี่ยวเปาลอยขึ้นไปพร้อมกับหอก
“ปล่อย!”เฉินหูร้องตะโกนเสียงดังวิ่งมาช่วย
เฉินหูชกเข้าที่ท้อง จนร่างคนงานโรงชำแหละถอยหลังไปสองก้าว แต่ก็ไม่ทำให้คนงานโรงชำแหละรู้สึกอะไร
“อย่าต่อสู้ยืดเยื้อ ใช้กำลังทั้งหมด โจมตีที่คอ”จิวโมไป๋ที่พาหญิงสาวออกไปตอนไหนไม่รู้ เดินกลับมายืนดูอยู่ห่างๆ เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยยืนเกาะไหลจิวโมไป๋ตัวละข้าง พวกมันไม่อยากลงไปยืนบนพื้นโรงชำแหละที่สกปรก
“ฉันจะดึงความสนใจให้เอง”มู่คังพูดกับอูเหวิน พุ่งเข้าไปช่วยเฉินหูต่อสู้
หวังเสี่ยวเปาจับหอกเหล็กแน่น เขาหมุนตัวกางอากาศใช้เท้ากระทืบหัวของคนงานโรงชำแหละอย่างแรง จนคอมันบิดเล็กน้อย มือที่จับหอกคล้ายออก หวังเสี่ยวเปากระโดดออกมาแทงหอกย้ำไปที่คอ
อูเหวินจำที่จิวโมไป๋บอกได้ว่า มันมีจุดอ่อนที่คอ และพลังธาตุ เขาทดลองรวบรวมพลังธาตุค่อยๆห่อหุ้มไปที่ใบมีด เหงื่อค่อยๆไหลออกจากใบหน้า
จิวโมไป๋เห็นดังนั้นก็แปลกใจ เขาไม่คิดเลยว่าอูเหวินจะตระหนักกฏแห่งธาตุลมขั้นต้นแล้ว
อูเหวินมีระดับหารบ่มเพาะพลังขั้นที่ 3 ต้น เท่านั้น พรสวรรค์เหนือกว่าที่เขาคาดเอาไว้ หรืออาจเป็นเพราะเคล็ดบ่มเพาะพลังอาภรณ์ เข้ากันได้ดีกับอูเหวินก็เป็นได้
อูเหวินสูดลมหายใจ มองไปที่ใบมีดที่มีพลังงานสีเขียวอ่อนห่อหุ้มอยู่ เขาไม่รอช้าพุ่งเข้าไปหาคนงานโรงชำแหละ เขารอจังหวะที่คนอื่นๆสร้างให้ และตัดมีดออกไปอย่างรวดเร็วและเฉียบคม เข้าไปยังลำคอที่ถูกทำลายไปเกือบครึ่ง คมมีดตัดหัวของคนงานโรงชำแหละกระเด็นออกไปทันที แต่ไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียว เหมือนกับว่าเป็นศพที่ไม่มีเลือด
จิวโมไป๋พยักหน้าพอใจ แม้ว่าการต่อสู้จะยังไม่เข้ากัน แต่ก็ใช้ได้
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสไปทั่วโรงงานชำแหละเนื้อสัตว์ทันที เขาไม่กลัวต่อสู้ยื้ดเยื้อแล้ว แต่จิวโมไป๋พบแค่คนงานโรงชำแหละ แต่ไม่พบปีศาจนักชำแหละ จนเขาเพ่งจิตสัมผัสไปที่ห้องที่ปีศาจนักชำแหละน่าจะอยู่
เขาก็พบคนงานโรงชำแหละ 12 ร่าง กำลังยืนเฝ้าหน้าห้องๆหนึ่ง ภายในห้องมีหมอกสีเลือดปกคลุมทั่วห้องจนหนาแน่น จิตสัมผัสของเขาตรวจสอบไม่ได้
“มันกำลังพัฒนากลายเป็นปีศาจ”จิวโมไป๋รู้ได้ทันที ว่ามันกำลังกลายเป็นปีศาจนักชำแหละ เขาบอกคนอื่นๆให้พอกันไปที่ห้องที่มันอยู่
พวกเขาไปพร้อมกันไม่แยกกันไป เพราะคนงานโรงชำแหละแข็งแกร่งและตายยาก ถ้าต่อสู้ 1 ต่อ 4 หวังเสี่ยวเปาและคนอื่นๆอาจสามารถเอาชนะได้ แต่ถ้าแบ่งทีมแยกกันโดยไม่มีจิวโมไป๋ไปด้วย ไม่น่าจะรอด และระหว่างทางมีคนงานโรงชำแหละอยู่ 2-5 ตัวขวางอยู่ แม้จะร่วมมือกันก็สู้ไม่ได้แน่ จิวโมไป๋จึงต้องอยู่ช่วย แม้จะเสียเวลาไปบ้างก็ตาม
แต่เขาก็ไม่เร่ง เพราะวิญญาณแค้นกำลังพัฒนาเป็นปีศาจ มันจะไม่หนีไปไหนแน่ๆ ทำให้เขาหมดกังวลไปได้
การต่อสู้ระหว่างทาง ถือว่าเป็นการฝึกการต่อสู้ให้พี่น้องทั้งสามและมู่คัง
ห้องเชือดที่พวกเขาเข้าเป็นห้องที่อยู่ด้านขวาสุด ที่จิวโมไป๋เลือกที่จะมาทางนี้ เพราะทางเข้าอยู่ใกล้กับทางลงชั้นใต้ดิน ที่ตรงไปหาห้องที่ปีศาจนักชำแหละกำลังพัฒนา
พวกเขาออกจากห้องเชือด จะไปที่ห้องอื่น
“ช่วยด้วย”เสียงคนร้องเรียกจากห้องเล็กๆ ทำให้พวกเขาชะงักและหันไปดู
จิวโมไป๋ไปช่วยเปิดประตูและบอกทางหนี ให้คนที่ถูกลักพาตัวหนีออกไป เขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบเส้นทางปลอดภัยไว้แล้ว
พวกเขาทั้ง 5 เข้าไปต่อสู้กับคนงานโรงชำแหละ ในห้องเชือดที่อยู่ระหว่างทาง และช่วยเหลือคนที่ถูกลักพาตัว
ทุกห้องมีแค่คนงานโรงชำแหละอยู่แค่ 1 ร่าง แต่เมื่อยิ่งเข้าไปข้างในลึกขึ้นเหมือน ปีศาจนักชำแหละจะเริ่มรู้ตัว มันเรียกคนงานโรงชำแหละ จากห้องอื่นตรงมาที่ๆจิวโมไป๋อยู่
คนงานโรงชำแหละ 2 ตัวได้เข้ามาจากห้องเชือดอีกฝั่ง
หวังเสี่ยวเปา อูเหวิน เฉินหู และมู่คัง ที่กำจัดคนงานโรงชำแหละในห้องได้ มองคนงานโรงชำแหละทั้ง 2 ที่กำลังเขามาพวกเขารู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที เพราะแค่ 1 ตัวพวกเขาก็ใช้แรงและกำลังเยอะมากแล้ว ถ้ามาพร้อมกัน 2 ตัว…
ในระหว่างที่คนอื่นกำลังคิดอยู่ จิวโมไป๋พุ่งเข้าไปฟันคอคนงานโรงชำแหละอย่างง่ายดาย จนคนอื่นอึ้งไปครู่หนึ่ง
หวังเสี่ยวเปาไม่วอกแวก เข้าไปต่อสู้กับคนงานโรงชำแหละที่เหลือ คนอื่นเห็นหวังเสี่ยวเปาต่อสู้พวกเขาก็รีบไปช่วย
พวกเขาต่อสู้มาตลอดทาง เอากำจัดคนงานโรงชำแหละไป 15 ตัว ในระหว่างทางพวกเขาก็เปิดห้องช่วยคนที่ถูกจับออกมา
พวกเขามาถึงทางลงไปชั้นใต้ดิน กลิ่นเหม็นสะอิดสะเอียนกระทบจมูกจนทุกคนแทบขาดใจตาย เพราะไม่ใช้แค่กลิ่นเลือดอีกแล้ว มันมีกลิ่นเนื้อและอวัยวะต่างๆที่หมักหมมสะสมมาอย่างยาวนาน
พวกเขาจัดารคนงานโรงชำแหละ และมองไปยังห้องๆหนึ่ง มู่คังก็อ้วกออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
เพราะมันเป็นห้องชำแหละ
มีร่างมนุยษ์ที่ถูกชำแหละเป็นส่วนๆวางไว้ตามจุดที่กำหนด เป็นส่วนๆเหมือนเวลาชำแหละเนื้อสัตว์ โครงกระดูกมนุษย์ที่เหลือ กองไว้ในถังใส่ขยะเพื่อเอาไปทิ้ง
ใบหน้าของมู่คังในตอนนี้ ขาวจนไร้สีเลือด ราวกับไม่มีเลือดไปเลี้ยงบนใบหน้า เขาคาดเดาบางอย่างที่น่ากลัวได้
—